ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าถามว่า เชิงความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศ เราสู้เขมรได้ทุกเรื่องค่ะ ไม่ว่าจะด้านไหน ไทยสู้ได้หมด  เพียงแต่มันมีปัญหาอะไรที่ทำไมเราถึงไม่ยอมสู้ หรือว่ากลัว ๆ กล้า ก็เรื่องของผลประโยชน์ไง ทำให้คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมิกล้าทำอะไรแบบเต็ม ๆ  หรือหากมีบางคนอยากจะทำแต่ก็จะติดกับบางคนที่สั่งไม่ให้ทำ การจะต่อรองพูดจาอะไรมันถึงติด ๆ ขัด ๆ   แต่มั่นใจว่าทุกด้านเราสู้เขมรได้หมด             ส่วนเหตุที่คิดว่าเขมรเป็น  land for sell or sale คิดว่าเมื่อก่อนเขมรเป็นประเทศที่มีปัญหาภ่ายในประเทศมาก  แต่ปัจจุบันสงบเรียบร้อยแล้ว ทุกฝ่ายเริ่มจับมือกันได้ เริ่มหันมาทำการค้ากับต่างประเทศ เขมรเปลี่ยนนโยบายภายในเน้นหารายได้เข้าประเทศ  ทำให้เกิดกำลังการซื้อเพิ่มมากขึ้น  เริ่มพัฒนาประเทศมากขึ้น เพราะทรัพยากรในประเทศเขมรยังมีมากหากเทียบกับหลาย ๆ ประเทศในแถบนี้  หลาย ๆ ประเทศจึงเริ่มเข้าไปทำธุรกิจในประเทศเขมรกันมาก  มีการก่อสร้าง  การจ้างแรงงาน  การลงทุนในการทำโรงงานผลิตในรูปแบบอุตสาหกรรม  แต่จากที่ได้ทราบมา ฝีมือสู้แรงงานไทยไม่ได้ ความคล่องตัว พูดให้ดูดีคือ ปฏิพานไหวพริบสู่คนไทยไม่ได้ อันนี้ได้ยินลูกค้าหลายรายเค้าพูดกัน   ส่วนกำลังทหาร  กำลังการรบ  ยุทธโธปกรณ์ของกองทับไทย  เรามีทันสมัยกว่าเขมรอีก  แต่เราไม่เคยรบกับใคร  ส่วนทหารเขมรเค้ารบตั้งแต่เป็นเด็ก  ๆ  เค้าถึงรบกันเก่ง ที่เรากลัวคิดว่าตรงประสบการณ์ในการรบ ก่อนนั้นเค้ารบกันประจำ แต่หหารไทยแทบจะไม่เคยรบจริงกับใครเลย   มีแต่ฝึกซ้อมรบ  เคยอ่านหนังสือของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เกี่ยวกับเขมร  ท่านว่าไว้ว่า ประเทศที่เขมรไว้ใจมากที่สุด คือ ประเทศไทย  เมื่อก่อนนะแต่ปัจจุบันความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศมันมีปัญหาอย่างที่เป็นข่าว จากคุณ : หนึ่ง ต. กับ สามตัว (หนึ่ง ต. กับ สามตัว) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 00:01:27

ความคิดเห็นที่ 2 ทุกอย่างเราเหนือกว่าหมดครับ แต่มันมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้ดูเหมือนอำนาจต่อรองเราด้อยกว่า เป็นเรื่องของการเมืองภายใน ภาพพจน์ ทัศนคติ ความสามารถของผู้บริหารประเทศรวมถึงมุมมองของคนภายในประเทศด้วย ไทยเราเป็นชาติที่แทบไม่ได้มีปัญหาแรงๆกับเพื่อนบ้านมานานก็แบบนี้แหละครับ อย่างมากก็กระทบแถบชายแดน ซึ่งมันก็เป็นกันเกือบทั้งโลก และที่หนักสุดคือความสามารถกับทัศนคติ การบริหารของคนระดับบริหารของรัฐบาล ส่วนเรื่องประสบการณ์รบ อันนี้กัมพูชาดูดีกว่าเราหน่อย ตรงที่คนเขายิงกันเองมานาน จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 02:31:35

ความคิดเห็นที่ 3 ..... ผมคิดว่าประสบการณ์ทั้งทหารไทยและกัมพูชาไม่หนีกันเท่าไรหรอกครับ กัมพูชาว่างเว้นสงครามมาร่วม20ปี พวกทหารผ่านศึกตอนนี้ก็กลายเป็นปู่เป็นลุงไปหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีแต่ทหารหนุ่มหน้าใหม่ทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่อง country for sale นี่มาจากเรื่องอสังหาในกัมพูชาครับ กฎหมายของกัมพูชานั้นเอื้อต่อการถูกครอบงำเศรษฐกิจมาก คือ อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นในบริษัทได้100% ไม่มีข้อจำกัดการถือครองที่ดินของคนต่างชาติ รวมทั้งให้ทำสัญญาเช่าที่ดินได้ถึง 99 ปี กัมพูชาเลยกลายเป็นสวรรค์ของพวกนักลงทุนจากตะวันตก ราคาที่ดินในกรุงพนมเปญช่วง5-6ปีหลังดีดตัวขึ้นไปสูงถึงตารางวาละ 400000 ทั้งๆที่เศรษฐกิจเล็กกว่าไทยเกือบ20เท่า(ดีลซื้อที่ดินแพงสุดของบ้านเราคือตารางวาละล้านที่ดินสถานฑูตอังกฤษ) แต่เนื่องจากพนมเปญมีสลัมขวางทาง"การพัฒนา"อยู่เป็นจำนวนมาก เลยมีการไล่ที่ขนานใหญ่ มีการเอารถขุดไปพังบ้านเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจถือกระบองไปคุมการไล่ที่ ประมาณกันว่าคนกัมพูชาเกือบ 1แสน5หมื่นคนถูกไล่ที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุนต่างชาติ จนกลายเป็นที่มาของคำว่า country for sale ส่วนตัวแล้วคิดว่าสถานภาพของกัมพูชาตอนนี้แย่ยิ่งกว่าบ้านเรายุคจอมพลสฤษดิ์เสียอีกครับ . จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 03:07:30

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วในเรื่องหน้าตา การสนับสนุนจากชาวต่างชาติละครับ ดูเหมือนไทยจะโดดเดี่ยว เพราะต่างชาติย่อมเล็งเห็นผลประโยชน์ในทรัพยากรกัมพูชามากกว่าความสัมพันธ์กับไทย จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 08:56:34

ความคิดเห็นที่ 5 ในความคิดของผมว่า คนไทยขาดความเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องคิดเหมือนกัน แต่ควรมีข้อสรุปที่แน่นอนว่าจะใช้แนวทางใด แล้วยอมรับข้อสรุปนั้น ไม่ใช่ต่างคนต่างทำไปคนละทาง สู้เขมรไม่ได้เพราะมีคนตัดสินใจคนเดียวทุกคนต้องยอมรับ อันนี้ผมหมายถึงเฉพาะเรื่องที่กำลังพูดถึงนี้นะครับ ไม่ได้หมายถึงจะนิยมเผด็จการ จากคุณ : jubper เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 09:56:58

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งกลับมาจากพนมเปญ ตอนนี้เศรษฐกิจจัดว่าคึกคักมากครับ ทั้ง ที่เสียมราฐ และพนมเปญ (ที่ไปมา) นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลไปดูปราสาทหิน เงินที่นั่นเรานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า country for sale เท่าที่ดู เนื่องจากที่ความเห็นข้างต้นกล่าวมาผมคิดว่าใช้ นักลงทุนพวกเศรษฐีสิงคโปร์ ซื้อบ้านขนาดใหญ่ที่ประเทศนี้ เนื่องจากที่ดินถูก เช่น เจ้าของเบียร์ Tiger หรืออะไรผมจำไม่ได้ (เพราะไม่ได้ดื่มเบียร์) และเห็นรถพวงมาลัยซ้ายดี ๆ หลายคัน รถยอดนิยมของที่นั่นเป็นคัมรี่ ปล.ธุรกิจที่นั่นสามารถเปิดได้อย่างง่ายดาย คาสิโน มีหลายแห่งทีเดียว (ตามชายแดนส่วนที่พนมเปญ ผมเห็นชื่อ นาคา เป็นของคนจีนครับ ) จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 11:16:10

ความคิดเห็นที่ 7 ทราบมาว่า  บ่อนกาสิโนในเขมร  ส่วนมากแล้วเจ้าของก็เป็นคนไทย (นักการเมืองตระกูลดัง) หรือมีคนไทย (นักการเมือง) ถือหุ้นอยู่มาก ผิดถูกอย่างไร  ขอผู้รู้ช่วยเพิ่มเติมด้วยครับ และถ้าเกิดรบกันขึ้น  หรือขัดใจกันรุนแรง  หรือเขมรปิดด่าน ใครจะเดือดร้อนครับ ระหว่างนักการเมืองไทย  คนไทย  คนเขมร จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:21:08

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร ไทย เหนือกว่าเขมร แน่ๆครับ ภาพพจน์รัฐบาล ของไทยเหนือกว่าเขมรเยอะครับ ในสายตาชาวต่างชาติ รัฐบาลเขมร โดนโจมตีเรื่องสิทธิมนุษยชน บ่อยๆ และอยู่ในแบล๊กลิสต์ ของหลายประเทศ แต่ สุดท้าย มันอยู่ที่ผลประโยชน์ของเขมร ที่ผูกมัดกับชาวต่างชาติ มันเยอะครับ อย่างที่บนๆ บอกไว้ แต่ไทยเอง ก็ไม่ใช่ไม่มี เพราะสถานะไทย ยังอยู่ในหัวอาเซียน หลายครั้งที่ไทยมีเรื่องกับเขมร หรือเขมรออกตัวแรง จีน หรือเวียดนาม ก็เคยปราม บ่อยๆ ครับ แต่ ถึงอย่างนั้น เขมรก็ได้เปรียบกว่าอยู่ดี จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:26:31

