ความคิดเห็นที่ 1 เบื้องหลังที่ว่า หาใช่พระปฤษฎางค์ หรือ แผ่นหลังไม่   หากแต่คือเบื้องหลังความวิริยะอุตสาหะกว่าที่จะได้มาซึ่งองค์พระที่งดงามวิจิตรพิสดาร โดยสร้างจากแผ่นทองคำประมาณ 200 แผ่น เฉลี่ยหนาประมาณ 1.2 มม. ใช้ทองคำน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 100 กิโลกรัมเศษ  ประดับด้วย เพชรน้ำหนัก 120 กะรัตเศษ รัตนชาติสูงค่า เช่น ทับทิม ไพริน กัลปังหา ไข่มุก นับพันชิ้น อีกกระทั่งหยกมรกตน้ำหนักถึง 100 กก. เศษ โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 28 มิย. คศ 1997 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 21:41:30

ความคิดเห็นที่ 2 ด้วยความสูง 3.8 เมตร ทำให้พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก ที่ประดิษฐาน ณ วัดหนานซาน  เมืองซานย่า มณฑลไหหลำ ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นรูปเคารพทองคำหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี คศ.1998 โดยประเมินราคาเท่ากับ 1.92 ร้อยล้านหยวน ( ประมาณหนึ่งพันล้านบาท) จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 21:46:42

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแนะนำนายช่างสำคัญ 3 ท่าน ผู้เป็นกำลังหลักในการเสกสรรค์ปั้นแต่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก 1. นายช่างศิลป์ใหญ่ ผู้ควบคุมและวางแผนงาน คุณ เจิง อี้ ปิง  曾一兵 2. นายช่างศิลป์รอง   (เป็นภรรยาของ #1) คุณ จาง หมิง เจวียน 張明娟   เธอเป็นนักออกแบบ 3. นายช่างศิลป์รอง  คุณหวัง จื่อ สี่  王志喜  เขาเป็นช่างชำนาญงานประณีตศิลปประเภททองสกุลวังหลวง เป็นช่างเชื่อมทองคนสำคัญ ทั้ง 3 ท่าน เคยร่วมงานกันมาหลายครั้ง  และมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในแวดวงทองประณีตศิลป์ อีกทั้งเคยได้รับรางวัลดีเด่นจากผลงานของทีมตน จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 21:48:53

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อมีความคิดที่จะสร้างรูปเคารพแล้ว ทางนายช่างใหญ่และภรรยา(คุณจาง)ก็ต้องคิดว่า จะสร้างรูปเคารพอะไร แบบไหน ทั้งคู่ไปศึกษาพระพุทธรูปโบราณที่ถ้ำศิลาประตูมังกร เมืองเลาะหยาง ได้มีนักวิชาการที่พิพิธภัณฑ์กู้กง แนะนำว่า  อย่าจำลองพระพุทธรูปที่ถ้ำนั้น แต่ควรจะสร้างรูปเคารพที่เป็นแบบเฉพาะขึ้นใหม่ การที่จะสร้างสิ่งที่ไม่เคยเห็นเป็นแบบ และให้สอดคล้องกับประเพณีความเชื่อดั้งเดิม  ขณะเดียวกัน จะต้องทันสมัยเป็นเอกลักษณ์ กลายงานยากอย่างการเข็นครกขึ้นเขานั้นเอง คุณจางต้องไปปรึกษากับผู้รู้อีกหลายท่าน เข้าออกพิพิธภัณฑ์เป็นว่าเล่นหลายแห่งเพื่อหาแรงบัลดาลใจ ไปปักกิ่งหาซื้อตำราเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับรูปเคารพในแบบต่างๆ  จนในที่สุด ได้ความคิดว่า จะสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิม ที่มีพระพักตร์เดียว แต่มี 8 พระกร  นั่นคือ ปางที่มีพระนามว่า พระอมงบาศโพธิสัตว์ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 00:35:40 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 21:55:29

ความคิดเห็นที่ 5 ทั้งนั้ก็เพราะว่า8 พระกร  ของพระโพธิสัตว์จะทรงถืออุปกรณ์หลากหลาย ซึ่งสามารถสร้างความน่าสนใจ  อีกทั้งเป็นการเพิ่มความอ่อนช้อยของเส้นสาย ของรูปเคารพได้ ส่วนอิริยาบถทรงยืนนั้น แรกๆ ก็คิดไว้ให้อยู่ในท่ายืนตรง อันเป็นแบบฉบับของรูปเคารพของศิลปะจีนที่มักต้องการความเคร่งขรึมและมีสง่าน่าเกรงขาม  แต่แล้วคุณจางก็พบว่า สำหรับพระพุทธรูปยุคแรกๆที่เข้าสู่ประเทศจีน ที่แกะสลักหรือวาดตามถ้ำโบราณนั้น มิได้มีพระวรกายตั้งตรงเสมอไป หากแต่บางรูปก็ทรงมีท่าทางประดุจกำลังเคลื่อนไหว ดังนั้น คุณจางจึงคิดออกแบบให้พระวรกายของพระอมงบาศโพธิสัตว์ มีลักษณะคล้าย อ่อนไหวเป็นตัว  “ S “ เล็กน้อย เพิ่มความพริ้วไหวให้องค์พระมีความอ่อนโยน ประดุจทรงลีลาศ เคลื่อนไหวพระวรกาย  อันมีผลให้เสมือนทรงมีชีวิตชีวา  อ่อนไหว แต่ก็ทรงไว้ซึ่งความสง่างาม จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 21:57:13

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ว่าสำหรับรูปเคารพนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนพระเศียร เมื่อวาดแบบเสร็จ คุณจางก็ปั้นรูปแม่แบบ  ปรากฏว่า มีนักข่าวหนุ่มคนหนึ่งมาเห็นเข้า ก็ทักว่า “สวยงามเหลือเกิน  ถ้าคู่ชีวิตนางในฝันเป็นเช่นนี้คงจะดีไม่น้อย”    ฟังดูเป็นคำชม  แต่ว่า ท่านนายช่างศิลป์ใหญ่กลับไม่ปลื้มเลยแม้แต่น้อย  เพราะว่า รูปพระโพธิสัตว์นี้ แม้ต้องมีความงดงาม  แต่ก็ต้องมีความน่าเคารพยำเกรงอยู่ในที  จากคำพูดของนักข่าวหนุ่มนั้น กลายเป็นว่า รูปปั้นนี้ สวยแบบเร้าอารมณ์ ก่อให้เกิดกิเลสทางโลก  ซึ่งไม่เหมาะสมเลย คุณจางจึงถูกสั่งให้ปั้นใหม่  ครั้งที่สองนี้ นายช่างใหญ่ กลับเห็นว่าผลงานนั้น  เคร่งขรึม จนดูเคร่งเครียด น่าอึดอัด กลายเป็นอาซ้อที่ไร้เสน่ห์ จนไม่น่าใกล้ชิดเลย คุณจางต้องแก้ไขจนกระทั่งครั้งที่ 3 จึงได้ผลงานที่น่าพอใจ แก่ทุกฝ่าย จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:00:48

ความคิดเห็นที่ 7 ลักษณะพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์ ที่สมบูรณ์นั้น เป็นดังนี้ สง่างาม น่าเกรงขาม แต่ก็เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาประดุจมารดา สังเกตได้จากพระนาสิกที่โด่งเป็นสัน  มุมพระโอษฐ์งอนขึ้น เสมือนอมยิ้ม  แววพระเนตรมีพลังชีวิต สอดส่องเพื่อโปรดเวไนยสัตว์   นี่คือพระพักตร์แห่งพระโพธิสัตว์ อันเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองประเทศจีน จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:04:25

ความคิดเห็นที่ 8 นอกจากความวิริยะอุตสาหะของทีมงานแล้ว  ยังต้องอาศัยความเสียสละ อีกทั้งโชคบันดาลที่จะมาร่วมรังสรรค์องค์พระอวโลกิเตศวรให้สำเร็จ จริงๆแล้ว คุณจางและสามี  เป็นชาวปักกิ่งและมีชื่อเสียงอยู่ที่นั้น  แต่เกิดไปกินเกาเหลากับฝ่ายบริหาร  ภายหลังทั้งคู่จึงย้ายมาทำงานด้านทองและประณีตศิลป์ที่เซินเจิ้น  และรังสรรค์งานพระอวโลกิเตศวรที่เซินเจิ้นนี่เอง คุณจาง เธอเล่าว่า ในช่วงที่เธอทำงานชิ้นนี้นั้น  คุณแม่ของเธอป่วยหนักอยู่ปักกิ่ง จนเธอคิดว่าจะรามือ  แต่คุณแม่กลับบอกว่า ถ้าแม้เธอได้ทำหน้าที่พยาบาลในแบบของบุตรีที่มีความกตัญญู  แต่ตัวแม่เธอเองจะกลับกลายเป็นผู้ขัดขวางงานสร้างอลังการนั้น แล้วคุณจางเธอเองก็จะกลายเป็นจำเลยบาป  ในที่สุด เธอจึงตัดใจเดินทางกลับมาทางใต้ ตือ เมืองเซินเจิ้น เพื่อสานงานต่อ เล่าพลางเธอก็ปาดน้ำตาที่ไหลรินลงอาบแก้ม  ...... ดราม่ามากกก  โปรดสังเกตท่ากรีดนิ้วรีดน้ำตา  เก๋ไก๋มาก  ขอบอกกก คนกำลังอิน  ยังจะแซวอีก   จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:05:52

