ความคิดเห็นที่ 1 study = เป็นรูปธรรม แปลว่าการทำการศึกษาหาข้อมูล เขียน อ่าน ฟัง ฯลฯ learn = เป็นนามธรรม แปลว่าการเรียนรู้ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการ study หรือ ประสบการณ์ หรือการบอกเล่าจากคนอื่น จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 13:56:45

ความคิดเห็นที่ 2 ดังนั้นประโยคที่ยกมาจึงต้องใช้ study เพราะคนพูดจะเน้นไปในความหมายว่าทำการนั่งเรียนอยู่ที่นั่น He may be studying, but he might not be learning. จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 13:57:48

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวลืมแปล เขาอาจจะกำลังนั่งเรียนแต่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 13:58:16

ความคิดเห็นที่ 4 Study แปลว่า การเรียน หมายถึงการเรียนในชั้นเรียน หรือไม่ก็อ่านจากตำรา Learn แปลว่า การเรียนรู้ เช่นสำนวนที่ว่า To err is to learn แปลเป็นไทยได้ว่า ผิดเป็นครู จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 14:20:03

ความคิดเห็นที่ 5   ถ้าอย่างนั้นถ้า เติม He's learning in classroom. ก็จะได้ความหมายว่า เขาได้ความรู้จากห้องเรียน ถูกปะคับ ถ้าเติม He's studying in classroom. ก็จะได้ความหมายว่า เขากำลังเรียนอยู่ในห้องเรียน ถูกมั้ยครับ จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 14:21:47

ความคิดเห็นที่ 6 #5 ถูกต้อง ขอแนะนำว่า ถ้าคุณสนใจจะ study เรื่องความหมายคำศัพท์ ถ้าเกิดข้อสงสัยเรื่องนิยามและการใช้คำ ให้ค้นจากพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ ง่ายที่สุดก็ online จาก http://www.onelook.com จะได้นิยามและวิธีการใช้อย่างละเอียดที่สุด ยิ่งกว่าที่จะได้จากในนี้ เป็นการศึกษาค้่นคว้าด้วยตนเองอย่างที่ตรงกับความหมายของคำ study ที่สุด จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 14:32:12

ความคิดเห็นที่ 7   ยังอ่าน ดิก eng-eng ไม่เป็นครับ 55+ จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 14:42:29

ความคิดเห็นที่ 8   คห. 7  ยังอ่านไม่เป็น ก็ต้องหัดอ่าน เสียทันที  อยู่เฉยๆ จะให้อ่านเป็นได้อย่างไร ?   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 15:01:32

ความคิดเห็นที่ 9 ผมสังเกตเห็นที่คุณถาม จะเป็นเรื่องทำนองนี้เสียมาก สงสัยเรื่องนิยามของคำ การใช้คำ คำโน้นต่างจากคำนี้อย่างไร ก็ท่ี่ผมแนะนำไปน่ะแหละคือยาแก้ที่ถูกวิธีที่สุดแล้ว ไปขวนขวายเสีย บรรเทาความไม่รู้ให้เจือจางลง การจะใช้พจนานุกรม อ้งกฤษ-อังกฤษ ให้ได้ผล จะต้องรู้ศัพท์พื้นฐานที่เรียกว่า defining vocabulary ประมาณ 2000 คำเสียก่อน เพราะมันเป็นศัพท์ที่ใช้ให้นิยามของศัพท์อื่นๆ ดังนั้น การหัดอ่านหนังสือง่ายๆเสียก่อนเป็นบันไดที่จะนำไปสู่การได้มาซึ่งศัพท์พื้นฐานอย่างว่า เพราะการนั่งท่องศัพท์นั้นเป็นการเรียนภาษาอังกฤษที่ห่วยแตกในความคิดของผม อย่างไรก็ตาม อยากรู้ว่า defining vocabulary นั้นมีอะไรบ้างก็ลองไปดูที่นี่ http://wiki.frath.net/Longman_Defining_Vocabulary แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 15:20:47 จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 15:12:56