ความคิดเห็นที่ 9 ประเทศที่ประชาชนมีความรู้พอดู    จะทำอะไรผิดๆ   โกง   ทำผิดกฎหมายก็โดนตรวจสอบ   ประชาชนไม่ยอม     นักลงทุนที่ไหนจะชอบละครับ          นักลงทุนเขาก็ต้องชอบประเทศที่ใต้โต๊ะง่ายๆ    ไม่มีการตรวจสอบ     ทำอะไรผิดยัดเงินก็จบ     อีกทั้งเขมรยังมีเจ้านายที่เคารพบูชาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันคือฝรั่งเศส       สำหรับฝรั่งเศสแล้วอดีตอาณานิคมของตนมีเยื่อใยมากกว่าไทยแน่ๆ        อย่างกรณีฝรั่งเศสคิดภาษีกุ้งไทยแพงขึ้น    แต่ไปลดภาษีกุ้งให้อดีตอาณานิคมของตน เรื่องอำนาจต่อรอง    คงต้องแบ่งเป็นส่วนๆ     ฝ่ายที่ให้ท้ายเขมรแน่นอนก็มี อังกฤษกับฝรั่งเศส     ส่วนจีนจะมีสัมพันธ์กับไทยมากกว่า      อเมริกานี่ตามแต่ผลประโยชน์     ส่วนรัสเซียคงต้องดูเป็นช่วงไป    ช่วงนี้รัสเซียอาจไม่พอใจไทยซักหน่อยเรื่องบูท      แต่ในยามปกติรัสเซียจะค่อนข้างสนิทกับไทยมากกว่าเขมร country for sale   ดูไปเถอะ   อีกไม่นานต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่ๆ     เพราะพื้นที่เขมรเองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย     โดนต่างชาติเข้ามากว้านซื้อไปเรื่อยๆ     คนเขมรจะไปอยู่ที่ไหน      เงินทุนต่างชาติมันมหาศาลขนาดที่ว่าที่ดินในเขมรไม่พอขายให้หรอก        ในอนาคตเราอาจจะเห็นป้ายที่เขียนว่า (สุนัขกับคน...ห้ามเข้า) แบบที่จีนเคยโดน          และวันดีคืนดีคนเขมรก็อาจลุกขึ้นมาไล่ฆ่าต่างชาติที่ไปครอบครองแผ่นดินจำนวนมาก     เพราะเห็นว่าต่างชาติมาสูบเลือดสูบเนื้อแบบเดียวกับที่ไทยเคยโดนก้ได้ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 21:22:07 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:19:16

ความคิดเห็นที่ 10 ไทยเหนือกว่าเขมรมากมายทุกด้านครับ ทั้งทางเศรษฐกิจและอาวุธยุทโธปกรณ์  แต่สมัยนี้การรบกันเป็นเรื่องพึงหลีกเลี่ยงไว้ก่อนครับ ใช้วิธีนั่งโต๊ะเจรจากันเป็นหลัก เพราะฝ่ายเรา(โดยเฉพาะผู้มีอำนาจทั้งหลาย) ต่างล้วนมีผลประโยชน์เกี่ยวพันอยู่ในเขมรทั้งนั้น ผู้นำเขมรเลยใช้ข้อนี้มาปลัฟเราบ่อยๆ เพราะรู้ว่าเราไม่เอาจริง เพราะมัวแต่ห่วงผลประโยชน์นี่แหละ การแก้ปัญหาจึงดูอีหลักอีเลื่อยึกยึกยักยักอยู่นั่นแล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 22:36:28 จากคุณ : chaisoi3 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 22:31:27

ความคิดเห็นที่ 11 จากการที่ทุกท่านพิมพ์มา ก็พอจะคิดได้ว่า ที่เขมรแข็งกร้าวกับไทยแบบนี้ ทั้งๆที่ไทยมีอำนาจแต้มต่อดีกว่าพอสมควร ก็เกิดจากนักการเมืองไทยทั้งสิ้นสิครับ น่าเศร้าใจจริงๆ ป.ล. อยากทราบเรื่องแรงงานเขมรในไทยด้วยน่ะครับ ว่ามันสำคัญขนาดว่า ถ้าเอาแรงงานเขมรออกจากไทย ปัญหาเกิดกับระบบเศรษฐกิจไทยในเรื่องแรงงานแน่นอน จริงเท็จประการใด เคยอ่านบทวิจัยเรื่องแรงงานต่างด้าว พบว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่แรงงานต่างด้าวเข้ามาสู่ไทย ก็เพราะว่าไทยเองไม่นิยมอาชีพแรงงาน เพราะบางส่วนเป็นอาชีพที่สกปรก น่าขยะแขยง เช่นพวกแพรวา เอ้ย แพปลา เป็นต้น อีกทั้งค่าจ้างน้อย คนไทยจึงไม่มาทำงาน เลยเป็นช่องให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาได้ จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 09:26:16

ความคิดเห็นที่ 12 โดยความเห็นส่วนตัวของผม ถึงไม่มีแรงงานเขมรเลย  ไทยก็ไม่เดือดร้อนครับ เพราะเรายังมีแรงงานพม่า  ไทใหญ่  และลาว  รอเข้ามาแทนที่อีกเป็นจำนวนมาก ที่คุณ  natthaset  กล่าวใน คคห ข้างบนก็มีส่วนถูกต้อง  เรื่องแรงงานไทย ยกตัวอย่างแถบจังหวัดหนองคาย ถ้าจ้างคน ไทย ดำนา  หรือเกี่ยวข้าว  วันละ 150 - 200 บาท จ้างคน ลาว วันละ 100 - 120 บาท คนลาวทำงานรับจ้างที่เวียงจันทน์  ค่าแรงเดือนละ 3,000  - 3,500 บาท มารับจ้างที่ฝั่งหนองคาย  ศรีเชียงใหม่  ได้ค่าแรงเดือนละ 4,000 - 4,500 บาท  ไม่รวม OT ถ้าได้แรงค่าแรงเดือนละ 4,000 บาท  คิดเป็นเงินลาว ก็ 1,000,000 กีบ แล้วครับ ซึ่งลาวเองถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากอยู่ แถมเดี๋ยวนี้  คนไทยยังเรื่องมากอีกครับ จ้างเกี่ยวข้าวดำนา  ต้องวางมัดจำ  หรือจ่ายค่าจ้างล่วงหน้า เป็นเดือนหรือสองเดือนครับ  ถ้าไม่จ่ายล่วงหน้า  ไม่รับประกันการทำงาน (ประสบการณ์จริง  โดยตรงของผมเอง) บางทีทำงานแค่ครึ่งวัน  แต่ขอค่าจ้างเท่าเดิม  บางทีแดดร้อนไม่ทำงาน  ขอผลัดให้ แดดร่มลมตก เสียก่อนอีก  น่าโมโหจริง ๆ ครับ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 21:28:31

ความคิดเห็นที่ 13 ผลประโยชน์ของนักการเมือง บิ๊กข้าราชการ มาก่อนความสำคัญของประเทศครับ ในกรณีไทยกับเขมร เรื่องต่อรองก็ไม่มีอำนาจซิครับ เพราะพวกนี้มันกลัวจะไปกระทบกลับผลประโยชน์ของมัน ประเทศชิปหายช่างมัน กรูสบายไว้ก่อน เฮ้อ ... เศร้า แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 02:59:00 จากคุณ : โกเมศ (GIFTCGM) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 02:56:50

ความคิดเห็นที่ 14 เคยอ่านบาง คห.ในราชดำเนิน เขาเชียร์เขมร และเตรียมสมน้ำหน้าฝ่ายไทย จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:16:13

ความคิดเห็นที่ 15 โหวตเป็นกระทู้แนะนำแล้วครับ น่าสนใจดี จากคุณ : music maniac เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 18:41:38

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ อีกสาเหตุนึงที่เขมรไม่เกรงใจไทยเพราะรู้ว่าคนไทยแตกความสามัคคีอย่างแรงครับ ดังที่มีคนไทยบางฝ่ายไปอวยเขมรแล้วหันมาด่าไทยด้วยกัน   ในคห.ราชดำเนินผมไม่เคยเข้าไปครับ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 54 03:09:49 จากคุณ : chaisoi3 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 02:17:54

ความคิดเห็นที่ 17 พันทิปยังมีห้องราชดำเนินหรือครับ นึกว่าเลิกไปแล้ว 555 จากคุณ : ศุศศิ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:57:53

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท ถามความเห็นหลายด้าน ขอแชร์ความเห็นเป็นข้อๆครับ 1. เรื่อง กฏหมาย .. กรณี 7 คนไทยเคสล่าสุดที่เป็น อดีต พธม กับ สส ปชป เคสนี้ นักกฏหมายไทยจะเก่งอย่างไร ไม่เกี่ยวครับ เพราะเราิผิดแบบเต็มๆ หลักฐานชัดๆ ทั้งคลิปวีดีโอ ทั้งคำพูดในคลิป ดังนั้น โทษนักกฏหมายไม่ได้ครับ 2. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ .. เท่าที่ติดตามมา รมต ต่างประเทศ คนปัจจุบันเคยพูดจากแย่ๆกับทางกัมพูชาไว้มากมาย และด้วยนิสัยกร่างที่ไปโชว์ไว้หลายประเทศตอนจะเอาตัวทักสิน ผมมองว่า ทำให้ไม่ค่อยได้รับการยอมรับ 3. การทหาร .. อันนี้แ้ม้ระดับ ผบ ทางทหารของเราจะให้สัมภาษณ์ว่าเราด้อยกว่า แต่ผมว่าน่าจะสูสี (จากการติดตามกระทู้การทหารจากห้องหว้ากอเป็นระยะ) แต่ เคยมีคนบอกว่า กัมพูชามีสััญญาร่วมรบ(พันธมิตรทางการทหาร)ไว้กับ ลาว เวียดนาม พม่า ด้วย คือถ้าเรารบกับกัมพูชา = รบกับประเทศพันธมิตรด้วย ซึ่ง เราไม่มีสัญญานี้ เพราะอะไรไม่แน่ใจ .. นอกจากนี้ ถ้าเรารุกรานเขา เขาฟ้อง UN ... เราต้องรบกับ UN ตายหยังเขียดครับ 4. สถานการณ์ปัจจุบัน . . ผมมองกว่า - กลุ่มคนไทยหัวใจฯ ควรสงบท่าทีซะบ้าง อย่าสักแต่ว่าทำ สักแต่ว่าด่า เพราะหนนี้เราผิดเองเต็มๆ เรือ่งแบบนี้ปัญหาต้องแก้ที่ระดับรัฐบาล ไม่ใช่ม็อบ ยิ่งทำแบบนี้่ยิ่งเพิ่มปัญหาให้รัฐบาล - ท่าที่ของนายก ท่าที่เริ่มแรกของนายกเรา ผมมองว่า แย่ไปหน่อย ไม่เหมาะสม กับการที่ออกมาประกาศให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทยโดยไ่ม่มีเงื่อนไขทันที (ทั้งที่หลักฐานมันชัดเจว่เราผิดเอง) เพราะนอกจากเขาจะ"จำเป็นต้องโชว์พาว"ด้วยการที่เขาไม่ฟังแล้ว ยังสร้างความขุ่นเคืองกันระหว่างประเทศด้วย - ผมมองว่า เราควรขอโทษสำหรับพฤติกรรมของพวก 7 คนไทย มากกว่า ซึ่งน่าจะทำให้ทางกัมพูชามีท่าทีที่่อ่อนลง และอาจยอมให้ประกัน หรือให้อภัยโทษได้ .. แต่ตอนนั้นเราดันไปดึงดันว่า อย่างงั้นอย่างงี้ ทางกัมพูชาเลยต้องโชว์พาว และเมื่อเป็นเรือ่งใหญ่จนดังไปทั้งโลก ทีี้นี้จะทำำอะไรก็ต้องว่าไปตามกฏหมายแล้ว มิเช่นนั้นกัมพูชาเองก็จะโดนมองว่าอ่อนแอ - การปักปันเขตแดน นอกจากอาศัยหลักฐานมากมายและการดำเนินการในหว่างประเทศแล้ว ไม่มีวิธีื่อื่น ซึ่งก็ปักปันเสร้จไปหลายแห่งแล้ว โดยเฉพาะถ้าเรื่องไปถึงศาลโลกเรามีโอกาสแพ้สูงในหลายจุด และถ้ามีการใช้กำลังทหาร เขาฟ้อง UN เราต้องรบกับ UN อย่างว่า จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:05:52

