ความคิดเห็นที่ 1 เ้รื่อง ร หรือ ล คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยออกเสียงเน้นกันจนชัดเจนมากนักแล้ว เว้นเสียแต่จะเป็นพวกอ่านข่าวหรือโฆษกรายการวิทยุหรือทีวีอะไรพวกนี้ที่กลัว "พวกทำตนเป็นพลเมืองดี" จะโืทรไปด่ารายการวิทยุหรือทีวีเอาหรือเอาไปเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ด่าเอา "เพราะคนด่าอยากทำตัวเป็นพลเมืองดี ให้ตัวเองดูดีว่าเป็นคนรักชาติรักภาษาไทย" มันส่งผลให้พวกคนอ่านข่าวหรือโฆษกหวาดกลัวกันมากจนกลายเป็น "รัวเสียง ร ผิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นการทำลายภาษาไทยไปเลยหละ...!!!" ซึ่งบางทีเราฟังแล้ว "เจ็บหูมากๆ" เคยฟังในแท๊กซี่แล้วเจ็บหูเสียงรัว ร จนเว่อร์สุดๆ จนเราต้องขอร้องให้คนขับแท็กซึ่เปลี่ยนช่องสถานีวิทยุม่ายงั้นเราจะจ่ายตังแล้วลงจากรถทันทีเพราะทนฟังไอ้พวกคนที่กลัวพลเมืองดีพวกนี้ไม่ได้เลยหละ... อันที่จริงแล้วนะเคยมีผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอักษรไทยหลายๆตัวที่หน้าตาไม่เหมือนกันแต่ออกเสียงเหมือนๆกันนั้น แท้จริงแล้วตอนคนไทยเอาภาษาแขกมาใช้ใหม่ๆมันเคยออกเสียงไม่เหมือนกัน แต่นานๆวันเข้าเสียงมันก็ค่อยๆ "กร่อน" ไปเรื่อยๆจนกลายเป็นเสียงเหมือนๆกัน หรือบางเสียงหายไปก็มี อย่างเช่นคำว่า little ฝรั่งพูดกันเร็วๆบางทีก็ขี้เกียจออกเสียงตัว t ก็มี ซึ่งในทำนองเดียวกันนานๆวันเข้าถ้าคนไทยขี้เกียจออกเสียง ร แล้วออกเสียง ร เหมือน ล กันหมดมันก็คงไม่แปลกอะไร ส่วนการสะกดผิดนั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนสมัยนี้หรือสมัยก่อน ถึงแม้เราจะเป็นคนทันสมัยมากๆเรื่องการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เราเป็นคนเรียนภาษาไทยมาแบบสมัยก่อนมา และ "เรากล้ายืนยันได้ว่า เมื่อ 40 ที่แล้วก็มีคนไทยสมัยก่อนสะกดผิดมากพอๆกับสมัยนี้" เนื่องจากการสะกดผิดหรือสะกดถูกมันขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงบินในการอ่านหนังสือเสียมากกว่า หาใช่เป็นเพราะยุคสมัยไม่ คนสมัยก่อนบางคนที่อ่านหนังสือน้อยๆก็สะกดคำภาษาไทยง่ายๆผิดบานเบอะเลยก็มี ไม่ได้แตกต่างอะไรกันคนสมัยนี้ และมันก็เป็นจริงในสังคมฝรั่งเหมือนกัน เพราะในปี 1967 ตอนเราไปอยู่ประเทศอังกฤษใหม่ๆเราก็เห็นฝรั่งบางคนสะกดภาษาอังกฤษผิดมากพอๆกับฝรั่งสมัยปี 2010 นี่แหละ ตัวแปรมันคือชั่วโมงบินในการอ่านหนังสือต่างหาก ไม่น่าจะเกี่ยวกับระบบการศึกษาหรือการผัีนวรรณยุกต์ได้หรือไม่ ยกต้ัวอย่างเช่นตอนเราเรียนภาษาอังกฤษเราเห็น to มันอ่าน ทู do มันอ่าน ดู แต่ go มันดันไม่อ่าน กอสระอู และ ough พอไปอยู่ใน rough มันอ่านรัฟ แต่พอมันไปอยู่ใน borough มันอ่าน เบอโร พอเจอ manage ตรง age มันอ่าน อิจ แต่ในคำว่า sabotage มัีนอ่าน แซเบอะทาจ ...ซึ่งจริงๆแล้วมันก็มีเคล็ดลับเหมือนกันในการเดาว่ามันควรจะอ่านอย่างไร แต่เราบางทีก็ขี้เกียจจำ เราก็เลยท้อใจที่จะอ่านภาษาอังกฤษแบบผสมเสียงพยัญชนะกับเสียงสระ แต่เราจำมันเป็นคำๆเหมือน "จำขีดที่เขียนคำศัพท์ภาษาจีน" ไปเลยเราก็ยังสะกดภาษาอังกฤษถูก และเมื่อเราตระหนักว่าศัพท์ภาษาอังกฤษมันมีจำนวนมากกว่าภาษาไทยตั้งหลายเท่า ดังนั้นถ้าเราพยายามผสมเสียงพยัญชนะกับสระไทยแล้วมันงงเพราะผันวรรณยุกต์ไทยไม่ค่อยคล่องเราก็จำตัวสะกดศัพท์ภาษาไทยเป็นคำๆมันไป "แบบจำขีดที่เขียนคำศัพท์ภาษาจีน" ไปเลย เราก็ไม่เห็นจะสะกดภาษาไทยผิดมากมายอะไรขนาดนั้น นั่นก็เป็นเพราะเราอ่านหนังสือภาษาไทยมามากพอนั่นเอง ไม่ได้เกี่ยวก้ับระบบการศึุกษาสมัยนี้หรือสมัยก่อนเลย ข้อความนี้เป็นการขยายความเรื่องที่เราเคยพูดไว้ั (เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการผสมเสียงพยัญชนะและเสียงสระและการผันวรรณยุกต์กับการสะกดภาษาไทยถูกหรือผิดโดยการเปรียบเที่ยบระบบการศึกษาสมัียก่อนกับสมัยนี้) ที่เราเคยแสดงความคิดเห็นไว้ในกระทู้เก่าอันนี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9722865/K9722865.html ดังนั้นจึงขอให้ จขกท ทำใจให้สบายๆได้ และถือซะว่าภาษาทุกภาษาในโลกย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย... แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 17:44:08 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 17:38:15

