ความคิดเห็นที่ 1 ได้ครับ และพบได้ทั่วไปมากมายในโลกนี้ครับ ซึ่งทางวิชาการเรียกว่า Language contact หรือบ้างมองในอีกมุมก็เรียก Aerial Linguistics ซึ่งภาษาไทยคำตี่ เป็นภาษาในกลุ่มภาษาไทไต Daic หากแต่ได้รับอิทธิพลของ ภาษาตระกูล Tibeto-Burman โดยรอบ พบได้มากมายเช่น ภาษาอังกฤษ เต็มไปด้วยคำที่รับมาจาก ภาษาฝรั่งเศสและละติน มากมาย แต่ ก็ยังคงเป็น ภาษาในกลุ่ม Germanic โดยการพิสูจน์ รากศัพท์พื้นฐาน เช่น หู ตา จมูก ปาก พ่อ แม่ เป็นต้นครับ ภาษา กลุ่ม จีนเก่า เอง เดิม ก็เป็นภาษาที่ไม่มีวรรณยุกต์ และมีหลายพยางค์ แต่เนื่องด้วยการติดต่อ กับ ภาษากะไดเก่า  Old Kra-Daic และ เย้าเก่า Old Yao-Mjenic ทำให้เกิด การ induce ให้ภาษาจีน เกิด วรรณยุกต์ขึ้น มาเป็น Middle Chinese ครับ ภาษาขมุ เอง ถิ่นเหนือ ไม่มีวรรณยุกต์ แต่ถิ่นใต้ ถูกชักจูง ด้วย ภาษากลุ่ม ไทลาว ทำให้เกิด วรรณยุกต์ขึ้น ภาษากระเหรี่ยง แต่เดิมเรียงประโยค แบบ  S O V แต่ได้พบปะกับกลุ่ม ไท ไต ทำให้ ปัจจุบัน มีการเรียงประโยค แบบ SVO เหมือนภาษาไทย ครับ ซึ่งภาษากระเหรี่ยงก็ยังจัดอยู่ ในภาษากลุ่ม Tibeto-Burman เช่นเดิมครับ การแลกเปลี่ยนทางภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงพันธุกรรม เกิดขึ้นเสมอครับ เพราะเราทุกคนคือ Homo sapiens sapiens ครับ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 53 14:48:09 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 53 13:15:45 จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 13:02:03

ความคิดเห็นที่ 2 ไทคำตี่  - คงเรียกตาม อาจารย์บรรจบ พันธุเมธา แต่ ผมขอเรียก ไทคำตี้  ตามหลักฐาน ที่ผมมีอยู่ในปัจจุบัน ผมไม่เคยเห็นหนังสือวิชาภาษาศาสตร์เล่มนี้ หรือไม่ทราบว่าใครแต่ง จึงขอไปศึกษารายละเอียดก่อน แต่เท่าที่ผมกำลังติดต่อกับ ชาวไทคำตี้ (และไทกลุ่มอื่น) ที่อยู่ในพม่าและอินเดีย ตลอดช่วง ๒ ปีมานี้ ไม่ว่าทางตรง(ผู้หลบหนีเข้าเมือง)  หรือทางอ้อม ผ่านจีนทาง ใต้คงและสิบสองป้นนา (พม่าและอินเดีย พยายามสะกัดกั้น การฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย) ตอนนี้ขอตอบสั้น ๆ ก่อนว่า ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางไวยากรณ์ตามที่กล่าวถึง การเปลี่ยนอาจเป็นไปได้ เฉพาะกลุ่ม   ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แล้วผู้แต่งหนังสือ  เหมารวมว่าเป็น ส่วนใหญ่หรือทั้งหมด จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 19:35:37

