อ๋อนึกออกแล้ว คงหมายถึงเอาคน 2 คนมาเทียบกัน
มันก็เหมือนกับม้าแข่งนั่นแหละ ในวิชาคณิตศาสตร์เกี่ยวกับม้าแข่งเขาจะต้องคำนึงถึง independent chance ด้วย เวลาคำนวณเรื่องการพนัน เช่นม้าเต็งซึ่งเป็นม้าตัวผู้หนึ่งอาจวิ่งตามม้าตัวเมียไปแล้วไม่ยอมแซง หรืออยู่ดีๆวิ่งๆแล้วตกหลุมเล็กๆ หรือมีม้าเกเรข้างๆมากัดมันหรือตัวมันเองหงุดหงิดแล้วไปกัดม้าตัวอื่น ฯลฯ ทำให้ผลมันไม่ออกมาตามราคาต่อรอง
ในทำนองเดียวกัน ถ้ามีคน 2 คนคุณสมบัีติตามที่คุณกล่าวมา เราก็จะต้องคำนึงถึง independent chance ด้วยเช่น อยู่ดีๆใครคนหนึ่งได้แฟนฝรั่งเป็น Professor of Englishเก่งๆ หรือเป็นโรคบางอย่างสมองเสื่อม หรือค้นพบความลับเรื่องวิธีเปลี่ยน iq ฯลฯ
เราเคยทำงานกับนักแปลที่เก่งๆภาษาอังกฤษมากๆ 2 คน ที่จบเอกอังกฤษจากสถาบันเดียวกัน คนหนึ่งผู้หญิงอีกคนหนึ่งผู้ชาย ต่างคนต่างแปลเอกสารยากๆแล้วผลัดกัน edit (ตรวจแก้) คำแปลของกันและกัน ต่างคนต่างยำกันและกัน ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำกัน แต่อีกหลายปีต่อมา แปลอังกฤษเป็นไทยทั้ง 2 คนไร้เทียมทานมากๆ หาที่ติแทบไม่ได้เลย (เข้าขั้นระดับเป็นอาจารย์สอนเราได้เลย) แต่แปลไทยเป็นอังกฤษผู้หญิงแพ้ผู้ชายขาดกระจุยเพราะคำแปลภาษาอังกฤษของเธอยังมี syntactic errors in the writing of second language learner หลงเหลืออยู่ให้เห็นค่อนข้างเยอะ แต่ของผู้ชายไม่มีเลย...!!!
ตัวแปรก็คือ
"ตำราภาษาอังกฤษจากต่างประเทศกองมหึมาที่อยู่บนโต๊ะผู้ชาย เขาคงซุ่มอ่านตำราพวกนี้มาตั้งหลายปี ในขณะที่ผู้หญิงได้แต่เรียนศัพท์เพิ่ม แต่ไม่ได้เรียนเจาะลึุกเรื่องโครงสร้างภาษาอังกฤษมากเท่าผู้ชายที่บ้าตำรา"
นั่นก็หมายความว่าใครเก่งกว่าใครขณะนี้มันไม่ค่อยสำคัญ แต่อีกหลายปีต่อมาลองมาดูกัน จะดีกว่า
"วิถีชีวิตของแต่ละคน (ซึ่งอาจหักเหตามหลักวิชา probability ว่าด้วยเรื่อง independent chance) จะเป็นตัวตัดสิน"
...แก้ตัวสะกด...(แก้ independence chance เป็น independent chance)...เช้านี้สะกดผิดตั้งหลายรอบ เพราะยังไม่ได้กินชาร้อนเลย...555+++...
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 54 11:43:26
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 54 11:42:53
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 54 11:38:39
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 54 10:50:46
แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 54 10:48:34