ความคิดเห็นที่ 2 เดี๋ยวนี้ก็เริ่มเห็นเยอะเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าเขาไม่รู้จริงๆ แกล้งไม่รู้ หรือรู้แต่ว่าไม่ใส่ใจที่จะใช้ให้มันถูก เราเป็นคนนึงที่ชอบเรียนวิชาภาษาไทยมาก เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะใช้ภาษาไทยให้มันถูกต้อง และค่อนข้างที่จะรำคาญตาเมื่อเห็นการใช้ภาษาไทยผิดๆ แต่เราก้คงว่าเขาไม่ได้ เพราะเราไม่รุ้ถึงสาเหตุของการใช้ผิด เฮ้ออ ไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากอะไรไอ้การใช้ผิดๆเนี่ย เป็นเพราะการศึกษา เป็นเพราะยุคสมัย หรรือเป็นเพราะตัวผู้ใช้เอง การศึกษา ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามียังให้คัดไทยกันอยู่หรือเปล่า แต่เอาจริงๆเราว่า คุณครูภาษาไทย ที่เป็นไทยจริงๆ เขาต้องสอน และอยากให้ลูกศิษย์ใช้ให้ถูกต้องแน่นอน เพราะฉะนั้น เราก็เริ่มเข้าใจแล้วล่ะ ว่าไอ้ที่ครูให้เรามาเขียนไทย เขียนไทย เนี่ย มันเป็นเพราะอะไร เดี๋ยวนี้ยุคสมัยก็เปลี่ยน เด็กเสพอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น ไอ้ที่พิมพ์ไป ก็พิมพ์ตามสิ่งที่พูด ไม่ใช่ตามสิง่ที่ถูก เด็กสมัยใหม่ก็ลอกๆ ตามๆ จนชิน กลายเป็นเรื่องปกติไป ยิ่งใช้ก็ยิ่งวิบัติ เลยไม่รู้จะไปหาสิ่งที่ถูกกันมาจากไหน น่าจะหัดมาบริโภคสื่ออื่นกันบ้าง แต่...ทั้งนี้ ถ้าคนเขียนใส่ใจสักนิดว่าที่กำลังจะทำน่ะมันถูกหรือผิด รู้จักคิด รู้จักที่จะหาสิ่งที่มันถูก ก็ย่อมทำได้ การอ้างว่าตามสมัย ตามได้ แต่สิ่งที่ตามมันถูกหรือเปล่า ควรใช้วิจารณญาณ ไอ้ที่ทำๆ มันเก๋ มันเท่ตรงไหน ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ภาษาเราเอง ถ้าใส่ใจกันซักนิดก็คงดี อย่าให้มันถอยหลังไปมากกว่านี้เลยนะคะ ปล.๑บ่นเป็นคนแก่ไปมั้ยเนี่ย เรายังไม่แก่นะ ๒๐ เอง ปล.๒เป็นคห. แรกที่เราเขียนยาวที่สุด ๕๕๕ ปล.๓ ที่เราใช้เลขไทย เพราะดูเข้ากับกระทู้นี้ดี ^ ^ จากคุณ : Save the world เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 17:43:57

