PANTIP.COM : K10063181 ไท๊-ไทย ไม่ดีตรงไหน?{แตกประเด็นจาก K10056135} [ปรัชญา]

ความคิดเห็นที่ 6

สมัยเด็กๆเคยสอนให้เคารพธงชาติ พอดูหนังสงครามแบบไทยๆ เห็นพระเอกถูกข้าศึกจับไปทรมาณให้บอกความลับพระเอกเลยยอมพิการเพราะกลัวประเทศชาติจะแพ้สงคราม เราสะกดใจตัวเองให้ยอมรับได้ตามคำสอนว่าเราจะรักชาติแบบยอมตายหรือยอมพิการ ฟังเสียงเพลงชาติแล้วเอาไม้กวาดวางบนบ่าแบบทหารหารเตรียมรบเพื่อตายเพื่อชาติตอนเคารพเพลงชาติในบ้าน จำจากที่โรงเรียนสอน มาทำแม้กระทั่งวันหยุดที่อยู่บ้าน

...พอไปอยู่ประเทศอังกฤษแล้วฟังเหตุผลว่าทำไมคนอังกกฤษรักชาติ แล้วเราตกใจมากๆว่า "เราหลงผิดหรือเปล่าที่รักชาติ...???!!"

คนอังกฤษเขาจับกลุ่มคุยกันเรื่องว่าถึงเขาไปต่างแดนก็จะกลับบ้านเกิดเมื่อมีสงครามก็จะช่วยชาติ เขาบอกว่าไม่มีที่ไหนในโลกที่มีสังคมยุติธรรมเท่าของเขา พอแจงรายการมาเห็นมี

1. คนจนคนรวยมีเรื่องขึ้นโรงพักกันขึ้นศาลกัน สู้กันอย่างยุติธรรม (เราก็คิดว่าเอของไทยหรือคนรวยก็ได้เปรียบตั้งแต่ในมุ้งแล้ว)
2. คนเรียนไม่เก่งทำงานเป็นกรรมกรก็ไม่โดนกดขี่แรงงาน กรรมกรได้เงินมากพอๆกับคนจบปริญญาเอก (เราก็คิดว่าเอของไทยไม่งั้นนิหว่า ก็พวกแกกรรมกรอังกฤษตอนประท้วงขอค่าแรงขึ้นไม่โดนรัฐบาลสั่งให้ทหารเอาปืนไล่ยิง แล้วยัดข้อหาก่อการจลาจลนิหว่า ของไทยโดนยิงตายแน่ๆ ดังนั้นคนไทยเรียนไม่เก่งต้องไปเรียนมหาลัยที่เรียนยังไงไม่จบ จะได้ไม่ต้องเป็นกรรมกรให้เขากดขี่) กรรมกรเรียกร้องสิทธินี้ได้สำเร็จตอนระดมพลกันขับไล่รัฐบาล conservative ของ Edward Heath (ในอังกฤษกรรมกรปราบอำมาตย์ได้สำเร็จ แต่ในเมืองไทยกรรมกรรวมตัวประท้วงนายจ้าง นายจ้างมีเอี่ยวกับคนในรัฐบาลไทย รัฐบาลไทยจึงสั่งทหารออกมายิงผู้ประท้วงตาย เพราะต้องไม่ให้โรงงานนายทุนได้รับการเสียหายจากการนัดหยุดงานของกรรมกรไทย Thailand ต้องการแรงงานถูกๆ เพื่อการส่งออก ที่จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศไทย มันดูดี รายงานเศรษฐกิจไทยแบบนี้ แต่ใครได้เงิน? เจ้าของโรงงานน่ะสิ...)

3.ฝรั่งทีเป็นอดีตแม่ยายเราสะดุดบ่อขุดทำถนน ล้มนิ้วก้อยเดาะ เธอเรียกพยานมา แล้วคนเดินผ่านช่วยเป็นพยานให้เธอฟ้อง GLC (น่าจะเทียบเท่า กทม. ของไทยนะ) ชนะได้ค่าเสียหายมา 300 ปอนด์ นั่นมัน 35 ปีมาแล้ว ไม่เลวนะ (เราคิดว่ากรูไม่เคยเห็นประชาชนชาวไทยระดับชาวบ้านๆ ฟ้องหน่วยงานรัฐบาลไทยแล้วชนะว่ะ...การไฟฟ้าอยู่ดีๆดับไฟเฉยแม่เราใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ เครื่องมันทำงานไม่ได้ ส่งโรงพยายบาลไม่ทัน แม่เลยตายไปเลย(ก่อนหน้านั้น เพิ่งกลับจากโรงพยายบาลประมาทไม่ได้ซื้อออกซิเจนขวดเล็กสำรองไว้) เอาผิดกับใครได้ อยู่ดีๆมิเตอร์ไฟฟ้าห้อยลงมา อ่านไม่ได้ พ่อเราเรียกให้มันมาซ่อม มันไม่ซ่อม แต่มันประเมิน แล้วเก็บค่าไฟเกินความเป็นจริง พ่อเราต้องยอมจ่ายให้มัน ทำอะไรมันไม่ได้...)

