ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ได้อ่านและไม่ได้ดู เลยไม่รู้จะวิจารณ์ตัวละครยังไงดีนะสิ แต่แว่ว ๆ มาว่าเรื่องนี้เอามาจากเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ เมื่อไม่รู้จักทั้งเนื้อเรื่องและตัวละคร ก็เลยขออนุญาตแค่และ ๆ เล็ม ๆ หน่อยแล้วกัน เรื่อง ทาส ที่ปล่อยไม่ไป วลีนี้ มีการพูดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายหน ความหมายก้แล้วแต่เจตนาของผู้พูดเป็นครั้งเป็นคราวไปนะ จริง ๆ เรื่องการเลิกทาส เลิกไพร่ ในมิติของสังคมนี่สำคัญมาก เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการปลดปล่อยแรงงานให้เข้ามาพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปได้ ในไทยนั้น สมัย ร 5 ก่อนจะเลิกทาสนั้น ประเทศยังไม่ได้ขยายตัวมาก พื้นที่ทางการเกษตรก็ไม่ใหญ่โต เอาแค่พอกิน ประมาณหาข้าวในนา หาปลาในน้ำ แต่เมื่อเราต้องค้าขายกับต่างชาติ ถูกบีบให้ต้องขายข้าว ทำให้มีความจำเป็นต้องขยายพื้นที่เพาะปลูก สิ่งที่น่าสนใจในนโยบายการเลิกทาส คือ มีการพัฒนาระบบการศึกษามารองรับประชาชนรากหญ้า ที่เรียกว่า ไพร่ ทาส ในสมัยนั้น แทนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ ซึ่งหมายถึงปล่อยไปอดตาย เพราะไม่เคยฝึกหัดอะไร นอกจากรับใช้นาย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 10:47:22

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก็คิดว่าเมื่อทำการเลิกทาสนั้น ก็จะมีทั้งทาสทีื่ปรับตัวได้และทาสที่ปรับตัวไม่ได้หน่ะครับ กลุ่มทาสรับใช้สนิทที่ปรับตัวไม่ได้ ก็ไม่สามารถออกไปดำเนินกิจการเพื่อเลี้ยงตนเองได้ จึงต้องทำงานรับใช้นายทาสเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งนายทาสเดิมก็ไม่ได้ปรับทัศนคติของทาสในบ้านตนจากเดิมไปเท่าไหร่นัก ก็คงเห็นเป้นข้ารับใช้เหมือนเดิม แต่ด้วยความที่รับใช้กันมานานและคุ้นเคย จึงเข้ากันได้เหมือนเดิม ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม แต่ทาสหรือไพร่อีกจำนวนมากที่ปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ได้ ก็ออกไปดำเนินกิจการในหนทางของตนครับ ในความเห็นของผม ช่วงกลางสมัยรัชกาลที่ 5 จำนวนทาสน่าจะมีไม่มากมายนัก ส่วนใหญ่จะเป็นไพร่กันมากกว่า และด้วยระบบผ่อนคลายการเกณฑ์แรงงานไพร่ที่หลวงกระทำมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งลดภาระในการเข้าเวรของไพร่หลวงลงไปมากแล้ว ทำให้ระบบไพร่หายไปนั้น ประชาชนจำนวนมากเลยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของเขาเท่าไหร่ การถูกลดทอนอำนาจของเหล่าขุนนางหัวเมืองน่าจะทำให้ไพร่สมมีจำนวนลดลงอย่างมากเช่นกันครับ จำนวนไพร่สมในสมัยรัชกาลที่ 5 คงจะน้อยกว่าสมัยตอนต้นรัตนโกสินทร์มากทีเดียว นั่นทำให้เมื่อเกิดการเลิกระบบไพร่ พวกขุนนางจึงไม่ได้ต่อต้านกันมากเกินไปนัก (หากสมมติการเลิกระบบไพร่ไปเกิดในสมัยรัชกาลที่ 2 ผมว่าเหล่าขุนนางคงจะค้านหัวชนฝา เพราะไพร่สมนั้นมีจำนวนมากจริงๆ) แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 53 11:38:26 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 11:36:53

ความคิดเห็นที่ 3 ในทุกสังคมก็มีทั้งที่ดี และทั้งไม่ดีอ่ะครับ เราคงติดสินไม่ได้ว่าดีหรือไม่ นอกจากว่าเรา้ต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้นประกอบไปด้วย เอ ผมจะพูดไรเนี้ยะ ลืมแระ "ท่านเจ้าพระยาคนหนึ่ง..ที่เคยเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าแผ่นดิน หลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต..ได้รับการปูนบำเน็จด้วยคฤหาสน์หลังงาม..รถยนตร์โรลส์รอยส์" บางคนก็ยังฟ้องร้องในหลวงรัชกาลที่ 7 ที่ไประงับพินัยกรรมเอาไว้เลย จนศาลสั่งว่านี่เป็นเหตุการณ์สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ในหลวงมีพระราชอำนาจเต็มที่ เรื่องก็เลยยกฟ้อง "ดิฉันกลับดูว่ามันเป็นเหตุและผล..เพราะเจ้าคุณนราฯ ก็อาจจะเป็นกลุ่มมีความรู้ความสามารถแต่..ไม่ได้รับการสนับสนุนเพราะไร้เส้นสายก็เป็นได้.." อันนี้เป็นได้ และเป็นจริงครับ ซึ่งเข้ากับคนเสื้อแดงในปัจจุบันเหมือนเดจาวูยังไงไม่รู้ คนเสื้อแดงไม่ได้รักท่านอดีตนายกฯ ซะทุกคน แต่ไม่เกลียด ประมาณว่าเฉยๆ แต่โดยโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะไ่ม่ใช่พวก อะไรประมาณนี้ ปล ไมไ่ด้ดูหนังเรื่องนี้นะครับ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 17:14:24