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่อง 7 คนไทย เราจะผิดแบบเต็มๆได้ไง ในเมื่อ... 1. พื้นที่ที่คนไทยถูกจับเป็นของคนไทย เจ้าของที่เอาโฉนดมาแสดงให้ดูคาตาว่าเป็นที่ดินของพ่อเค้า แถมจ่ายภาษีที่ดินมาจนถึงปี 53 ด้วยซ้ำ 2. สมมติว่าไม่เชื่อข้อ 1 ก็ยังมีความจริงที่ว่า หลักเขตที่ 46-48 ไทยกับเขมรยังตกลงกันไม่ได้ ยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างเป็นทางการ แล้วรู้ได้ไงว่าคนไทยล้ำไปหรือไม่ล้ำ จริงมั้ย 3. ถ้ายังไม่พอใจอีก ก็มีความจริงอีกข้อว่า ไทยกับเขมรทำข้อตกลงกันว่า คนไทยและเขมรสามารถข้ามไปข้ามมาค้าขายระหว่างกันได้ ไม่ผิด ไม่ต้องขึ้นศาล ทุกวันนี้เขมรมันยังข้ามมาค้าขายฝั่งไทยเลย เพราะงั้น "ถ้า" อ้างว่าคนไทยล้ำจริง ก็ต้องไม่ถูกจับขึ้นศาล เพราะแค่ล้ำไป (ตามที่ถูกกล่าวหา) ยังไมได้ไปตั้งรกรากอะไรเลย เอาแค่นี้แหละ เหตุผลแค่นี้ก็สามารถช่วยคนไทยได้แล้ว แต่ไม่ทำกัน แถมยังมีคนไทยไร้ข้อมูลออกมาด่าคนไทยด้วยกันเองอีก กลัวเขมรมันจะไม่ได้แผ่นดินเราหรือไงไม่รู้ ส่วนตัวเราไม่ได้ชอบสันติอโศกกับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติหรอกนะ เพราะชอบทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่เรื่องนี้ต้องช่วยเขา เพราะถ้าเราไปยอมรับว่าเขาล้ำแดน ก็เหมือนเราไปยอมรับว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของเขมร ทั้งที่มันเป็นของไทย เรื่องนี้ถ้าให้พูด 3 วันไม่จบ เอาพอหอมปากหอมคอแล้วกัน ป.ล. เราว่าเรื่องกำลังทหารกับความรู้ของนักวิชาการนักประวัติศาสตร์ไทย ไม่ด้อยกว่าเขมรแน่นอน แต่จะทำอะไรได้ถ้าผู้นำประเทศไม่ทำอะไร อย่างนักวิชาการก็ได้แต่พูดจนปากเปียกปากแฉะ จะฉลาดจะแนะนำดีแค่ไหน ถ้าผู้นำไม่ทำก็เหมือนสีซอให้บัฟฟัง จากคุณ : นักแปลเท้าปุย เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:41:30

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าไม่มีใครรู้จริงสักคนแม้แต่ผมครับ  แสนยานุภาพทางทหารของไทยไม่เหนือกว่าชาติอื่นๆในเอเซียรอบๆประเทศเรา  แต่เรายังหลอกตัวเองว่าเราเป็นพี่ใหญ่แถวๆนี้  รบกับลาวจนกระสุนปืนใหญ่หมดก็เคยมาแล้ว ก็ไม่ชนะ  บ้านร่มเกล้าคงจำกันได้   ค้าขายและเป็นมิตรกันดีกว่าครับ  จัดการกับสามจังหวัดภาคใต้ให้สงบก่อนแล้วค่อยรบกับชาติอื่นนะครับ จากคุณ : ต้องผ่านไปให้ได้ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 17:26:54

ความคิดเห็นที่ 21 อำนาจต่อรองน้อยมาก เพราะ .. เมืองใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 18:28:22

ความคิดเห็นที่ 22 คุณคห.20    ร่มเกล้านั่นเราไม่ได้รบกับลาวตัวต่อตัวนะครับ     แต่เราต้องรบกับกองกำลังของกลุ่มคอมมิวนิสต์ด้วย       ซึ่งการที่เรายันกองกำลังคอมมิวนิสต์จำนวนมากไว้ได้นี่คุณคิดว่าเรากระจอกหรือแพ้เหรอ       เราไม่โดนทหารโซเวียตบุกถล่มเข้ามาถึงภาคกลางนี่ก็ต้องยอมรับความแข็งแกร่งแล้ว อีกทั้งตอนนั้นเรามีนโยบายไม่เปิดแนวรบกว้างเกินไป    ทำให้ทางฝ่ายลาวเสริมกำลังได้เรื่อยๆ     ถ้ายังเป็นแบบนั้นต่อไปคงรบกันไม่จบไม่สิ้นซักที     ช่วงหลังเราเลยเปลี่ยนแผนส่งคนไปดำเนินการในแนวหลังของลาว      ซึ่งลาวเองก็เริ่มได้รับผลกระทบหลายอย่างแล้ว     ขืนรบกันต่อลาวนี่แหละจะกลายเป็นคนที่ซวยต้องรับหน้าเสื่อทุกอย่าง    ประเทศลาวมีหวังถูกถล่มเละเทะ      มีแต่เสียกับเสีย     เลยลงเอยด้วยการเจรจากัน แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 54 23:21:07 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 23:18:13

ความคิดเห็นที่ 23 ขอไม่การเมืองสักกระทู้ได้ไหม จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 00:13:12

ความคิดเห็นที่ 24 คห.20 ครับ .. สงครามจริงๆ ที่ไม่ใช่สงครามยิงกันเป๊าะแป๊ะในเกมส์หน้าจอ มันต่างกันชนิด ลูกมดเกิดใหม่กัดกัน vs สงครามระเบิดนิวเคลียร์ถล่ม เอาง่ายๆแค่ปัจจัยพื้นฐาน .. เงิน ลูกปืนใหญ่ .. แบบถูกๆ ยิงได้ใกล้ๆ ที่คุณมั่วสุดๆว่า เรายิงกันจนกระสุนหมด ราคาลูกละ 20,000 บาท ถ้ายิงได้ไกลหน่อย ก็เขยิบขึ้นไปเป็น 100,000 บาท/นัด เริ่มยิ่งถล่มนิดๆหน่อยๆ เพื่อกดดัน (ก่อนให้ทหารราบเข้าตี) ซัก 1,000 นัด ก็พอ หมดเิงินไป 20,000,000 - 100,000,0000 บาท คุณคิดออกไหมว่า หมดเงินไป 20-100 ล้านบาท ทำให้ประเทศไทยเดือดร้อนแทบตายหรือเปล่า ??? แต่ ถ้าลาวสวนกลับมา ด้วยปืนใหญ่ 1,000 นัดเช่นกัน .. คุณคิดว่า .. ลาวจะเดือดร้อน เรื่องเงินไหม อยากให้รู้ไว้ว่า รายได้ของประเทดลาวในสมัยนั้น .. ปีนึง ไม่ถึง 100 ล้านบาทด้วยซ้ำ! ก่อนจะพร่ำเพ้อต่อ ขอให้รู้ว่า สงครามร่มเกล้านั้น ... เราไม่ได้รบกับพี่น้องลาว[b] --------------------- เรื่อง 3 จ.ชต.เช่นกัน พูดปาวๆๆๆ เก่งแต่หน้าจอ แม่นข้อมูลก็แค่ข่าวหนังสือพิมพ์ แล้วออกมาฟันธงได้เป็นวักเป็นเวร ีูรู้หรือเปล่าว่า รากเหง้าของปัญหา 3 จ.ชต. มันคืออะไร และ "[b]อะไร" ที่ทำให้เราจัดการได้ไม่สงบ ... จัดการไม่ได้ซักที เรื่อง 3 จว. นี่ ถ้าจะจัดการให้สงบแบบง่ายๆ แบบในเกมส์ ก็แค่ .. ประกาศว่า ให้เวลาสามวัน ใครเป็นคนไทย ให้อพยพออกมา พอพ้นสามวัน ก็เอาเครื่องบิน รถถัง ปืนใหญ่ ทั้งจากสี่ทัพภาพ ขนลงไป วางกำลังแบบหน้ากระดานปูพรม ยิงละเลงมันให้ทุกตารางนิ้ว ยิงถล่มให้เละ อะไรที่เคลื่อนไหวได้ ยิงก่อน ถามทีหลัง เพราะที่เหลืออยู่ ไม่ใช่คนไทย ทำอย่างนั้นแค่ 7 วัน ก็สงบ ทิ้งเวลาอีกซักสามเดือน ค่อยให้ "คนไทย" ที่ออกมา กลับเข้าไปอยู่ใหม่เหมือนเดิม จัดการการสงคราม แบบเกมส์หน้าจอ .. มันง่าย และมันส์ อย่างนี้แหละ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 10:33:49

ความคิดเห็นที่ 25 และ .. สุดท้าย ไม่ว่าเรื่อง สงครามร่มเกล้า ที่เรา"แพ้", เรื่อง 3 จ.ชต. ที่ีเรา"ไม่รู้จะทำอย่างไร" รวมทั้งกรณีเขมรด้วย .. ซึ่งท่าทางคงแพ้เขาเช่นกัน รากเหง้าปัญหา .. ผม"กล้า"ฟันธงว่า .. เหตุเดิมๆ .. เมืองใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล .. และเสริมด้วย "ผลประโยชน์ส่วนตัวของข้า ข้าต้องรักษา .. ใครจะตายก็ชั่งมัน ตัวกุรอดเท่านั้นก็เป็นพอ" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 10:39:22

