ถ้าเป็นช่วงที่ประมุขคนก่อนเตียบ่อกี้ยังอยู่จะเรียงลำดับอย่างนี้ครับ
ทูตซ้าย ขวา ---> สี่ผู้พิทักษ์ ม่วง ขาว ทอง เขียว ---> ห้าผู้พเนจร ---> ห้ากองธง
คือทูตซ้าย ขวา อยู่ในลำดับสูงกว่าต้องเก่งกว่าแน่ ๆ และในสองคนนี้ทูตซ้ายน่าจะเหนือกว่าทูตขวา เพราะทูตซ้ายถูกขนานชื่อก่อนและยังได้รับการถ่ายทอดวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลมาอีกด้วย
ส่วนสี่ผู้พิทักษ์นี้มีพญามังกรเสื้อม่วงที่มีชื่อขึ้นนำ แต่ตรงนี้ในหนังสือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่อธิบายไว้ว่าเหตุที่เอาพญามังกรเสื้อม่วงขึ้นก่อนเพราะสามคนที่เหลือเห็นว่าเธอเป็นน้องสาวคนเล็กแถมมีรูปร่างหน้าตางดงามถือเป็นบุปผาแห่งนิกายเลยยอมให้เธอมีชื่อนำหน้า ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าในสี่ผู้พิทักษ์คนที่มีพลังฝีมือสูงสุดน่าจะได้แก่พญาอินทรีย์คิ้วขาว ส่วนราชสีห์ขนทองอยู่ลำดับรองลงไปแต่ถ้านับฝีมือแล้วยังเหนือกว่าพญามังกรเสื้อม่วง ส่วนจ้าวค้างคาวปีกเขียวอยู่เหนือกว่าห้าผู้พเนจรครับ
แต่หลังจากที่ประมุขคนเก่าหายสาปสูญ นิกายแตกแยก เจี่ยซุ่นก็ออกไปตามหาเซ้งคุนและฝึกวิชาเพิ่มเติมเพื่อล้างแค้น ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าน่าจะทำให้เจี่ยซุ่นมีฝีมือสูงขึ้นจนเหนือล้ำกว่าทูตซ้ายขวาไปด้วยซ้ำ และถ้ามองว่าเจี่ยซุ่นคือคนที่ถูกวางตัวให้เป็นประมุขคนต่อไปด้วยแล้ว แสดงว่าเจี่ยซุ่นน่าจะมีสติปัญญาและศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองได้เหนือกว่าคนอื่นที่เหลือ
เพียงแต่ตอนหลังที่เจี่ยซุ่นตาบอดไป ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ลดน้อยลงไปด้วย เพราะฉะนั้นในช่วงหลังที่เตียบ่อกี้เป็นประมุข ผู้ที่มีฝีมือรองลงมาจึงยังคงเป็นทูตซ้ายเอี้ยเซียวอยู่ ตามด้วยทูตขวา และพญาอินทรีย์คิ้วขาวตามลำดับ เห็นได้จากการลำดับสามนักสู้ตอนที่จะไปชิงตัวราชสีห์ขนทองที่วัดเส้าหลิน
แต่ถ้านับแค่พลังฝีมืออย่างเดียวไม่เกี่ยงเรื่องตาบอดแล้ว ผมคิดว่าเจี่ยซุ่นในช่วงหลังน่าจะเหนือกว่าเอี้ยเซียวครับ
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:27:44
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:25:03
จากคุณ |
:
มดคันไฟไร้ระเบียบ
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ย. 53 22:20:36
|
|
|
|