ความคิดเห็นที่ 4 มากรี๊ดดดดดคุณอุ้ยค่ะ  !!! สวัสดีค่ะ   สบายดีนะคะ เพิ่งได้รับหนังที่น้องริวกรุณาส่งมาให้ดู   แถมหนังเรื่อง Pope Jone  อีกหนึ่งเรื่อง แต่เรื่องหลังยังไม่ได้ดูค่ะ  เปิดดูแว๊ปๆเห็นภาพสีคมชัด สวยงาม  น่าติดตามมากค่ะ   เวลาที่มีการแข่งขันระดับโลก  เรามักจะเห็นว่านักกีฬาที่มาจากค่ายคอมมิวนิสต์มักเป็นตัวเต็งในการคว้าแชมป์ประเภทต่างๆอยู่บ่อยๆใช่ไหมคะ    ตอนนั้นก็ได้แต่ถามดังๆว่าทำไมคนจีนเอย  คนรัสเซียเอย  เกาหลีเหนือเอย   เขาได้เก่งกันนักกันหนา   ก็ได้ยินเสียตอบมาจากผู้เกิดก่อนว่า   เป็นเพราะประเทศของเขาเป็นคอมมิวนิวสต์   คนของเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดไปทำอะไรตามใจชอบได้จึงมีเวลาว่างเยอะ  พวกเขาจึงใช้เวลาว่างเหล่านั้น  มาฝึกฝนทางด้านกีฬาหรือการแสดงต่างๆที่ต้องฝึกกันตั้งแต่กระดูกยังอ่อนๆ และอีกอย่าง   การที่ใครก็ตามมีความสามารถพิเศษ ก็มักจะได้สิทธิพิเศษด้วย   อย่างเช่น ลี  ในเรื่องนี้   ก็มีโอกาสได้ไปโชว์ที่อเมริกา  และไปสับสนกับชีวิต   และแนวคิดของคนที่นู่นมากมาย หนังเรื่องนี้  นำเสนอแบบสลับไปมาระหว่างชีวิตในอเมริกา  กับช่วงที่ลี ยังอยู่ในประเทศจีน  โดยส่วนตัวจะชอบฉากในประเทศจีนมากกว่า   เพราะมันเหมือนกับของแปลกสำหรับเรา   รายละเอียดของภาพและสถานที่บอกเล่าเรื่องราวได้มากมายแล้วแต่ใครจะจินตนาการ ช่วงชีวิตของคนเรา ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง การที่ใครสักคน จะมีความสามารถเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่งนั้น  คงไม่ใช่เป็นเรื่องของพรสวรรค์อย่างเดียว   แต่น่าจะบวกกับพรแสวงอย่างแรงกล้าด้วยในการที่จะไปให้ถึงตรงจุดนั้น ที่ว่าได้อย่างเสียอย่างก็คือ   เขาอาจต้องสูญเสียประสบการณ์ตามวัยที่ควรจะได้รับในเด็กวันเดียวกัน    แต่คนเหล่านี้ต้องใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมแทนที่จะได้ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ   แต่รางวัลที่เขาได้รับก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ก็เหมือนกับดาราฮอลลีวูด  สาว สวย รวยมาก หุ่นดี ...แต่ไม่สามารถกินอาหารรอร่อยๆเหมือนพวกเราได้   เพราะเธอต้องรักษารูปร่างไว้โชว์ ...มันเป็นบุญหรือกรรมกันแน่   จึงจะมีใครสักกี่คนที่ได้ดังใจทุกอย่างๆพร้อมๆกันบ้างไหม จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 10:48:32

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับ คุณ Gasalong จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 20:02:43