ความคิดเห็นที่ 26 หากตอบตามหัวข้อ หากยามสงบไทยเราเป็นต่อเขมรทุกด้านครับ แต่ปัจจุบันเราดันรบกันเองสภาพที่ทำได้แบบทุกวันนี้ก็ดีถมเถแล้วครับ เจอเขี้ยวลากดินแบบฮอนัมฮงเข้าไปท่าน รมต. นักเลงโบราณของเราตามไม่ทันหรอก บางครั้งการปล่อยให้มีพื้นที่ทับซ้อนกันไว้และแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ประเทศก็ดีกว่าแบ่งให้ชัดเจนแต่ต้องตัดสินกันด้วยกำลัง เรื่องการปักปันเขตแดนผมว่ามันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องปล่อยให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำกันไปไม่ใช่ให้พวกฉกฉวยโอกาสนำมาสร้างความแตกแยกด้วยเหตุชาตินิยมเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเพราะโลกกำลังก้าวไปเป็นโลกไร้พรมแดน ขออภัยหากออกทะไปไกล จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 14:00:27

ความคิดเห็นที่ 27 20 มั่นใจเหรอว่า แสนยานุภาพ ทหารไทย ด้อยจริงๆ สู้เขมรไม่ได้ ทัพเรือไทย มีทั้งเรือโจมตี เรือฟรีเกต เรือคอร์เวต ฯลฯ ของเขมร ยังเป็นแค่เรือหาปลาอยู่เลย ทัพบก รถถัง ปืน ปืนใหญ่ คอปเตอร์แบล๊กฮอก สมัยใหม่ นำเข้า จากยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา แต่ของเขมร ยังมีแต่ของเก่า ของพวกโซเวียต จีนแดง ทัพอากาศ มีเครื่องบินขับไล่ f16 f5 AlfaJet ฯลฯ และอื่นๆอีกหลายกอง ของเขมร มีแค่ mig 2 ลำ ที่บินไม่ได้ !!! นี้แค่ตัวอย่าง ผมยังไม่กระจายไปเรื่องอื่นๆอีก แต่ ที่พูด ผมไม่ได้ ยุให้ไทยโจมตี เปิดสงครามกับเขมร เพราะยังไงผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการทำสงคราม แต่ ถ้า จะเปิดสงครามกันจริงๆ โดยไม่มีชาติอื่นๆ เข้ามาแทรกแซง ไทย ก็สามารถยึดกรุงพนมเปญได้ไม่ยาก ดังนั้น อย่าดูถูกกองทัพไทยเลยครับ ย้ำนะครับ ที่พูดไป ไม่เห็นด้วยกับการทำสงคราม แน่ๆ ถ้าไม่ใช่ เขมรเองที่สติแตก ยกทัพมาบุกจะยึดประเทศไทย[ซึ่งฮุนเซน คงไม่โง่อยากฆ่าตัวตายขนาดนั้น] ยังไงก็ไม่เห็นด้วย แต่ แสนยานุภาพเรื่อง กำลังอาวุธ ของไทย ไม่ได้เป็นรองใครเลยในภูมิภาค ครับ จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 17:17:45

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่า ประเทศไทยต้องเสียดินแดนอีกครั้งแน่นอน ประเทศไทย ไร้อำนาจการต่อ และความเห็นใจจากต่างประเทศ จากพวกโจรขโมย  ด้วยการเปนลูกไล่เศษฝรั่ง จึงได้ดินแดนง่ายๆๆๆ ยกตัวอย่างเขาพะวิหาร  และกรณีล่าสุดก็เช่นกัน  อาจต้องลงบันทึกประวัติศาสตร์ว่า  เพราะความใจดีเกินไป (ม้าอารี) จึงต้องเสียดินแดนมากมายเช่นนี้  รู้อย่างนี้ ปิดชายแดนไม่ให้พวกโจรขโมยลี้ภัยเขาประเทศไทยหรอก ! จากคุณ : คนเก่าจริง (คนเก่าจริง) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:32:53

ความคิดเห็นที่ 29 "เสียดินแดนเพราะฝรั่งสีฟ้า "ยูเอ็น" แค่นี้ ก็อายทั้งโลกแล้ว ! ครั้งก่อนเสียเขาพระวิหารเพราะฝรั่งศาลลอกอ จากคุณ : คนเก่าจริง (คนเก่าจริง) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:34:52

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องสงคราม ไทยไม่รองอยู่แล้ว แต่เรื่องความกะล่อนดิ  พวกประเทศโจรขโมย มีผลงานอยู่  ไม่อย่างนั้น เขาพะวิหารเปนของโจรได้อย่างไร? คิดดูแล้วกัน ขโมยรถไทยไปใช้ในประเทศโจรได้ ไม่ผิดข้อหารับของโจร? จากคุณ : คนเก่าจริง (คนเก่าจริง) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:36:43

ความคิดเห็นที่ 31 ทุกวันนี้ประเทศโจรขโมยถือแผ่นที่เก่าอยู่ซึ่ง กินดินแดนไทยไปเยอะมาก แม้ว่าจะได้ฆ่ากันเองไปมาก ทำลายเอกสารไปมาก  แต่แผ่นที่กินแดนคนอื่น ยังไม่ได้ทำลายด้วย  คิดดูแล้วกันว่าอีกหน่อยประเทศไทยจะต้องเสียดินแดนอีกเท่าไร? บวกคนไทยขายชาติบางจังหวัดเห็นแก่ขายของอย่างเดียว  ไม่อยากคิดถึงอนาคตเลย จากคุณ : คนเก่าจริง (คนเก่าจริง) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 21:40:08

ความคิดเห็นที่ 32 รู้แต่ว่า ผู้นำเขมร หาเรื่องเก่ง จากคุณ : ส้มจี๊ด (BigSom) เขียนเมื่อ : วันครูแห่งชาติ 54 19:54:43

ความคิดเห็นที่ 33 ความเห็น 24 ครับ เรื่อง สามจังหวัดภาคใต้ ถ้าเกิดตัวก่อเรื่องจริงๆดันเป็น "คนไทย"ที่อพยพออกมาล่ะครับ จะไม่ยุ่งไปกันใหญ่เหรอครับ จากคุณ : bear_moung เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 00:41:35

ความคิดเห็นที่ 34 เฮ้อ อำนาจต่อรองต่ำ เพราะเหตุผล และหลักฐานของเราไม่หนักแน่น ไม่เข้มแข็งพอในสายตาชาวโลกไงล่ะครับ ยิ่งโวยวาย ยิ่งเหมือนคนบ้า แม้กำลังรบเราเหนือกว่า แต่ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีกว่า  เวทีโลกเขาไม่หน้ามืดตามเราเสมอไปหรอก โฉนดที่เห็นยกมากัน ก็คนละที่ คนละจุดกับที่โดนจับ จุดที่โดนจับไม่ใช่บริเวณข้อพิพาททับซ้อน เพราะล้ำเส้นสันปันน้ำไปฝั่งเขาแล้ว แผนที่ทหารก็ระบุชัดเจน ยังงงว่า คนบอกว่าไม่ได้ล้ำนี่เอา"ความเชื่อ" มาจากไหน มองตามหลักภูมิศาสตร์(สันปันน้ำ) เราก็ล้ำไปแล้ว มองตามแผนที่เก่า(แผนที่ทหาร) เราก็ล้ำไปอยู่ดี คนที่บอกว่ายังไม่ล้ำช่วยเอาหลักฐานมาโชว์เสียที กต. จะได้ฉลาดทันคนเสียบ้าง :P เรื่องปราสาท ว่างๆก็ไปนั่งอ่านนั่้งแปลคำพิพากษาฉบับเต็มเสียบ้าง จะได้รู้ว่าเราแพ้เพราะไม่แย้งหลักฐานสำคัญเอง ไม่ใช่เพราะโดนกลั่นแกล้งอะไร หลักฐานเขาเข้มแข็งมากพอจนกลายเป็นกฎหมายปิดปากแท้ๆ แต่คนที่ไม่เคยอ่าน ไม่เคยศึกษาก็จำๆตามๆกันมาแต่ว่า โดนแกล้ง โดนนานาชาติทั่วโลกรุมทำร้ายพระเอกแสนดีซะงั้น ไปว่าเขามีคนหนุึน แล้วเราล่ะไม่มีคนหนุนหรือ? เป็นลูกน้องได้งบลับจากมหาอำนาจมาตั้งหลายสิบปี พอรบแพ้ทีนึงก็บอกว่า เราไม่มีคนหนุน เอ แปลกดี land for sale ยิ่งแล้วใหญ่ nominee ของชาวต่างชาติตามแหล่งท่องเที่ยวถือครองที่ดินจำนวนมหาศาลเพียบเลย ใครกันแน่ที่ขายง่ายกว่ากัน? ภาคใต้ ตราบใดที่ยังไม่มองคนอื่นเป็นคน ถึงชาติหน้าก็ยังแก้ไขไม่ได้หรอกครับ หลอกหัวหน้าเขาไปถ่วงน้ำทะเลสาป หลอกทำสัญญาสองฉบับที่เขียนไม่เหมือนกัน ฝรั่งทำวิจัยรู้กันทั่้วโลก แต่คนไทยกันเองไม่รู้เรื่อง หาว่าเป็นนิทานไปซะงั้น เออ แบบนี้แหละ มันถึงทุ่มงบไปแสนล้านแล้วกลับได้แต่ความรุนแรงกลับมา เพราะคิดว่าคนอื่นไม่ใช่คนอยู่นั่นแหละ อ้อ แนวคิดแบบฆ่าล้างเืมือง ปิดเืมืองฆ่าทิ้ง มันสมัยหลายร้อบปีก่อนนะครับ โจรสมัยใหม่จบดร.กันก็มี คงไม่โง่หลงกลยุทธตลกๆง่ายหรอก รังแต่จะมีชาวบ้านแก่ๆที่หนีหรืออพยพไม่ไหว ตายเป็นเหยื่อสนองกลยุทธตลกๆเสียมากกว่าน่ะซี บางทีความเชื่อที่คิดว่ามาจาก"วงใน" อาจจะเป็น"โฆษณาชวนเชื่อ"ที่ตั้งใจปล่อยผ่านวงในเสียเองก็ได้ wikileaks ยังพอให้เห็นได้เลยว่า"วงใน" นั้นจริงๆแล้วนั้นสวนทางกับภาพลักษณ์มากแค่ไหนกัน ป.ล. นายเก่า CEO ฝรั่งเคยพูดว่า มาตั้งโรงงานที่มีพนักงาน3.4หมื่นคนในไทย เพราะไทยจ่ายถูกคนแล้วจบเรื่องแน่ แต่อย่างเวียดนาม หรือเพื่อนบ้าน จ่ายแล้วไม่จบ ไม่ชัวร์ เลยไม่อยากเสี่ยงครับ :P ป.ล.2 รักชาติแบบมีเหตุึผล ไม่จำเป็นต้องคลั่งชาตินะครับ โลกยุคใหม่แล้ว อุดมการณ์หรือแนวคิดใดๆ ต้องทำเพื่อสนองผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในชาติ ไม่ใช่สนองego ของคนหัวโบราณครับ :P จากคุณ : รักชาติไม่ใช่คลั่งชาติ! (....4จุด) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 02:06:45