4. เด็กอังกฤษอายุ 18 ตกงานฟ้องนายกชนะ...ตอนนั้น Margaret Thatcher เป็นนายก เธอออกกฎหมายว่าคนตกงานต้องเซ็นชื่อรับเงินสวัสดิการคนตกงานในท้องถิ่นตัวเอง (เพื่อป้องกันคนตกงานเอาเงินสวัสดิการรัฐไปเที่ยวที่อื่น) เด็กตกงานขึ้นศาลสู้กับนายก เด็กบอกว่าเขาต้องไปจากถิ่นฐานตัวเองไปยังเมืองชายทะเลในช่วงฤดูร้อนเพื่อไปหางานเพราะที่นั่นมีงานเยอะ The Lord of Justice ตัดสินเข้าข้างเด็ก แล้วสั่งให้ยกเลิกกฎหมายนั้นไป (เราคิด เอชาวบ้านธรรมดาๆขึ้นศาลชนะนายก ไม่เคยเห็นว่ะ จะเอานายกไทยได้ต้องทำรัฐประหาร หรือไม่ก็ใช้ศาลเตี้ยแบบที่เคยเห็นๆกันน่ะ)
5. ทหารอังกฤษที่ไปรบแล้วพิการน่ะรัฐบาลอังกฤษให้เงินเลี้ยงดูแบบมากระดับคนรวยย่อมๆเลยนะ (เราคิดว่าตายห่ะของไทยทหารพิการได้นิดเดียวเอง เงินของรัฐไปไหนหมดฟะ? อ๋อนึกออกแล้วนักการเมืองแมร่งโกงไปจนหมดท้องพระคลัง...ยังไงล่ะ...)
6. คนอังกฤษเรียนไม่เก่งไปเป็นกรรมกรแล้วอยู่ดีๆอยากเรียนต่อ ไม่ต้องสอบชิงทุนกันแข่งกันเป็นบ้าเป็นหลัง แค่สอบภาษาอังกฤษคณิตศาสตร์ง่ายๆนิดหน่อย เขาถือว่าอายุมากแล้ว ไปเรียนต่อได้ รัฐบาลออกเงินค่าเรียนให้มีเบี้ยเลี้ยงให้ (เราคิดว่าตายแล้วของไทยเรานะต้องติวกันแหลกเลยตั้งแต่เด็กๆ ม่ายงั้นสอบไม่ชนะเขาก็ไม่ให้เรียนฟรีหรอก ตกลงคนอังกฤษไม่ต้องเรียนเก่งมากก็ได้ทุนเรียนฟรี แล้วอย่างนี้ประเทศเขามิล่มจมหรือ เล่นให้คนเรียนไม่เก่งมากเรียนฟรีกัน? แต่ทำไมไอ้ที่แข่งกันเรียนเป็นบ้าเป็นหลังในไทย มันก็ไม่เห็นว่าจะพัฒนาประเทศไทยไปได้สักเท่าไหร่เลย...)

7.คนตกงานในอังกฤษ เดินเข้าสำนักงานหางานของรัฐใช้บริการหางานฟรี หางานที่ชอบไม่มี รัฐบาลมีหลักสูตรฝึกอบรมให้ มีกฎหมายห้ามบริษัทหางานเอกชนเก็บค่าหางานจากคนตกงาน มีกฎหมายห้ามนายจ้างเก็บค่าสมัครงานจากคนตกงาน (เราคิดเวรกรรมสมัครงานในไทยหน่วยงานราชการไทยมันเก็บเงินค่าสมัครงานซะเอง...อย่างนี้ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อหน่วยงานรัฐนะ)

แล้วมันยังมีอีกหลายเหตุผลนะที่บ่งบอกว่า "สังคมเขามันยุติธรรม มีเสรีภาพในการแสดงออก รัฐดูแลประชาชนดี และประชาชนไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศรหรือขี่ขึ้นทางเท้าเหมือนไทย"

