 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
คงเกลาให้ไม่ไหว เอาหลักการบางเรื่องไปตรวจเช็คดู 1. ประโยคต้องมีใจความสมบูรณ์ มี S + Predicate เป็นอย่างน้อย 2. ถ้าใช้ complex sentence ต้องตรวจหน่อยว่ามีกริยาครบไหม, ความหมายได้ตามที่ต้องการสื่อสารหรือไม่
ตัวอย่าง Thailand Trade Exhibition 2010, Malaysia is first year that DEP organized. 1. มีวลีนำหน้าแต่วลีนี้ตกลงทำหน้าที่อะไรบ้างในประโยคนี้ ลอยมาเปล่า ๆ 2. Malaysia (S) + is (linking verb) + ตรวจดูครับ first year...... เป็น subject complement ได้ไหม? อย่าแปลไทยเป็นอังกฤษ แปลจากที่เขียนมาเดาเอาว่า ไทยแลนด์เทรดเอ็กฮิดิชั่น ปี 2010 ประเทศมาเลเชียเป็นปีแรกที่กรมส่งเสริมการส่งออกจัด (อ้าว ได้ความหมายอะไรล่ะเนี่ย)
Exhibition place is Mid Valley Megamall that easy to participate as hotel very close to the venue..........ถามว่า easy เป็นอะไรใน part of speech, ต่อ that ได้ไหม?..........as hotel very close......คุณครับ verb หายไปไหน เป็นต้น
Most people are shopping on Friday - Sun and have purchasing power is among the highest in Asia, with the GDP per capita at $ 7978 in 2010........ ดูดี ๆ ครับตกลงเป็นประโยคประเภทไหน simple, compound, complex กริยาแท้หายไปไหนครับ (e.g. have purcahsing power????is????)
Fortunately, there have Kid Fair is closing TH Trade Exhibition. เช็คจากกูเกิ้ลก็ได้ there have??? ถ้าจะบอกว่ามี kid fair จัดอยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่ได้เขียนแบบนี้ครับ
สรุปเอาแค่ย่อหน้าแรก ค่อนข้างต้องแก้ไขเยอะครับทั้งเรื่องไวยากรณ์ คำที่ใช้และความคิดที่ต้องการสื่อสาร
ข้อแนะนำ 1. ค้นเรื่อง Sentence Pattern เอา sentence pattern มาใช้ในการเขียนเรียงความ (ค้นจากตำราเรียนหรือกูเกิ้ลก็ได้) 2. ต้องรู้จัก part of speech ให้มากขึ้น 3. เขียนแค่ simple sentence อธิบายความคิดหนึ่งอย่างในหนึ่งประโยคก่อนก่อน เพิ่มด้วย compound sentence (คือเอา simple sentence + FANBOYS (for, and, nor, but, or, yet, so) + simple sentence หรือ simple sentence; simple sentence) ส่วน complex sentence หรือ compound complex เอาไว้ไปเขียนตอนขึ้นปีสี่หรือตอนเรียนปริญญาโท 4. อ่านเยอะ ๆ ครับ ทำตามที่คุณ K Senior เคยแนะนำไว้คือไปเดินซีเอ็ด หรือร้านหนังสือขนาดใหญ่หน่อยหาหนังสือประเภท grade reading (นิทานเด็ก หรือนิยายที่เรียงเรียงใหม่ให้อ่านได้ง่ายขึ้นตามระดับการศึกษา (ภาษาอังกฤษ)) เปิดดูทีละระดับถ้าอ่านแล้วรู้สึกง่ายไป ก็ขยับไปเล่มที่อ่านยากขึ้น ถ้าเป็นนักศึกษาในหลักสูตรอินเตอร์ก็อ่าน text book มากหน่อย เป็นต้น
ไม่ได้ช่วยเรื่องแก้ไขเรียงความชิ้นนี้เท่าไรนะครับ ถ้าเป็นนักศึกษาอยู่ก็ทำเท่าที่ทำได้ ส่งให้อาจารย์ไป หน้าที่ของอาจารย์คือแก้ไขให้นักศึกษา หน้าที่ของนักศึกษาก็พยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุด ตรวจเท่าที่จะทำได้ ทักษะการเขียนเป็นเรื่องยากมากครับต้องอาศัยการค้นคว้าและการฝึกฝนครับ อย่าเพิ่งท้อว่าทำไมยุ่งยากจังหว่าาาา
จากคุณ |
:
elenote
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 53 01:33:38
|
|
|
|
 |