ความคิดเห็นที่ 35 ^ ^ ^ Land for Sale    เมืองไทยมี Nominee จริงครับ    แต่ตามกฎหมายเราก็ไม่สามารถขายให้อยู่ดี      ตรวจสอบกันขึ้นมาจริงๆเราสามารถเพิกถอนได้    แต่เขมรนี่กฎหมายให้ขายได้เลย     ถูกต้องทุกอย่าง    ตลกแล้วละครับถ้าจะบอกว่าต่างชาติมาซื้อที่ไทยง่ายกว่าเขมร คุณต้องแยกให้ออกนะครับ    รักชาติ   ชาตินิยม   คลั่งชาติ   มันไม่เหมือนกัน      ลักษณะของการคลั่งชาตินั้นมีนับครั้งได้เลยในประวัติศาสตร์      คลั่งชาติอย่างน้อยๆต้องถือว่าชาติของตนอยู่เหนือกว่าทุกชาติ     ชาติอื่นๆไม่มีค่า   ดูถูกทุกชาติว่าด้อยกว่า      ถึงทำลายไปให้หมดก็ไม่เป็นเรื่องผิดอะไร      แต่ในที่นี้ผมมั่นใจว่ายังไม่มีใครไปถึงระดับคลั่งชาติ      เห็นมีแต่พวกคลั่งกระแสด่าตัวเอง     ถ้าเทียบกันจริงๆ   เขมรนั่นแหละที่ใกล้เคียงกับคำว่าคลั่งชาติไปไกลกว่าไทยมาก คนสมัยนี้เห็นใครที่เชิดชูชาติ      เห็นผลประโยชน์ของชาติมาก่อน    ก็ด่าว่าคลั่งชาติไปหมด    ทั้งๆที่ยังแยก รักชาติ    ชาตินิยม คลั่งชาติไม่ออกเลย       สงสัยว่าต้องให้คนในชาติรังเกียจ-ปฏิเสธสิ่งดีๆของไทยทั้งหมด    ไม่คิดจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ     วันๆเอาแต่ก่นด่าประเทศตัวเองถึงจะพอใจกระมัง     พวกที่ชอบยกคำว่าคลั่งชาติมานี่      เห็นมากี่คนๆก็ไม่สามารถอธิบายได้ถูกว่าคลั่งชาติมันมีลักษณะอย่างไร     ส่วนใหญ่เอาลักษณะของชาตินิยมมาโยนเป็นการคลั่งชาติทั้งนั้น เรื่องร่มเกล้า   เราอาจจะมีคนหนุน   แต่น้อยกว่าลาวเยอะครับ    ยิ่งฝ่ายคอมมิวนิสต์ร่วมมือกันมาช่วยแล้ว       ของฝ่ายเราอเมริกาก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย   ยุโรปตะวันตกก็เงียบ   มีอินโดนีเซียที่ให้ความช่วยเหลือมา    แต่เราเห็นว่าจะพาให้เดือดร้อนไปด้วยเลยติดต่อไปทางจีน   จนได้จีนมาช่วย ส่วนเรื่องจ่าย     ผมว่าตรงกันข้ามกันซะมากกว่า   ประเทศที่เผด็จการคอมมิวนิสต์แบบเวียดนามนั่นแหละที่รวมศูนย์ของอำนาจเลย    จ่ายให้คนใหญ่ที่สุดคนเดียว     ผู้น้อยที่ไหนจะกล้ามาหาเรื่อง     ยิ่งเขมรก็พอกัน      มีเลือกตั้งแต่ก็ไม่ได้ต่างจากระบบฟาสซิสม์เท่าไหร่เลย    ฮุนเซนมีอำนาจสูงสุด   และทำท่าจะครองอำนาจไปอีกนาน       ฝ่ายค้านมีก็เหมือนไม่มี    ในเขมรถ้าฮุนเซนหนุนหลังไม่มีใครกล้าทำอะไรแน่นอน แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 04:18:45 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 04:15:29

ความคิดเห็นที่ 36 #35 เรื่อง nominee ถ้ามองเรื่องสัดส่วนการถือครอง ตอนนี้ไทยก็ยังนำกว่าน่ะซีครับ เขมรเพิ่งเปิดประเทศ คนยังแห่ไปซื้อไม่มากเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นแึค่นักลงทุนไปสร้างโรงงาน มองย้อนกลับมาดูเมืองไทย เแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อยู่ในมือ land lord ต่างชาติไม่กี่คนซะงั้น เรื่องคลั่งชาติหรือไม่ ผมว่าเรามองแค่ว่า เรามีเหตุผลแค่ไหน ไม่ใช่ว่าเราทำอะไรผิดแต่ก็ต้องเข้าข้างให้เป็นถูกเสมอไป ผลประโยชน์ของชาติต้องมองลึกๆถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในชาติ ไม่ใช่แค่ ego ของนามธรรมหรือของคนไม่กี่คนครับ อย่างเรื่องนี้ก็เต็มๆบางคนไปด่าเขมร ต้องสั่งสอนเขมร เพราะเขมรจับคนไทย แต่ถามว่าแ้ล้วคนไทยทำผิดจริงไหม ล้ำจริงไหม บางคนยกหลักฐานมั่วๆกันมาบอกว่ายังไม่ล้ำ(โฉนดคนละที่กันเลย) ทั้งๆที่หลักฐานเอกสารอื่นๆที่แน่หนาบอกว่าล้ำแน่ๆ แบบนี้แหละครับที่เรียกว่าคลั่งชาติแบบไร้เหตุผล! เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนะครับ ที่จะได้เห็นแก่ตัว บอกว่าพวกกรูไม่มีวันผิดทั้งๆที่ทำผิดอยู่โทนโท่ไปซะได้ เรื่องร่มเกล้า เห็นชอบแก้ตัวว่าลาวมีคนหนุึน เราก็มีคนหนุนไงครับ  ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าเราเสียหายหนักจริง แม้ตอนหลังจะเกือบตีคืนได้ แต่ด้วยแรงกดดันเราก็เปิดการเจรจากันอยู่ดี มองด้านการศึกเราก็เกือบแพ้ มองด้านสงครามใหญ่การที่่ฝ่ายที่หนุนเราสนับสนุนน้อยกว่าอีกฝ่าย ก็ถือว่าแพ้ในเวทีโลกทางอ้อมเช่นกัน น่าคิดไหมว่าทำไม คนที่เคยหนุนเรามาหลายสิบปี กลับสนับสนุนน้อยกว่าปกติ? ส่วนเรื่องสุดท้าย อันนี้พูดจริงๆไม่ได้ประชดเล่นๆครับ เวียดนาม เอาแน่เอานอนไม่ได้ เผด็จการก็จริง แต่เขาก็กลับคำพูดไ้ด้ง่ายๆ จ่ายไปแล้ว วันดีคืนดีก็มาหาเรื่องจับอยู่ดี ไม่มีการรับรองอะไรทั้งนั้น ในขณะที่เมืองไทยถ้าจ่ายถูกคน จ่ายแล้วจบจริงๆครับ(เน้นว่าถูกคน) ฝรั่งพูด และคนพูดคือคนที่ตั้งโรงงานส่งออก มูลค่าต่อปีเฉียดแสนล้านบาท ผมก็ว่าน่ารับฟัง ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับระบอบการปกครอง แต่เกี่ยวกับระบบอุปถัึมภ์คอรัปชั่นฝังราก ว่าที่ไหนแข็งกว่ากันนั่นแหละ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 13:14:37