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาลงชื่อครับตอนนี้โดนกองงานล้มทับ ดีใจครับรุ่นใหญ่ๆมากันแล้ว เรื่องหนังโนคอมเม้นท์ครับเพราะไม่ได้ดู แต่เรื่องสังคมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนกลาง เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่อำนาจมารวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกที่พูดได้เต็มปากว่ากรุงเทพฯคือประเทศไทย(หรือเวลานั้นเรียกว่า"สยาม")   ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่อำนาจส่วนกลางมีแต่ในนาม เจ้าเมืองตามหัวเมืองต่าง รวมถึงเจ้าประเทศราชมีอำนาจเต็มที่แม้แต่ในส่วนกลางยังมีหลายศูนย์กลางอำนาจเช่น วังหน้า วังหลวง คนดีมีความสามารถสามารถเลือกสวามิภักดิ์กับศูนย์อำนาจไหนก็ได้   แต่เมื่อมีการค้าต่างประเทศเข้ามา กรุงเทพฯควบคุมการค้าทางทะเลกับชาติตะวันตกไว้จึงสามารถสะสมความมั่งคั่งได้ขณะที่ขุนนางตามหัวเมืองยากจนลงเพราะขาดโอกาสทางการค้าซึ่งรวมถึงวังหน้าด้วย เมื่อกรุงเทพฯหรือส่วนกลางมั่งคั่งพอจึงสามารถปฏิรูปการปกครองได้โดยที่การขัดขวางจากหัวเมืองต่างรวมถึงประเทศราชมีน้อยมาก เมื่ออำนาจทุกอย่างอยู่ที่ส่วนกลาง อันเป็นผลจากการคนที่จะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดส่วนกลางเท่านั้นตรงนี้กระมังที่จะพออธิบายความชิงชังต่อพวกผู้ดีของเจ้าคุณนราฯได้ รูปขุนนางไทยกับที่ปรึกษาทางการค้าครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 13:13:37

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้ฝากให้พี่สาวกาสะลองฯ เรื่อง Pope joan เป็นเรื่องของสังฆราชหญิงครับ เนื้อหาดราม่าดีครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 13:15:07

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาลงชื่อครับ เทศกาลลอยกระทง แต่นั่งอยู่บ้าน เพราะรำคาญเสียงประทัด จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 20:37:49

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มแก่แล้วหรือเปล่าคะ  อาจารย์?? จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 22:06:46

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่แก๊ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 18:10:57

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังไม่แก่จริง เมื่อคืนก็เลยออกไปลุยมาแล้ว แต่ไปแค่สมรภูมิเล็กๆ แถบคูเมือง ถ้าไปริมปิงนั่นระดับสงครามโลกครับ คืนนี้จะเอาหลักฐานมาให้ดู จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 10:02:42

ความคิดเห็นที่ 12 แค่ขับรถผ่าน ม.เกษตรฯกับวัดพระศรีฯก็จะแย่อยู่แล้ว ถ้าใส่เสือแดงกันอีกหน่อย คงคิดว่าย้อนกลับไปเดือนเม.ย.พ.ค. เพราะทั้งเสียงปืน เสียงระเบิด แถมยังมีแก๊งค์มอไซต์อีก สนุกด้วยไม่ไหวจริง ๆ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 11:28:48

ความคิดเห็นที่ 13 เอารูปมาให้ดูเพื่อพิสูจน์ว่าไปมาจริงๆ รูปนี้นี่รุ่นน้องของกระทู้ยังเติร์ก จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:46:37

ความคิดเห็นที่ 14 ไปมาแล้วจริงๆ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:47:01

ความคิดเห็นที่ 15 คืนกระทงใหญ่ก็ไปมาอีก รูปนี้สำหรับหัวหน้าห้องโดยเฉพาะ จริงๆมีแยะมาก แต่ผมไม่ถ่ายมาให้เปลือง mem ;) จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:48:28

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้สำหรับ... จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:48:59

ความคิดเห็นที่ 17 ... จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:49:30

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับอ.สื่อโดยเฉพาะครับ ฮิฮิฮิ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:50:16

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณนายแบบและนางแบบครับ ตั้งใจให้ถ่ายมาก แม้ว่าขบวนจะเคลื่อนและผมยังโฟกัสไม่ทันเค้าก็พากันยิ้ม และพยายามหันหน้าให้ตรงกับกล้อง ไม่ได้ดูทั้งหมดเพราะออกไปดึกแล้ว เลยทันแค่หางๆขบวน ตลกน้องคนนึง คงจะบ้าจี้ เค้ามานั่งขายโคมลอยกับเพื่อนๆ พอประทัดยักษ์ดังขึ้น น้องเค้าก็ตะโกนด่า ไอ้ here ลากยาว และดังมาก เล่นเอาคนแถวๆนั้นฮากันใหญ่ เช่นเดิมครับ ยังคงตระเวณอยู่แถวคูเมือง มิกล้าไปสมรภูมิใหญ่เหมือนปีก่อน สรุปว่าปีนี้ออกมันสามคืนรวด งานการไม่ต้องทำ บอกแล้วว่าไม่แก่ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 53 09:01:47 จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 09:00:25

ความคิดเห็นที่ 20 สเปกอาจารย์สื่อคือ 'จอแบน' เหรอค่ะ   จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 10:36:20