ความคิดเห็นที่ 9 The show must go on. คุณจางจึงหวนมาทุ่มเทให้กับงานอีกครั้ง ศิราภรณ์ (เครื่องประดับศีรษะ)ที่ประดับเหนือพระเศียรของพระโพธิสัตว์  มีความสำคัญมากในการเพิ่มสง่าราศี  และเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลยคือพระอมิตาภะพุทธเจ้าที่ประดับเหนือพระนลาฎ    เพราะเป็นเสมือนพระอาจารย์ผู้สร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร รูปแนบปั้นด้วยดินคือองค์แม่แบบ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:07:22

ความคิดเห็นที่ 10 นี่คือศิราภรณ์ทองคำ ชิ้นงานที่จวนสำเร็จแล้ว องค์พระอมิตาภะพุทธเจ้า สลักจากหยกขาวใสชั้นเลิศจากมณฑลซินเกียง (ชนิดใสราวกับไขจากน้ำมันแพะ) ประทับนั่งบนดอกบัวที่แกะจากหยกเขียว ทั้งองค์พระและบัลลังก์ห้อมล้อมด้วยกรอบเพชร เสมือนรัศมีไร้ขอบเขตแห่งพระอมิตาภะพุทธเจ้า เส้นสายทองคำพันเกี่ยวกระหวัดเป็นศิราภรณ์ ประดับด้วยอัญมณีสวยงาม   แต่ละสิ่งล้วนสูงค่าควรประดับไว้เหนือพระเศียร จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:08:55

ความคิดเห็นที่ 11 และเมื่อประดับศิราภรณ์ไว้เหนือพระเศียร ก็บังเกิด ความเจิดจ้า จับจิตจัด   งามจรัส ประภัสสร งามมณีสีมรกต  ขับให้เด่นด้วยพลอยดังน้ำทะเลสีฟ้า  Aquamarine   โดยเฉพาะหยกมรกต ลายบุปผารัตนะทั้ง 4 ดวง ที่ประดับเว้นช่องไฟได้อย่างงดงามนั้น ก็มีเรื่องราวแห่งโชคบันดาลที่จะเล่าให้ฟัง ครั้งนั้น คุณจาง และ นายช่างผู้ชำนาญเรื่องดูหยก (ท่านนั้นแซ่ ปา  巴  - ช่างปา)  พากันเดินทั่วเมืองกวางเจาและเซินเจิ้น เข้าออกร้านหยกนับไม่ถ้วน แต่ก็ยังค้นไม่พบหยกมรกตที่เหมาะสมสำหรับบุปผารัตนะทั้ง 4 ดวง      วันหนึ่ง ขณะที่สายฝนโปรยปรายเป็นม่านทึบ คุณจาง และช่างปาก็ลุยฝนหาซื้อหยกอย่างไม่กลัวฝน  แต่ว่าท่ามกลางความสลัวนั้น แทบไม่มีผู้ค้าคนใดกระตือรื้นร้นที่จะขายหยกเลย   ขณะที่กำลังหงุดหงิด ปรากฏว่า มีพ่อค้าคนหนึ่งจำช่างปาได้  จึงบอกว่า มีหยกมรกตซึ่งอาจจะเป็นที่สอดคล้องกับความต้องการของช่าง  เขาพาลัดเลาะไปจนเจอร้านหยกนั้น  ขณะนั้น มีเสียงตัดหินหวีดหวิว หยกมรกตนั้น กำลังจะถูกช่างตัดหยกแบ่งให้เป็นชิ้นเล็ก   คุณจางรีบตะโกนเสียงหลงให้ช่างยั้งมือ  แล้วด้วยสัญชาตญาณเธอก็รีบไปสับสวิชต์ไฟฟ้าลงมา  หยิบหยกมรกตที่มีรอยเจียตื้นๆขึ้นมาพินิจดู  คุณจางแทบจะอุทาน อมิตาพุทธ  เพราะว่าหยกมรกตนั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เขียวสดใส สวยไร้รอยตำหนิ  มือที่เธอจับชิ้นหยกมรกตสั่นสะท้าน โชคบันดาลนำพา  มิฉะนั้น หยกงานชิ้นนี้คงจะถูกแปรรูปและตกไปสู่มือมหาเศรษฐีใดก็ไม่ทราบได้ ในที่สุด หยกมรกตน้ำเอกได้ถูกแกะสลักเป็นบุปผารัตนะเขียวสุกใส  4 ดวง แล้วประดับที่ศิราภรณ์ได้อย่างวิจิตรพิสดาร จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:10:32

ความคิดเห็นที่ 12 งานประณีตศิลป์ชิ้นงาม ที่ใช้แก้วรัตนะสารพันสรรหา คือส่วนที่เป็นฉัพพรรณรังสี ถักทอด้วยเส้นทอง ฝังไข่มุกอัญมณีมีค่า ส่วนที่เป็นรัศมีรูปกลีบดอกไม้นั้น จะเห็นขอบดอกไม้ร้อยด้วยไข่มุกสุกสกาว นับได้ 1100 เม็ด ส่วนที่เห็นวงใหญ่เป็นฉัพพรรณรังสีทำด้วยทองประดับเรียงด้วยทับทิมและพลอยสีฟ้า สังเกตให้ดีจะเห็นรูปนางฟ้าอาภรณ์พริ้วไหวร่ายรำอำนวยพร ณ สวรรค์แดนสุขาวดี การถักทอเส้นใยทองคำนั้นเป็นงานประณีตศิป์ชั้นสูงสกุลช่างชาววัง  ที่ต้องมีความชำนาญและละเอียดลออมาก เพราะจะต้องถักทอให้เป็นลวดลาย ช่องไฟต้องมีระยะความถี่ห่างที่ลงตัว  ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป อีกทั้งจะต้องฝังไข่มุกและพลอยลงไปได้พอดี จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:12:15

ความคิดเห็นที่ 13 นี่คือแม่แบบของรูปนางฟ้าอำนวยพร  ความละเมียดละไมละเอียดถึงขนาดช่างต้องใช้แว่นขยายเลยทีเดียว จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:13:10

ความคิดเห็นที่ 14 เอารูปฉัพพรรณรังสี ถักทองยองใยมาให้ชมอย่างเต็มตา  เห็นนางฟ้าอำนวยพรที่กล่าวถึงที่ คห ข้างต้นไหมครับ ว่า อยู่ที่ใดในรัศมีทองรองเรืองนี้ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:13:48

ความคิดเห็นที่ 15 องค์พระอวโลกิเตศวรนี้ ไม่ใช่รูปปั้นหล่อจากทอง  หากแต่สร้างจากแผ่นทองคำที่ตีบุขึ้นรูป แล้วนำมาขิ้นส่วนมาเชื่อมต่อเข้ากันเป็นรูปร่าง เปรียบเทียบพระเพลาที่ตีบุขึ้นรูปแล้ว กับ ส่วนของแบบพิมพ์ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:15:02

ความคิดเห็นที่ 16 ช่างทองคือคุณหวัง จื่อ สี่  มีฝีมือยอดเยี่ยมถึงขนาด ผู้อื่นหารอยเชื่อมต่อของชิ้นส่วนมิได้ แทบจะพูดได้ว่า เสมือนอาภรณ์แห่งฟ้า หารอยตะเข็บมิได้ อดีตนายกฯ จีน จู หยง จี ได้กล่าวชื่นชมฝีมือช่างเชื่อมทองเป็นอันมาก ช่างหวังเริ่มทำทองตั้งแต่อายุ 17 ปี มีประสบการณ์ด้านงานทองนับ 30 ปี ท่านกำหนดให้การต่อเชื่อมชิ้นส่วนให้เริ่มตั้งแต่ชิ้นส่วนเล็ก นิ้วมือ ข้อมือ แขน แล้วต่อเชื่อมไปยังชิ้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การเชื่อมทองคำนั้น ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1100 องศาเซ็นเซียส จะต้องละลายจุดที่จะเชื่อมชิ้นส่วนเข้าต่อกัน การต่อเชื่อมชิ้นเล็กๆ มักไม่เป็นปัญหา  แต่เมื่อใหญ่ขึ้น การกระจายความร้อนในพื้นที่ใหญ่จะไม่ทั่วถึง จะทำให้เกิดการบิดงอเมื่อเชื่อมต่อได้   ช่างหวังผู้มากประสบการณ์จึงคิดวิธีการใหม่ ต้องทำงานคู่กัน ให้มีช่างลูกมือทำการเผาอุ่นบริเวณใกล้เคียงที่จะเชื่อม แล้วช่างหวังเองจะทำการเผาเชื่อม ณ จุดต่อ   เวลาช่างหวังเชื่อมเสร็จ ฝ่ายลูกมือก็จะหยุดเผาในทันทีเช่นกัน จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:16:30