ความคิดเห็นที่ 37 1 Land for Sale    ถ้าจะบอกว่าไทยเรามีสัดส่วนมากกว่า   อันนี้อาจจะจริงครับ    แต่ในอนาคตเขมรมีแต่จะนำไปเรื่อยๆ     เพราะเขมรเปิดให้ซื้อขายได้อย่างไม่จำกัดแถมถูกกฎหมาย      กับไทยเราอาจจะมีเพิ่มขึ้นก็จริง    แต่เมื่อไหร่ที่มีการตรวจสอบ     เราก็เพิกถอนได้    ต่างกับเขมรที่ถูกกฎหมายเพิกถอนไม่ได้    อีกทั้งเขมรมีพื้นที่น้อยกว่าไทย   ราวๆ1ใน3ของไทยเท่านั้น    ปล่อยซื้อไปเรื่อยๆมีหวังพื้นที่หมดก่อนไทยแน่นอน 2 ผมมั่นใจว่าในกระทู้นี้   ยังไม่มีซักคนที่ออกมาบอกให้ไทยไปถล่มเขมรเลย      อย่างมากก็แค่วิเคราะห์ว่าถ้าไทยกับเขมรรบกันจะเป็นอย่างไร       ตอนนี้ก็เห็นกระทรวงต่างประเทศเปลี่ยนท่าทีแล้วว่าจุดที่ถูกจับยังเป็นจุดที่ยังพิพาทกันอยู่    ตกลงกันไม่ได้เพราะหลักเขตมันไม่ใช่สิ่งตายตัว    วันดีคืนดีใครก็มาถอนไปปักที่อื่นได้       แล้วจุดนั้นก็ไม่ได้มีแนวเขตธรรมชาติอยู่เลย    แม่น้ำลำคลองก็ไม่มี    สันปันน้ำก็ไม่มีเพราะไม่ใช่ภูเขา   แถบนั้นก็เป็นทุ่งไม่มีจุดสูงต่ำให้สังเกตอีก      ถ้ามีแนวเขตธรรมชาติคงไม่มีประเทศไหนที่บ้าเอาหลักเขตมากำหนดหรอกครับ     ในกรณีเราควรจะรอดูต่อไปว่าตกลงแล้วเราล้ำแดนไปจริงรึเปล่า    และเขตแดนตรงนั้นส่วนไหนที่เป็นของไทย   ส่วนไหนที่เป็นของเขมร       อย่าพึ่งสรุปกันเอง 3 ร่มเกล้า     ต้องบอกว่าคนหนุนฝ่ายลาวน่ะไม่ธรรมดาครับ    โซเวียตและโลกคอมมิวนิสต์เกือบทั้งหมด      ในขณะที่ช่วงแรกเราต้านอยู่คนเดียวตามลำพัง    แต่กระนั้นเราก็ยังหยุดกองทัพคอมมิวนิสต์ไว้ได้     ถ้าเรากระจอกศึกนั้นเราอาจเห็นทหารโซเวียตบุกถล่มมาถึงภาคกลางเลยก็ได้    ส่วนความเสียหาย   ถ้าไปเช็คกันดูดีๆ    ฝ่ายลาวน่าเสียหายไปไม่น้อยกว่าไทยเลย     แถมช่วงหลังเราได้รับการสนับสนุจากจีน  ขืนรบกันต่อลาวนี่แหละจะกลายเป็นคนที่ซวยต้องรับหน้าเสื่อทุกอย่าง    ประเทศลาวมีหวังถูกถล่มเละเทะ      มีแต่เสียกับเสีย     เลยลงเอยด้วยการเจรจากัน      ส่วนประเด็นว่าคนสนับสนุนเราน้อย      คุณก็น่าจะเคยรู้แล้วนะครับ    ว่าอเมริกาถอนตัวเลิกสนับสนุนทางการทหารกับไทยมาตั้งแต่ไทยเปิดสัมพันธ์กับจีน     มันก็ไม่น่าจะแปลกตรงไหนที่เรามีผู้สนับสนุนในศึกนั้นน้อย      ในขณะที่โลกคอมมิวนิสต์เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเกือบทั้งหมด         ของเพียงโซเวียตสั่งการประเทศบริวารก็พร้อมจะออกมา 4 เรื่องจ่าย     ผมมองว่าเวียดนามที่ออกมาจับ   นั่นก็เพราะเป็นการสร้างกระแสนิยมในพรรคคอมมิวนิสต์มากกว่า      ทั้งยังทำให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์ต่อต้านการคอรัปชั่นอีก    (แต่ในความเป็นจริงนานๆจับซักราย   แต่มีอีกกี่รายที่ไม่โดนจับ)     แถมการปิดข่าวก็ง่าย   เพราะสื่ออยู่ในคำสั่งของพรรคคอมมิวนิสต์กันหมด         ส่วนของไทยถึงจ่ายถูกคน     แต่ถ้าสื่อไม่เอาด้วย    ประชาชนรู้ทัน    ใครก็ช่วยไม่ได้แล้วครับ      หลายๆกรณีที่มาบตาพุดก็เห็นกันชัดๆว่าประชาชนเริ่มไม่ยอมแล้ว   ที่คลิตี้ก็อีก     ต่อให้จ่ายให้คนใหญ่คนโตแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:34:48

ความคิดเห็นที่ 38 1. ตกลงคุณก็ยอมรับแล้วนะครับว่า ณ ปัจจุบัน บ้านเรา Sale ขายไปเยอะแล้วกว่า เขมรเสียอีก ส่วนอนาคตก็ต้องรอดูกันต่อไป ซึ่งตรงนี้ก็ contradict proof แล้วว่า เราก็เป็น land for sale ไม่ต่างจากที่ไปว่าเขากันเลยสักนิด 2. แล้วที่บางคคห.ออกมาด่า ออกมาบ่น ว่าทำไมต้องอ่อนข้อให้ ทำไมไม่กดดันแรงๆ นี่เรียกว่าอะไรหว่า ไปด่าเขา ทั้งๆที่เราทำผิดแท้ๆ ส่วนที่บอกว่าเขตแดนไม่ชัดเจนน่ะ ไม่ชัดเจนเพราะอะไร ก็เพราะแผนที่ของสองชาติมันไม่ตรงกันใช่ไหมครับ? จุดที่คลุมเครือเลยเรียกว่า เขตพิพาททับซ้อน ต้องรอการปักปันให้ชัดเจนจาก JBC แต่ปัญหาก็คือ ไอ้จุดที่โดนจับน่ะ มันล้ำจุดพิพาทไปแล้วจริงๆ จะเอาแผนที่ฉบับไหนมากาง มันก็ล้ำไปหมด กต.ก็บอกล้ำ กรมแผนที่ทหารก็บอกล้ำ แล้วคุณเอาจากไหนมาจินตนาการว่ายังไม่ล้ำนะ มีหลักฐานก็เอามาโชว์หน่อย ไม่เอาแบบโฉนดที่เป็นคนละที่กันแบบพธม.นะครับ แปลกดีที่เราใช้"ความเชื่อ" ว่าไม่ล้ำ ทั้งๆที่พยานเอกสารทุกฝ่ายบอกว่าล้ำไปแล้วกันแท้ๆ 3. เรื่องลาวน่ะ ขึ้นกับว่าจะมองในระดับไหน ถ้ามองระดับการศึก มองฝีมือการรบ เราเกือบจะแพ้จริงๆครับ เราสูญเสียทหารไปเยอะมาก แผนการรบหลายอย่างก็ผิดพลาดจากการสื่อสารระหว่างเหล่าทัพ รวมไปถึงอาวุธก็ด้อยกว่า เราจะโทษว่าเพราะเขามีคนสนับสนุนดีกว่าอย่างเดียวคงไม่ใช่แล้ว มันมีการวิเคราะห์แผนการข้อผิดพลาดออกมาหลังจากนั้นนะครับ ว่าหลายอย่างที่เราพลาดไปจริงๆ จนเราต้องมาปรับปรุงระบบการสื่อสารแบบบูรณาการทุกเหล่าทัพ และจัดซื้อปืนใหญ่อัตราจรเพิ่มมา ส่วนประเด็นการสนับสนุนจากต่างชาตินั้น เป็นเรื่องของสายส่งกำลังมากกว่า ซึ่งการตัดสินศึกนั้นไม่ได้มาจากเรื่องนี้อย่างเดียว ส่วนฝ่ายลาวเสียหายจริงแค่ไหน ตัวเลขจริงไม่ปรากฎ มีแต่ตัวเลขคาดการณ์ แต่ของเราสูญเสียเยอะจริง จากสภาพภูมิประเทศในการรบที่เราต้องเข้าตีจากล่างขึ้นบน และความผิดพลาดของการสื่อสาร ที่ทำให้เราทิ้งระเบิดโดนกันเอง จนตายไปไม่น้อย(อันนี้เรื่องจริงจนเราต้องไปรื้อระบบสื่อสารใหม่หมดเลย) 4. เรื่องมาบตาพุดน่ะ เป็นเพราะไม่ยอมจ่ายแล้วไงครับ ใครกันที่รีบออกมา action ดึงเรื่องให้ช้าลง ทั้งๆที่ถ้ามองข้อกฎหมายแล้ว มันผิดพลาดที่เทคนิคทางกฎหมาย ที่กฎหมายออกทีหลัง จะมาบังคับย้อนหลังซะังั้น ซึ่งถ้ามองทางวิศวกรรมจริงๆแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย ผ่าน EIA หมดแล้ว ขาดแค่ HIA ซึ่ง HIA น่ะเป็นแค่การรับฟังเพื่อทำแผนปรับตัวของชาวบ้าน แต่ไม่ใช่ตัวชี้วัดมลพิษ(อันนั้นอยู่ใน EIA) สื่อบางเจ้า+คนบางคนตะหาก ที่มีตีปี๊บมั่วๆ ว่าที่สั่งระงับเพราะมลพิษสูงนะ ทั้งๆที่คนละเรื่องเดียวกัน ทุกเจ้าผ่านการตรวจมลพิษหมดแล้วแท้ๆ เป็นการงัดข้อของฝ่ายกุมอำนาจ กับนักลงทุนที่เบื่อไม่อยากจะจ่ายแล้วตะหาก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชาวบ้านยอมไม่ยอม หรือมลพิษเลยสักนิด แต่เพราะเรื่องนี้แหละ ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มคิดกันแล้วว่า เมืองไทยอาจไม่น่าลงทุนอีกต่อไป คนนอกที่ไม่รู้เรื่องราวก็คิดว่าดี ไม่ต้องพึ่งฝรั่งแล้ว หารู้ไม่ว่า GDP 45% ของประเทศ มาจากนักลงทุนกลุ่มนี่้ทั้งนั้น ถ้าเขาถอนตัวไปหมดจริงๆ ล้มละลายทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ ทุบตึกมาปลูกข้่าวทั้งประเทศก็ไม่พอเลี้ยงคนไทยทั้งชาติหรอกนะครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 19:41:44

ความคิดเห็นที่ 39 นั่งหาข่าวในเนทแบบละเอียดยังหาไม่เจอ แต่เจอข่าวที่เกี่ยวข้องมาให้ดู ว่าเรื่องโฉนดที่ดินของชาวบ้าน กับจุดที่โดนจับ มันคนละที่คนละเรื่อง อย่ามาอ้างกันมั่วๆอีกต่อไป http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294386136&grpid=00&catid=&subcatid= ชาวบ้านโนนหมากมุ่นบุกพบ"มาร์ค" ยัน"เขมร"ยึดที่ดินทำกิน <- ข่าวนี้ชาวบ้่านพูดเองว่าคนละจุดกับที่โดนจับ แค่อยู่ใกล้ๆกัน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294564074&grpid=&catid=01&subcatid=0100 จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:11:00