ความคิดเห็นที่ 10 สอนคนให้ว่ายน้ำเป็นน่าจะมีประโยชน์กว่าซื้อห่วงยางให้เขาใช้ จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 15:32:58

ความคิดเห็นที่ 11   มีหนังสือคำศัพท์พื้นฐาน แนะนำไหมครับ 2-3 พันคำแรก ที่ต้องรู้ แต่ตอนนี้ผมซื้อหนังสือ 5,000 คำศัพท์ที่ต้องรู้ในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ภาษาอังกฤษ แต่คิดว่า มันจะเยอะไปรึป่าว 5 พันคำ เพราะที่พี่ๆบอกกันก็ 2 พันกว่าคำก็เพียงพอแล้ว แล้วไปอ่านดิก eng eng เอาดีกว่า ดังนั้นช่วยแนะนำหนังสือที่มี คำศัพท์ 2-3พัน คำแรก และแปลดีๆ ให้ทีครับ ถ้าจำ 5 พันคำ ผมคิดว่าอย่างต่ำก็ใช้เวลา 8 เดือน แล้วอะ ในการที่จะทำให้หมด 5 พันคำ - - ถ้าจำวันละ 20 คำ แต่ถ้าจำ 2-3 พันคำ ก็ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ในการจำให้หมด - - (จำวันละ 20 คำ) จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 16:06:21

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่แนะนำให้ท่องจำคำศัพท์ จำได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้า ใช้ก็ไม่เป็นเพราะไม่เคยเห็นการใช้งานจริงซึ่งคำศัพท์ตัวเดียวกันมันใช้ในบริบทได้หลายบริบทและมีความหมายต่างๆกัน ไปท่องจำคำแปลตายตัวก็อ้วกแตก ถึงจำคำแปลได้ทุกคำ เวลาอ่านภาษาอังกฤษคุณนึกออกทันทีไหมว่ามันหมายความว่าไง และที่ซ้ำร้าย เวลาเขียนภาษาอังกฤษน่ะ ต่อให้ท่องจำคำศัพท์ได้ ก็เอามาใช้เขียนไม่ได้ทันทีหรอก แล้วก็จะมีผลเป็นการเอาคำมาเรียงๆกัน ไม่ได้เป็นประโยคที่สละสลวยและถูกต้องในภาษาอังกฤษ ลองของจริงนะ ผมให้ศัพท์คุณห้าคำ ให้คุณใช้แต่ละคำไปเขียนประโยคมาให้ผมอย่างน้อยคำละสองประโยค ให้มันเป็นภาษาอังกฤษที่ดี ถูกต้อง แล้วก็รู้เรื่อง ที่สำคัญคือความหมายของแต่ละคำในประโยคตัวอย่างห้ามซ้ำกัน ตัวอย่าง A dam is a barrier across a stream blocking its flow to create a reservoir. Black Beauty is a horse. Duchess is his dam. earth come cross run match ขอบอกว่าเห็นหญ้าปากคอกอย่างนี้ อย่านึกว่าหมู เหงื่อตกกีบเชียวละ อย่าว่างั้นว่างี้เลยนะ หลานชาย ก็เลยไม่จำกัดเวลา นานหน่อยก็ได้ ถ้าผ่านได้ ผมว่าคุณอยู่ในยี่สิบห้าเปอร์เซนต์แรกของเพื่อนรุ่นคุณ ตัวช่วยก็คือไอ้ที่ผมบอกคุณน่ะแหละ ลงนวมกับของจริงกันเลยดีกว่า อ้อ วิธีทำความเข้าใจกับศัพท์ สำนวน โครงสร้าง ไวยากรณ์ ที่ง่ายและสนกที่สุดก็คือการอ่าน ไปหาหนังสือจำพวก graded reader คือที่เขา simplified ไว้แล้วและจำกัดจำนวนคำศัพท์เอาไว้ มีหลายระดับตั้งแต่ 1-6 คุณไปหาหนังสืออย่างที่ชอบและในระดับที่เหมาะกับคุณมาอ่าน อ่านไปเรื่อยๆแล้วดีเอง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 17:32:01