ความคิดเห็นที่ 17 แสดงการเผาหลอมรอยตะเข็บ ของส่วนพระพาหา จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:17:07

ความคิดเห็นที่ 18 ในส่วนของพระภูษานั้น จะมีลวดลายคล้ายเป็นมวลบุปผาเกี่ยวกระหวัด ซึ่งจะช่างทองจะต้องแกะลายลงบนเนื้อทองอย่างวิจิตรบรรจง  จัดเป็นงานประณึตศิลป์ของช่างทองสกุลวังหลวง จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:17:55

ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยลักษณะของพระโพธิสัตว์ในปางของพระอมงบาศโพธิสัตว์  ซึ่งทรงมี 8 พระกร  เมื่อนำส่วนต่างๆมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันแล้ว การรักษาสมดุลย์ขององค์พระก็เป็นเทคนิคที่สำคัญ  เพราะว่าส่วนที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักพระวรกายและพระกรทั้ง 8 นั้น  มีเพียง 2 พระบาทเท่านั้น  จนดูเหมือนว่า ด้านบนขององค์พระจะมีน้ำหนักมากเกินกว่าที่ 2 พระบาทจะรองรับไหว ช่างผู้ออกแบบชาญฉลาดมาก  เพราะว่าเขาออกแบบให้แผ่นทองที่ส่วนพระบาทจะมีความหนามากกว่าด้านบน และความหนาจะลดหลั่นไปเรื่อยจนถึงส่วนพระเศียร  อีกทั้งพระกรทั้งหกที่ยื่นออกรอบพระวรกายนั้น จะโอนอ่อนออกไปด้านหลังเล็กน้อย จึงเป็นการถ่วงน้ำหนักให้เกิความสมดุลย์ มั่นคงขึ้น และช่างหวังก็ใช้เทคนิคการพ่นทรายกับเนื้อทองขององค์พระ  เพื่อไม่ให้เกินสภาวะภาพลวงตา จากความแวววาวของทองที่สะท้อนแสง การพ่นทรายจะลดความมันเหลื่อม ผลที่ได้คือองค์พระที่ดูมลังเมลืองเหลืองอร่าม  แต่ก็ไม่แสบตาจนพร่ามัว  ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มเทคนิคใหม่กับรูปเคารพขนาดใหญ่นี้ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:18:53

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนที่จะสร้าง พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทององค์จริง ซึ่งสูงถึง 3.8 เมตร นั้น  ทีมงานได้สร้างองค์ต้นแบบมีขนาดสูงประมาณ 1 เมตร  ขึ้นมาก่อน  แล้วจึงนำมาขยายสัดส่วนเป็นองค์จริง ภาพแนบคือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำ  ที่เป็นองค์ต้นแบบ จัดแสดงไว้ที่ เมืองอู๋ ซี 灵山梵宫 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:19:55

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจากองค์พระแล้ว  ส่วนที่เป็นฐานบัวรองรับองค์พระ อันเป็นหินหยกสีขาว ก็มีเรื่องราวน่าติดตาม  ดังนี้ ตามรูปแบบที่คิดไว้นั้น  ฐานบัวที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตรนั้น ต้องเป็นบัวหยกกลีบสีขาว จะต้องแวววาว  จะต้องเป็นเนื้อหยกชั้นดี  ที่สำคัญจะต้องเป็นสีเดียวกันเนื้อเดียวกันทั้ง 52 กลีบ    ซึ่งในสภาพธรรมชาติของหินหยกนั้น  เป็นการยากมากๆ ที่จะค้นพบชิ้นใหญ่ที่จะเป็นสีเดียวกันตลอดทั้งก้อน  ซึ่งน่าจะมีน้ำหนักเป็นพันกิโลกรัมเลยทีเดียว   นี่คือฐานบัวหยกขาว  ที่เรากำลังจะไปสืบหาประวัติความเป็นมา จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:20:54

ความคิดเห็นที่ 22 ในเมื่อคุณจางธอออกแบบไว้อย่างนั้น  ก็จงรับเคราะห์  เอ๊ย...รับงานไปหาวัสดุหยก   เธอจึงกระเตงสามีที่เป็นนายช่างศิลป์ใหญ่  แล้วลากบุตรชายไปเป็นสารถีด้วย  ระหกระเหิน  เดินทางโดยเครื่องบินจากเมืองเซินเจิน (C)    ไปยังเมืองคุนหมิง (B) ในมณฑลยูนนาน  แล้วขับรถตู้ไปยังเมืองชายแดนจีน-พม่า ที่ชื่อว่า ย่วย ลี่   瑞丽  (A)    อันเป็นเมืองตลาดหยกที่ชื่อเสียงมาก เพราะเป็นที่พ่อค้าชาวพม่านำหยกมาขายแก่ชาวจีน ยังมีทั้งพ่อค้าชาวปากีสถาน อินเดียอีกด้วย จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:24:05

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าคุณคิดว่า ไปเดินที่ตลาดค้าหยกของเมือง ย่วย ลี่    แล้วทีมงานก็สมมาดปรารถนา บรรทุกหยกที่ได้กลับมา  ผิดครับ เพราะนี่ยังเป็นแค่การเริ่มต้นเพื่อค้นหา ทีมงานใช้เวลาหลายวัน ไปตามหมู่บ้านชายแดนจีน-พม่า  เดินตลาดค้าหยก  เข้าๆออกๆ ร้านค้าหยกสารพัดแห่งทั้งใหญ่ทั้งเล็ก แต่ก็ไม่มีวี่แว่วของหยกขาวที่หมายมุ่งไว้เลย  ร้านค้าหยกขนาดใหญ่หลายร้านยังมีภาพวาดที่จำลองผลงานที่เคยโด่งดังของคู่สามีนี้แขวนอยู่ โดยที่ไม่รู้กันเลยว่า จะมีผลงานที่โดดเด่นกว่านั้น กำลังจะบังเกิดขึ้น  อาจจะด้วยการแต่งตัวที่แสนจะธรรมดาแบบศิลปินติดดินกระมัง  ทำให้ร้านหยกใหญ่ๆ ไม่ยอมเอาของดีมีค่าที่เก็บหลังร้านมาอวด   จนกระทั่ง ผู้ร่วมเดินทางท่านหนึ่งอดไม่ได้ที่จะไปหาคนสนิทในแถบนี้ แล้วส่งข่าวว่า นายช่างศิลป์กำลังแสวงหาหยกเนื้อดี เพื่องานชั้นเยี่ยม  ได้ผลครับ  มีหลายค้าหยกขนาดใหญ่หลายร้านพากันตบเท้าเข้ามาเสนอขายหิน   แต่แล้วทีมงานก็ยังไม่อาจพบเจอหยกที่ต้องการ  เริ่มท้อใจกัน จึงตัดสินใจจะเดินทางกลับเซินเจิ้น  เพราะเวลาส่งงานเริ่มกระชั้นชิด จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:26:15