เรากำลังคิดเทียบของเขากับของเรา อยู่ ยิ่งคิดก็ยิ่งใจลอยๆ แล้วฝรั่งถามเราว่า "แล้วคุณล่ะรักชาติเพราะอะไร"

"พอฝรั่งถามเรานึกเห็นภาพ ภาพอะไร? มันเป็นภาพเราตอนเด็กๆที่เราแบกไม้กวาดบนบ่าเรา ทำท่าว่าเรากำลังจะเข้าสนามรบเพื่อพลีชีพให้ชาติ ตอนเคารพเพลงขาติไทยอยู่ในบ้านเรา(ช่วงนั้นปิดเทอม) ตามที่เราถูกสอนให้เคารพทุกวันที่โรงเรียน"

แล้วเราก็คิดหน้กว่า

เอคนอ้งกฤษเขาไม่มีเคารพธงชาติ ไม่มีเปิดเพลงชาติทุกว้นเพื่อเป็นการหล่อหลอมให้พวกเขารักชาติ แล้วพวกเขารักชาติด้วยเหตุผลเรื่อง "สังคมเขามันยุติธรรม มีเสรีภาพในการแสดงออก รัฐดูแลประชาชนดี และประชาชนไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศรหรือขี่ขึ้นทางเท้าเหมือนไทย"

ตกลงหลักสูตรประเทศอังกฤษไม่เคยสอนให้ประชาชนรักชาติด้วยการเปิดเพลงชาติแล้วเคารพธงชาติ คือไม่ทำทุกวันแบบไทย แต่ทำเฉพาะวันงานสำคัญๆ ระดับประเทศเท่านั้น
แล้วเราก็ตอบฝรั่งไม่ได้ว่าเรารักชาติเพราะอะไร แล้วจะรักต่อไปหรือไม่ แล้วก็คิดหนักว่า
ถ้ารัฐบาลไทยสั่งทหารเอาอาวุธสงครามยิงใส่ประชาชนชาวไทย แล้วนักการเมืองร่วมกับคนมีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังมันลอยนวลไปพร้อมกับเงินในท้องพระคลังกับเงินนอกระบบอื่นๆที่พวกมันโกงไป แล้วพอคิดเรื่อง สังคมไทยมันมีอะไรลับๆที่เปิดเผยไม่ได้ ไม่โปร่งใส ชาวบ้านธรรมดาๆที่คิดในกรอบ ไม่คิดอะไรลึกๆ จะไม่รู้ตัวว่ารับข้อมูลข่าวสารผิดๆ คนที่จะเอาความจริงมาเปิดเผยก็ทำไม่ได้เพราะไม่สิทธิเสรีภาพ จะพูดเรื่องจริงบางอย่างในที่สาธารณะก็มีภัย จะทำ website เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเวปก็โดน blocked
งั้นถ้าเราถืออาวุธไปออกรบแล้วต้องตายเพื่อชาติ ถ้าเราทำไป มันก็เท่ากับพวกมันหลอกลวงเราให้รักชาติ หลอกให้ไปตายฟรี แต่พวกมันไม่รักชาติน่ะสิ...รู้งี้ต้วใครตัวมันดีกว่า เอาเป็นว่าเราไม่ทำร้ายประเทศชาติก็แล้วกัน แต่ถ้าให้เลือกว่าจะไปตายเพื่อชาติหรือจะหนีเอาตัวรอด แล้วเราก็ต้องคิดหนักว่า

“กรูรู้นะว่าพวกมรึงไอ้นักการเมือง กับไอ้นักธุรกิจ และพวกคนมีอิทธิพล ที่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์พวกมัน โดยไม่เคยเหลียวแลประชาชน ไม่เคยแม้แต่จะให้ความเป็นธรรมในสังคม (เพราะพวกมรึงมีอาวุธอยู่ในมือยั้งไงล่ะ) พอภัยมาถึงประเทศมีหรือที่พวกมรึงจะตายเพื่อชาติ พวกมรึงต้องรีบบินหนีออกนอกประเทศกันจ้าละหวั่นแหงๆเลย”

ถ้างั้นกรูก็เผ่นมั่งดิ ใครจะอยู่รอความตาย...555+++...เอาเป็นว่ากรูไม่ทำร้ายชาติก็แล้วกันนะ แต่พอภัยมาถึงในเมื่อพวกมรึ่งเล่นปาหี่หลอกกรู คราวนี้ก้อ

“ตัวใครตัวมันแล้วนะเฟ้ย”

จะอย่างไรก็ตาม สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน...ขอให้มีความสุขมากๆ

จากคุณ : fortuneteller

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 53 02:20:11