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณอาจารย์รณชัยค่ะ   ที่เสียสละเมมถ่ายรูปมาฝาก  แต่ว่าจะแน่ใจได้อย่างไรค่ะว่าที่เห็นนั้นจะเป็นของแท้ร้อยเปอร์เซ็น ผู้ชายเดี๋ยวนี้ไว้ใจยากค่ะ   เมื่อก่อนก็ไว้ใจยาก แต่เดี๋ยวนี้ไว้ใจยากกว่าค่ะ   แบบว่าชอบทำให้เรารักและไว้ใจ พอเราไว้ใจก็เปิดเผยเรื่องส่วนตัวทุกอย่าง สุดท้ายพอสนิทกันมาก จึงทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกันบ่อยๆ  และเนื่องจากมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน       คุณเธอจึงเริ่มมาแชร์เครื่องสำอางกับเรา...... กรี๊ดดดดดดดดดด  !!!! จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 10:45:26

ความคิดเห็นที่ 22 นั่นสิ เห็นมีข่าว ประเภท 2 เรียกร้องสิทธิไม่ใช่เหรอ เด๋วนี้ถ่ายภาพอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องถ่ายเป็นวิดีโอมา จะได้เช๊กเสียงก่อน แต่ถ้าให้ดูแต่ภาพ ก็ไม่เกี่ยงครับ แท้หรือเทียมก็งามตาพอ ๆ กัน คุณกาสะลอง จะให้ทำไงละครับ ก็เทรนด์เด๋วนี้เขา "จอแบน" กันทั้งนั้นนี่ ประเภทหลอดภาพยาว ๆ  จอนูน จอโค้ง มันตกรุ่นไปหมดแล้ว ทำไมไม่ถามหนุ่ม ๆ ก่อนก้ไม่รู้ ไปคิดไปเชื่อกันเองแท้ ๆ ว่า ยังงี้แหละสวย ประเภท 2 กะ แอบแชร์เครื่องสำอางค์ เลยเต็มบ้านเต็มเมืองเลย เห็นไหม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 10:52:23

ความคิดเห็นที่ 23 มัีวแต่จอนูนจอแบนอยู่นั่นแหละ..เกาหลีเขายิงถล่มกันแล้ว..ว่ายังไง? อเมริกาก็ไม่รอช้าเชียวนะยะ..ส่งเรือรบออกไปแล้ว.. จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 15:55:46

ความคิดเห็นที่ 24 แหม ก็เขาไม่บอกไม่กล่าวกันเลย ยิงใส่กันตูม ๆ ยังก๊ะในหนังแน่ะ เขาคงระแวงเรื่องโรงงานนิวเคลียร์นั่นแหละครับ เพราะการซ้อมรบเกาหลีใต้กะสหรัฐฯที่ไปเฉียดใกล้ ๆ นั่นนะ ตัวปัญหา การรบที่ผ่านมา ไม่มีการประกาศกันล่วงหน้าหรอกครับ ที่บอกว่า ซ้อมรบ ซ้อมรบ นั่นแหละ ตัวดีเลย เป็นการ "ลับ ลวง พราง" ทั้งการระดมพล การหาข่าวเชิงยุทธ และถ้าสถานการณ์สุกงอม ก้พน้อมจะเคลื่อนกำลัง "ซ้อมรบ" เข้าโจมตีได้ทันที กรณีโรงงานนิวเคลียร์ เคยมีประวัติการลอบเข้าโจมตีแบบสายฟ้าแลบมาแล้วนะครับ สมัยก่อน ฝรั่งเศสสนับสนุนเทคโนโลยีให้อิรักสร้าง "สิ่งที่เชื่อได้ว่าเป็นโรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์" อิสราเอลส่งกองบินรบเข้าโจมตีแบบสายฟ้าแลบ กองกำลังของอิรักไม่ทันได้ป้องกัน โรงงานก็ราบเป็นหน้ากลอง ไม่ฟื้นจนทุกวันนี้ เกาหลีเหนือก็คงประเมินแล้วละครับว่า การซ้อมรบร่วมสหรัฐฯกะเกาหลีใต้ครั้งนี้ คงไม่เหมือนคอบบร้าโกลด์แถวไทยแลนด์ ที่ซ้อมไปซ้อมมาไม่เท่าไร ก็กอดคอพาอาฟู้หรั่งไปนั่งซดเหล้าเถื่อน จนลืมเอ็ม 4 ทิ้งไว้คาขนำ ต้องวานไอ้เปี๊ยกขี่มอไซต์หิ้วไปคืนที่แคมป์ เชื่อว่าเกาหลีเหนือ โดยการหนุนหลังจากจีน คงวิเคราะหืแล้วว่า งานนี้เบาะ ๆ ก็ต้องมีการหาข่าวสถานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์แหง ๆ เพราะฉนั้น เลยส่งสัญญาณซะหน่อยว่าอย่าแหยมนะเฟ้ย คือถ้าเป็นประเทศอื่น เขาก็คงใช้วิธีเรียกทูตมาพบเพื่อยื่นหนังสือ  แต่นี่เป็นสไตล์กิมจิแช่น้ำแข็ง กระดาษในประเทศหายากกว่าลูกปืนใหญ่ เลยใช้วิธีส่งสาส์นแบบนี้แทน ไอ้ที่โลกกังวล แม้จะไม่แปลกใจก็คือท่าทีสนับสนุนของจีนนั่นแหละครับ เพราะถ้าลูกพี่ใหญ่หนุนหลังแบบนี้ เห็นทีเรื่องจะยากและยาวกว่าที่คิด ดีไม่ดีไอ้กันอาจจะเอะอะมะเทิ่ง เอาการทหารนำหน้าเศรษฐกิจซะเลย แต่ไอ้ที่จะบุกเหมือนทำกับอิรัก อาจจะต้องคิดหนักหน่อย เพราะจีนคงไม่ปล่อยให้โอบามาข้ามยาลูซ้ำรอยแมค อาเธอร์แน่ ๆ มีแนวทางเดียวก็คือการลอบโจมตีแบบรวดเร็ว แล้วถอยมาสู้บนเวทีการทูตแทน ประมาณตีหัวเข้าบ้านนั่นแหละ เพราะเชื่อว่า ในประชาคมโลก โดยเฉพาะเมื่อมีเลขาฯยูเอ็นเป็นเกาหลีใต้ โอกาสที่จีนกับเกาหลีเหนือจะชนะบนเวทีคนใส่สูทคงยากเต็มที่ ตอนนี้ก็เหลือแต่ว่า เมกา จะ "กล้า"แค่ไหน จากคุณ : สื่อศิลป เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 53 09:41:58