ความคิดเห็นที่ 24 และแล้วขณะที่ทีมงานถอยรถจะเดินทางกลับ  ก็มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งมาหา  พร้อมกับบอกว่า ที่บ้านของเขา(ซึ่งเป็นชาวพม่า)  มีหินอยู่ก้อนหนึ่ง  อาจจะเป็นหินหยกที่ทีมงานกำลังแสวงหาอยู่ก็เป็นได้   ลองเชื่อดูก็ได้  จึงตามเด็กน้อยไป  เวลาตอนนั้นก็พลบค่ำแล้ว  เห็นหินก้อนใหญ่โตวางอยู่ภายในบ้าน ใช้ไฟฉายส่องดูเนื้อหิน แต่ก็เห็นไม่ชัด แต่เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน พวกเขายอมจ่ายเงินมัดจำหินไว้  และตกลงจะตัดหินออกดูเนื้อในเช้าวันต่อมา คืนนั้นทุกคน ล้วนข่มตานอนไม่ได้ พอรุ่งเช้า จึงรีบตัดเนื้อหินออกดู    ความรู้สึกของคุณจาง เสมือนคนอุ้มท้องมาสิบเดือน แล้วคลอดในวันเดียว (บุญนะซิ  ขืนคลอดทีใช้เวลาหลายวัน ลำบากแย่  อิอิอิ) ทุกคนลุกนั่งไม่ติด ต่างเดินวนรอบหินใหญ่นับพันกิโลกรัมนั้น เพราะถ้าตัดออกมาแล้วเป็นเพียงหินขาวคุณภาพต่ำ เห็นทีจะแย่แน่ ปรากฏว่า ณ พื้นผิวที่เลื่อยตัดหยกเฉือนผ่าน ทุกคนแทบจะกระโดดลิงโลด  เพราะว่าเป็นหยกขาวแซมเขียว เนื้องามมีน้ำมีนวลเป็นประกาย  ใช่เลย.....หยกขาวสำหรับฐานบัวที่แสวงหา จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:31:16

ความคิดเห็นที่ 25 ที่มหัศจรรย์คือ  หินหยกก้อนมหึมานั้นจะมีรอยแยกเป็นเส้นๆ ตัดขวางตัดตรงเป็นตาหมากรุกอย่างเป็นระเบียบ ทุกระยะของแนวเส้นที่เป็นรอยปรินั้น จะพอดิบพอดีกับระดับความสูงที่ต้องการสำหรับกลีบบัว 1 กลีบ   นี่คือ วัสดุที่บุญกุศลตระเตรียมไว้เพื่อพระอวโลกิเตศวรโดยเฉพาะ เป็นที่น่าประหลาดว่า กลีบบัวนั้นต้องใช้หยกทั้งสิ้น 52 ชิ้น  และจำนวนชิ้นหยกที่เจียออกมาได้จากหินหยก ก็ได้จำนวน 52 ชิ้น พอดิบพอดี ไม่มีเกินเหลือมาแม้สักชิ้นเลย จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:32:47

ความคิดเห็นที่ 26 คุณจางบอกว่า นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งพระอวโลกิเตศวร ที่ดลบันดาลให้พวกเขาได้พบเจอกับหินหยกนั้น หินซึ่งเกิดมาแล้วนับแสนนับล้านปี ฝังอยู่ใต้แผ่นดิน ถูกส่งมายังชายแดนจีน-พม่า  และในยามที่ต้องการนั้น ก็มีเด็กน้อยมาตาม นำทางให้พวกเขาได้ไปพบเจอหินหยก นำมาประดิษฐ์เป็นฐานบัวเพื่อเป็นพุทธบูชา   ซึ่งต่อมา เมื่อเล่าให้ เกจิอาจารย์ธิเบตจากวัดจู ชิ่ง ผู้มาทำพิธีบรรจุพระสารีริกธาตุ  ท่านได้บอกว่า นั้นคือ บริวารน้อยนำทาง  (คือพระโพธิสัตว์ มักจะมีบริวารเป็นเด็กชายหรือหญิงคอยรับใช้  เสมือนว่า เด็กน้อยคือบริวารแห่งองค์พระโพธิสัตว์ ซึ่งมานำทางไปพบกับหินหยก) จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:35:11

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพแนบแสดงให้เห็นกลีบบัวหยกขาวที่ผ่านการเจียและขัด จนกระทั่งฉายประกายแสงนวล และนายช่างได้สลักลายดอกไม้บนกลีบบัวอย่างวิจิตรบรรจง  มีสายรัดทองคำ พันรวบกลีบบัวให้เป็นดอกบัวใหญ่ นับเป็นงานฝีมือที่เลิศเลอทีเดียว จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:36:20

ความคิดเห็นที่ 28 เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี นกระทั่งเมื่อ 28 มีย. 1997 การสร้างองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก ที่เซินเจิ้นได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องผ่านขั้นตอนพิธีการทางพุทธศาสนาก่อน  จึงจะนับเป็นรูปเคารพที่ควรค่าแก่การบูชา พระเกจิอาจารย์จ๋า ซี 扎西活佛เป็นพระลามะชื่อดังซึ่งชาวทิเบตชื่อกันว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์โบราณท่านหนึ่งกลับชาติมาเกิด ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าท่านได้เสนอจะทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 1 องค์ (ซึ่งท่านลามะได้ไปขอมาจากวัด ต้า จ๋าว ซื่อ ด้วยตัวท่านเอง) และพระอรหันตธาตุ 1 องค์ (ของท่านลามะเอง)  นอกจากนี้ยังมีพระคัมภีร์เก่าแก่อีก 1 เล่ม จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:38:19

ความคิดเห็นที่ 29 ในวันที่ 7 กค. คศ 1997 พระเกจิอาจารย์จ๋า ซี จึงมาที่เซินเจิ้น ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระเศียรพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก และพระคัมภีร์ที่ส่วนพระบาท จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:39:02

ความคิดเห็นที่ 30 ในวันที่ 15 กค 1997 ได้มีพิธีเบิกพระเนตร โดยท่าน อจ เปิ่น ห้วน เจ้าอาวาสวัน หง ฝ่า ที่เซินเจิ้น  (ท่าน อจ นี้ อายุยืนยาวมาก 100 ปีเศษ แล้ว) จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:39:56

ความคิดเห็นที่ 31 ใน 7 พย. คศ 1998  (วันที่ 19 เดือน เก้า ทางจันทรคติ)   ได้มีอัญเชิญพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก มาประดิษฐานไว้ที่วัดหนานซาน โดยมีเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้ทำพิธีเชิญเสด็จสู่บัลลังก์ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:40:27

ความคิดเห็นที่ 32 ในวันที่ 3 ธค. 2001  ทางวัดได้ทำพิธีสรงน้ำพระ ได้พบพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 138 องค์   โดยมีพระเกจิ อจ. ชาวธิเบต ตอ เลาะ  เป็นผู้ตรวจสอบยืนยันว่า เป็นเป็นพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:40:59

ความคิดเห็นที่ 33 ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุที่เพิ่มขึ้นมาจากกุศลบุญ เก็บบางส่วนไว้จัดแสดงที่หอพระอวโลกิเตศวรทองคำ  ภายในห้ามถ่ายรูปครับ คนรู้จักกันที่เขาไปหลังผม 1อาทิตย์ เขาได้เช่าองค์พระโพธิสัตว์กลับมาบูชา (เฉียดแสนบาท)   จึงได้รับอภิสิทธิ์ในการถ่ายวีดีโอ  ผมได้ขอยืมดีวีดีเขา เลือกตัดต่อตอนที่เป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรทองคำหยกและพระบรมสารีริกธาตุ    ไปอัพโหลดที่ยูทูป อย่าพลาดคลิกวีดีโอข้างล่าง เพื่อไปชมด้านในกันนะครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:43:39

ความคิดเห็นที่ 34 มาถึงตอนท้ายแล้วนะครับ  ถามว่า 1. วิหารที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำ อยู่ที่ไหน ? 2. ปัจจัยใดทำให้จำนวนพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มพูน จาก 1 องค์เป็น 138 องค์ ? 3. อุปกรณ์ทั้ง 6 ชนิด ในพระหัตถ์ขององค์พระนั้น  มีความหมายอะไร ? ไม่บอก  ปล่อยให้งง  ใครอยากทราบต้องจ่ายค่ายกครูมาด้วย   แหม...ผมไม่งกขนาดนั้นหรอก  แต่จะขายของเก่า เพื่อเป็นการลดโลกร้อน ... อิอิ   เรื่องของเรื่องคือขี้เกียจฉายซ้ำแล้ว  เดี๋ยวจะโดนค่อนแคะว่าเป็นนายบ่นซ้ำซาก  ส่อว่าเป็นชายวัยทองอีก...ก๊ากก    เชิญไปกระทู้เก่าเมื่อเดือนก่อนโน้น เจ้าแม่กวนอิม สูงสุดในโลกา มาบูชา ณ ซานย่า ......[นิราศไหหลำ] http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9440968/K9440968.html#7 ขอขอบคุณ น้องหลิ่ม  limzaza เป็นพิเศษ สำหรับรูปแนบข่างล่างนี้และ แผ่นดีวีดีองค์พระที่ทำให้ผมสามารถรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเป็นเรื่องราวเบื้องหลังได้สำเร็จ ขอให้น้องรวยยิ่งๆขึ้นไปนะครับ  (หยอดคำหวาน เผื่องานหน้า) จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:45:56