ความคิดเห็นที่ 3 เลยถือโอกาสนำเพลง ภาษา ไทคำตี้ มาให้ฟัง ใน คลิป  แปลเป็น ภาษาไทใหญ่ ผมได้ แปลเป็นไทย และเขียนเสียงภาษาไทคำตี้ เปรียบเทียบไว้ด้วย เพลง “สาวไทคำตี้” สาวไทคำตี้ คิดให้ดี ๆ  (สาว-ไตคำตี-ขอื้-จอื-นี-นี) พ่อแม่เธอนั้น ไทคำตี้  (โป-เม-มอื-ไน่-ไตคำตี) บรรพบุรุษ พ่อแม่เธอทั้งหมด ไทคำตี้ (ปู่เลน-ยาเลน-โปเม-มอื-ตังเมิง ไตคำตี) แล้วทำไม เธอ ผู้เดียว  (ลาย-เปอ-สัง-มอื-โก้-เลิง) เสื้อผ้าไทเรา เธอก็ไม่อยากนุ่ง (เคิง-ไต-เฮา-ก็-มอื-ค่าน-นุง) ภาษาไทเรานี้ เธอพูดไม่เป็น  (คาม-ไต-เฮา-ไน่-มอื-ต้าน-เหม่า-จาง) เรียนวิชาความรู้มากมาย (สอน-ขา-ตาง-จาง-ปิ่ง-หญ่า-กุ่ม) ก้าวหน้า เงินทองมีครบถ้วน   (ขึ้น-สูง-งืน-คำ-มี-ตัง-กุ่ม) สิ่งที่พ่อแม่สั่งสอน  (ลอง-อัน-โป-เม-สอน-แหฺน ) ไม่เชื่อฟังคำ สักนิด  (เหม่า-เยิง-จอม-คาม-กำ-เลิง) เธอแต่งงานกับคนอื่น  (มอื-เปน-ก้า-พัน-เปิน ) ลูกหลาน ออกมาเป็นเชื้อสายอื่น (ลูก-หลาน-ยัง-มา-พัน-กน-เปิน) คนเชื้อสายเรา คำตี้  เอา หายสิ้น (โห-กน-พัน-เฮา-คำตี-เอา-หาย-เจิ้ม) ใจรัก เครือไทคำตี้ อย่างแท้จริง (จอื-ฮัก-เคอ-ไตคำตี-สอื-นอื-จอื) เลือดแดงไหลไปทั่วทั้งร่าง  (เนิต-แนง-พ่ด-โห่-มอื-ตัง-โต) พี่น้องสาวไทคำตี้  ( ปี-น่อง-สาว-ไตคำตี) แต่งงานกับเชื้อสายคำตี้  ( เอา-โผ-พัน-คำตี) ทางนี้ เชื้อสายคำตี้ มีมาก   (ตาง-นี่-หนำ-หลาย-พัน-คำตี) จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 19:40:08

ความคิดเห็นที่ 4 การเรียงคำ แบบ ประธาน - กรรม - กริยา  ของภาษาไทคำตี้ นั้น ยังหาไม่พบครับ แต่ไปพบ ในเอกสาร(อัดสำเนา) "การศึกษาอักษรและ้เอกสารโบราณของไท" ของ รศ.เรณู วิชาศิลป์  ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มช. (๒๕๔๙) ว่า การเรียงคำ ในภาษาอัสสัม มีอิทธิพลต่อภาษาไทอาหม คือ ๑. เรียงคำขยายไว้หน้าคำนาม  เช่น  ถึกมะ (ม้าถึก),  นังรู  (รูจมูก), ตังลุงไข (ไข่ทั้งหลาย), กุนนือ (เนื้อคน), ผาจิตผูตือ (ผู้ถือผ้าเช็ด), กุลาวัน (วันแบบกุลา) ๒. เรียง ประธาน - กรรม - กริยา แบบอัสสัม หรือ ฮินดู  เช่น กาพร่อง กุนนือ หุงกิน (บางคน หุงเนื้อคนกิน) ควาย ฆ่า หุงกิน  (ฆ่า ควาย กิน) ๓. เรียงคำบอกเวลา สถานที่ ไว้หน้าหรือหลังประธาน  เช่น มัน ตีกาต ไข ไขไก  (มัน ที่ตลาด ขายไข่ไก่ -  มันขายไข่ไก่ที่ตลาด) หมายเหตุ - เอกสารในยุคแรก ก็เขียนเหมือนภาษาไท อื่น ๆ ตามปกติ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 19:54:43