ความคิดเห็นที่ 25 เออ สงครามเกาหลีสมัยโน้น ได้คุยกันไปยังอ่ะคับ ถ้าคุยแล้ว กระทู้ไหนเอ่ย เยอะมาก หาไม่เจอแระ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 13:34:21

ความคิดเห็นที่ 26 คุยแล้วครับ กระทู้เบอร์อะไร คงต้องรอคุณหมอ 2 ฮา มาช่วยชี้แนะ แต่ถ้าเขายิงกันอีกรอบ คุยใหม่ก้ได้นะ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 17:08:58

ความคิดเห็นที่ 27 เค้ายิงกันอย่างนี้น้องๆที่เกาหลีจะลี้ภัยมาหลบอยู่ที่บ้านเราก่อนมั้ย เช่นถ้าน้องคนนี้จะหลบภัยมาพักที่ไทยชั่วคราว จะมีใครเมตตารับน้องเค้ามาอยู่ด้วยหรือเปล่า จากคุณ : พักนี้เข้า mode ไร้สาระ (amscmu) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 18:08:14

ความคิดเห็นที่ 28 อาจานรนฯคะ  นั่นมันภาพลวงตานะคะ   รีทัชซะขนาดนั้น  อย่าได้ปลื้มไปเลยค่ะ   คาดว่าอาจานสื่อก็ปลงแล้วค่ะ ยุบหนอ  พองหนอ......  เฮ้อ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 20:04:40

ความคิดเห็นที่ 29 การยิงกันคราวนี้ จีนได้รัีบแจ้งจากเกาหลีเหนือก่อนการยิงป่าวอ่ะครับ ผมว่าน่าจะได้รับแจ้งก่อนนะ แต่น่าจะแบบ แจ้งปุ๊บ ยิงปั๊บ ประมาณนี้อ่ะครับ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 22:54:53

ความคิดเห็นที่ 30 คิม คิม ว.2 ด่วน ลื้อรีบสั่งถล่มเกาหลีใต้หนัก ๆ เลยนะ อั๊วรอพวกลี้ภัยอยู่ โอเค ตามนั้น เปลี่ยน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 15:42:50

ความคิดเห็นที่ 31 อันยองฮาเซโยค่ะ  อาจารย์สื่อ นู๋แข่งเสร็จก็ไม่กลับเกาหลีแล้วล่ะค่ะ  ขอลี้ภัยมาอยูกะอาจารย์นะคะ จากคุณ : เห็นเงียบกันไปหลายวัน (Dearance) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 15:56:24

ความคิดเห็นที่ 32 long weekend ติดกันอย่างนี้เหงาไปเลยแฮะ ผมเข้าไปสอนนศ. ช่วง 7-9 นี่ ยังแซวนศ.เลยว่า spirit แรงมากที่มาเรียน หรือว่าไม่มีที่ไป เพราะถ้าเป็นผมมีหวังไปลั่นล้าที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ก็มช.เค้าจะงด (พยายาม) เรียนวันพุธ เพื่อให้นศ.ได้ฝึกฝนตนเอง หมายความว่าหยุดวันอังคารและพฤหัสอีกสองวันนี่ลากยาวได้ 9 วันเชียว จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 00:38:09

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนๆหนีไปพักหนาวกันที่เชียงใหม่กันหมดค่ะ    ไปแล้วไม่ยอมกลับบอกว่าอากาสดีมากกกกกก   มีบางคนแอบขึ้นดอยไปหางานทำหวังจะตั้งรกรากที่นั่นเลย   แล้วก็มีแนวโน้มว่าจะหาได้ด้วยนะคะ ได้ยินเปยรๆมาว่า เขาจะใช้ชีวิตแซ่บๆแบบติดดินกินปลาร้า อยู่อย่างพอเพียง เพียงแค่นี้ก็อยู่ที่ไหนในโลกอย่างมีความสุขได้แล้วค่ะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 08:13:36