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณครับ คุณ fortuneteller ผมไม่ได้หมายถึงการออกเสียง แต่หมายถึงการสะกดคำครับ เช่น หรอก --> หลอก ออสเตรเลีย --> ออสเตเรีย แฟลช --> แฟรช เลียนแบบ --> เรียนแบบ มีอีกมากมาย มันไม่น่าจะสับสนได้ แต่ก็เขียนผิดกันได้ จากคุณ : music maniac เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 17:57:15

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ยืนยันว่าคนสมัยก่อนก็สะกดผิดถูกพอๆกับคนสมัยนี้นั่นแหละ "โดยขึ้นอยู่กับว่าใครอ่านหนังสือมากหรือน้อย" แต่ที่คุณไม่เห็นคนสมัยก่อนสะกดผิดมากก็ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ 1. คุณเกิดไม่ทัน 2. คนสมัยก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ต เขาสะกดผิดกันคนที่เห็นเขาสะกดผิดมันก็อยู่ในวงแคบ เขาไม่ได้มาสะกดผิดให้คุณเห็นบนกระดานสนทนาออนไลน์ที่คนตั้งมากมายอ่านเห็นกัน แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 18:05:57 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 18:04:57

ความคิดเห็นที่ 5 คนสมัยก่อน สะกดผิด ก็พอเข้าใจได้ว่า เพราะไม่ค่อยได้เรียน  ไม่ได้ฝึกฝน คนสมัยนี้ มีโอกาสเรียนมากกว่า ฝึกฝนมากกว่า  ฉลาดกว่าคนสมัยก่อน แต่กลับแกล้งโง่  หรือแกล้งสะกดผิดไปตามแฟชั่น จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 18:43:14

