|  | 
ฐานานุศักดิ์ไม่เท่ากัน
 การถวายราชสมบัติและพิธีสาบานของข้าราชการ เมื่อ ๓ เมษายน ๒๓๙๔
 
 "...ขออัญเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎ แลสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ขึ้นผ่านพิภพมไหศวรรย์ถวัลยราชประเพณีสืบสันติวงศ์ดำรงภพ มณฑลสกลกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์.....หลังจากนั้นบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และทำการสัตยานุสัตย์สาบานถวายตัวต่อหน้าพระที่นั่งทั้งสองพระองค์โดยสุจริตทุคน"
 
 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จึงมีฐานะเท่ากับพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งและอยู่ในฐานะที่สุงกว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดให้จัด "พระราชพิธีบวรราชาภิเษก" โดยแก้ไขเปลี่ยนมาจาก "พระราชพิธีอุปราชาภิเษก"
 
 ลักษณะพระราชพิธีบวรราชาภิเษก ได้ลดทอนพิธีการบางประการลงไป เช่น งดพระที่นั่งอัฐทิศและพระที่นั่งภัทรบิฐ ส่วนนอกนั้นเป็นไปตามขั้นตอนเดียวกัน และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเสด็จไปยังวังหน้า เพื่อพระราชทานน้ำอภิเษก พระสุพรรณบัตรและเครื่องราชูปโภค โดยพระองค์เอง ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์
 
 
 ลักษณะการเรียกสถานที่ เดิมคือ "พระราชวังบวรสถานมงคล" โปรดให้เรียกว่า "พระบวรราชวัง" และมีการสร้างปราสาทขึ้นเป็นครั้งแรก (อาคารยอดแหลม) คือ พระที่นั่งคชกรรมประเวศ และมีการสร้างลอกเลียนแบบหมู่อาคารอย่างพระบรมมหาราชวังหลายหลัง
 
 
 การบัญญัติพระนามก็เปลี่ยนจาก "พระบัณฑูร" เป็น "พระบวรราชโองการ" โดยมีการเติม "บวร" เลียนแบบ "บรม" อย่างวังหน้า เพิ่มเบี้ยหวัดให้ข้าราชการจากปีละ ๑,๐๐๐ ชั่ง เป็น ๒,๐๐๐ ชั่ง
 
 
 รับบวรเศวตฉัตร ๗ ชั้นพร้อมอนุราชมงกุฎเป็นเกียรติยศและได้รับมอบอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินแทนพระมหากษัตริย์ได้เมือ่ได้รับมอบหมาย
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
หนุ่มรัตนะ     |  
					| เขียนเมื่อ | : 
28 ธ.ค. 53 21:57:33 |  
					|  |  |  |  |