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้ผมไปเดินเล่นงานมอเตอร์โชว์มาครับ เพื่อขยับกระทู้ และเผื่อมีใครอยากซื้อรถ เลยเอารูปมาฝากครับ อันนี้ของรถเชอรี่ รถจีนมั้งครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:07:10

ความคิดเห็นที่ 35 ส่วนคนนี้นั่งหน้าแฉล้มอยู่ที่บูทนิสสันครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:07:59

ความคิดเห็นที่ 36 3 คนนี้จำไม่ได้อะครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:08:53

ความคิดเห็นที่ 37 คนนี้ของ ออสติน มินิ ครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:09:36

ความคิดเห็นที่ 38 คนนี้มิตซูครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:10:05

ความคิดเห็นที่ 39 และเดินกลับมาที่นิสสันอีกที มาถ่ายอีกคนครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:10:41

ความคิดเห็นที่ 40 คนนี้ของค่าย ssangyong ที่มักมีอะไรฮือฮาครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:11:53

ความคิดเห็นที่ 41 เดินไปเดินมาผมกลับชอบคนนี้ที่สุดครับ อาจเป็นเพราะดูเรียบๆมั้งครับ เป็ฯของค่ายไหนก็ไม่รู้ น่าจะพวกรถบรรทุกเล็กนะครับ จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 20:12:59

ความคิดเห็นที่ 42 รถซังยองนี่สวยนะครับ ;) จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 21:06:33

ความคิดเห็นที่ 43 เลือกลำบากจริง ๆ ครับ (แหม ยังกะเขาให้เลือกได้งั้นแหละ) รถแต่ละยี่ห้อ "สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยซะ" ยังกะเกิดกันมาคนละโลกกะที่แวดล้อมชีวิตเราอยู่งั้นแหละ เห็นยังงี้แล้ว สงสัยต้องกัดฟัน "ซื้อ" ไว้ใช้สักคันแล้วละ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 11:05:24

ความคิดเห็นที่ 44 เอ้อ..อาจารย์สื่อครับ ซื้อไว้ใช้สักคันนี่ก็ไม่เลวนะครับ แต่ถ้าซื้อไว้ใช้สักคนนี่ยิ่งดีใหญ่เลย จากคุณ : Dearance เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 18:38:23

ความคิดเห็นที่ 45 เงินซื้อ (พริตตี้)  ไม่ได้นะคะ  !!!!!!!!     v     v     v     v     v     v     v     v ถ้าไม่มากพอ   จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:08:40

ความคิดเห็นที่ 46 ที่นี่ไม่ได้คุยเรื่อง wikileaks บ้างหรือครับ แหมหลุดมาแต่ละอันนี่สะเทือนไปทั้งบาง เมื่อวานนี่หนาวตั้งแต่ BKK ยัน Munich เลย แต่ก็อย่างว่าเชื่อได้แค่ไหนก็ไม่รู้ บางคนก็บอกว่า โหย เค้ารู้กันตั้งนานแล้วหละคู้ณ แต่ไม่พูดกันเท่านั้นเอง ทีนี้มันดังเพราะคนใหญ่ๆโตๆเค้าคุยกันแล้วมันดันหลุดออกมา ก็แค่นั้น จากคุณ : เสี่ยงตาย (amscmu) เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 11:28:35

ความคิดเห็นที่ 47 ก็เปิดประเด็นเลยสิครับ เด๋วก็มีคนต่อเอง ที่เห็นหาย ๆ กันไป เพราะล้อมวงคุยกันจนเหนื่อย ๆ กันแล้วนะครับ แต่ถ้าเปิดประเด็นใหม่ ๆ มาก็มีแรงคุยได้อีกนะครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 07:32:47

ความคิดเห็นที่ 48 ก็เปิดไปบ้างแล้วไงครับ แต่สงสัยไอ้ที่ชงไปน่ะ มันคงล้น เลยไม่มีคนมาต่อ ก็แหม ไอ้ที่เปิดน่ะ มันรู้ๆกันอยู่ แต่พูดม่ายด้าย แสดงว่ายังเปิดประเด็นไม่เก่งครับ ก็เลยฝากอ.สื่อช่วยเปิดต่อฮับ ว่า wikileaks มันจะไปต่อได้มั้ย เพราะมันเป็นปฏิปักษ์กับเจ้าโลกขนาดนั้น จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 19:37:59

