ความคิดเห็นที่ 1 เซอร์จอห์นบาวริ่ง ก็ใส่แว่นแล้ว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 21:54:00

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ แล้วไม่ทราบว่ามีการบันทึกรึเปล่าคะ ว่าก่อนหน้าจะมีแว่นสายตาเค้าแก้ปัญหากันยังไง เดาว่า สมัยก่อนก็น่าจะถือว่า เหมือนเป็นการป่วย รึเปล่า? สมัยนี้คนไม่มีเงินซื้อแว่น ตัดแว่น เดาว่า อาจจะเหมือนเมื่อก่อนก็คือ ป่วยทางสายตา ก็ ปล่อยตามมีตามเกิด เป็นอย่างนั้นรึเปล่าคะ แอบสงสัยว่า ถ้าคนธรรมดาสมัยก่อนสายตาไม่ดี ก็คงปล่อยไป แต่ถ้าเป็นคนใหญ่คนโต หรือ เจ้า ก็ไม่น่าจะปล่อยไว้เฉยๆ รึเปล่าคะ จากคุณ : poopiyawat เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 22:12:25

ความคิดเห็นที่ 3 ผมคิดว่าการที่เราจะสายตาสั้นเนี่ยมันมีปัจจัยหลายอย่างนะ การอ่านหนังสือมาก แสงไม่พอ จ้องคอมมาก จ้องทีวีมาก เลยทำให้สายตาเสีย คนสมัยก่อนไม่มีปัจจัยเหล่านี้สายตาก็อาจจะสั้นไม่มาก เพียงแต่คงมีเบลอบ้างไปตามวัย คิดเองล้วนๆเลยครับ ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 22:24:44

ความคิดเห็นที่ 4 อยู่กับบ้าน ใช้ชีวิตเหมือนคนตาบอดไงครับ สมัยก่อน มีโรคภัยหลายอย่าง ที่สมัยนี้รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สมัยก่อนกลายเป็นคนทุพลภาพ อย่างเป็นต้อ ก็ปล่อยให้บอดไปเลย หรือหลังค่อม ที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครเป็นแล้ว ที่แย่กว่านั้น ในยุโรปยุคกลาง ถ้าคุณตาบอดตั้งแต่เกิด เขาก็เชื่อกันอีกว่า ถ้าให้มีลูกก็จาตาบอดเหมือนกัน เหมือนมองว่าเป็นโรคกรรมพันธุ์ ห้องหว้ากอเคยมีรวมการแพทย์สยองขวัญยุคก่อนไว้ เสียดายไม่ได้เซฟไว้ครับ จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 22:53:56

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะให้ผมเดา ผมขอเดาว่า แว่นต่าเข้ามาในภูมิภาคแถวนี้ น่าจะมีตั้งแต่สมัยสุโขทัยครับ .......เพราะมีการค้าขายกับจีน การแลกเปลี่ยนของมีค่าต่าง ๆ แว่นตา (หรือเลนส์ส่อง) ก็น่าจะเป็นของมีค่าด้วย .... (เดาล้วน ๆ ครับ) . . . . ตกลงชาติที่ทำแว่นตาเป็นชาติแรกเป็นชาติใดครับ  จีน หรือฝรั่ง ???? แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 53 09:35:31 จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 23:50:20

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยก่อนก็ทำใจครับผม อาจจะถูกเรียกว่าตาถั่วหรือตาฟางก็ได้หน่ะนะ แต่จริงๆถ้าสั้นราวๆ 5-6 ร้อย ก็ดำรงชีวิตได้ตามปกตินะครับ แค่มองไกลๆเห็นภาพไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ระยะใกล้ๆซัก 1 เมตร ก็ไม่มีปัญหา และก็เดินเหินได้ตามปกติ ผมก็สั้น 500 เศษๆ เวลาไม่ใส่แว่นเห็นไม่ชัดแต่ก็ไปไหนมาไหนได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีต้องระมัดระวังรถรามากหน่อย เพราะเวลาข้ามถนนกะระยะไม่ค่อยถูก จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 09:51:19

