// ปรึกษาหน่อยค่ะ จบเอแบค แต่ภาษาค่อนข้างแย่ ไหวพริบการทำงานน้อย //
|
 |
สวัสดีค่ะ พอดีเห็นกระทู้นึงเกี่ยวกับเอแบค คนตอบเยอะมากเลย เลยนึกถึงตัวเองขึ้นมา
จบเอแบคมาประมาณ 4 ปีได้แล้วค่ะ ย้อนหลังไปสมัยเรียน เราเรียนพิเศษเกือบทุกวิชาค่ะ (ถ้าใครเคยเรียนเอแบคจะเข้าใจคำว่าเรียนพิเศษทันที) นั่นคือ การสอนพิเศษของรุ่นพี่ที่เก่งๆ คือเอา sheet เป็นภาษาอังกฤษ มาแปลเป็นไทย + สูตรต่างๆสอนเพิ่มเติม สอนเป็นภาษาไทย เพราะเราฟังอาจารย์ต่างชาติไม่รู้เรื่องนั่นเอง มีเพื่อนเราคนนึงเก่งภาษามาก ไม่เคยเรียนพิเศษ มันพูดกับเราว่า ไม่ชอบอะพวกเรียนพิเศษ ถ้าจะเรียนพิเศษ อย่ามาเรียนอินเตอร์เลย มันไม่ช่วยอะไร
มาวันนี้นึกถึงเพื่อนคนนั้น ก็คิดว่า มันคงหวังดี ก็เป็นแบบนั้นจริงๆมั้งคะ เราจบคณะ business eng แท้ๆ แต่ภาษาเราค่อนข้างแย่ค่ะ ทุกวันนี้ทำงาน คุยกับต่างชาติ บางทีแปลไม่ออก แต่จับใจความรวมๆแล้วมั่วตอบไป ซึ่งเค้าเข้าใจไหมก็ไม่รู้ อีกอย่างจบมา เราไม่ได้ทำงานที่ใช้ภาษามากๆซะด้วย นานๆใช้ที ยิ่งลืมเลยจริงๆค่ะ
ขอย้อนหลังกลับไปอีกนิด เราเรียนพิเศษเกือบทุกวิชา ด้วยเหตุผลว่า เรานั่งแปล text ทั้งเล่ม ก็แปลไม่ออก คือบางทีเราแปลออกเป็นตัวๆเพราะเรากดดิก แต่พอรวมประโยคเราแปลผิดค่ะ พอเราไปเรียนพิเศษ พี่ที่สอนเค้าทั้งสรุป text แถมยังสอนภาษาไทยอีก จบมาด้วยเกรด 3.1 ค่ะ ซึ่งเราคิดนะว่า ภูมิใจนะคะ จบมาได้เกรดเท่านี้ แต่มองย้อนไปทำไมภาษาเราห่วยแบบนี้ ก็เพราะเรา ขยันก็จริง แต่เราใช้แต่ทฤษฎี แทบไม่เคยปฏิบัติ เพื่อนต่างชาติเราก็ไม่มี อาจารย์พม่า หรือ ฝรั่ง เราก็ไม่ค่อยกล้าคุย มีรายงาน เราก็พยามหาคนเก่งมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
เราขยันสำหรับทุกวิชาที่จำเป็นต้องสอบค่ะ โดยเฉพาะขยันอ่านชีทที่มีพี่สอนพิเศษสอนเป็นภาษาไทยมาให้เรียบร้อย เรารู้สึกว่ามันง่ายขึ้นจริงๆ ย้อนกลับไปคิดว่า ถ้าเอแบค ไม่มีการสอนพิเศษแบบนี้ ไม่มีทางที่เราจะจบได้แน่นอน เรามั่นใจจริงๆ เพราะเราเรียนเกือบทุกวิชา ขนาดวิชา use of library ไม่มีใครเค้าเรียนกัน แต่เราเรียนรอบแรกตกค่ะ เลยต้องเรียนใหม่เลยไปเรียนพิเศษ get A มาเลยค่ะแม่เจ้า !!! เลยรู้สึกที่ได้ดีเพราะเรียนพิเศษจริงๆ
พอเราเรียนใกล้จบจำได้มีการ FEOT(Final English Oral Test น่าจะแปลถูกนนะ) มันคือการคุยกับอาจารย์ฝรั่งตัวต่อตัว ซึ่งเป็นตัววัดว่าจะผ่านการคุยภาษาอังกฤษมั้ย ซึ่งคนผ่านกับไม่ผ่านนี่ครึ่งๆได้เลยนะ จำได้ว่าตอนนั้นเราเตรียมตัวดีมาก การคุยนี่จะมี topic ที่อาจารย์จะเลือกขึ้นมาให้เราพูดเกี่ยวกับตัวเอง เช่นเรื่องที่เศร้าที่สุด ดีใจที่สุดไรงี้ แล้วแต่เค้าจะเลือก จำได้ว่าตอนนั้นเราก็เที่ยวไปถามคนนั้นคนนี้ว่าได้หัวข้ออะไร เอามารวบรวมแล้วแต่งเรื่องทุกเรื่องที่คิดว่าจะเจอถาม สุดท้ายเจอเรื่อง angry ที่สุด ตอนนั้นดันมีเรื่องทะเลาะกับญาติพอดี(แต่งไว้ก่อนแล้วด้วย) สุดท้ายผ่านมาได้ ดีใจแทบบินขึ้นฟ้าเลยตอนนั้น