ความคิดเห็นที่ 35 บุญญารักษา ธรรมาดูแล ผู้อ่านทุกท่านนะครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 22:47:08

ความคิดเห็นที่ 36 งดงามจริงๆค่ะทั้งองค์เจ้าแม่กวนอิม และเนื้อหาที่คุณFortnismเรียบเรียงมา ขอบคุณค่า จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 23:14:08

ความคิดเห็นที่ 37 อลังการงานสร้าง สมเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสั่งสมมายาวนาน ขอบคุณ คุณ Fortunism ค่ะ จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 23:36:23

ความคิดเห็นที่ 38 อนุโมทนาบุญด้วยครับที่ได้ไปสักการะถึงที่ จากคุณ : อุปรากรจีน เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 00:25:01

ความคิดเห็นที่ 39 พระโพธิสัตว์ทองคำหยก มรดกแห่งชาติจีน สวยงามอลังการสร้างมากค่ะ ลงชื่อติดตาม อ่านจบแล้วค่ะ ขอบคุณอาเฮียฟอร์ฯ ที่นำเรื่องราวดีๆมาฝากเช่นเคย และขอตรบมือดังๆให้ทีมงานผู้สร้างด้วยค่ะ แต่ละท่านความพยายามเป็นเยี่ยม  และฝีมือล้วนเป็นยอดของงานแต่ละแขนงโดยแท้ พระโพธิสัตว์ทองคำหยกช่างสวยงาม น่าเคารพเลื่อมใส สมเป็นมรดกแห่งชาติจีนหรือของโลกเลยก็ว่าได้  ขออนุโมทนาสาธุค่ะ _/|\_ .. .. .. ปล. คำถาม ความคิดเห็นที่ 34 อีกสองสามวันถ้าไม่มีใครตอบเดี๋ยวจะลองเข้าร่วมสนุกชิงรางวัล ถ้าตอบถูกทั้งหมดคนแรก จะได้ตั๋วเครื่องบินกทม. - ไหหลำ หรือเปล่าคะ? ฮาาา จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 03:32:34

ความคิดเห็นที่ 40 งดงามและล้ำค่ามากครับ เห็นและศรัทธาตั้งแต่กระทู้เก่าแล้ว ที่ชวนไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมทองคำหยกนี้ เห็นตลาดค้าหยก น่าไปช๊อปปิ้งมากครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 07:38:10

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณค่ะที่นำมาให้ได้ชื่นชม จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:01:45

ความคิดเห็นที่ 42 มาตัดริบบิ้นเปิดกระทู้ไม่ทัน.. งดงามล้ำค่า น่าเลื่อมใสจริงๆค่ะ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือผู้ที่น่าภูมิใจนะคะ รวมทั้งผู้ที่เขียนกระทู้นี้ให้ชมกันด้วยค่ะ   ขอบคุณนะคะ คุณฟอร์.. จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:14:19

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วทึ่งในความวิริยะ ที่คัดสรรสิ่งที่ดีๆนำมาสร้างมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงไปหาหยก ทำเอาลุ้นแทน  ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่นำมาแบ่งปันกันเสมอค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:50:39

ความคิดเห็นที่ 44 .. ต้องหาโอกาสไปชมของจริงซะแล้ว อิอิ งดงามเกินบรรยาย ... คห.39 ถ้าท่านซินแสขี้เหนียวไม่ยอมให้  มารับตั๋วที่ผมได้ครับ  งานนี้ขอหักหน้าท่านซินแสนะครับ อิอิ จากคุณ : มิตรภาพไม่รู้จบ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:05:07

ความคิดเห็นที่ 45 งามแท้ๆพี่ฟอร์ >>>> ชมองค์พระโพธิสัตว์นะ......เปล่าชมพี่ (ถ้าชมพี่ฟอร์ต้องบอกว่าหล่อสุดๆนิ) กระเดี๋ยว......ขอหยอดกระปุ๊กเก็บตังค์ค่าตั๋วก่อน.... ^ ^ ^ .หรือไม่งั้น...ขอเป็นเด็กยกกระเป๋า......ให้ท่านข้างบน....จะทันไหมขอรับ....แฮ่ๆ # เพิ่งสังเกตว่ามิได้ไปถึงเมืองจีน....... สงสัยต้องรองวดหน้าแล้วซิ เรา   แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 13:08:34 จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:27:20

ความคิดเห็นที่ 46 คุณมิตรภาพฯใจดีจัง //ความคิดเห็นที่ 44 แต่ทำไมออกตั๋วให้บินทริปใกล้จัง  สุวรรณภูมิ - ดอนเมือง กินของว่างไม่ทันหมดคำก็ถึงที่หมายซะแล้ว จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:31:00

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:58:00

ความคิดเห็นที่ 48 จากคุณ : แพนด้ามหาภัย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 14:28:04

ความคิดเห็นที่ 49 อลังการงานสร้างมากครับ ขอบคุณสำหรบความรู้ดีๆ เหล่านี้นะครับ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:27:48

ความคิดเห็นที่ 50 งามแต้ๆ จากคุณ : radiergummi เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:03:25

ความคิดเห็นที่ 51 สุดยอดครับ เป็นงานศิลปะที่อลังการงานสร้างมาก นับถือนายช่างทุกท่าน กับการให้ความสำคัญของเนื้องานทุกชิ้นมากจริงๆ ชาตินี้ถ้ามีบุญก็อยากจะลองไปดูให้เห็นกับตาซักครั้งนะครับ ^^ แม่ผมเชื้อสายจีนไหหลำด้วยสิ แบบนี้ยิ่งต้องไปดูให้ได้เลย จากคุณ : Castiel เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:01:00

ความคิดเห็นที่ 52 เหนือคำบรรยายครับ จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:11:14

ความคิดเห็นที่ 53 ผม จขกท เองนะครับ คุณ kingofearth ครับ............ขอบคุณนะครับ  เป็นกำลังใจสำหรับผมทีเดียว คุณนางพญามารเมฆไฟ ครับ....ตอนหาข้อมูลเรื่องนี้  ผมก็ทึ่งเหมือนกันนะกับการสั่งสมทางด้านประณีตศิลป์ของจีน คุณ อุปรากรจีน ครับ..............ขอให้คุณ 出入平安  ด้วยนะครับ น้องNoshka ครับ.................อย่ามาขูดรีดอาเฮียเลย  จะได้ก็แต่ขี้ไคลเท่านั้น  อิอิ  วันนี้ ยังไม่มีใครมาเดา  พรุ่งนี้ค่อยมาเฉลย   พอดีภาพมันก็ไม่ค่อยชัด  เพราะ capture จากซีดี   เป็นกุศโลบาย ป้องกันคนทายถูก  อิอิอิ คุณหนุ่มรัตนะ ครับ................ใช่ตลาดหยกน่าซื้อมาก  เพราะลานตาจริงๆ  แต่หวังว่า คุณหนุ่มคงไม่คิดจะหอบหินหยกที่กองๆ กลับมาทำม้านั่งที่สวนหลังบ้าน  ปะชดแบงค์ ดอกเบี้ยต่ำนะจ๊ะ คุณ พนอจัน ครับ.................ด้วยความยินดีตรับ  โอกาสหน้ามาใหม่นะครับ คุณแม่ใจดี ครับ.................. ขอกรรไกรคืนมาด้วยนะครับ  ก็ด้ามที่ส่งให้ตัดริบบิ้นนั่นแหละครับ   อย่าทำงงนะครับ  ไม่ใช่กรรไกรเหล็กนะ  อันที่เป็นทองคำประดับเพชรนั่นไง  ห้ามบอกว่า ไม่มีไม่เห็นนะครับ   มีเคืองทีเดียว   คุณsawkitty ครับ................ใช่เลย ตอนอ่านเรื่องราว ก็รู้สึกว่า ทำไมมันลำบากยากเย็นขนาดนี้  งานก็ยากแล้ว  นี่ยังเรืองหาวัสดุดีๆอีก พลังศัทธาของคนเป็นพลังผลักดันงานให้สำเร็จจริงๆ คุณมิตรภาพไม่รู้จบ ครับ.......หน้าตาคุณก็ออกไส เอ๊ย.. ใสซื่อบริสุทธิ์  ทำไมต้องมาหลอกลวงเด็ก  เอ๊ย..น้องๆ  ผู้โหยหิว  เอ๊ย...โหยหาตั๋วรางวัลด้วย    เดี๋ยวคุณโดนไทยมุง จะหาว่าผมไม่เตือนอีก   อิอิ คุณกาปอมซ่า ครับ................น่าฉงฉานจริงๆ   ทำไมมาแกล้งหลอกน้องผู้น่ารักด้วย งานประจำมีอยู่แล้ว  งั้นต้องหางานพิเศษ ทำคัพเค้กออกขายออนไลน์ดีไหม รับรองรวยวันรวยคืน ได้ตั๋วบินไปมาเป็นยสิบๆเที่ยวแน่ๆ คุณdigimontamer ครับ.........ไม่ต้องเกรงใจหรอก คุณอุ้ย  ขอบคุณที่มาเยือนนะครับ คุณแพนด้ามหาภัย ครับ.........ไม่ยอมมมม  ผมจะเอา 6 ดาว  อิอิ...ยอมรับว่า งก  อิอิ คุณกริชครับผม ครับ...............หาโอกาสไปเที่ยวด้วยนะครับ ไม่ไกลหรอก คุณ radiergummi ครับ............อู้คำเมืองเชียว เพิ่งทราบนะครับ  ว่าคุณเป็นคนเหนือ  อิอิอิ คุณCastiel  ครับ .....................แสดงว่า คุณก็เห็นหลานเหลนไหหลำเช่นกัน  มีโอกาสต้องไปเยี่ยมเกาะไหหลำ ให้ได้นะครับ เกาะไหหลำ คุณjin leng  ครับ.....................ขอบคุณที่มาเยือนนะครับ  ว่าแต่ว่า  ที่ครัววันนี้มีอะไรน่าทานบ้างครับ ....คุณเชฟ พอดีคุณเชฟใหญ่มา   เลยนึกได้ว่า  ยังไม่ได้เชิญ เพื่อนๆ ทานอะไรเลย  เลยเอาเค้ก คุ้กกี้มาฝาก  เป็นร้านเบเกอรี่ที่ไหหลำนะครับ  เขาก็ทำได้สะอาด บรรจุหีบห่อเรียบร้อย  นอกจากนี้  ในร้านเขาก็ยังพวกน้ำชา กาแฟ หรือ พวกซาละเปา หมานโถว แบบจีนๆ เหมือนกัน  เรียกว่า พรั่งพร้อมเรื่องกินเลยล่ะ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:25:04

