ความคิดเห็นที่ 1 ที่จริงแล้ว หากตัดเตียวเสี้ยนที่ไม่แน่ชัดว่ามีตัวตนจริงไหมออกไป น่าจะจัดเอียนซี ภรรยาเอกของโจผี ซึ่งได้ชื่อว่างามที่สุดในยุคสามก๊กเข้ามาได้เหมือนกันนะ ทำเอาพ่อลูก พี่น้องตระกูลโจทะเลาะกันเกือบนองเลือดไปแล้ว จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 20:49:30

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องนิยามความงามด้วยหรือเปล่าครับ ว่างามแล้วถึงกับ ต้องมีเหตุการณ์ สักอย่างที่มีอิทธิพลกับผู้ชายด้วยหรือเปล่าครับ ... ถ้าอย่างนั้นผมขอเสนอ "นางอั้วเชียง" ราชเทวีพระยางำเมืองในกรณีพ่อขุนรามคำแหงลอบเป็นชู้ครับ "อีหม่อม" ในกรณีของสมเด็จมหาวชิรุณหิศ ถึงขนาด ร.๕ ทรงเขียนห้ามครับ ไม่ให้พบกันเนื่องจาก "อีหม่อม" นี้เป็นนางห้ามของเจ้านายองค์หนึ่ง "เจ้าอุบลวรรณา" ธิดาพระเจ้ากาวิโลรสไม่แน่ใจว่าจะรวมอยู่ด้วยหรือเปล่าเนื่องจากมีผู้ชายมาติดพันหลายคน แสดงว่าสวยจริง แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 23:07:50 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 22:19:45 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 22:19:11 จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 22:18:17

ความคิดเห็นที่ 3 คงต้อง เอาเรื่อง เจ้านางจามเทวี กับ ขุนหลวงวิรังคะ มาเทียบล่ะครับ หลงรักจนตัวตาย สุดท้าย เปแนได้ แค่ เอื้องแซะ จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 23:06:53

ความคิดเห็นที่ 4 ท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นอย่างไรครับ ? ปล. ไม่ทราบว่าความเห็น2 พอจะเล่าเรื่อง"อีหม่อม"ให้ฟังได้รึเปล่้าครับ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 53 05:02:43 จากคุณ : ElClaSsicA เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 05:01:37

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะมี แฟนนี่ น็อกซ์ ด้วยนะครับ ติดว่าเป็นชาวต่างชาติ จากคุณ : Timin2101 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 12:12:03

ความคิดเห็นที่ 7 เรานึกถึงพระสุพรรณกัลยาค่ะ จากคุณ : lilpuz เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 20:51:39

ความคิดเห็นที่ 8 #4   ในเรื่อง "อีหม่อม" นี้ ร.๕ มีราชหัตถเลขา ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๒๖/๑๑๒ ถึงลูกชายใหญ่ ได้ยินจากสมเด็จแม่ว่าไปเที่ยวภูเขาทอง แต่ก็ได้ความว่าไปกับคนเป็นอันมาก แต่อยากถามข้อหนึ่ง อยากห้ามข้อหนึ่ง อยากถามนั้นคือไปภพ อีหม่อม หรือไม่ ข้อที่จะห้ามนั้น ถ้าจะไปไหนเวลาผิดปกติมืดค่ำเช่นนี้ ให้บอกลาได้อนุญาตเสียก่อนจึงไป เหมือนเช่นที่พ่อเคย ประพฤติมาเมื่อครั้งทูลกระหม่อมปู่ ถ้ารักพ่อรักแม่ คงจะบอกตาที่จริง แลทำตามที่สั่งตลอดไปจนกว่าจะได้อนุญาต                                        (พระบรมนามาภิไธย) จุฬาลงกรณ์ . . . และได้สอบถามและสาบแช่งผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องด้วยความรุนแรงดังเช่นมีข้อความถึงพระยาเทเวศว่า "ต่อไปนี้  ผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ที่ใด ขออย่าให้ลูกไปพบปะเป็นอันขาด ถ้าเผอิญจะไปพบ ก็ให้เลี่ยงเสียทันทีถ้าพระยาเทเวศไม่ระวังคำสั่งนี้จนสุดกำลังที่จะทำได้ ก็ขอให้ถึงความ พินาศ       ิบหาย ตายด้วยศัสตราวุธอย่าให้แคล้วคลาดอาญาจักร จงมีจงถึงโดยเร็วพลัน ถ้าหากป้องกันหลีกเลี่ยงได้ตามคำสั่ง ขอให้มีความเจริญศิริสวัสดีพัฒนมงคลทุกประการเทอญ" . . . และข้อความถึงพระยานรรัตนราชมานิตว่า "ถ้าลูกชายใหญ่จะไปที่บ้านวันใด อย่าให้ได้พบปะมีสมาคมคบหากันเลยเป็นอันขาด ใช่ว่ากลัวตัวเขาจะต้องการเองก็หาไม่ ให้หวั่นหวาดไปในกระบวนลูกล่อ กลัวว่าลูกเสียคนตามความคิดเรา ฤากลายเป็นคนดีความคิดคนอื่น   เราขอยั่งยืนว่าบิดาย่อมรักบุตรมากกว่าบุตรรักบิดามุ่งหมายแต่จะให้ดี ถึงจะเร่อร่าป่าเถื่อน ประการใด ก็ขอให้ได้ตั้งอยู่ในความประพฤติที่ดี" ประมาณนี้นะครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 21:48:05

