Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จากที่เคยมีข่าวเรื่องด๊อกเตอร์ลอกวิทยานิพนธ์ ติดต่อทีมงาน

จำได้ไหมครับที่เคยมีข่าวว่ามีด๊อกเตอร์ศุภชัย หล่อโลหการ ลอกวิทยานิพนธ์ฝรั่ง

เผอิญว่าผมได้ไปเจอบทความหนึ่งตามลิ้งนี้ครับ http://gohok.blogspot.com/
อ่านแล้วรู้สึกว่าฝรั่งคนนี้กำลังรังแกและทำลายบุคคลระดับหัวกระทิของประเทศไทยครับไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร อย่างไรผมขอก๊อปเนื้อหาบทความมาลงให้อ่านกันนะครับ อาจจะยาวสักหน่อยแต่อยากให้อ่านกันครับ

ทำไมต้องเชื่อฝรั่ง ความจริงอีกด้าน กรณี นายศุภชัย หล่อโลหการ

สะดุดตา และโดนใจในกับข้อเขียนของ รองศาสตราจารย์ ดร.วัลลภ สันติประชา คณบดี คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ว่า “การศึกษาไทย คนไทยไม่สามารถแสดงความเป็นไทย แสดงความสามารถของตนเองออกมาได้ เพราะ ไม่อยู่ในกรอบ ต้องเดินตามฝรั่ง ก็เลยถูกบังมิดชิด ฝิดกับฝรั่งเอง ที่ให้ผู้เรียน เปิดวิสัยทัศน์การเรียนให้กว้าง เพื่อจะได้รับรู้และคิดที่แตกต่างจากกรอบเดิมๆ ขณะที่ไทยกลับตีกรอบให้เดิน ประเมินตามแบบฝรั่ง อ้างว่าไทยไม่มีมาตรฐาน เลยต้องเดินตามฝรั่ง (ไม่แนใจว่าจะมีคนไทยอยู่ในโลกนี้หรือไม่ เพราะไม่มีคนอยากเป็นคนไทย อย่างกรณีวารสารของไทยหลายเล่มก็เป็นฝรั่งไปแล้ว ไม่มีภาษาไทยให้อ่านอีกแล้ว และเราก็นำข้อมูลทั้งหมดไปถวายให้ฝรั่งโดยไม่นำพากับคนไทย) <ขอใช้ภาษานางทาส เพราะดูเหมือนจะเป็นทาสกันแล้ว>

ดูตามความจริงคนไทยก็เป็นคนไทยวันยังค่ำ เรายังกินข้าวเป็นหลัก และฝรั่งเองก็ยอมรับข้าวของเรา มีเพียงพวกเรากันเอง ที่บอกว่าเราต้องกินขนมปังเช่นเดียวกับฝรั่งจึงมีมาตรฐานโลก ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องปรับความคิด ให้การศึกษาเลิกตีกรอบ เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ตั้งแต่เริ่มเรียนให้นักเรียนสามารถแสดงความคิดสร้างสรร ตามสภาพแวดล้อมของเรา โดยมีตีกรอบให้ต้องเดินตามฝรั่งต่างชาติ แต่เปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กว้างขึ้น ก็จะทำให้เด็กไทย คนไทยฉลาดขึ้น การศึกษาไทยจะดีขึ้น เพียงแต่เราเป็นไทยมากขึ้น”

ทำไมต้องเชื่อฝรั่ง ทำไมต้องฟังฝรั่ง ทั้งที่ไทยเราก็มีของดีมากมาย คนไทยเก่งๆที่มีหัวคิดริเริ่มก็มีถมเถ ฝรั่งแย่ๆก็มีไม่น้อย