ความคิดเห็นที่ 6 แสดงว่า เจ้าของกระทู้ไม่เคยอ่านเอกสารโบราณ ก่อนสมัยราชบัณฑิตสถานเลยซิครับ ผิดเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ มากจนงง แต่ก็เข้าใจได้ว่าสมัยนั้นไม่มีพจนานุกรม แต่ถึงสมัยนี้มีพจนานุกรมแล้ว แต่พจนานุกรมชื่อดังก็นำมา ซึ่งมาตรฐานที่ไม่ได้วางอยู่บนเหตุผลทางภาษาศาสตร์ประวัติศาสตร์ เพียงแต่วางอยู่บนข้อแก้ตัว ซ้ำซาก ว่าเพื่อความไม่สับสน สรุปแล้ว ไม่แปลกใจ คนทำพจนานุกรม ยังไม่ใส่ใจสิ่งที่ถูกต้องจริง ผู้ใหญ่ปูนนั้นแล้ว จะไปด่าเด็ก กลับไปมองแบบอย่างก่อนดีกว่าครับ พจนาุนุกรมภาษาไทย มีคำมากมาย ที่ไม่สามารถบอกแหล่งที่มาของคำได้ โดยเฉพาะคำไทยแท้เอง ยังไม่มีบอกเลย ว่าคำไหน คือคำไทยแท้ มีแต่เว้นว่างไว้ ปนไปกับคำที่มาจากมอญเขมร ซึ่งมักอุบซ้อนไว้ด้วย คติคลั่งชาติที่ไร้เหตุผลครับ ส่วนตัว พิมพ์ในเวป ก็ต้องมีพิมพ์ผิดบ้างเป้นปกติ ถ้ามันผิดไม่มากมายก็ แก้บ้างไม่แก้บ้าง แล้วแต่เวลา เพราะภาษาในเวป ก็เหมือนภาษาไม่เป็นทางการ ซึ่ง ไม่ได้มีการผ่านขบวนการทางบรรณานุกรม เลย จึงไม่แปลกที่จะมีสะกดผิด ผมเขียนบทความแค่ 4 หน้า กว่าจะตีพิมพ์ ผมอ่านแก้ไป กว่า หนึ่งพันรอบ ไม่มีที่สะกดผิด แต่ยังมีข้อความที่คิดว่าจะแก้แต่ลืมแก้ 2 จุด และพบเมื่อตีพิมพ์ไปแล้ว ถ้าหากว่า จะโพสตอบ ใน พันทิปแล้วต้องผ่านขบวนการตรวจอักษร พันรอบ ผมขอเลิกเล่นดีกว่าครับ มาตรฐานมันก็มีระดับของที่ควรจะใช้ด้วย หลายคนเห็นด่าๆ ข้างบน สะกดผิดอยู่หลายคำครับ เพราะแป้นพิมพ์ก็มากครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:16:03

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ามองในอีกด้านหนึ่งผมว่ามันก็แสดงให้เห็นว่า ภาษาไทย ยังไม่ตายนะครับเพราะมันมีการเปลี่ยนแปลง ไปในแต่ละยุค แต่ละสมัย  .... จากคุณ : ศิริพิชญา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 12:23:11

ความคิดเห็นที่ 9   สงสัยคห. ๗ ครับ ถ้าสมัยก่อนไม่มีพจนานุกรม แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเขียนผิด อาจจะเป็นการสะกดคำที่ถูกแล้วในยุคสมัยนั้นหรือเปล่าครับ จากคุณ : พลายแป้ง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 16:38:20 A:128.178.253.95 X: TicketID:120371

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนไปอยู่ต่างประเทศใหม่ ๆ กว่าจะเรียนภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้แทบขาดใจ พอเก่งแล้ว กลับอยากพูด และเขียนภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ เหมือนวัยรุ่นไร้การศึกษาในประเทศทั้น เขียนผิด ๆ ใช้ slang แยะ ๆ ทำได้แล้วภูมิใจกว่าเขียนภาษาอังกฤษแบบ academic ได้เป็นไหนไหน ผมว่าภาษาไทยก็เหมือนกัน เขียนผิด ๆ พูดผิด ๆ ในบางสังคมมันก็เท่เหลือเกินและเป็น fashion ไป ยกตัวอย่างเช่น vbvb หรือ เมพขิงขิง ซึ่งผมเห็นว่าไม่ต่างจากคำต่าง ๆ ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ผมว่ามันเป็น fashion เป็นพัฒนาการของภาษา (ไม่ว่าจะดีหรือเลวลงก็ตาม) อีกพันปีข้างหน้า คนอาจจะไม่รู้จัก keyboard แล้ว การจะอธิบายที่มาของ vbvb และ เมพขิงขิง อาจจเป็นเรื่อง ที่ลำบากมากก็ได้ ผมไม่แคร์คนที่ใช้ภาษาไทยผิด ๆ ผมถือว่าเป็นสีสัน ตราบเท่าที่ยังมีคนพยายามใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องอย่างเจ้าของกระทู้อยู่ ผมก็พอใจละ จากคุณ : Khun_Horm เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 21:05:04