ความคิดเห็นที่ 49 เรื่องมันไปยังไง  มาไงล่ะคะ    ยิ่งพูดยิ่งงง  ยิ่งฟังก็ไม่เข้าใจไปใหญ่ ช่วงนี้เหมือนสมองซีกขวาเริ่มฝ่อๆยังไงไม่ทราบค่ะ   เนื่องจากเราอ่านหนังสือน้อยลง  แต่อ่านอะไรในเนทมากขึ้น  แต่การอ่านอะไรในเนทบางทีข้อมูลมันก็ไม่เสถียร  คือข้อมูลที่ปรากฏในเนทที่เราพบได้ง่ายๆ  มักเป็นความคิดเห็นหรือที่เราเรียกว่า  "คอมเม้น"เสียมาก     อันว่าคอมเม้นที่ว่านี้  ก็เกิดมาจากจริตของผู้นำเสนอภายใต้ทัศนคติส่วนตัว   คือใครคิดอย่างไรหรือมีมีความเชื่ออย่างไร   ก็นำเสนอออกมาอย่างนั้น   ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ผู้อ่านอย่างเราๆ   ซึ่งไม่ได้เป็นผู้คลุกอยู่วงใน  เพียงแต่บังเอิญสนใจแล้วหาอ่านดูจากเนท  เราก็จะได้ข้อมูลที่มากมายมหาศาลแต่ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน   จริงอยู่ค่ะ   การถถกันในเรื่องต่างๆของผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน เปรียบเหมือนการเอาข้อมูลหยาบๆเหล่านั้นมาย่อยให้ละเอียดขึ้นแล้วร่อนตะแกรงเหลือแต่เนื้อหาแท้ๆ แต่กว่าจะได้ถึงเนื้อหาเหล่านั้น  คุณผู้อ่าน (อย่างเรา)  ก็หมดความอดทนเสียก่อนทุกที  อาจเป็นเพราะว่าการติดตามอ่านข่าวสารต่างๆจากในเนทนั้น เราต้องนั่งอ่าน   ในขณะที่ถ้าอ่านจากหนังสือ   เราสามารถนอนอ่านได้  (= =)!! จึงไม่แปลกใจที่บรรดาแฟนคลับทั้งหลาย เมื่อติดใครแล้วจะติดเลย   เวลาทีคนเราจะหาหนังสืออ่านหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ตัวเองสนใจ  เราจะดูชื่อผู้เขียนก่อนเป็นลำดับแรก   พอเราเห็นชื่อผู้เขียน เราก็แทบจะตัดสินใจซือหามาเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวทันที หนังสือหนังหาทั้งหลายจึงกองสูงท่วมหัวแทบจะถล่มล้มทับลงมาเมื่อคราวขนหนีน้ำที่จะท่วมกรุงเทพครั้งที่ผ่านมา ที่รีบซื้อเอาไว้ก่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้อ่าน  แต่ก็หวังไว้ว่าคงได้อ่านเมื่อคราวเกษียนตัวเองแล้วได้ไปปลีกวิเวกยังสถานที่ห่างไกล  คงมีเวลาหยิบหนังสือเหล่านี้ขึ้นมาเสพอย่างมีความสุขสักที    แต่ถ้าอินเทอเนทยังตามไปได้ทุกหนทุหแห่งเช่นนี้   ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสกลับมาอ่านหนังสืออีกหรือเปล่า การคิดตามของบรรดาแฟนคลับจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ค่ะ   ในมุมมองของผู้นำเสนอก็เป็นมุมหนึ่ง  แต่มุมของคนอ่านก็เป็นอีกมุมหนึ่ง   แต่ทั้งสองมุมนี้น่าจะมีอย่างน้อยสักเหลี่ยมนึงล่ะที่ตรงกัน  มิฉะนั้นแล้วเราจะติดหนึบกันจนกลายเป็น 'แฟนคลับ'  ได้อย่างไรจริงไหมคะ เกือบหกปีที่ผ่านมา  ที่เราได้อ่านอะไรต่างๆในพันทิพและกระทู้ยังเตริก์นี้  ยอมรับว่ามีส่วนอย่างมากในการลับสมองซีกไหนก็ไม่รู้ที่ทำให้คนเราคิดได้อย่างเป็นเหตุและเป็นผลไม่ฝ่อลงก่อนเวลาอันควร   ถึงแม้ว่าในระยะหลังๆนี้  จะเริ่มห่างหายไปบ้างก็ต้องขอบคุณพี่วิวันดา  และอาจารย์สื่อเป็นอย่างยิ่งที่เลือกช่วงเวลาได้เหมาะเจาะ (สำหรับเรา)  พอดี   ที่ว่าเหมาะเจาะนั้นหมายความว่า  เมื่อท่านหยุด..   เราก็ถือโอกาสได้พักผ่อนไปด้วย   ฟังดู งง ๆ......คือเมื่อผู้เขียนทิ้งระยะเวลาเช่นนี้   ก็ทำให้ผู้อ่านอย่างเราๆและคิดว่าอีกหลายคน  ถือโอกาสนี้ไปโมดิฟายด์ดวงตาอันมีค่าเพื่อเก็บเอาไว้มาเพ่ง  มาเล็งกันไหม่เมื่อพี่ท่านพร้อมจะกลับมาลุยงานเขียนใหม่   พวกเราก็คงเคลียร์สเปสในสมองให้มีที่ว่างพอจะบรรจุอะไรใหม่ที่พี่ท่านจะนำเสนอได้อีก แต่หากคุณพี่เป็นพลังงานประเภทดีเซลที่ต้องละเมียดละไมในการเผาเครื่องให้ร้อนนิดนึง   แต่เมื่อเครื่องร้อนแล้วก็ติดทนติดนาน แถมเอาอะไรมาฉุดก็ไม่ยอมหยุด พวกหนูๆก็คงลำบากเหมือนกันนะคะ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราไปที่ช่วงนี้ดีเซลไม่ได้ถูกว่าเบนซิล  คุณพี่จึงอาจหนีไปใช้แกสโซฮอลล์จึงผ่อนๆสปีดให้พวกเราได้หายใจหายคอกันบ้าง   ยิ่งช่วงหยุดยาวแบบนี้คงหายกันไปหมด   จะมาเริ่มอีกทีก็หลังปีใหม่โน่นแหละค่ะ   อย่างนี้เรียกว่าใช้วิกฤตเป็นโอกาสได้หรือเปล่าคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 08:30:53