ความคิดเห็นที่ 7 จะทำแว่นได้ก้คงต้องผลิตกระจกได้ก่อน   เท่าที่จำได้สมัยสมเด็จพระนารายณ์ สั่งกระจกเงาเข้ามาประดับวังหลายร้อยบาน กล้องส่งทางใกล ก็น่าจะเกิดมาพร้อม ๆ กับแว่น  พวกบาดหลวงฝรั่งเข้ามาส่องดูสุริยุปราคา-จันทรุปราครา ที่ลพบุรี แสดงว่าเรื่องการทำเลนส์ขยายน่าจะพัฒนามาก่อนหน้านี้สักพักแล้ว จากคุณ : วรรณเกษม เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 09:53:43

ความคิดเห็นที่ 8 แว่นตาผลิตครั้งแรกในอิตาลี ประมาณยุคสุโขทัยทีเดียว 1284  An Italian, Salvino D'Armate creates wearable eye glasses, but it will be awhile before use of them will spread.   แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 53 10:42:10 จากคุณ : ศุศศิ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 10:35:39

ความคิดเห็นที่ 9 คนสมัยก่อนอาจจะไม่สายตาสั้นเท่าคนสมัยนี้ (เดานะคะ) เคยดูสารคดีที่บอกว่าชาวมองโกลหรือชาวเผ่าในแอฟริกาพวกนี้จะสายตายาว เพราะอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นทุ่งโล่งกว้าง ทำนองนี้น่ะค่ะ จากคุณ : thezircon (thezircon) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 11:45:54

ความคิดเห็นที่ 10 คนเราปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิต ซึ่งคาดว่าคนสายตาสั้นในสมัยโบราณจะน้อยครับ จากคุณ : Lovearmy เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 12:24:53

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเห็นคนจีนใช้วิธีกดจุดแก้ความสั้นยาวสายตาได้ อ่านเจอในหนังสือ Sports of China ครูเขาสอนนักเรียนสายตาสั้นหลายๆคน (เอาไปไว้รวมห้องเรียนเดียวกันหมดเลย) ให้กดจุดตามใบหน้า หัว ท้ายทอย และคอ ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกันนะ ในที่สุดพวกเด็กๆเหล่านั้นก็สายตาเป็นปกติ ทิ้งแว่นหมดเลย เราก็รู้วิธีเปลี่ยนความสั้นยาวของสายตาคนด้วย diet (การควบคุมอาหาร) กับ qigong (การฝีกลมปราณ)  ตัวเราเองสายตาสั้นๆยาวๆเกือบทุกๆ 2-3 อาทิตย์ เพราะกินเบียร์กับชามากไปหน่อย หรือกินอาหารต้องห้ามบางอย่างเช่น "น้ำตาล" หรือกินอาหารนอกบ้านที่มีสารพิษ พอหยุดพฤติกรรมต้องห้าม ซะ สายตาเราก็กลับปกติแค่ ภายใน 2-3 วัน  (แต่ถ้ามีพฤติกรรมต้องห้ามนานเช่นกินอาหารนอกบ้านนานๆ ตาเราจะฟางๆ กว่าจะคืนปกติโดยกลับไปกินอาหาร macrobiotic บางทีตั้ง 7-10 วัน)  บางช่วงพอดื่มมากๆต้องใช้แว่นเป็นครั้งคราว แต่ถ้าเรามีวินัยเรื่องพฤติกรรมการกินการดื่ม การออกกำลังการหลับนอน จริงๆ เราจะไม่ต้องใช้แว่นเลยหละ เรื่องที่พูดมันฟังเหมือนโม้ แต่มันพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ นั่นก็คือ สายตายาวหรือสั้นตัวที่กำหนดมันคือ focal length และตัวกำหนด focal length คือ eyeball shape พลังหยิน (centrifugal force (แรงเหวี่ยงออกจากศูนย์กลาง)) และหยาง (centripetal force (แรงบีบเข้าศูนย์กลาง) ทำให้ cells ขยายและหดตัวได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราสามารถปรับปริมาณหยินกับหยางในร่างเพื่อเปลี่ยน eyeball shape และการเปลี่ยนดุลภาพของหยินกับหยางในร่าง ทำได้ง่ายๆหลายวิธีเช่น 1 diet (ควบคุมอาหาร) 2 Qi Gong (ฝึกกำลังภายใน) 3 acupuncture (แทงเข็ม) แพทย์จีนที่เก่ง acupuncture มากๆ สามารถเอาเข็มแทงตามจุดต่างๆให้ตาเขเข้าออกได้ เราเคยเห็นบันทึกภาพสมัย President Nixon ไปเยือนจีน แล้วเขาอัดรายการที่ Nixon ไปเยียมชมประเทศจีน เช่นงานเลี้ยงอาหารจีน ไปชมการแพทย์ของจีน ถ่ายทอดออกทีวี bbc ของอังกฤษ   ภาพที่เห็นน่าทึ่งมากๆ พอหมอจีนเข็มแทงจุดหนึ่งตาคนไข้ก็เขไปทางหนึ่ง แทงอีกจุดหนึ่งก็เขไปอีกทางหนึ่ง แบบสั่งให้เป็นแบบไหนก็ได้โดยทันทีเดี๋ยวนั้นเลยหละ เราว่าถ้าเก่งขนาดนั้นนะ แทงเข็มเปลี่ยน focal length เพื่อเปลี่ยนความสั้นยาวสายตาได้สบายๆเลยหละ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 53 14:57:07 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 14:52:18