ความคิดเห็นที่ 40 1 ผมว่าผมก็บอกไปตั้งแต่คห.35แล้วนะครับ     ว่าเรามีจริง    แต่กรณีของเราต่างกัน   คือของเราลักลอบทำกัน    ไม่ได้ขายแบบเขมร    ดังนั้นจะเรียกว่าเรา Sale ไม่ได้หรอก    ตรวจสอบขึ้นมาก็เพิกถอนหมด    ไม่เหมือนเขมรที่ขายกันอย่างถูกต้อง 2 กดดันแรงๆไม่ได้หมายความว่าต้องรบกันนะครับ     หมายถึงการตอบโต้ทางการทูตไปแรงๆก็ได้     รึใช้การทูตแนวรุกไปบ้าง     ไม่ใช่ปล่อยอีกฝ่ายโจมตีมาฝ่ายเดียว    แล้วเราคอยตั้งรับ      การทูตของไทยมันสุภาพบุรุษเกินไป กระทรวงต่างประเทศบอกว่าล้ำน่ะ   ล้ำหลักเขตครับ    ไม่ใช่ล้ำเขต     ซึ่งหลักเขตนั้นยังอยู่ในการเจรจา  จุดที่โดนจับยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของใคร ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประ​เทศ กล่าวผ่านสถานี​โทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์​ในราย​การคุยนอก​ทำ​เนียบว่า คน​ไทย​ทั้งหมด​ได้ข้าม​แนว​แบ่ง​เขต​ไป 55 ​เมตร ​และจุดดังกล่าวยัง​ไม่มี​ความชัด​เจนว่า​เป็น​เขตปกครองของประ​เทศ​ ใดระหว่าง​ไทยกับกัมพูชา ​เพราะอยู่​ในขั้นตอนของ​การ​เจรจา ​และยัง​เห็นต่าง​เรื่อง​การลาก​เส้นระหว่างหลัก​เขตประ​เทศ 46 กับ 47 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ซึ่งประการสำคัญผมไม่ได้พูดเลยซักคำนะว่าเราไม่ได้ล้ำ   ยังอยู่ในเขตเรา     เรื่องโฉนดผมก็ยังไม่ได้พูดถึงเลย     ที่ผมบอกคือ  ในกรณีเราควรจะรอดูต่อไปว่าตกลงแล้วเราล้ำแดนไปจริงรึเปล่า    และเขตแดนตรงนั้นส่วนไหนที่เป็นของไทย   ส่วนไหนที่เป็นของเขมร       อย่าพึ่งสรุปกันเอง 3 ก็อย่างที่บอกไว้   เราก็ยังหยุดกองทัพคอมมิวนิสต์ไว้ได้     ถ้าเรากระจอกศึกนั้นเราอาจเห็นทหารโซเวียตบุกถล่มมาถึงภาคกลางเลยก็ได้     ในสถานการณ์นั้นก็เหมือนกับเรากำลังโดนรุมจากหลายๆประเทศ     แต่เรายังยันไว้ได้    เรามีความผิดพลาดจริงผมไม่เถียง     แต่จะบอกว่าเราแพ้นี่คงตลกแล้ว     ผลการเจรจาทั้งสองฝ่ายก็ยอมถอยออกจากที่พิพาท     ถ้าคุณจะบอกว่าการสนับสนุนของฝ่ายลาวไม่มีความเกี่ยวข้อง    อยู่ที่ความาสามารถ+แผนการ       งั้นเยอรมันก็ไม่น่าจะแพ้สงครามโลกทั้ง2ครั้งหรอก     เพราะเยอรมันมีความสามารถสูงมากๆ    แต่ที่แพ้ก็เพราะการสนับสนุนจากภายนอกนั่นแหละ     เยอรมันไม่มีใครสนับสนุน    ในขณะที่สัมพันธมิตรส่งกำลังมาเสริมตลอด     เสียไปก็ส่งมาเรื่อยๆ     เก่งยังไงเจอรุมก็มีแต่แพ้ครับ 4 ผมไม่ได้หมายถึงกรณีที่ศาลสั่งระงับมาบตาพุดครับ     แต่เป็นกรณีที่สารพิษรั่วออกมาบ่อยๆ   ก๊าซพิษมั่ง   โลหะหนักมั่ง    ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจน     ตรวจสอบได้     กรณีแบบนี้ต่อให้จ่ายแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ      อย่างคลิตี้นี่เห็นกันได้ชัด     จ่ายยังไงก้ไม่รอด ธรรมชาติของนักลงทุนนั้นคือแสวงหากำไร    ที่ไหนที่สามารถให้กำไรเขาได้มากที่สุดเขาไม่ปล่อยไปหรอกครับ    ที่เริ่มทิ้งไทยไปมีหลายสาเหตุ   เช่นค่าแรงเราแพงขึ้น    การตรวจสอบเข้มงวดขึ้น     แต่สาเหตุใหญ่ที่สุดก็คือทำกำไรได้น้อยกว่าที่อื่น การเอาประเทศไทยไปผูกกับการลงทุนจากต่างชาตินั้นไม่เป็นผลดีต่อไทยแน่นอนครับ    นักลงทุนมาลงทุนแล้วก็จากไปพร้อมกับกำไร    เรามีแค่ส่วนแบ่งค่าจ้างนิดหน่อย    กับตัวเลขสวยๆและมลพิษเท่านั้น    เศรษฐกิจของโลกไม่ใช่ว่าจะดีไปได้ตลอด     เมื่อไหร่ที่ประเทศแม่ของนักลงทุนพัง    เราที่เอาตัวไปผูกกับเงินของนักลงทุนก็พร้อมจะพังตามไปด้วย     เมื่อไหร่ที่นักลงทุนไม่พอใจไทยถอนการลงทุนออกไปเราก็เจ๊ง       เราควรจะเจริญเติบโตแบบมั่นคงยั่งยืนด้วยกำลังของเราเอง    จะให้ดีที่สุดรัฐควรจะส่งเสริมการลงทุนของคนในประเทศให้มากกว่านี้          แต่อย่างไรก็ตามก็ควรจะค่อยๆเริ่มดำเนินการไป    ไม่ใช่ไปไล่นักลงทุนต่างชาติออกไปทีเดียวหมด จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:49:52

ความคิดเห็นที่ 41 1. ครับๆ เราไม่ไ้ด้ขายอย่างเป็นทางการแบบบ้านเขา ทั้งๆที่เราขายไปเยอะกว่าเขาแล้วก็ตาม 2. แล้วจะไปกดดันเขาทำไมล่ะครับ ในเมื่อเราผิดก่อนจริง ส่วนคำพูดของ กษิต ต้องหาอ่านหลายๆรอบครับ เพราะพูดกลับไปกลับมาหลายครั้ง(มีเคสที่ชวนนท์ออกมาพูดว่า กษิตไม่ได้บอกว่าไม่ล้ำนะ สื่อเข้าใจผิดเองก็มี) ต้องอ่านคำแถลงอย่างเป็นทางการของกต.เท่านั้นครับที่พอจะยึดถือได้ เรื่องโฉนด หมายถึงคคห.อื่นๆครับ พูดรวมๆเพราะัเห็นย้ำว่าไม่ได้ล้ำ เพราะมีโฉนดกันหลายคน 3. ผมพูดถึงความผิดพลาดจากการวางแผนของเราจริงๆก็มีนี่ครับ ปัจจัยภายในล้วนๆเลย เรื่องการประสานงานระหว่างเหล่าทัพ ผิดพลาดจนทิ้งระเบิดพวกเดียวกัน คงไม่เกี่ยวอะไรกับการสนับสนุนของชาติอื่นกระมัง ส่วนเรื่องของคนสนับสนุนมันระดับการทูตระหว่างประเทศ ก็อีกเรื่องนึงไป 4. อ้าว แล้วเคสไหนกันล่ะครับ เพราะคดีมาบตาพุึด ที่ดังๆก็มีคดีเดียว คือคดีศาลปกครองสั่งระงับการดำเนินการโรงงานหลายโรง ส่วนเรื่องสารพิษรั่ว มันก็เป็นคดีทั่วไป ไม่เห็นจะมีเคสไหนที่มีปัญหาจนต้องปิดโรงงานไปสักหน่อย ใช่ครับ พึ่งพาทุนนอกมากไปไม่ดี แต่ถามว่าแล้วจะทำอย่างไรแทนล่ะ ในเมื่อเราไม่เคยสนับสนุึนการพัฒนาเทคโนโลยีของไทยเองเลย จะบอกให้ไปทำนากันหมด ก็บอกแล้ว ทำนาทั้งประเทศ มันก็ไม่พอกินครับ GDP ภาคกสิกรรม 11% มันช่างน้อยนิด คำว่ายั่งยืน ต้องยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีของตัวเอง แบบประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ไม่ใช่หลอกตัวเองว่าอยู่อย่างเรียบง่ายทำกสิกรรมไปก็พอ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:14:39

ความคิดเห็นที่ 42 เจอข่าวกว้างๆมาให้ดู ว่าคำพูดกษิตเปลี่ยนไปมาหลายรอบ จนกต.ต้องมาคอยตามแก้ให้ "กษิต"หวังได้ขออภัยโทษเร่งให้คดีจบเร็ว ย้ำ 7 คนไทยล้ำเขมรกว่า 50 ม. "บัวแก้ว"รับช่วย"วีระ-ราตรี"ยาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294800780&grpid=&catid=01&subcatid=0100 "การแก้ปัญหาเรื่องนี้ จะต้องช่วย 7 คนไทยก่อน การรบกันอย่างที่คนบางฝ่ายเรียกร้องนั้นไม่เป็นผลดีกับใคร และจะเปิดโอกาสให้โลกข้างนอกเข้ามายุ่ง ยืนยันว่าดินแดนที่คนไทยทั้ง 7 คนถูกจับไปอยู่บนถนนเค 5 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทหารฝ่ายกัมพูชาใช้ปฏิบัติการ และคู่ขนานไปกับถนนศรีเพ็ญที่อยู่ฝั่งไทย ทั้ง 7 คนเดินเข้าไปในพื้นที่ซึ่งยังใช้กฎอัยการศึก โดยไม่แจ้งให้ทหารทราบล่วงหน้า แถมยังขับรถเลยตู้ยาม ตชด.ไปอีก 300 เมตร ก่อนเดินเข้าไปในถนนเค 5 ถ้าดูตามแผนที่ L7018 จะเห็นได้ว่าคนของเราล้ำไป 50 กว่าเมตร" นายกษิตกล่าว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293769247grpid=03catid=03 นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนการเข้ารุกล้ำดินแดนของกัมพูชาหรือไม่นั้น จากการสอบถามนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา พบว่า จุดที่ทั้ง 7 คน เข้าไปนั้นรุกล้ำอาณาเขตจริง แต่อาจมาจากความไม่ตั้งใจ และไม่ทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นของพื้นที่กัมพูชา และยอมรับว่านายพนิช ดำเนินการโดยประมาท เนื่องจากไม่ได้แจ้งหน่วยงานความมั่นคง หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ก็ไปตรวจสอบจึงเกิดเรื่องดังกล่าว   ข่าวข้างล่างนี้น่าจะเป็นการแก้ข่าวคำพูดของกษิต ที่คุณยกมาทีแรกครับ >> http://www.isarapost.net/overview.php?c=2&id=19293 นอกจากนี้ นายชวนนท์ ยังยืนยันว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ว่า ให้เปลี่ยนคำพูดว่า “คนไทยทั้ง 7 รุกล้ำดินแดนกัมพูชา” เป็น “เข้าไปในพื้นที่ที่กัมพูชาดูแล” เป็นเพียงการรายงานความคืบหน้าของการให้ความช่วยเหลือกับที่ประชุมเท่านั้น จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:23:00