ความคิดเห็นที่ 50 โอกาสของคนอื่น แต่เป็นวิกฤตของผมเลยครับ เดือนนี้เป็นเดือนที่มีวันหยุดมากที่สุด กิจกรรมแยะสุด แต่สำหรับผมแล้วเป็นเดือนที่มีสอนแยะสุด ต้องเตรียมสอนใหม่อีกร่วม 12 คาบ เส้นตายส่งรายงานความก้าวหน้าทุน 2 โครงการ แถมต้องทำแล็บเองด้วย จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 13:56:31

ความคิดเห็นที่ 51 ได้ครับ โอกาสมีทุกเมื่อ ก็ประมาณนั้นแหละครับ คือพอคุยหนัก ๆ กันมานาน มันก็ล้ากันบ้าง เหมือนเวลาก๊งหนัก ๆ ก็คงมีบางช่วงที่อยากนั่งสบาย ๆ กินน้ำเปล่าโซดา ให้พอผ่อนบ้าง แต่ไม่ถึงกับต้องล้มวง แยกย้ายกันไปนอน แต่ประการใด รอบนี้ก็คงแบบนี้แหละครับ คือยอมให้ยุงมันวางไข่สักแป๊บนึง เด๋วพอสร่าง ๆ แล้ว ค่อยเททิ้ง ผสมกันใหม่ให้สดใสซาบซ่า น่าจะดีนะครับ เอาเป็นว่า แอย่าพึ่งล้มวง ใครเต็มกลั้นก็ลุกไปเข้าห้องน้ำสักแป๊บ หรือเดินไปสูดอากาศพอหาย ๆ มึนสักหน่อย เครื่องผสม เครื่องเคียงที่พร่อง ๆ ไปก้ไปหามาเพิ่ม แล้วเด๋วสักพักค่อยมาล้อมวงกันใหม่ ราตรียังอีกยาวไกลสำหรับพวกเราไม่ใช่หรือครับ นอกจากที่อาวุโสหน่อย จะขอตัวไปนอนแต่หัวค่ำก็ไม่ว่ากัน เรื่องธรรมดาอีกเหมือนกัน คนชอบนอนแต่หัวค่ำ ก็ตื่นเช้าหน่อย แล้วค่อยมาเปลี่ยนเวรก็แล้วกัน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 17:38:17

ความคิดเห็นที่ 52 เอาเป็นว่า สวัสดีปีใหม่ ทุกคนนะครับ หลาย ๆ คนคงเก็บข้าวของไปลัลลาเรียบร้อยแล้ว แต่ผมคงต้องนั่งอยู่โยงยันนาทีสุดท้ายตามเวลาราชการเป๊ะ เวรกรรมมันตามทันกันหมดจริง ๆ นะ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 53 17:40:38

ความคิดเห็นที่ 53 Happy Birthday (ย้อนหลัง 1 วัน) นะคะ ขอให้มีความสุขสมหวังทุกประการ  และสุขภาพแข็งแรงนะคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 07:52:31

ความคิดเห็นที่ 54 วันนี้ก็มาทำงาน แต่นร หนีกลับบ้านไปหมดแล้วมั้งเนี้ยะ จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 12:02:34

ความคิดเห็นที่ 55 ตามมารับศีล รับพรครับ วันนี้ผมยังนั่งทำงานอยู่เลยครับ T-T จากคุณ : ryzon เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 53 15:05:47

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันค่ะ ขอให้เพื่อนๆ พี่่ๆ น้องๆทุกท่านมีแต่ความสุขความสมหวังแะสุขภาพแข็งแรงตลอดทุกปีนะคะ จากคุณ : Gasalong เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 07:07:51

ความคิดเห็นที่ 57 ยังทำงานอยู่ครับ ไม่มีวันหยุดเหมือนชาวบ้านเขาหรอก ขอให้สมาชิกกระทู้ยังเติร์กทุกท่านมีความสุข มั่งมีเงินทอง และสุขภาพแข็งแรงตลอดปี ๒๕๕๔ และตลอดไปนะครับ จากคุณ : ha ha yee เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 53 17:22:28

ความคิดเห็นที่ 58 HAPPY NEW YEAR to you all.......... จากคุณ : WIWANDA เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 54 07:15:11

ความคิดเห็นที่ 59 เข้ามาทักทายคุณป้าวิวันดาครับ ไม่ได้เข้ามาห้องนี้นานมากครับ จากคุณ : ดอนนี่ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 15:15:33