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณวังเหนือครับ แล้วความเป็นมาของเรื่องราวมันเป็นไงมาไงล่ะครับนี่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ไยทรงห้ามเสียถึงขนาด จากคุณ : ElClaSsicA เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 01:42:27

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ  ElClaSsicA ข้อมูลผมก็มีเท่านี้เหมือนแหละครับ  น่าจะห้ามเพราะกลัวผิดประเพณีมั้งครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 09:12:55

ความคิดเห็นที่ 11 จะเอาอะไรมาสวยครับ...  คนไทยสมัยก่อนเคี้ยวหมากฟันดำปี้ ทั้งหญิงทั้งชาย ส่วนชาวบ้านทั่วไป ก็ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ คงตากแดดผิวดำๆแดงๆไปทั้งตัว ส่วนที่ว่ากันสวยๆ  ก็เอาแค่  คิ้วโก่งดั่งคันศร นี่ผมก็นึกไปถึงตลก แถวๆ พระรามเก้าคาเฟ่ แล้วน่ะนั่น..  เหอๆๆ เอาเข้าจริงคนสวยๆ จริงๆ  คงจะหาได้น้อย-น้อยมากๆ ส่วนใหญ่คงจะสวยแบบนาง ประแดะ  ในละเด่นลันไดเท่านั้นแหละครับ ส่วนที่มีบันทึกว่า  สวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้  ก็คงอวยกันเอาเองมากกว่า... เกิดเป็นขุนนางสมัยนั้น ใครบ้างเล่า ไม่อยากได้ บำเหน็จปาก... แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 10:48:42 จากคุณ : สหายกุนเชียง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:31:41

ความคิดเห็นที่ 12 คนอยู่ในคุก  เห็นผู้ชายยังว่าสวยเลยครับ คุณสหาย จากคุณ : วรรณเกษม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:48:01

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเปิดหนังสือภาพเก่าของคุณอเนก นาวิกมูล พบภาพถ่ายหญิงสาวหลายคนในสมัยรัชการที่ 4 5 6 บอกได้เลยว่าถ้าไม่เอาค่านิยมสตรีปัจจุบันที่คลั่งความผอมความขาว เป็นพิมพ์เดียวกันทั้งเมืองแบบนี้ ขะเห็นเลยว่าสตรีสมัยนั้นงามนักครับ... งามอย่างมีเอกลักษณ์ของแต่ละท่าน.... เคยอ่านเรื่องของเจ้าจอมอำภาในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งเป็นที่มาของบทกลอน "สายหยุดพุดจีบจีน เจ้ามีสินพี่มีศักดิ์" รู้เลยว่าท่านจะต้องงามแบบสตรีจีน.. จนทำให้รัชกาล 2 ถึงต้องประพันธ์ว่า "คนทั้งวังเขาชังนัก แต่พี่รักเจ้าคนเดียว" และมีพระโอรสธิดากับเจ้าจอมอำภาถึง 6 พระองค์ จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 15:34:36

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ กลอนอันนี้ของเจ้าฟ้ากุ้ง สมัยอยุยาไม่ใช่หรอคะ คห. 2 อยากทราบเรื่อง 'อีหม่อม' พอมีข้อมูลเพิ่มกว่านี้ไหมคะ จากคุณ : fondakelly เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:31:41

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ผมไม่มีมากกว่านี้แล้วครับ จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:51:21

ความคิดเห็นที่ 16 เคยได้ยินมาว่าบทกลอนข้างบนจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นะคะว่าใครเป็นผู้ประพันธ์ ร.๒ ทรงพระราชนิพนธ์ตามที่ระบุไว้ในหนังสือโครงกระดูกในตู้ของคุณชายคึกฤทธิ์ หรือเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้ากุ้งสมัยปลายอยุธยา จากคุณ : หนูเอ๋อ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 03:40:16

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : fondakelly เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:50:33

ความคิดเห็นที่ 18 ผิวคล้ำสวยไม่ได้หรอคะเนี่ย อย่าใจบอดเลยค่ะ จากคุณ : หนูน้อยสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 04:38:20

ความคิดเห็นที่ 19 #18 คะ, มันถูกเส้น มันโดนใจคนดำเยี่ยงอิฉันนักเชียวค่ะ ! จากคุณ : Madam_X เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 18:19:02