ความคิดเห็นที่ 54 พอดีเจอคลิปวีดีโอ ที่เป็นเบื้องหลังการสร้างพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำหยก  ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับ ซีดี ที่ผมได้มา  เนื้อหาบางส่วนก็จะคล้ายๆ กับที่ผมเล่ามาในกระทู้นี้  เป็นคลิปภาษาจีนนะครับ   ความยาวเกือบ 20 นาที   เว็บนี้ อาจจะโหลดมาได้ช้านะครับ  ใครเน็ตแรง ก็ลองดูนะครับ  ฝึกฟังภาษาจีนไปในตัว 金玉观音国宝故事 http://v.ku6.com/show/yKV5OH7veeq6UeYZ.html จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:50:55

ความคิดเห็นที่ 55 สวยมากค่ะคุณฟอร์ ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่นำมาให้ได้ดูได้ชมค่ะ .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 23:40:30

ความคิดเห็นที่ 56 ^ ^  ไอหยา......คุณสุ ว่างจากการร้อยพวงมาลัย มาเยี่ยมเยียน ยามดึก    ต้องต้อนรับสักหน่อย จู่ๆมาทักทายผมว่า   "สวยมากค่ะ"  นี่นะ ไม่ไหวนะครับ  เดี๋ยวสาวๆที่ผมหว่านเสน่ห์ไว้ หนีหมดหรอก  อิอิ อุ่นติ๋มซ่ำหลากหลายอย่างไว้ให้คุณสุ  ตื่นมาทานยามเช้านะครับ . . . เอออ...ผมยังไม่ได้จ่ายเงินนะครับ จากคุณ : ราตรีสวัสดิ์ (Fortunism) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 01:26:03

ความคิดเห็นที่ 57 สุดยอดครับ งามมาก จากคุณ : จ้องจนปวด เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 09:59:39

ความคิดเห็นที่ 58 อึ๋ย........... คุณฟอร์....งั้น..สุ..สุ..ยังไม่ทานนะ รอคุณฟอร์ จ่ายตังค์ก่อน...555  ไปขอหนมน้องกาปอมทาน ดีกว่า ไม่ต้องเสียตังค์ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 10:39:52

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ จขกท มากนะครับ ชอบจริงอะไรจริงเรื่องแบบนี้ ขอคารวะ ๓ จอก พุทธคูหาแห่งตุนหวาง ยังไม่ได้ไป...มีที่ใหม่มาล่อตาลอใจอีกแล้ว -_-" จากคุณ : Sith Lord Nindle เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 16:52:13

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณนะคะ   ตามมากราบนมัสการพระโพธิสัตว์ทองคำผ่านหน้าจอคอมละกัน   องค์พระงามมากค่ะ จากคุณ : เหมียวเหมียว แหง๋วแหง๋ว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 17:11:10

ความคิดเห็นที่ 61 แวะเข้ามานมัสการเจ้าแม่กวนอิม อีกครั้งนะครับ พร้อมกับ........... จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 20:44:58

ความคิดเห็นที่ 62 ติดตาม มาเรื่อยๆๆค่ะ ชอบ คห 8 มากเหมือนคนที่บ้านเวลานั่งคิดอะไรอยู่ ความสามรถเอาไปเลย                                 จากคุณ : Black Currant เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 21:22:18

ความคิดเห็นที่ 63 คุณหนุ่มรัตนะครับ.........ขอให้ได้เลขงามๆ  สุขภาพแข็งแรงนะครับ   แต่ได้โปรดดดด...หยุดเขย่าได้แล้ว   เวียนหัว    มึนนนนน.... คุณจ้องจนปวด ครับ......สวัสดีครับ  ยินดีที่มาเยี่ยมนะครับ คุณสุ ครับ....................แหม   ยอมที่จะอดอาหารเป็นเข่งๆได้นะ  หุ่นดีแน่เลย อิอิ   แต่ว่าห้ามลืมนะว่า  ขนมของน้องกาปอม  เราต้องแบ่งครึ่ง   ห้ามยึดไปหมดล่ะ คุณSith Lord Nindle ครับ...ตุนหวง  ผมก็ยังไม่เคยไปเลย  ต้องการคนช่วยยกประเป๋าไหมครับ  อิอิ   คุณเหมียวเหมียว แหง๋วแหง๋ว...เฉียบขวดเลย  กระแสจิตเราไปได้เร็วและไกลที่สุดเลยล่ะ  คิดดี ก็เป็นกุศลแล้ว จริงไหม คุณBlack currant ครับ...........ใจดีมีเตตาจังเลย  ให้ตั้ง 10 ดาวเชียวแหนะ  แหม..ถ้าเป็นแสตมป์ร้าน 7-11  คงจะแลกของได้อิ่มท้องแน่ๆเลย  อิอิ ++++++ ขอเฉลยความสัมพันธ์ระหว่าง คห 13 และ 14 ดังภาพนะครับ   เราต้องคะแคงภาพนางฟ้าที่ คห 13 ให้อยู่ในแนวดิ่งนะครับ  ตามภาพแนบเลย แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 21:42:31 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 21:36:38

ความคิดเห็นที่ 64 หมดไปชั่วโมงกว่ายังอ่านไม่จบเลย เชื่อจขกท.จริงๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมาโพสตอนดึกๆเพราะว่าขนาดหว่ออ่าน เป็นชั่วโมงเกือบสองชั่วโมงหว่อยังอ่านไม่จบเลย สงสัยกลัววัยรุ่นใจร้อนปาด อิอิอิอิ ทำไมหว่อถึงพูดว่าชอบมาโพสดึกๆ หว่อมีหลักฐาน โปรดสังเกตุ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9440968/K9440968.html#7 เวลาโพสตั้งต้น กับเวลาโพสสุดท้าย 01:25:10 - 03:13:57 นี่เพียงแค่เวลาที่โพสยังไม่ได้นับเวลาที่ไปรวบรวมข้อมูลมาให้อ่าน และเวลาที่เรียบเรียง ไม่รู้จขกท.กินยาโด๊ปที่ไหนมา แรงอึดมากมาย ขอหว่อไปนอนแล้วหว่อจะตื่นมาอ่านอีกนะคะ ตอนนี้ขอไป香睡กับกระทู้นี้ก่อนแล้วค่ะ บุญรักษาจขกท. กับทุกท่านที่แวะมาชมกระทู้ดีๆควรค่าแก่การทัศนาค่ะ ปล. ติดหว่อเหว่อมาได้ไงเนี่ย นั่งอ่านกระทู้จนหลงนึกว่าอยู่เมืองจีนตั้งนาน จากคุณ : ploy_angjoe เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 05:18:26