ความคิดเห็นที่ 13 แหม คุณแอ๊ด ตัดหน้าผมไปก่อน ผมตั้งใจจะมาบอกอย่างที่คุณแอ๊ดว่ามานั่นแหละ งั้นผมย้ำอีกทีก็แล้วกัน ถ้า จขกท ท่องศัพท์ได้สองพันคำโดยที่ไม่ได้เตยนำไปใช้ในประโยคจริงๆ เลย มันก็จะเกิดอาการได้หน้าลืมหลัง ต่อให้คุณเป็นอัจฉริยะด้านความทรงจำ จำได้หมดทุกคำที่คุณท่องมา แต่คุณก็ยังผูกประโยคไม่เป็นอยู่ดี สองพันคำนั่นยังไม่พอหรอกครับ เขาเอาไว้เป็นพื้นฐานในการอ่านเรื่องง่ายๆ เท่านั้น ถ้าไปเจอคำยากๆ ก็ต้องเปิด dictionary อยู่ดี ยิ่งถ้าไปอ่านเรื่องที่ตัวเองไม่ได้คลุกคลีอยู่ จะเจอศัพท์แปลกๆ ที่เขาใช้กันในแต่ละวงการ ต่อให้เซียนแค่ไหนก็ต้องเปิด dictionary นี่คือสาเหตุที่เซียนๆ แถวนี้แนะนำว่าอย่าเรียนภาษาอังกฤษโดยวิธีท่องศัพท์ มันไม่ได้ผลหรอก แต่ให้อ่านมากๆๆๆๆๆ อ่านครั้งแรกคุณอาจติดศัพท์ ก็เปิด dictionary อ่านไปอีกเรื่อยๆ อ้าว เจอศัพท์คำเดิมอีกแล้ว อีกแล้ว อีกแล้ว ทีนี้คุณจะเริ่มจำคำศัพท์ได้แม่น มันจะซึมเข้าไปในหัวโดยอัตโนมัติ ซ้ำยังรู้จักผูกประโยคด้วยว่าเขาใช้กันอย่างไร จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 18:32:46

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ อะโหลูกพี่เข้าสนามม้า อ่านฟอร์มม้าซะจนรู้ว่าแม่ม้าชื่ออะไร แถมมันยังเป็นม้า "พูดได้" (เพราะม้ันเล่าเรื่องตัวมันองได้) อีกด้วยดิ...หุๆๆ...หมู่นี้เราเลิกแทงม้า แล้วเปลี่ยนเป็นแทงบอลแทน...อิๆๆ... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 18:36:28

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ อ้าวโดนเขียดไปซะแล้ว กะจะชี้ไปที่ 12 ศัพท์ม้านี้มันเยอะเหมือนกันนะ หึๆๆ... ม้าหนุ่มวัยรุ่น colt ม้าสาววัยรุ่น filly ม้าตอน gelding ม้าย้ังไม่เคยชนะการแข่งขัน maiden พ่อม้า sire แม่ม้า dam ปู่ม้า grandsire เวรกรรมเราไปเรียนคณิตศาสตร์ แต่ดันเฉือกเรียนแต่คณิตศาสตร์ที่ใช้พนันม้า...555+++... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 18:43:48

ความคิดเห็นที่ 16 เอ่อเพิ่งนึกได้อีกคำศัพท์ม้าๆเนี้ย ม้าแข่งที่อายุหนึ่งขวบ yearling ม้าแข่งเต็งหนึ่ง favourite ม้นแข่งเต็งสอง second favorite ม้าแข่งที่เจ้ามือไม่คิดว่าจะชนะเลยให้ราคาต่อรองสูงๆ outsider ม้ามืด dark horse (คือ outsider ที่ดันชนะได้อย่างน่าประหลาดแบบหักปากกาเซียน) ม้าพ่อพันธ์ stud แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 19:17:24 แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 18:53:37 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 18:49:18