ความคิดเห็นที่ 12 สารพิษที่ทำให้ตาคนเลือนๆมองอะไรไม่ค่อยเห็นกรณีของเราคือ "เหล้า เบียร์ และชาที่ดิ่มมากเกินควร" ชาไม่อันตราย แต่มันอันตรายเพราะเราดื่มของไหลเข้าร่างมากเกินควร แต่กรณีของคนที่ไม่ดื่มสุราแล้วสายตาเลือนๆมองไม่ชัด ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะ "กินของหวานมากเกินไป" ไม่ว่าเราจะตาเลือนเพราะสุราหรือเพราะนานๆทีกินของหวานจัดๆเข้าไปเราจะแก้ไขโดยการนั่งสมาธิเดินกำลังภายในอยู่ครึ่งค่อนวัน แล้วตาเราก็จะมองเห็นชัดเจนอีกเหมือนเดิม เมื่อหลายปีมาแล้วตอนเทศกาลไหว้พระจันทร์ของปีหนึ่ง เราพำนักอาศัยใน London เราเข้า Chinatown ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ โหชอบไอ้ขนมเม็ดบัวบดกับไข่เยี่ยวม้า (ทำเป็นก้อนๆ) โคตรหวานเลยหละ เราซัดเข้าไปถาดใหญ่ๆเต็มๆ แถมยังดื่มสุราจีนแรงๆหมดขวดหนึ่ง เราไปยืนที่ชานชลารถไฟใต้ดินแล้วมองข้ามไปอ่านตัวหนังสือที่ผนัง มันเลือนๆน่าตกใจมากๆเลยหละ เรากลับบ้านตกใจมากๆ พยายามหาพลังหยางทำลายพลังหยินของน้ำตาลกับสุรา ตอนนั้นคว้าซีอิ๊วญี่ปุ่นมากรอกปากตัวเอง แล้วนั่งเดินลมปราณไปอีกตั้งครึ่งค่อนวันกว่าตาจะมองเห็นเป็นปกติ... จากประสบการณ์อันนี้เราจึงรู้แน่ชัดว่า สารพิษในอาหาร เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนสายตาเสื่อมอย่างแน่นอน...!!! แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 53 15:19:24 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 15:17:48

ความคิดเห็นที่ 13 อู้ย สมัยก่อนเขาไม่มีกระทู้มาให้นั่งตามอ่าน จนสายตาสั้นหรอกครับ ฮาฮา จากคุณ : newuno เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 16:57:40

ความคิดเห็นที่ 14 คนสมัยก่อน อ่านหนังสือไม่ออกเป็นส่วนใหญ่ อายุ 40-50 ก็ตายกันแล้ว สายตายังไม่ทันจะมีปัญหาหรอก จากคุณ : หนุ่มนอก เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 53 06:03:43