ความคิดเห็นที่ 65 โอ้ว ไม่ได้เข้าพันทิปนานนม รูปซองจม.ที่มีตัวPสีเหลือง คือสัญลักษณ์อะไรหรอคะ ทำไมคห.หลังๆถึงมี คห.แรกๆไม่มีคะ หรือว่าพันทิปสงสัยทำไมกระทู้นี้ดูดกิฟเป็นพิเศษหรือคะ สงสัยจริงๆนะคะ รีบจรลีไปนอนดีกว่า ฟิ้ววววว จากคุณ : ploy_angjoe เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 05:22:57

ความคิดเห็นที่ 66 หนูพลอย......   คนขี้สงสัยนี่ เวลานอนหลับยากไหมนะ  สงสัยต้องนอนอ้าปากหว่อ  เอ๊ย...  หวอ แน่ๆ    รูปซองจม.ที่มีตัวPสีเหลือง  ก็มาแทนถังขยะนั่นแหละ  แต่มีความกว้างขวางกว่า เพราะสามารถเป็นช่ิองทางติดต่อทีมงานพันทิปได้ด้วย   ลองจิ้มดูก็ได้  มันไม่กัดหรอก  อิอิอิ โพทต์ตอนดึกมีสาเหตุหนึ่งก็อย่างที่หนูพลอยเดา  แต่เรื่องปาดหน้านั้น  เพื่อนๆ เขาก็ไม่ค่อยมาซิ่งนะ  ส่วนใหญ่เขามักจะรอให้ข้าพเจ้าโม้เสร็จก่อน  บางรายก็มาให้กีฟก่อน  รอไม่ไหวก็ไปนอนก่อน ค่อยมาเม้นต์ที่หลัง  อย่างรายที่เขย่าเซียมซีข้างบนก็ใช่แนวนี้เลย แต่ต้องบอกว่า กระทู้เรื่อง เจ้าแม่ทับทิม และ เจ้าแม่กวนอิม ที่ทำต่อเนื่องกันมานี้  ต้องใช่เวลาอย่างมากมายทีเดียว  วันละหลาย ช.ม.  ตามแต่เวลาจะอำนวย  ต้องใช้เวลาเป็น 2-3 อาทิตย์ ต่อหนึ่งกระทู้ทีเดียว  เพราะว่าต้องรวบรวมข้อมูลมา  แล้วหารูป  มาเรียบเรียง นำเสนอให้เนื้อหาต่อเนื่อง  ซึ่งกรณีหลัง เป็นความยากอีกอย่างหนึ่ง ส่วนที่โพสต์กระทู้นั้น  ก็เพราะได้กะตังค์     บ้าซิ...อิอิ  คือนอกจากเพราะมีกำลังใจจากเพื่อนๆน้องๆในนี้แล้ว และแรงตลใจที่สำคัญคือ  อยากถวายเป็นพุทธบูชา ครับ   ปล. แม่พลอยก็เลิกเป็นแม่นกฮูกได้แล้วนะ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 21:55:25

ความคิดเห็นที่ 67 น้องหลิ่ม limzaza ฝากบอกบุญมาครับว่า วันที่ 19 เดือน 9 ทางจันทรคติแบบจีน เป็นวันออกบวช ของเจ้าแม่กวนอิม  ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่  26 ตค 2010 ทางวัดหนานซานได้จัดกิจกรรมสักการะพระโพธิสัตว์  และเชิญชวนผู้มีจิตกุศลและศรัทธาเข้าร่วมงานมงคลดังกล่าว  โดยจะมีกิจกรรมดังนี้ 1. สวดมนต์ กราบไหว้ ขอพรสิ่งสิทธิ์และพระโพธิสัตว์ 2. ประกอบพิธีอภัยทาน  โดยการปล่อยเต่าทะเล 3. นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ผมแนบภาพของปีที่ผ่านมาให้ชมนะครับ  เกจิ อจ  ซิน เฉิง ที่เห็นในภาพสอง คือ เจ้าอาวาสวัดหนานซาน ปัจจุบันอายุ 91 ปีครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 00:07:13

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาอ่านทู้เฮีย ไม่เคยผิดหวังจริงๆ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 53 10:45:12 จากคุณ : หมวยดุสิต (Setakan) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 10:44:42

ความคิดเห็นที่ 69 นำโม ไต๋ซื่อ ไต๋ปุย กิ้วโคว่ กิ้วหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผ่อสัก ชอบจริงอะไรจริง แวะเข้ามานมัสการได้อีก ขอบคุณ จขกท อีกทีนะครับ จากคุณ : Sith Lord Nindle เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 16:11:18

ความคิดเห็นที่ 70 สวยมากๆๆ จากคุณ : DirrtyVanilla เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 17:28:56

ความคิดเห็นที่ 71 สวยงามและอ่อนช้อยมาก สวยและงดงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้ชม เป็นบุญตาจริงๆ จากคุณ : su_k3430 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 21:15:10

ความคิดเห็นที่ 72 จขกท เองนะครับ คุณสุนันยา ครับ............ทำบุญปล่อยเต่าทะเล ดีนะครับ  แต่ห้ามปล่อยเต่าใต้วงแขนเน้อ  กุลสตรีอย่างคุณสุ ต้องระวังนะครับ  เดี๋ยวพาลจะไม่ได้บุญ  อิอิ น้องหนิงๆ ครับ...............ทำงานเสร็จยัง  เจ้านายฝากถาม   อาหมวยดุสิต ครับ ..........มาเยี่ยมทีไร  ก็มีคำหวานมาหยอดทุกที เชียวนะ  ป่านนี้ น้องลิงทั้งสองหายซนแล้วยังหนอ คุณDirrtyVanilla ครับ .......ยินดีต้อนรับครับ คุณ su_k3430 ครับ..........ใช่เลยครับ  แม้แต่ จนท พิพิธภัณฑ์กู้กงที่ปักกิ่ง  ยังชื่นชมว่า เป็นรูปเคารพที่งามพร้อมจริงๆ คุณSith Lord Nindle ครับ...ต้อนรับรอบสองนะครับ  อูววว  สวดมนต์ไหว้เจ้าแม่กวนอิมได้ด้วย  งั้นต้องฝากรูปแนบเลยครับ คือ นะ โม กวนอิม โพธิสัตว์ ทรงมหาเมตตา แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 22:33:50 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 23:52:03

ความคิดเห็นที่ 73 ไหนๆพรุ่งนี้ ก็เริ่มทศกาลกินเจแล้ว  จะมีอะไรเหมาะสมมากไปกว่าเอาอาหารเจมาฝากท่านผู้อ่าน  และสถานที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ทองคำหยก คือที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งหนานซาน ฑ ซานย่านี้  ก็มีอาหารเจบริการครับ ตามกันมาเลยนะครับ   แบบบุฟเฟ่ท์เน้อ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:00:00

ความคิดเห็นที่ 74 ตักมาเรียบร้อยแล้วก็เป็นอย่างนี้ครับ แต่ เอ.....ชักเป็นห่วงว่า พวกเราจะแย่งทัวร์จีนกันได้ไหมหนอ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:02:58

ความคิดเห็นที่ 75 งั้นเปลี่ยนมากินแบบเลิศหรูฟู่ฟ่าดีกว่า  เลือกมังสวิรัติแบบ 5 ดาวให้เหมาะกับกระทู้งามๆ ดีกว่า มาเลี้ยวววว....ยูงทองร้องรับฤดูใบไม่ผลิ แต่ให้กินแต่ผัดผักสีเขียวนะครับ  ได้โปรดไว้ชีวิตนกยูงด้วย จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:07:30

ความคิดเห็นที่ 76 ไหว้พระกันเหนื่อยอ่อน  มัวแต่คุกเข่าอธิษบานมากไปหน่อย  ซุปฟักทองน่าจะช่วยคลายกระหายได้นะครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:09:23

ความคิดเห็นที่ 77 มาถึงเกาะไหหลำ  ก็ต้องชิม "ริมหาดท้องทะเลใต้" จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:10:44

ความคิดเห็นที่ 78 จานเด็ด ศิริมงคล จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:12:57

ความคิดเห็นที่ 79 จานนี้ชื่อว่า แอปเปิ้ลทอดกรอบ  กะทัดรัดน่าชิม รู้ว่าเป็นอาหารเจ  แต่ไม่บอกว่า ทำจากอะไร  อาจจะเป็นเผือกก็ได้  ว่าไหมครับ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:15:14

ความคิดเห็นที่ 80 กุ้งหวาน  แต่ทำจากพวกถั่วและแป้ง จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:16:48