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อคำศัพท์เรื่องม้าๆที่น่าสนใจ  คำว่า job horse ในนิยายเรื่อง Black Beauty จะหมายความอย่างหนึ่งตามนี้ Hitherto I had always been driven by people who at least knew how to drive; but in this place I was to get my experience of all the different kinds of bad and ignorant driving to which we horses are subjected; for I was a "job horse", and was let out to all sorts of people who wished to hire me; and as I was good-tempered and gentle, I think I was oftener let out to the ignorant drivers than some of the other horses, because I could be depended upon. It would take a long time to tell of all the different styles in which I was driven, but I will mention a few of them. แต่คำว่า job horse ในแวดวง bookmakers (เจ้ามือรับพนันม้า) ในประเทศอังกฤษหมายถึง “ไอ้ม้าตัวแสบ” ที่ bookmakers อยากจะทำลายล้างมันนัก  เพราะถ้ามันเข้า win ได้ละก้อบรรดา bookmakers อาจต้องล้มละลายไปตามๆกัน วิธีกำจัด job horse สมัยก่อนอาจมีการเล่นสกปรกกันเช่นจ้าง jockey ล้มม้า แต่สมัยนี้เสี่ยงโดนฟ้องศาลเพราะการพนันม้าในอังกฤษถูกกฎหมายศาลคุ้มครอง punter (นักพนัน)ทุกรายตามกติการการพนันที่ตกลงไว้เป็นประเพณีในประเทศอังกฤษ   วิธีการปราบ job horse ตามหลักวิชาคณิตศาสตร์การพนันม้า (bookmaking) ง่ายๆก็คือการ hedge (ออกตัว) คล้ายๆในตลาดหุ้น  นั่นก็คือ bookmakers รายใหญ่ๆจะระดมเงินกันแทงม้าตัวนั้นที่เป็น job horse เข้าไปตอนที่ราคาต่อรองมันยังสูงอยู่  เพื่อให้ราคามันร่วงลงมามากๆก่อนออกวิ่ง  ถ้ามันเข้า win พวก bookmakers ก็ได้เงินชนะพนันจากที่อื่นในราคาต่อรองสวยๆ ในขณะที่เงินจ่ายออกให้ punters คนอื่นๆลดลงฮวบฮาบ เว้นเสียแต่ว่า punters จะ take the price คือ “ยืนราคาต่อรองเอาไว้ตั้งแต่เวลาที่เริ่มแทงม้าไปจนถึงเวลาที่ม้าแข่งเสร็จแล้ว” จริงๆแล้วคำว่า punter นอกจากจะแปลว่านักพนัน (ที่พนันขันต่อกับเจ้ามือการพนัน) แล้วมันยังแปลว่า "ลูกค้าโสเภณี" ก็ได้ แต่สมัยนี้ลูกค้าโสเภณีเขามักจะใช้ศัพท์คำว่า client กัน... เรื่องม้าๆนี่พาลไปเขียนเรื่องลูกค้าโสเภณีได้ไงกันหว่า?....สงสัียบ้ามากแปลหนังสือได้ช้าไม่ทันได้เงินซื้อเบียร์...หงุดหงิดอ้ะ...555+++... แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 19:16:10 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 19:12:18

ความคิดเห็นที่ 18   The earth moves round the sun. Everybody's living in the earth. Sunan came here yesterday. I like come here. He recever a cross. Cross is a holy. He's running to the market. they're liking running. คิดไม่ออกแล้วครับ 555+ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 20:06:40 จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 20:04:47

ความคิดเห็นที่ 19 ไปทำมาใหม่ไป๊ จขกท โจทก์เก่าน่ะแหละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 20:37:13

ความคิดเห็นที่ 20   แต่งได้แค่นั้นอะคับ ได้แค่นั้นก็บุญแล้ว ผม T^T จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 20:51:46

ความคิดเห็นที่ 21 ทำได้แค่นั้น? แล้วไม่อยากทำให้มันได้มากขึ้นกว่านั้นหรือ? สังเกตดูคุณก็เป็นคนขยันขันแข็งเอาการเอางานอยู่ เห็นชอบมาถาม ก็เลยเห็นว่าน่าจะสนับสนุนได้ ไม่งั้นผมไม่ยุ่งด้วยหรอก ก็เพราะมันยาก ถึงให้เวลาเยอะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องรีบตอบ ให้เวลาไปค้นคว้า ไปอ่านที่แนะนำไป คิดก่อนตอบ ถ้าคุณได้คิดแล้วมันจะจำแม่น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 01:48:06

