|
ผมสงสัยว่าทำไม จขกท. ไม่พยายามเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาล เพราะมีสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่าของเอกชน แถมค่าใช้จ่ายถูกกว่า
จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ผมแนะนำให้เรียนสายวิศวะ เพราะบริหารคุณสามารถมาเรียนตอน ป.โท ได้ แต่จะเป็นสาขาไหนผมแนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูความชอบ+Demand & Supply ของแรงงานในตลาดด้วย
แต่ถ้าอยากเรียนทางด้านบริหารก็ไม่เสียหาย ขึ้นอยู่กับความสุขในการเรียนและงานที่คุณจะได้ทำในอนาคตมากกว่า การศึกษาเป็นเพียงยานพาหนะให้คุณไปสู่จุดหมาย
สำหรับทางด้าน บัญชี กับ การเงิน ขอบอกว่า มันมีส่วนทับซ้อนกันบางส่วนก็คือ ต้องใช้งบการเงินด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าจะบอกง่ายๆ ก็คือ บัญชี จะเป็นการบันทึก และแสดงกิจกรรมทางการเงิน ซึ่งต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือได้ ในกรอบของหลักการบัญชี
จุดสูงสุดที่ไปได้ มักจะไปทาง Auditor หรือ ผุ้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งเป็นงานวิชาชีพ ที่ต้องสอบใบประกาศฯ มีการควบคุมเหมือนพวกวิศวกรเช่นเดียวกัน แต่ถ้าในระดับองค์กร ก็น่าจะเป็นสมุห์บัญชี หรีอสุงกว่านั้นได้ถ้ามีความรู้ในด้านอื่นๆ ด้วย
ส่วนการเงิน คุณจะต้องเข้าใจความหมายของตัวเลขต่างๆ ในงบการเงิน รวมทั้งจะต้องพิจารณาบริหารจัดการเงินทุนขององค์กรให้มีประโยชน์ หรือมีประสิทธิภาพที่สุด เช่น หาเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ การใช้เงินไปลงุทน เช่น เงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ หรือกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หนักไปจนถึง การใช้อนุพันธ์ทางการเงิน พวกฟอร์เวิร์ด ,สวอป ,ออปชั่น
จุดสุงสุดที่ไปได้น่าจะเป็นผุ้บริหารในธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งผมมองว่าความมั่นคงในงานขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจดีก็รายได้สูง มีการแย่งตัวกัน แต่ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็ทำให้กลุ่มนี้ Lay off ออกมาล็อตแรกๆ
แต่สุดท้าย จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมขอเสนอว่าในชีวิตการทำงานหลังเรียนจบ งานที่เราชอบหรือรัก ควรเก็บไว้เป็นงานอดิเรก หรือเอาไว้เป็นรายได้เสริม ส่วนงานที่ทำประจำ ควรเป็นงานที่สามารถทำได้ดี หรือสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ เพราะไม่ว่างานอะไรก็ตามมันมีจุดที่น่าเบื่อทั้งนั้นเมื่อทำเป็นประจำ ดังนั้นถ้าคุณทำงานที่คุณรัก แล้วเกิดเบื่อหรือเครียดขึ้นมา คุณจะไม่เหลืออะไรมาผ่อนคลายความเครียด ของคุณเลย
จากคุณ |
:
เพลิงน้ำค้าง (Dianix)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันปิยมหาราช 53 09:54:39
|
|
|
|
|