ความคิดเห็นที่ 1 มีปัญหาอีกอย่างครับ คำว่า courage  มีวิธี อ่าน แบบนี้ Pronunciation:/ˈkʌrɪdʒ/ มีใคร อธิบายสัญลักษณ์ บ้างครับ ค้าหาจาก http://oxforddictionaries.com/?attempted=true จากคุณ : pongplus เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:10:29

ความคิดเห็นที่ 2 คือว่า ก็พอเข้าใจไอเดียของจขกทนะคะ แต่ว่าในคำแปล เขาก็ให้ทางเลือกไว้อยู่แล้วนี่คะ เช่น Courage the ability to do something that frightens one; bravery: she called on all her courage to face the ordeal ถ้าจขกท ไม่รู้คำว่า ability เขาก็ใส่ ; ไว้แล้ว คือคำว่า Bravery ถ้าจขกท ไม่รู้คำว่า Bravery อีก ก็ลองอ่านประโยคตัวอย่างที่เขาให้ แล้วลองเดาดูว่า คำแปลน่าจะอยู่ประมาณไหน ในการอ่าน Definition ก็เหมือนกัน เราดู Definition เพื่อเข้าใจความหมายของคำ ไม่ได้ต้องการรู้ความหมาย Exact แบบที่แปลเป็นไทยเด๊ะๆ เพราะในคำศัพท์หลายๆ คำในภาษาอังกฤษ ก็ไม่มีความหมายที่แปลตรงตัวตามภาษาไทย ดังนั้น ถ้าบางที ลองถามคนที่ชอบเปิด Dictionary Eng-Eng ในคำบางคำ บางทีก็ไม่รู้หรอกว่าแปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร แต่เขาเข้าใจความหมายของคำนั้นๆ มากกว่าค่ะ ทีนี้ ที่แนะนำได้ก็คือ หา Dictionary ในระดับที่ต่ำลงมาหน่อยให้เหมาะกับระดับภาษาของเรา ซึ่งตามปกติจะมีแบ่งไว้เลยว่าเป็นระดับ Elementary, Intermediate หรือ Advance หรือ หา Dictionary ที่มีตัวอย่างประโยคเยอะๆ การอ่านตัวอย่างประโยคจะทำให้เข้าใจความหมายได้ง่ายขึ้นและยังสามารถจำรูปแบบการใช้ สถานการณ์ที่ควรใช้ได้อีกด้วยค่ะ จากคุณ : peiNing เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:52:44

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนเรื่องการออกเสียงที่ใช้อักษร IPA จะมีอธิบายอยู่ในเล่มครับ ลองหาๆดูนะครับ เปิดสารบัญหาหมายเลขหน้าที่สอนการออกเสียง IPA และทำความเข้าใจดูครับ ไม่ยากหรอกครับ จากคุณ : Ruby Tuesday เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 19:05:12

ความคิดเห็นที่ 4 เล่มอื่นผมไม่ทราบนะ แต่ถ้าคุณใช้ Oxford Advance Learner's ให้เปิดไปที่หน้าหลัง Appendix 10 ซึ่งมีที่เขาเรียกว่า core vocabulary อยู่ประมาณ3000คำซึ่งเป็นคำที่เขาใช้เป็นหลักในการอธิบายคำอื่นๆ ทีนี้ศึกษาความหมายของคำเหล่านั้นโดยใช้ English-Thai Dictionary ซึ่งถ้าจะต้องท่องศัพท์ก็ท่องแค่ตรงนี้แล้วหลังจากนั้นคุณก็จะไม่เจอปัญหาอย่างที่ว่าอีกต่อไป จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 20:52:32

ความคิดเห็นที่ 5 แนะให้อ่านพวก graded readers ก่อนเพื่อสะสมศัพท์ครับ เริ่มจาก 1000 เป็น 1500 2000 3000 เมื่อคุณถึงระดับ 3000 ได้ ผมรับรองว่าคุณใช้ E-E dictionary ได้รู้เรื่องแน่นอนครับ พื้นฐานคลังศัพท์คุณยังน้อยไปครับ ไม่ถึง 2000 คำที่ใช้เป็นคำนิยามในพวก Longman, Collins Cobuild, Cambridge ครับ ส่วน Oxford ใช้ราวๆ 2500 คำ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 22:33:29

