การแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์พื้นบ้านในแต่ละที่ทั่วโลกจะมีความคล้ายคลึงกันคือเน้นการรักษาโรคโดยใช้หลัก "องค์รวม" หรือ "สมดุล" ทางสุขภาพ
ยกตัวอย่างเช่นแนวคิดเรื่องสุขภาพของคนภาคเหนือในสมัยเก่าจะเน้นเรื่องความสมดุลในร่างกายระหว่างธาตุร้อนและเย็น คือหากในร่างกายมีธาตุใดมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวก็ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบันในเรื่องการจำแนกอาหารหรือผักพื้นบ้านต่าง ๆ ว่าอาหารหรือผักประเภทใดอยู่ในหมวดร้อนหรือหมวดเย็น เป็นต้น
เช่นเดียวกับการแพทย์พื้นบ้านของจีน ซึ่งจะเน้นที่ความสมดุลระหว่างธาตุทั้งห้าคือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ซึ่งแต่ละธาตุจะแทนอวัยวะสำคัญภายในร่างกายของคน หากธาตุใดธาตุหนึ่งเสียสมดุลไปก็จะก่อให้เกิดโรคขึ้นได้ (แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าธาตุใดแทนอวัยวะใด ถ้ามีใครทราบก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ)
และนอกจากสมดุลในเรื่อง คน-สุขภาพ แล้ว การแพทย์พื้นบ้านบางแห่งยังให้ความสำคัญรวมไปถึงสมดุลระหว่าง คน-สังคม และ คน-ธรรมชาติอีกด้วย (สุขภาพที่เกี่ยวโยงกับศีลธรรมในสังคม)
ดังเช่นงานวิจัยของนักวิชาการหลายคนที่ศึกษาพิธีกรรมการรักษาพยาบาลของหมอพื้นบ้านในภาคเหนือ ซึ่งพบว่าในพิธีกรรมนอกจากตัวของผู้ป่วยแล้ว องค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในพิธีกรรมแต่ละครั้งก็คือญาติของผู้ป่วย เพื่อนบ้าน และผู้นำชุมชนในหมู่บ้าน ซึ่งนัยสำคัญของพิธีกรรมเหล่านี้คือนอกจากจะเป็นการบำบัดรักษาอาการของผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน ให้คืนสู่ภาวะสมดุลตามปกติในสังคมอีกด้วย
หรือในการรักษาพยาบาลการเจ็บป่วยบางอย่างที่ถูกอธิบายว่าเป็นอาการ "ผีเข้า" ซึ่งพบได้ในชนบทภาคเหนือ อีสาน ในอดีต รวมถึงในหมู่บ้านชนเผ่าบางที่ในปัจจุบัน ก็อธิบายว่าอาการดังกล่าวคือการที่ผู้ป่วยหรือครอบครัวผู้ป่วย ไปละเมิด "ผี" ที่คอยปกปักษ์รักษาสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ เช่นผู้ป่วยอาจจะไปล่วงล้ำแหล่งต้นน้ำหรือป่าศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน การรักษาจึงไม่ใช่แค่ตัวผู้ป่วยหรือญาติเท่านั้น แต่ต้องมีการส่งสัญญาณไปถึงผีที่คอยคุ้มครองธรรมชาติเหล่านั้นด้วย
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:08:06
จากคุณ |
:
มดคันไฟไร้ระเบียบ
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ย. 53 12:50:47
|
|
|
|