 |
มันยากเกินไปหรือป่าวคะ
สงสัยจะเป็นเช่นนั้นเพราะนอกเหนือจากที่ต้องทำ IS ก็เท่ากับต้องมาฝึกการเขียนเพิ่มเติมอีก แต่ตัดสินใจทำไปแล้วก็ต้องลุย
grammar ก็ไม่ได้ดีอะไรเลย
ก็เขียน ๆ ไปก่อนครับแล้วก็ค่อย ๆ ปรับแก้การเขียน การใช้คำทีหลัง ถ้าตั้งใจเขียนภาษาอังกฤษให้ดีมาก ๆ ในรอบแรก ๆ อาจรู้สึกเจอทางตัน ก็ให้เขียนไปเรื่อย ๆ ก่อน
แนะนำหนังสือ Writing Techniques สุดยอดเทคนิคการเขียนของเศรษฐวิทย์ หาซื้อหรือถ้าไม่มีในร้านก็สั่งซื้อกับพนักงานของร้านหนังสือซีเอ็ด อีกเล่มก็แนะนำเพราะหาหนังสือภาษาไทยที่เขียนแบบนี้ค่อนข้างยาก ชื่อหนังสือ "ภาษาอังกฤษเพื่อการเขียนงานวิจัย" ของกันยารัตน์ เกตุขำ สั่งซื้อกับซีเอ็ดได้เหมือนกัน เล่มหลังจะช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับการเขียนงานวิจัยเช่น ตรงส่วนไหนใช้ tense อะไร, literature review ใช้่ tense อะไร, methodology ใช้ tense อะไร เป็นต้น
ถ้าในมหาวิทยาลัยมีทำ IS เป็นภาษาอังกฤษก็ยืมไปอ่าน ๆ ดู (แต่ก็ไม่ค่อยแนะนำให้คัดลอกแนวทางการเขียนถ้าเป็นของนักศึกษาไทย) เอามาดูรูปแบบ วิธีการ และก็หาวิทยานิพนธ์ (ของนักศึกษาประเทศที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่) ที่เรื่องมีแนวทางเดียวกับ IS ของเจ้าของกระทู้ ค้นจากฐานข้อมูล E-library ของมหาวิทยาลัย จขกท นั่นแหละครับ เดี๋ยวนี้ทุกมหาวิทยาลัยน่าจะมีการเข้าถึงฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์หรือวารสารต่างชาติกันทุกมหาวิทยาลัยแล้ว
การเขียนก็เขียนแค่ simple, compound, complex sentence ก็พอ ไม่ต้องถึงขนาด compound complex ถ้าไม่จำเป็น
ให้รู้จัก sentence pattern จะได้เขียนได้ง่ายขึ้น (ค้นจากกูเกิ้ลก็ได้ว่า sentence pattern มีอะไรบ้าง ไม่เกิน 7 แบบ) หรือดูจากหนังสือที่ได้แนะนำไปแล้ว
เขียน IS 50/70 หน้านี่ไม่ยากมากเกินความสามารถหรอกครับ double spacing ด้วยกระมัง จะว่าไปก็ไม่มาก
สุดท้ายเขียนมาแล้วตรวจแล้วถ้ายังไม่พอใจ ก็จ้าง editor ก็ลงทุนเพิ่มอีกประมาณหนึ่ง
| จากคุณ |
:
elenote  
|
| เขียนเมื่อ |
:
15 ต.ค. 53 21:07:50
|
|
|
|
|
กลุ้มใจจัง ทำ IS เป็นภาษาอังกฤษ
