ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล จขกท.ด้วยครับที่เข้ามารบกวนกระทู้นี้ แต่เมื่อวานอ่านแล้วไม่สะดวกที่จะตอบทันที วันนี้เข้ามาชมภาพสวยๆ ต่อ เลยอยากขอแสดงความเห็นนิดหน่อย
โดยความเข้าใจที่ผมได้ค้นคว้าหาอ่านมา ผมวิเคราะห์ว่า การที่ประธานเหมา(毛主席) เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศมาเป็นสาธารณรัฐประชาชน โดยใช้ระบอบคอมมูน(中华人民共和国) เป็นเพราะเห็นตัวอย่างการปฏิวัติประเทศมาสู่สาธารณรัฐ(中华民国)ของดอกเตอร์ซุน ยัต เซ็น ว่าสามารถจัดการแก้ไขปัญหาด้านการปกครองแผ่นดินของกษัตริย์ได้จริง แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ฝังรากลึก และความเป็นอยู่ที่ไม่เท่าเทียมของประชาชนได้
นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้องซึ่งเราจะเห็นได้จากการผลของการเริ่มต้น ทำให้ระบบการบริหารมีระเบียบแบบแผน และประเทศชาติพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง แต่คนส่วนใหญ่กลับไปมองว่าการปฏิวัติวัฒนธรรม(文化大革命)ที่เกิดขึ้นภายหลังจากสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมๆ ยี่สิบปีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ประเทศจีนพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และแนวทางเหล่านี้เป็นนโยบายของพรรค ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่
เพราะผลจากการใช้แนวทางนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยไม่อาจควบคุมได้ เป็นระยะเวลานานถึงเกือบสิบปี ทำให้การพัฒนาประเทศต้องหยุดชะงักลงแทบทุกด้าน
การที่ประธานเหมาใช้คำว่า "ปฏิวัติวัฒนธรรม" มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการกำจัดคนกลุ่มนึงที่ตนเองไม่ไว้วางใจ (อาทิ เติ้งเสี่ยวผิง邓小平, หลิวเส้าฉี刘少奇)ให้พ้นออกไปจากเส้นทาง
โดยถือหาง และให้อำนาจคนอีกจำพวก(หลินเปียว林彪 และแก๊งค์สี่คน-เจียงชิง江青, หวังหงเหวิน王洪文, จางชุนเฉียว张春桥, เหยาเหวินหยวน姚文元) เพื่อเข้ามากระทำการนั้น และในท้ายที่สุดบุคคลกลุ่มนั้น ก้อได้อำนาจ(เกือบ)เบ็ดเสร็จมาไว้ในมือ และเริ่มกระทำการกำจัดบุคคลในพรรคที่ไม่สนับสนุนแนวทางของตนออกไป
ขณะเดียวกันก้อสะสมอำนาจ และสร้างบารมีในพรรคโดยอ้างประธานเหมาและสัจธรรมของพรรคบังหน้า เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ แสวงหาความสุขสบาย โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังหลงศรัทธาอยู่กับคำว่า "เพื่อประชาชน"(为人民服务) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา(红卫兵-Redguard) ที่หลงเชื่อคนกลุ่มนี้โดยไม่ลืมหูลืมตา
ภายหลังเมื่อ เย่เจี้ยนอิง叶剑英, ฮว่ากว๋อเฟิง华国锋 และวังตงชิง汪东兴 ร่วมกันกำจัดแก๊งค์สี่คนแล้ว เติ้งเสี่ยวผิงก้อได้รับเชิญกลับมาดำรงตำแหน่งและเริ่มนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ
ดังนั้น สรุปง่ายๆว่า หลังจากที่จีนสถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชนชนจีนแล้ว สามารถแบ่งช่วงเวลาที่ผมกล่าวถึงอย่างง่ายๆ เป็น 3 ช่วง คือ
1. 1949 สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน(中华人民共和国建立) >>>เปลี่ยนแปลงและเริ่มพัฒนา
2. 1967-1976 ปฏิวัติวัฒนธรรม(文化大革命期间) >>>ล้มเหลว เพราะเพียงแค่ต้องการ "เผาป่าล่าหนู" แท้ๆ - -'
3. 1978 นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ(改革开放) โดยเติ้งเสี่ยวผิง>>>พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ผมจึงมองว่า ประธานเหมาเลือกปกครองด้วยระบอบคอมมูน(ในช่วงนั้น) เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของสถานการณ์
ส่วนการปฏิวัติวัฒนธรรม เป็นเพียงการกำจัดกลุ่มบุคคลที่ประธานเหมาคิดเห็นว่า ไม่เดินตามแนวทางของตน
และการที่เติ้งเสี่ยวผิงเลือกระบบทุนนิยมเข้ามาผสานกับระบอบคอมมูน(บริหาร-พัฒนาประเทศด้วยทุนนิยม, ปกครองคนด้วยคอมมูน) เป็นการปรับแนวทางที่เหมาะสมอีกเช่นกัน อย่างที่เราเคยได้ยินกันเสมอๆ ว่า "ไม่ว่าแมวขาวแมวดำ ขอเพียงจับหนูได้ก็เป็นแมวดี" (白猫黑猫,能抓得住老鼠就是好猫。)
นี่คือสิ่งที่ผมเข้าใจนะครับ ถ้าคุณคห.25 ไม่เห็นด้วยหรือ หรือท่านใดต้องการชี้แนะ สามารถนำ "เหตุผล" มาแชร์กันได้ ผมความรู้ยังน้อยครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ ด้วยความเคารพ
ป.ล.ขออภัยจขกท.อีกครั้งที่รบกวนพื้นที่กระทู้โดยใช่เหตุ