ความคิดเห็นที่ 1 Michael Swan ก็เชียนเก่งเรื่องแกรมมาร์ครับ ฉบับดังทั่วโลกคือคู่มือเล่มใหญ่ Practical English Usage ครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 17:55:39

ความคิดเห็นที่ 2 ผมได้เล่มนี้มาก็จากผู้แต่ง Michael Swan  ที่มีคนแนะนำมาครับ จากคุณ : Texas เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 18:26:07

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มต้นอ่านภาษาอังกฤษด้วยตำราไวยากรณ์? สนุกไหม? ที่ถามว่าสนุกหรือเปล่าก็เพราะผมเองนั้นรู้สึกว่าตัวเองได้รับทักษะภาษาอังกฤษมาด้วยแรงจูงใจจาก ความอยากรู้อยากเห็น ความบันเทิงเริงรมย์ ความรู้ ความคิด ไม่ได้มีความกระสันอยากจะเก่งหรืออยากจะรู้ไวยากรณ์ ด้วยเหตุนี้ผมจึงแทบไม่เคยได้แตะตำราไวยากรณ์นอกเหนือไปจากที่เขาสอนในโรงเรียน ผมรับเข้าด้วยการอ่านเรื่องที่ผมสนุกและอยากรู้หรือเรื่องที่ผมต้องใช้ประโยชน์เช่นการค้นตำรา ผมไม่ได้มีความรู้ทางไวยากรณ์อะไรลึกซึ้งนักแต่ว่าผมอ่านเขียนฟังพูดในระดับที่เขียนตำราให้ฝรั่งอ่านได้และพูดบรรยายให้ฝรั่งฟังได้ ก็โดยอาศัยจากการสังเกตและคุ้นเคยจากการนำเข้าตามธรรมชาติเท่านั้นเอง คือผมรู้สึกว่า ถ้าขาดความสนุกในการเรียนรู้ มันจะทำให้ผู้เรียนขาดแรงจูงใจ เห็นหลายๆท่านนั่งตั้งหน้าตั้งตาอ่านตำราไวยากรณ์เป็นหลักอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก็เลยแวะมาถามว่า ท่านสนุกหรือเปล่า? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 20:15:22

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเห็นหลักสูตร MA English ของมหาวิทยาลัยรัฐบางแห่ง ใช่เล่ม Practical English Usage เป็นตำราหลักในการเรียนวิชาไวยากรณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นนักเรียนมัธยมปลายบางแห่งใช้หนังสือเล่มเป็นเป็นหนังสือเสริมในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลัก จากคุณ : pokemon trainer เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 21:09:00 A:110.77.159.78 X: TicketID:000119

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับพ่อแอ๊ดนะครับ ว่า การฝึกภาษาอังกฤษ ต้องมาจากความกระหายอยาก ความพึงพอใจ และความสนุกในการเรียน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ผมและพ่อแอ๊ดใช้ก็คือ อ่านหนังสือที่ตัวชอบและอยากอ่านครับ พ่อแอ๊ดเล่าให้ัฟังว่า ตอนเรียนมัธยม มีโอกาสได้งาน Fiction เป็นประจำ จนทำให้ภาษาอังกฤษ ซึมซับเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งคำศัพท์ และไวยากรณ์ครับ ซึ่งผมก็มีประสบการณ์คล้ายๆกัน แต่หนังสือที่ผมชอบอ่านคือ Textbook & Academic publication ในหลากหลายสาขาวิชา โดยหนังสือภาษาอังกฤษ เล่มแรกที่ผมอ่านคือ 1. Campbell Biology 2.Orchid Encyclopedia 3. Mammals encyclopedia ส่วนหนังสือไวยากรณ์เพิ่งมาซื้อทีหลัง และใช้ต่อเมื่อไม่สามารถหาคำตอบที่อยากรู้ได้จริงๆ ไม่เคยอ่านจบทั้งเล่มเลยครับ ทางด้านภาษา ชอบอ่าน Phonetics & Phonology มากๆ อ่านได้ทั้งวันทั้งฅืนครับ อิๆ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 23:41:58