จากกรณีที่มีฝรั่งคนหนึ่งชื่อวิลเลี่ยม วิน แอลลิส ได้ร้องเรียนกล่าวหาว่า นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) : ได้ลอกวิทยานิพนธ์เพื่อทำ Thesis ระดับปริญญาเอก ตามลิ้งค์ข่าวนี้ http://www.งดโฆษณาเว็บ/2010/09/blog-post_8443.html วันนี้ขอมาเล่าถึงอีกด้านหนึ่งของเรื่องนี้ที่หลายๆคนอาจยังไม่รู้
ขอเกริ่นประวัติของนายวิลเลี่ยม วิน แอลลิส ก่อนแล้วกัน ที่จริงแล้วนายวิลเป็นอดีตลูกจ้างของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่จ้างมาเพื่อเป็นผู้ประสานงานในโครงการที่ชื่อว่า Strengthening the Export Capacity of Thailand’s Organic Agriculture ซึ่งโครงการนี้ได้รับทุนจากหน่วยงาน International Trade Center (ITC) ระยะเวลา 1 ปี แล้วที่นี้ที่สำคัญเลยคือ สัญญาจ้างได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “ลิขสิทธิ์ของผลงานทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงาน ผู้รับจ้างจะต้องปกปิดเป็นความลับ ต้องส่งมอบให้สำนักงาน และผู้รับจ้างจะนำไปเปิดเผยไม่ได้” แต่ภายหลังนายวิล คนนี้ ได้ละเมิดสัญญาข้อนี้ แอบเอาผลงานโครงการไปให้บุคคลภายนอกดูโดยไม่รับอนุญาต และเมื่อสัญญาจ้างหมดลงสำนักงานก็ไม่ได้ต่อสัญญากับนายวิล เพราะว่าหลายๆคนที่ได้เคยร่วมงานกับเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่านาย วิลเลี่ยม วิล แอลวิส มีความประพฤติไม่เหมาะสมหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเก็บข้อมูลการทำงานซึ่งเป็นข้อมูลของสำนักงานฯ ไว้เป็นประโยชน์ส่วนตน แถมยังกันท่า ไม่ยอมแบ่งบันข้อมูลกับผู้ร่วมงานคนอื่นๆอีกด้วย

นอกจากนี้นายวิลยังแอบอ้างผลงานวิชาการของหน่วยงานไทย (สำนักงานนวัตกรรม) หรือจะบอกว่าเป็นของคนไทยก็ได้ ไปอ้างว่าเป็นของตัวเองด้วยการส่งไปตีพิมพ์ที่วารสาร Outlook on Agriculture โดยเอาชื่อ นาย วิลเลี่ยม วิน แอลลิส ขึ้นเป็นชื่อแรกทั้งๆที่จริงแล้วต้องเป็นชื่อ นายศุภชัย หล่อโลหการ ซึ่งเป็น ผ.อ. เป็นนายจ้างและต้นความคิด แต่กลับเอาชื่อตนเองขึ้นเป็นชื่อแรก ปัจจุบันสนช.ได้ร้องเรียนไปยังสำนักพิมพ์วารสารนี้ ให้ยกเลิกบทความนี้ ซึ่งปัจจุบันบทความดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างความแค้นฝังใจให้กับฝรั่งคนนี้

นายวิลเลี่ยม วิน แอลลิส ยังมีพฤติกรรมแปลกๆอีกหลายอย่างหลังจากถูก สนช. ระงับการตีพิมพ์บทความของสำนักพิมพ์ข้างต้น อีกทั้งไม่ต่อสัญญาจ้างด้วย พฤติกรรมที่ว่า เช่น มักชอบส่งเอกสารร้องเรียนเท็จและกล่าวเท็จกับหลายๆหน่วยงาน อย่างต่อเนื่อง เช่น รวมถึงการกล่าวให้ร้าย ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนเป็นเหตุทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกหนังสือรับรองการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการฯ สนช.โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ยืนยันในด้านการมีจริยธรรมสูงมากในการทำงานของนายศุภชัย นอกจากนั้นฝรั่งยังกล่าวหาอีกว่าผู้อำนวยการฯ สนช. สนับสนุนเงินทุนแก่อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ รวมทั้งไปพูดใส่ร้ายผู้อำนวยการฯ สนช.ว่าไปตั้งบริษัทร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษา เป็นต้น ซึ่งเรื่องที่ฝรั่งกล่าวเท็จก็โดนฟ้องอยู่ในศาลเกือบสิบคดีในเวลานี้