คือซึ่งคนที่เค้าเก่งภาษากัน เค้าก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรเท่าเราอะค่ะ แต่ความขยันในทฤษฏี นำมาซึ่งการทำงาน ที่แสนห่วยของเรา
เราทำงาน มา 2 ที่ ดูเจ้านายจะหวังเราไว้สูงว่าเป็นเด็กเอแบค แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย คือ ที่แรก พอเค้าเห็นเราพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ ส่ายหัวเลยอะ ตอนนั้นทำงานใหม่ๆ คำว่า โอนสาย เราไปพูดว่า I 'll send you to Mr... เจ้านายบอก แกจะส่งเค้าไปไหน ทำไมไม่ใช้ transfer ไรงี้ โอ๊ยรู้สึกตัวเองโง่มาก เค้ายังบอกอีกว่า คะแนนโทอิคไปขโมยมามั้ย เราไปสอบโทอิคได้ 685 คะแนน และเช่นเดิม เราเตรียมอ่านหนังสือโทอิคก่อนไปสอบ ซึ่งนั่นมันก็เหมือนไม่ใช่ระดับความรู้เราจริงๆๆ ใช่มั้ยคะ
มาทำงานที่สอง ภาษาไม่ค่อยได้ใช้ แต่หัวหน้าดูเค้าจะไม่ปลื้มกับไหวพริบของเราในการทำงาน นั่นอาจเป็นนิสัยส่วนตัวเราจะโก๊ะๆ เอ๋อๆค่ะ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลย และไหวพริบที่ไม่มี อาจเพราะตอนเรียน รายงานนี่จะหาเพื่อนเก่งๆตลอด แล้วเอางานที่ไม่ต้องใช้หัว ใช้แรงมาให้ฉันทำ เช่นพิม รายงานหน้าชั้น ไรงี้อ่ะค่ะ
เล่ามายาวมาก สุดท้ายจะบอกว่า เด็กเอแบค ภาษาอังกฤษปวกเปียกอยู่ตรงนี้ค่ะ เราจบ 4 ปีครึ่ง บางคนอาจมองว่าเทพแน่ๆจบเอแบค แต่ไม่เลยค่ะ ตอนนี้เครียดมาก ว่าจะหาที่เรียนภาษา คือนิสัยเสียของเราคือ เราดันไม่ชอบดูหนัง ฟังเพลงฝรั่ง อ่าน นสพ ทั้งที่รู้ว่าอาจจะช่วย แต่เราชอบคิดว่าไปเรียนภาษาพูดกับฝรั่งไปเลยดีกว่า แล้วเราแต่งงานแล้วจะให้ไปเมืองนอกก็ไม่ทันแล้ว ยังยืนยันนะคะว่าเอแบคจบยากอย่างที่ใครๆบอก เราก็ใช้การเรียนพิเศษ และความขยันเลือดตากระเด็นของเรา (ลืมบอกอีกอย่างค่ะ การลงทะเบียนเรียนแต่ละวิชาอาจารย์สอนวิชานึงมีหลายคน เราก็กระเสือกระสน เลือกอาจารย์มากๆ เลือกอาจารย์ใจดี อาจารย์สอนฟังง่าย ให้ผ่าน ให้เกรดดี ทั้งหมดนี้คือวิธีที่ทำให้เราจบมาได้ แต่สุดท้ายทำงานไม่ได้เรื่องเลย)
ที่พิมพ์มานี่จริงๆอยากได้คำแนะนำค่ะ ว่าเราจะฝึกภาษาใหม่ยังไงดี ตอนนี้โง่ยิ่งกว่าตอนจบใหม่ๆเยอะมาก เพราะดันไม่กล้าไปสมัครงานที่ใช้ภาษาเยอะ กลายเป็นแทบไม่ได้ใช้ สมัครที่ไหนก็บอกตัวเอง FAIR eng language อะค่ะ
| จากคุณ |
:
rabbitychan   
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 ธ.ค. 53 08:58:02
|
|
|
| 