ความคิดเห็นที่ 81 มากินภัตตาคารหรูที่วัดหนานซานนี้  จะกินข้าวเป็นกะละมัง เหมือนตอนอยู่บ้านได้ไงล่ะ ต้องทำเป็นคนมีอันจะกินอย่างเหลือเฟือ   เลยแค่มาชิมเอารสชาติความหรูหราเท่านั้น  ข้าวปั้น 1 ก้อน  ก็พอ โฮ   โหดดดร้าย............กระเพาะมันแอบครวญ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:20:07

ความคิดเห็นที่ 82 สั่งสลัดกุ้ง ผลไม้มาทานกันดีกว่า  เพื่อหุ่นดีๆ...............ที่ไม่มีเหลือแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 00:23:31 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:21:53

ความคิดเห็นที่ 83 บัวแดงสยายกลีบล่อตะเกียบ ผมว่า บัวนั้นน่าจะทำจากเผือก  คงมีไว้เพื่อเจริญตา  แต่ที่จะเจริญท้องคือกระทงน้อยๆสีขาว ใส่ถั่วแดง เนื้อมะพร้าว  ว่าไหม ? จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:29:06

ความคิดเห็นที่ 84 แตงโม สลักเป็นรูปดอกโบตั๋น  เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งมียศศักดิ์ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:30:57

ความคิดเห็นที่ 85 มั่งมีเสมือนทะเลใต้   福如东海  คำพังเพยที่อวยพรใ้ห้ร่ำรวยยิ่งๆขึ้น เขานำมะพร้าวมาแกะเป็นชาม ใส่ต้มจืด  เก๋ไก๋เชียว จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:34:08

ความคิดเห็นที่ 86 จานนี้ชื่อว่า  ท้ออายุวัฒนะแห่งเขาหนานซาน   南山寿桃 ซาละเปาเป็นลูกท้อ รูปสวยน่ารัก  มีตะกร้าใส่ของกินจุ๊บจิ๊บ   ยั่วน้ำย่อยจริงๆ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:37:06

ความคิดเห็นที่ 87 เหมือนกับข้าวปั้นทอดเลยครับ  จัดขอบจานด้วยกลีบบัวสีชมพู  หรูมากกก จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:39:00

ความคิดเห็นที่ 88 ถ้าเป็นผมจะไม่ยืนตกเบ็ดให้เมื่อยหรอก  คว้าใส่ปากเลย   ยังกับเปาะเปี๊ยะห่อไข่เลย โพสต์ถึงนี้ ก็อิ่มจนหนังตาหย่อนแล้ว  พรุ่งนี้ค่อยเอารูปแบบที่เขาบอกว่าใช้วัตถุดิบอะไรบ้างมาต่อ   แหม...ภัตตาคารนี้มีเมนูเป็นร้อย  ไว้ต้อนรับแขกเมืองที่มาเที่ยวเกาะไหหลำเชียวนะครับ   อาหารไม่หมดง่ายๆหรอกครับ จากคุณ : ราตรีสวัสดิ์ (Fortunism) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:47:58

ความคิดเห็นที่ 89 เพิ่งจะได้เข้ามาอีกรอบ.. มากลืนน้ำลาย พร้อมส่งความคิดถึงให้ จขกท. ค่ะ.. จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 14:31:01

ความคิดเห็นที่ 90 ขอคารวะ จากคุณ : 9595 (bhurinut) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 15:26:38

ความคิดเห็นที่ 91 กวนซีอิมผ่อสัก เห็นแล้วสาธุค่ะ อยากไปไหว้ มากๆ น่าเลื่อมใสมากๆ จากคุณ : เจ้าหญิงนอกนิยาย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:56:29

ความคิดเห็นที่ 92 //ความคิดเห็นที่ 34 แวะมาตอบคำถามตามที่ได้สัญญาไว้ค่ะ 1. วิหารที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรทองคำ อยู่ที่ไหน ? วิหารกวนอิมทองคำหยก เขตท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเขาหนานซาน เมืองซานย่า มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน 金玉观音阁 三亚南山文化旅游区 (Sanya Nanshan Culture Tourism Zone) MAP: http://www.nanshan.com/about/map/map.jpg Location: 8-9 B-C ข้อสองสาม เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบลอกคำตอบ อีกทั้งอาเฮียฟอร์ฯจขกทตอบไว้อย่างละเอียด พร้อมรูปบรรยายแล้วในกระทู้ที่แล้ว ใครสนใจจิ้มลิงก์ต่อไปนี้ ไปอ่านได้นะคะ 2. ปัจจัยใดทำให้จำนวนพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มพูน จาก 1 องค์เป็น 138 องค์ ? http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9440968/K9440968.html#23 3. อุปกรณ์ทั้ง 6 ชนิด ในพระหัตถ์ขององค์พระนั้น  มีความหมายอะไร ? คห.12  ถึง 19 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/07/K9440968/K9440968.html#12 ปล. กลับมาแล้ว และส่งงานเรียบร้อยแล้วค่ะ หัวหน้าใจดีวันนี้ให้หยุดชดเชยหลายวันเลย ฝากความคิดถึงน้องพลอยฯด้วย อนุโมทนาค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 21:38:44 จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 21:27:48

ความคิดเห็นที่ 93 ^ ^ ชื่นชม ชื่นชม กับคำตอบ  เยี่ยมมากกก    และถูกใจกับแผนที่ซึ่งหามาประกอบอย่างมาก  แถมมีประโยชน์ให้ได้ใช้ด้วย  (แผนที่นี้เป็นแผ่นพับของวัดหนานซาน) ภัตตาคารอาหารมังสวิรัติที่ผมพูดถึง เยี๋ยน ชี  โหลว 缘起楼  จะอยู่ที่เส้นดิ่งหมาย 5  ตัดกับเส้นนอน E พอดีเลย เป็นอาคาร 2 ชั้น หลังคาสีน้ำเงิน หนิงๆ กลับมาจากการทำงานคงเหนื่อยล่ะซิ  เอาไปเลย  น้ำมะขามแก้กระหาย  ในเมืองจีนมะขามไม่ได้มีดาดดื่นอย่างเมืองไทยนะ  ถือเป็นไม้ผลขึ้นชื่อของไหหลำเชียวนะ   แก้วละ 15 หยวนเชียวนะ เฮียจ่ายให้แล้ว  ดื่มให้หมดล่ะ  ไม่งั้นปรับ 2 เท่า แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 23:24:44 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 23:09:10

ความคิดเห็นที่ 94 คุณแม่ใจดี ครับ...........  ผมก็คิดถึง......คิดถึงกรรไกรประดับเพชร  ยังไม่ได้คืนเลยนะครับ คุณbhurinut ครับ........  คาราวะกี่่จอกดีครับ  จะเรียกเสี่ยวเอ้อมาเสิร์ฟ คุณเจ้าหญิงนอกนิยาย ครับ...  อนุโทนาครับ  ทราบใช่ไหมว่า เจ้าแม่กวนอิม ก็เป็นเจ้าหญิงเมี้ยวซ่าน ในนิยายปรัมปรา +++ เอาล่ะเริ่มเสิร์ฟอาหารเจแล้วนะครับ เป็นซุปน้ำมะพร้าว มีเครื่องเคราคือ เห็ด ถั่วทำเป็นไส้หมู  โปรตีนเจเป็นหมูตุ๋น  เอาไปนึ่งร้อนๆ  แล้วยกขึ้นโต๊ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 23:35:55 จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 23:20:32

ความคิดเห็นที่ 95 น้ำเต้าทอดกรอบ   ภาษาจีนเรียกว่า หู หลู  葫芦 จะพ้องเสียงกับคำว่า โชคลาภาบรรดาศักดิ์  福禄  จึงเป็นอาหารจานมงคล น้ำเต้าขนาดจิ๋วปั้นจากฟักทองและข้าวเหนียว  จากนั้นนำไปทอดกรอบ จนกรอบนอกนุ่มใน หวานเล็กน้อย น่าทานมาก จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 23:47:03

ความคิดเห็นที่ 96 ซี่โคร่งหมูผัดเปรี้ยวหวาน  จานนี้ 28 หยวน  ( 140  บาท)   ไม่แพงนะ ทำจากรากบัว ปอกเปลือกนอกออก นึ่งจนสุก  จากนั้นมาคลุกแป้งสาลี นำมาทอดกรอบ  ตักขึ้นพอเย็นแล้ว  ลงผัดอีกครั้ง ใส่ซอสมะเขือเทศ  ผัดด้วยไฟแรงคลุกเคล้าจนทั่ว  ตักเสิร์ฟได้ทันที รสชาติส่วนนอกนุ่มเหมือนเนื้อ  ด้านในเป็นรากบัวให้ความรู้สึกเหมือนกระดูก ต้องขบเคี้ยว ความเปรี้ยวหวานของซอส ทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้น จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 00:14:34