จุดที่น่าสังเกตว่า มีอยู่ 4 เรื่องที่ นายวิลเลี่ยม วิน แอลลิส ไม่กล้ากล่าวถึง คือ 1) ผู้ริเริ่มโครงการ ผู้วางแผนงานและผู้ดำเนินการของทั้งรายงานการศึกษาและบทความตีพิมพ์ และบทบาทของผู้อำนวยการฯในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาและเป็นผู้ว่าจ้างเขามาเป็นผู้ประสานงานในโครงการนี้ 2) การแอบเปลี่ยนชื่อเพื่อสลับตำแหน่งของผู้ประพันธ์ในต้นฉบับบทความ 3) การขอเข้ามาทำงานในสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเงื่อนไขสัญญาจ้าง รวมทั้งรายงานการส่งมอบผลการดำเนินงาน 4) เงินตอบแทนประจำเดือนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และการใช้จ่ายเงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนจาก ITC ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้มีหลักฐานยืนยันหนาแน่นในทุกประเด็น

และจากประเด็นที่ว่านายศุภชัย หล่อโลหการลอกวิทยานิพนธ์นั้น จริงๆแล้ว ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าวิทยานิพนธ์มี 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นการสำรวจ (Review) ซึ่งอ้างอิงมาจากรายงานการศึกษา Strengthening the Export Capacity of Thailand’s Organic Agriculture ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีผู้แต่งร่วมหลายคน แต่นายศุภชัยเป็นผู้แต่งหลัก และนำเฉพาะส่วนสำคัญที่ศุภชัยได้เป็นผู้ดำเนินการมาใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ ส่วนที่สองเป็นงานศึกษาทดลอง โดยข้อมูลที่นำมาใช้ในการศึกษานี้นำมาจากผลการทดลองโครงการวิเคราะห์เชิงลึกการผลิตหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ซึ่งนายศุภชัยได้เป็นผู้ริเริ่มการศึกษาทดลองตลอดจนวางแผนการทดลอง โดยได้บริษัท สวิฟท์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการ และนายศุภชัยเป็นผู้จัดทำรายงาน และได้ขออนุญาตจากบริษัท สวิฟท์ จำกัดเรียบร้อยแล้ว เพื่อขอใช้ข้อมูลประกอบในส่วนที่สองนี้ และส่วนที่สามเป็นการสรุปเพื่อวิเคราะห์ผลในการยืนยันความเป็นไปได้ในการดำเนินงานตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย ( โดยใช้กรณีศึกษาการผลิตหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ซึ่งนายศุภชัยเองได้สังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ขึ้นมาเอง และการอนุมัติให้สำเร็จการศึกษาได้นั้นจะตรวจสอบจากเนื้อหาในส่วนที่ 3 ของวิทยานิพนธ์ที่เป็นการสังเคราะห์องค์ความรู้ใหม่ อันเป็นหัวใจสำคัญของการทำวิทยานิพนธ์เล่มนี้ และได้มีการตีพิมพ์เผยแพร่องค์ความรู้ใหม่นี้ในวารสาร ระดับนานาชาติ (referee journal) ที่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ตรวจสอบผลงานก่อนการตีพิมพ์

ฝรั่งดีก็มี ฝรั่งเน่าก็ไม่น้อย ขอให้ทุกคนใช้วิจารณญานด้วยเหตุและผล ถ้ามีการคัดลอกจริง ก็คงไม่น่าผ่านการสอบสวนของ จุฬา โดยคณะกรรมการ สภามหาวิทยาลัยฯ จนอนุมัติให้เข้ารับพระราชทานปริญญาเอก เพราะฝรั่งท่านนี้ ได้เคยไปร้องเรียนตั้งแต่ก่อนจบ
เห็นฝรั่งเต้น อย่าเต้นตามฝรั่ง คนไทยมีการฟ้อนเป็นเอกลักษณ์ไทย ควรรักษาการฟ้อน แล้วให้ฝรั่งฟ้อนตามไทย จึงจะถูกต้อง

จากคุณ : เด็กวิทยาศาสตร์
เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 10:31:39 A:124.122.116.97 X: TicketID:293198




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com