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยเนี้ยนะ เครื่องทุ่นแรงที่ดีที่สุดสำหรับคนเรียนจากไม่กระดิกหูเลยก็คือหนังฝรั่งบน DVD ที่มี subtitles อังกฤษ กับไทยนั่นแหละ ดูไปเปิด subtitles ไทยมั่งอังกฤษมั่งให้รู้เรื่อง แล้วหัดพูดอังกฤษตาม ดูไปสักเรื่องละ 2-3 ครั้งสัก 100 เรื่อง (หัดฟังเพลงสากลไปเยอะๆด้วย) รับรองว่ารู้ศัพท์กับ grammar ขั้นพื้นฐานพอรอดตายแล้ว จากนั้นก็ตะลุยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ ขยันเปิด dictionaries อังกฤษ-อังกฤษไปเรื่อยๆ (หลังจากดูหนังเป็น 100 เรื่องเราว่าน่าจะพอใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษได้นะ) แล้วค่อยมาเรียน grammar (เลือกเอาแต่ตำราภาษาอังกฤษจากต่างแดน) เลือกเอาแด่ topics ที่สำคัญๆจริงๆ แล้วค่อยๆหัดเขียน โดยเรียนจากตำรา writing จากต่างแดนที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ เรียนตามลำดับแบบนี้ อ่านหนังสือ grammar ถึงจะพออ่านรู้เรื่องมั่ง แต่อยู่ดีๆวันแรกคว้าหนังสือ grammar ล้วนๆมานั่งบริกรรม ก็พอดีบ้าตายซะก่อน เพราะไม่มี entertainment อะไรเอาซะเลยอ้ะ...!!! ...................................................................... แต่ถ้าอยากเริ่มเรียนจาก grammar ล้วนๆเราแนะนำหนังสือสอน conversation ที่สอน grammar แบบ interactive กับ improvisation คือหัดเอาประโยคตัวอย่างมาเลียนแบบ แล้วสร้่างประโยคใหม่โดยเป็น subject, verb, objects และ modifiers (ตำราชุดนี้มีหลายตอนและภาพประกอบ และมี CD/DVD เสียงให้ด้วย) หนังสือมันชื่อ Side by Side เรียนแบบนี้มันสนุกกว่าเพราะมันเหมือนเหตุการณ์จำลองในชีวิตจริงที่พูดกับมนุษย์ตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ใช่อยู่ดีๆอ่านแต่กฎ grammar จนแทบบ้า...ยิ่งเรียนหนังสือชุดนี้แล้วดูหนังฟังเพลงฝรั่งแบบที่เราพูดไว้ข้างบน จะยิ่งไปได้สวย... ลองไปดูข้อมูลหนังสือได้ที่นี่ http://www.pearsonlongman.com/ae/SBS_Bridge/ แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 53 01:12:14 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 53 01:10:26 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 01:07:09

ความคิดเห็นที่ 7 หมายเหตุ ตำรา Side by Side คำศัพท์ง่ายๆมากๆ เราว่าไม่น่าจะเกิน 1000 คำ (คนเพิ่งเรียนภาษาอังกฤษไม่ติดศัพท์กันจนปวดหัวหรอก) แต่มันสอน grammar ได้ถึงระดับ ม.6 ซึ่งถ้าใครเรียนได้ถึงระดับนี้ + ศัพท์ที่ได้จากดูหนัง มันจะไปต่อยอดให้อ่านหนังสือยากๆและอ่านตำราพวกๆ grammar หรือ writing (หรือตำราอื่นๆยากๆเกื่่ยวกับวิชาภาษาอังกฤษ) ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆซึ่งมาจากต่างแดนได้รู้เรื่อง และผู้เรียนก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่เราว่าคนเรียนแต่ grammar ล้วนๆตั้งแต่วันแรก เกิน 80% เลิกเรียนเพราะใกล้บ้าซะก่อนน่ะ...!!! จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 01:18:52

ความคิดเห็นที่ 8 ตรงข้ามกับผมแฮะ ผมชอบเรียนไวยากรณ์มากๆ เพราะรู้สึกว่ามันช่วยให้เราเข้าใจความเป็นระบบระเบียบของภาษา ถึงไม่ใช้ทั้งหมดก็เถอะ ส่วนตัวแล้วคิดว่า การออกเสียง การฝึกพูด ฟัง อ่าน เขียน ตลอดจนเรียนรู้การใช้คำศัพท์ และไวยากรณ์สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยครับ เวลาเรียนเลยพยายามเกลี่ยเวลาให้เท่ากันเท่าที่จะทำได้ จากคุณ : จระเข้น้อยโจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 53 09:37:03

ความคิดเห็นที่ 9 #1 ตัวเองเติบโตมาได้ในยุคที่ internet ยังไม่แพร่หลายก็เพราะหนังสือ Practical English Usage ค่ะ สุดยอดจริงๆ จากคุณ : sandseasun เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 14:09:34