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจะเอาปวดหัวน้อยหน่อยนะ คุณต้องค่อยๆเรียนจากง่ายไปหายากแบบที่ คุณ K.Senior แนะนำไว้ใน คคห 5 ลองเข้าร้านหนังสือแล้วเลือกดูดิ มีพวกหนังสือนอกเวลาเด็ก ที่ปกหนังสือเขาเขียนไว้ว่าใช้ศัพท์กี่คำ เริ่มจาก 1000 ก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆ พอรู้ถึง 2000 กว่าๆ แล้วถึงจะใช้ dictionaries อังกฤษเป็นอังกฤษ อ้ันที่จริงแล้ววิธีที่ จขกท ทำคือหัดใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ ล้วนๆ พอเปิดหาศัพท์แล้วเจอนิยาม แล้วไม่เข้าใจนิยามก็เปิดวนไปวนมาอยู่ตั้งหลายรอบน่ะ เราก็เคยเรียนวิธีนี้ แล้วเรียนสำเร็จ แต่ก็เกือบเสียสติไปหลายปีเหมือนกัน ที่ทำได้สำเร็จก่อนบ้าตายก็เพราะปัจจัยเหล่านี้คือ 1. เราฟังกับพูดอังกฤษเรื่องง่ายๆในชีวิตประจำวันพอได้อยู่แล้ว (ตอนนั้นเพิ่งไปอยู่ต่างแดนใหม่ๆ)   2. เราเรียนแบบนี้ตอนอายุยังน้อย และอยู่ในสภาพแวดล้อมของการพูดภาษาอังกฤษในต่างแดน (เราใจกล้าขว้าง dictionary อังกฤษ-ไทยทิ้งไป...เอาแบบทุบหม้อข้าวหม้อแกงกะตีเมืองให้ได้เลย...) 3. แทนที่จะอ่านจากง่ายไปหายากเราดันซ่าอ่านจากยากไปหาง่าย เพราะเราป่วยหนักเรียนหนังสือไม่ได้ เราพยายามอ่านตำราโยคะและฝึกลมปราณ หรือวิชาการแพทย์ทางเลือกที่มาจากศาสตร์เร้นลับโบราณๆ (ซึ่งภาษาอังกฤษมันก็โหดมากๆ) เพื่อรักษาตัวเองให้ได้ ยากแค่ไหนก็ต้องกัดฟันอ่านให้รู้เรื่องให้ได้ แนะนำว่าคุณควรอ่านจากง่ายไปหายากจะปวดหัวน้อยกว่า และในระยะเริ่มต้นควรเรียน conversation ควบไปด้วย ลองไปเีรียนที่ aua ดิ มีคนเรียนครบทุกระดับแล้วฟังกับพูดอังกฤษได้ดีมากๆเลย ถ้าคุณรู้ conversation มากพอสมควร และบวกความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวเข้าไป คุณก็จะมีปัจจัยเกือบๆจะเท่าเราตอนเราเริ่มหัดใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษใหม่ๆ ซึ่งคุณก็น่าจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน อ้อแล้วอีกอย่างหนึ่ง นอกจากเรียน conversation แล้วอย่าลืมหัดดูหนังฟังเพลงฝรั่งเยอะๆด้วย มันช่วยได้มากๆเลยหละ ดูหนัง DVD ที่มี subtitles อังกฤษไทย เปิดภาษาไทยอังกฤษสลับกัน แล้วปิด subtitiles ให้หมด หัดฟังแล้วหัดพูดตาม...พอกลับไปหัดอ่านหนังสือใหม่จะพบว่าอ่านได้เร็วกว่าเดิม...เพราะ basic grammar จากการเรียน conversation มันซึมเข้าสมองไปหลายส่วนแล้ว อย่าลืมว่ากว่าจะสำเร็จมันต้องออกแรงเยอะ และมีความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวเท่านั้น ขอให้โชคดี แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 00:40:35 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 00:36:13

ความคิดเห็นที่ 7 เดาว่า สำหรับกำลังเรียนภาษา ใช้แบบ learner's ก่อน แล้วค่อยใช้แบบทั่วไปหรือแบบ college/collegiate อันนี้เล่มเล็กกว่า unabridged คำศัพท์น้อยกว่าแต่ก็เหลือเฟือแล้ว แบบไม่ย่อ unabridged เล่มหนาบึก หรือ ของ oxford ก็น่าจะ 20 เล่ม มีแบบแทบทุกคำศัพท์ จากคุณ : fdsaf เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 05:21:34 A:74.103.123.144 X: TicketID:071236

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้แบบของนักเรียนก่อนค่ะ  ไม่งั้นยากเกินไป แบบนักเรียนเขาจะอธิบายแล้วเข้าใจง่าย ท่องศัพท์พื้นฐานตามที่ข้างบนบอกก่อนก็ดี  แต่มันอาจจะเสียเวลาคุณนิดนึง  ลองใช้แบบนักเรียนแล้วหาศัพท์จากอังกฤษไทยตัวที่ไม่เข้าใจ  เราชอบแบบนี้มากกว่านะ ได้ฝึกอ่านอังกฤษด้วย  ได้ศัพท์ใหม่ด้วย ความรู้สึกส่วนตัว  ศัพท์ใหม่ที่เรียนจากคำอธิบายอังกฤษอังกฤษ บางครั้งใช้เยอะกว่าศัพท์ที่เราเปิดหาอีก  แบบจำได้ไม่กี่วันได้ใช้จริงเลยก็มีไม่น้อย รูปแบบการเรียนของเราคือ  เน้นยาก  พยายามทำแล้วจะรู้สึกว่าง่ายขึ้นเรื่อยๆ  ถ้า จขกท.คิดว่ารับวิธีนี้ได้ก็ลองดูค่ะ  ถ้าไม่ได้ก็ลองวิธีอื่น จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 05:47:06

ความคิดเห็นที่ 9  อธิบายง่ายๆ คือ จขกท ต้องมีความรู้พื้นฐาน เช่น อ่านออก และ เข้าใจบ้าง ไม่ใช่ เถรตรง จะเปิดหาทีเดียวได้เรื่องเลย เช่นเดียวกับเปิด Dic ภาษาไทย คุณต้องอ่านออกเขียนได้ ระดับหนึ่ง จึงจะใช้ได้ ของดี หนังสือดี ต้องอ่านออก จึงจะดี ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 10:17:12

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ จะไปลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ จากคุณ : pongplus เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 18:38:14