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องม้าไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไรนัก แต่ mare, foal, yearling, stallion หายไปไหนซะล่ะพ่อหมอดู ...อดอ่านหนังสือใหม่ๆของ Dick Francis แล้วจ้า จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 02:36:46

ความคิดเห็นที่ 23   ผมจะพยายามคับ = =" ผมยังเขียน/อ่าน ประโยคต่อเนื่องไม่เป็นเลยอะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 10:29:36 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 10:28:54 จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 10:27:15

ความคิดเห็นที่ 24 เอาน่าๆ กรุงโรมเขาไม่ได้สร้างกันวันเดียว แข็งใจหน่อย อีกสักพักก็ดีเอง การใช้ภาษาก็เหมือนกับทหารไปรบ ทหารจะรบได้ต้องมีกระสุนดินดำมีเสบียงพร้อมมูล ถ้าไม่มีกระสุนมีแต่ตัวกับหัวใจก็ไปตายเปล่าๆ เรื่องภาษาก็เหมือนกัน ไม่เคยสะสมอะไรไว้ในหัวเลยด้วยการอ่านการฟัง แล้วพอถึงเวลาพูดเวลาเขียน มันจะเอาอะไรไปพูดไปเขียน ดังนั้นไปอ่านไปฟังให้เยอะๆ ตำราน่ะอ่านพอให้เข้าใจ แต่ว่าความชำนาญจะเกิดต้องใช้จริง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 20:47:41

ความคิดเห็นที่ 25   ครับ เดี๋ยววันพุธจะไปซื้อ essential grammar in use มาอ่านดู เพราะอ่าน จากเล่มอื่นแล้วงงมากเรื่อง tense = =" จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:07:37

ความคิดเห็นที่ 26   ผมว่าผม พออ่านประโยคภาษาอังกฤษ ในคำศัพท์ที่ผมรู้ได้แล้วนะ *-* จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 11:13:16

ความคิดเห็นที่ 27   Rome was not built in a day.  ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ ยังงัยก็เอาใจช่วย จขกท นะค่ะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : *ShotButSweet* เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 15:01:56

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเห็นเพื่อนๆพี่ๆในนี้ใช้ตำราที่ไม่ค่อยคุ้นเลยครับ เช่น essential grammar in use นี่หาซื้อได้ที่ไหนหรืือครับ มีวางขายตามร้านนายอินฑ์อะไรพวกนี้หรือเปล่าครับ คือไม่รู้จริงๆครับ เพราะผมอ่านแต่หนังสือที่คนไทยแต่งหรือตำราในมหาวิทยาลัย ก็เข้าใจระดับหนึ่ีง แล้วหนังสือที่คนไทยแต่งใช้ไม่ได้หรือครับ เช่นของมหาวิทยาลัยต่างๆ อะไรอย่างนี้ ขอบคุณครับ จากคุณ : yosof (yosof) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 17:00:59

ความคิดเห็นที่ 29 Essential Grammar in use มีขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป เป็นหนังสือที่ทำจาก Cambridge University มีทั้ง หมด 3 เล่ม ระดับต้น ระดับกลาง และระดับยาก เล่มที่มีแปลเป็นไทยมีแค่ ระดับต้นคือ Essential Grammar in use และ ระดับกลางคือ English Grammar in use ครับ Advaned Gramma in use ยังไม่มีแปลเป็นไทย แต่ผมคิดว่า ถ้าอ่าน ระดับกลาง กับ ต้นมาแล้ว อ่าน แอ๊ดว๊าน คงไม่ยากมากหรอกมั้งครับ ราคาก็ 370 บาท+ ของไทยก็ใช้ได้ แต่จะสู้เจ้าของภาษาอธิบายเองได้ยังไงครับ ใช่ปะ = =" อย่างหนังสือที่ผมซื้อมา อ่าน เขียนเรื่อง tense ได้งงมาก 3 เล่มไม่ตรงกันซักเล่มเลย จากคุณ : Mr.JoeyKun เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 20:46:13