ความคิดเห็นที่ 1 นึกออกแต่เรื่องภูเขาทิ้งแม่ ... ในยุคข้าวยากหมากแพง คนอดตายเพราะฟ้าดินวิปริตปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น บางบ้านเลยต้องลดจำนวนปากท้องด้วยการเอาพ่อแก่แม่เฒ่าในบ้านที่ชราจนเดินไม่ไหว แบกขึ้นหลัง พาไปในป่า อ้างว่าจะไปหาของกิน ตั้งใจว่าพอเข้าดงลึกมากก็ทิ้งคนแก่ แม่แก่บางคนหักกิ่งไม้ทิ้งไว้เป็นทาง ลูกถามทำอะไร ระแวงกลัวแม่กลับบ้านถูก แม่บอก "กลัวลูกหลงทาง ทิ้งสัญลักษณ์ให้ลูกกลับบ้านได้" T_T เกาหลีก็เหมือนจะมีเรื่องเล่าเดียวกับญี่ปุ่นแนวนี้ (ในการ์ตูนตุลาการทมิฬ) จากคุณ : แพนด้ามหาภัย เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 53 22:06:23

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อการอยู่รอดของชีวิตคนรุ่นหลัง เกิดจากการกินอยู่อย่างอดอยากในประเทศที่อยู่ในเขตมีหน้าหนาว หน้าหนาวที่หาเสบียงอาหารไม่ได้เลย หรือได้ก็ไม่พอปากท้อง เคยอ่านแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว   เรื่องของเอสกิโม ย่าหรือยายนี่แหละ ยอมเป็นอาหารให้ลูกหลานกินเพื่อให้ลูกหลาน อยู่รอดต่อไปถึงฤดูต่อไป  (คงมีใครเคยอ่าน) อย่างนี้ เรื่องไหนโหดกว่ากัน จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 15:18:55

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านคุโรซากิแหงๆ ตอนนั้นอ่านแล้วหดหู่มากเหมือนกัน เพราะเป็นเด็กติดยายค่ะ TwT จากคุณ : mae-art เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 16:18:53

ความคิดเห็นที่ 4 เข้้าใจว่า ทุ่งเด็นดาระ ในการ์ตูนเรื่องที่คุณอ่าน เรื่องคุโรซากิ ใช่ใหมครับ คือการประชดประชันสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบัน โดยการ์ตูนต้องการสื่อว่า ในสังคมญี่ปุ่นที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก(และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) นั้น เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เพราะผู้สูงอายุเหล่านี้ทำให้เกิดค่าใช่จ่ายที่ต้องมาจาการดูแล เป็นภาระแก่ครอบครัว เป็นภาระแก่ลูกหลาน และผู้สูงอายุบางคนก็ไม่สามารถทำงานได้ และถูกลูกหลานทิ้งขว้าไม่เหลียวแล การมีอยู่ของผู้สูงอายุในสังคมของญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งไร้ค่า สู้พาไปกำจัดยังจะเป็นทางออกทีดีกว่าเลย จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 21:13:35

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านจากคุโรซากิใช่ครับ แต่จำได้ว่าจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ก็เคยได้อ่านตำนานนี้อยู่เหมือนกัน เช่น จากผู้รอดตายภาคพิเศษและเรื่องอื่นๆอีก เลยคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงของญี่ปุ่นในช่วงเวลานึงน่ะครับผม จากคุณ : As it happens to be me เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 22:15:48

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าแบบนั้น คิดว่าทางยุโรปก็น่าจะมีเหมือนกันหรือเปล่า เพราะความหนาวเย็น และความแร้นแค้นก็ไม่ด้อยไปกว่า อย่างเกรเทล กับฮันเซล อันนี้นับด้วยหรือเปล่า จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 53 23:39:55

ความคิดเห็นที่ 7 คห.4     ตอนนี้การคงอยู่ของคนชราเป็นสิ่งที่มีค่ามากนะครับในญี่ปุ่น       3-4เดือนก่อนยังออกข่าวอยู่เลยว่าคนแก่ตายไป30กว่าปีแล้ว    แต่ลูกหลานปิดไว้   เพื่อจะได้รับบำนาญต่อไป    ได้เงินบำนาญคนชรามาใช้ในครอบครัว      แต่ถึงยังไม่ตายคนชราก็ไม่ได้ใช้เงินอะไรมากมาย        ในญี่ปุ่นมีเคสที่น่าสงสัยว่าจะเป็นแบบเดียวกันอยู่ร่วมๆ3แสนได้ ถ้ารื้อมาเช็คกันจริงๆ   น่ากลัวค่าอายุเฉลี่ยของญี่ปุ่นคงลดไปเยอะเลย      เพราะความจริงตายไปแล้ว    แต่ไม่แจ้งตาย    อายุก็ถูกลงเพิ่มไปเรื่อยๆจนอายุเกินร้อยกันมหาศาล     แล้วก็ถูกเอารวมไปหาค่าเฉลี่ยอายุขัย จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 00:01:51

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ขณะเดียวกันเองก้อต้องยอมรับเทคโนโลยีและการแพทย์ของญี่ปุ่น ประกอบกับอากาศและกระแสน้ำที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีบรรยากาศดีที่สุดในโลก คนญี่ปุ่นจึงมีอายุยืนมากขึ้น คนแก่จริงๆ อายุต้องราว ๘๐ ส่วนคนที่เพิ่งเกษียณอย่างอายุ ๖๐ นี่ยังเด็กอยู่เลย ผมชอบที่คนแก่ญี่ปุ่นจะปลดอีโก้ตัวเองหันไปรับทำงานบริการ งานทำความสะอาด แล้วให้คนหนุ่มสาวที่เป็นพลังของสังคมเข้ามาทำงานแทน จะมีก้อแต่พวกชนชั้นปกครองในญี่ปุ่นนี้แหล่ะอยู่โกงกินกันจนหงำเหงือก อย่าคิดว่าญี่ปุ่นไม่มีคอรัปชั่นนะครับ คนญี่ปุ่นไม่อายที่จะคอรัปชั่น แต่อายที่ถูกจับได้ต่างหาก ต่างกะคนไทยไม่อายแม้จะถูกจับแม้แต่ศาลตัดสินแล้วก้อยังหน้าด้านอยู่ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 01:05:17