ความคิดเห็นที่ 43 การกดดันทางการทูตนั้นเป็นเรื่องปกติของการเมืองโลกครับ     จะผิดรึถูกนักการทูตต้องหาทางพลิกให้ฝ่ายตนเองได้ประโยชน์ให้ได้      กรณีที่เห็นกันได้ชัดเจนคือ   วัยรุ่นอเมริกันไปทำความผิดในสิงคโปร์แบบจงใจท้าทาย     ศาลสิงคโปร์สั่งให้โบย     อเมริกายังเต้นเป็นเจ้าเข้า      ทำทุกวิถีทางไม่ให้คนของตนถูกลงโทษ     ทั้งๆที่ความผิดชัดเจน กรณีมาบตาพุด   จะเป็นคดีเล็กๆเกี่ยวกับสารพิษรั่วไหล    มักจะไม่ค่อยดัง    แต่เจ้าของโรงงานโดนศาลสั่งลงโทษ-ปรับ-ฟื้นฟูสภาพมาหลายคดีแล้วครับ     อีกที่ที่ดังหน่อยก็คลิตี้    เจ้าของโดนหนักเลย  คุณน่าจะได้ข่าว ส่วนเรื่องการลงทุน    ก็อย่างที่ว่าในวรรคสุดท้าย   ว่าควรจะค่อยๆดำเนินการไป    อย่างที่เห็นว่าเราก็เริ่มมีการคิดค้นเทคโนโลยีหลายๆอย่างมาบ้างแล้ว     เช่นอุปกรณ์ทางการแพทย์      สินค้าหลายอย่างที่เป็นสิทธิบัตรของคนไทย อันนี้พูดแบบขำๆ    ถ้าเราอยู่กันแบบไม่ฟุ้งเฟ้อมากมาย     อยู่ไปวันๆ   การเกษตรกรรมในไทยนี่เหลือจะพอครับ     ข้าว-อาหารต่างๆเราผลิตได้เกินพอในแต่ละปีจนต้องส่งออก      ถ้าเราอยู่กันไปแบบเรื่อยๆวันๆไม่มีความอยากนู่นอยากนี้นี่เหลือจะพอครับ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:30:20

ความคิดเห็นที่ 44 รู้สึกกระทู้จะออกนอกเรื่องไปไกลมาก ผมขอพูดเฉพาะประเด็นcountry for saleแล้วกัน เรื่องการเมืองไม่ขอพูดและขอความร่วมมือให้ทุกคนพูดอยุ่ในกรอบที่เจ้าของกระทู้ต้องการสนทนาด้วยครับ ++++++++++++++++++++++++++++++++ ปัญหาเรื่องcountry for saleของกัมพูชานั้นคนละระดับกับไทยเลยครับ คนจำนวนแสนห้าหมื่นคนหรือเกือบ1%ของประชากรโดนไล่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว ยิ่งกว่านั้นการไล่ที่ไม่ได้ทำไปเพื่อสร้างระบบสาธารณูปโภคด้วยซ้ำ แต่กลับมีการใช้อำนาจรัฐไล่ที่เพื่อกลุ่มทุน ต้นตอของปัญหาเริ่มจากในสมัยเขมรแดงครองอำนาจเอกสารสิทธิ์ที่ดินถูกทำลายทิ้งจนหมด ระบบที่ดินต้องเริ่มนับ 1กันใหม่หลังหมดยุคสงครามกลางเมือง ซึ่งผ่านมา20ปีแล้วก็ยังไปไม่ถึงไหน คนจนจำนวนมากอาศัยอยู่บนที่ดินของตัวเองโดยไม่มีฉโนดหรือเอกสารสิทธ์อื่นรองรับ กลายเป็นช่องว่างให้นักการเมืองร่วมมือกับกลุ่มทุนเข้ามาแย่งที่ดินได้อย่างง่ายดาย ง่ายขนาดที่ว่าแค่เอาเงินจ่ายให้ข้าราชการในพื้นที่ก็ได้ที่ดินมาครองพร้อมบริการไล่ที่ให้ด้วย การไล่ที่ของกัมพูชาไม่ได้มีอยู่เฉพาะในพนมเปญ พื้นที่ที่เหมาะกับการเกษตรกับพื้นที่ท่องเที่ยวก็โดนไปด้วย อย่างแถวปอยเปตก็โดนนักลงทุนไทยกว้านซื้อเอาไปทำสวนยางกันมาก ชายหาดที่สีหนุวิลล์ที่กัมพูชาหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นคู่แข่งกับชายหาดของไทยก็เสร็จทุนต่างชาติไปหมดแล้ว จนตอนนี้ที่ดินในกัมพูชา15%ตกอยู่ในมือบริษัทเอกชน(รวมที่ถือครองเองและเช่าระยะยาว) การซื้อที่ดินของทุนต่างชาติในไทยมีจริงครับ แต่ยุ่งยากกว่ากัมพูชามากเพราะต้องใช้nominee ต้องสู้กับDeveloperของไทยซึ่งก็มีทุนพอสู้ต่างชาติได้ในระดับหนึ่งด้วย และการขายที่ดินอย่างน้อยก็ยังเป็นเพราะความสมัครใจของชาวบ้าน ผมไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่ามีnomineeต่างชาติถือครองที่ดินในไทยมากแค่ไหน แต่ผมคิดว่าการถือครองที่ดินของต่างชาติในบ้านเราไม่ได้มากเท่ากัมพูชาและไม่ได้ถึงขั้นเป็นอันตรายหรอกครับ เพราะต่างชาติมักจะจำกัดการซื้ออยู่ที่แหล่งท่องเที่ยวทำเลเกรดAซะส่วนมาก ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างพม่าและกัมพูชาจะดึงดูดใจทุนต่างชาติในการกว้านซื้อมากกว่า เพราะที่ดินราคาถูกกว่าและไม่มีข้อจำกัดการซื้อ อย่างพวกกฎหมายการถือครองที่ดิน สิ่งแวดล้อม ผังเมือง เหมือนอย่างไทย แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 22:51:32 จากคุณ : Lowfailer เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 22:47:54

ความคิดเห็นที่ 45 เขมรมีพื้นที่ราวๆ1.8 แสนตารางกิโลเมตร    15%ก็ราวๆ 27,000 ตารางกิโลเมตร     รวมพื้นที่ใหญ่กว่าเชียงใหม่รึโคราชของไทยซะอีก (เชียงใหม่กับโคราชแต่ละจังหวัดมีพื้นที่ราวๆ22,000ตารางกิโลเมตร)     รึเอาง่ายๆว่าราวๆ17เท่าของพื้นที่กรุงเทพ นอกจากนักลงทุนแล้ว   เขมรก็ยังมีปัญหาเรื่องการอพยพเข้ามาอยู่ของคนเวียดนามด้วยครับ     เพราะเวียดนามเองคนก็เกือบ90ล้าน    แต่พื้นที่ราวๆ3ใน5ของไทยเท่านั้น     เลยต้องหาทางระบายพลเมืองออกมาบ้าง     ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เขมรต้องรับมือเลย     เพราะคนเวียดนามเข้ามาตั้งถิ่นฐานก็ต้องยึดครองที่ดินแย่งกับคนเขมรอีก จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 23:23:54

ความคิดเห็นที่ 46 ตกลงว่าเราควรจะให้กระทรวงต่างประเทศไปเทคแอคชั่นเป็นเจ้าเข้า เพราะคนของเราทำผิด?(หรืออยากจะเถียงว่าไม่ผิด) อีกหน่อยคนไทยไปถูกจับที่ไหน ก็ขอให้มารักชาติ ช่วยกันแข็งขันเหมือนอย่างคราวนี้แล้วกันนะ ผมซาบซึ้งน้ำตาไหลไม่รู้ตัว เรื่องคนอเมริกันถูกโบยที่สิงคโปร์ มันคนละเรื่องกับกรณีนี้เลย รัฐบาลอเมริกายอมรับว่าคนของตนผิดจริง แต่เขาสู้ที่ว่าการลงโทษของสิงคโปร์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 03:19:32

ความคิดเห็นที่ 47 #43 เรื่องเข้าข้าง ผมว่าเคสคนเมกันทำผิดในสิงคโปร์ เขาก็ทำคล้ายๆกับไทยนะครับ คือบอกว่าโทษรุนแรงไปขอให้ผ่อนผัน ไม่ได้พยายามบอกผิดเป็นถูก ดำเป็นขาว หรือบอกว่าคนของเราห้ามเอาผิด แบบที่คนบางกลุ่มยุให้ทำกันอยู่ ซึ่งผมว่า กต.ตอนนี้ก็กดดันในระดับที่พอทำได้ไปแล้ว ไม่ว่าจะพูดเรื่อง เคยแลกเปลี่ยนนักโทษ หรือข้อตกลงว่าถ้าชาวบ้านพลัดหลงไป จะผ่อนผัน(แต่เคสนี้อาจไม่ใช่การพลัดหลงน่ะซี) ส่วนจะให้ไปข่มขู่เขามากกว่านี้ ผมว่าคงต้องอายประชาคมโลกน่ะสิครับ เรื่องเทคโนโลยีของเรา ต้องบอกว่าน้อยสุดๆครับ ส่วนใหญ่ที่เคยเห็นออกข่าว คือทำวิจัยไว้งั้นๆ แต่ไม่มีใครไปทำขายจริง คือดีจริงหรือเปล่าไม่มีใครรู้ ที่ตลกกว่าก็คือ มีคนไทยเป็นเจ้าของสิทธิบัตรร่วมกับบ.ข้ามชาติจำนวนไม่น้อยเลย คือศักยภาพของคนไทยมี แต่บ.ในประเทศ หรือภาครัฐไม่สนับสนุน อันนี้ก็เห็นด้วยว่าภาครัฐต้องออกมาลงแรงได้แล้ว แต่ตราบใดที่เรายังเห็นภาครัฐบอกว่า เราเป็นประเทศกสิกรรม ก็คงยากที่จะหวังให้เขาคิดว่าควรมีเทคโนโลยีของตัวเอง ดีกว่าซื้อเขาเรื่อยไป ส่วนพูดขำๆ ว่าให้เรากลับไปทำนาแบบเรียบง่ายจริงๆ ต้องถามกลับว่า ตัวคุณเองพร้อมแค่ไหน ตอนเด็กๆผมอยู่บ้านนอก มาโตเมืองหลวง พอจะเห็นความลำบากของชาวนาส่วนใหญ่ของประเทศมาบ้าง ชาวนาส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ land lord เจ้าของที่นาหลายสิบไร่นั้น ลำบากสุดๆนะครับ ทำนาตั้งแต่เช้ามืด กว่าจะได้นอนก็ดึกๆดื่นๆ รายได้ก็แทบไม่พอกิน เจ็บป่วยก็หาหมอลำบาก ต้องรอป่วยหนักนั่นแหละถึงจะไป ลูกๆเด็กๆ ช่วงทำนา ก็ต้องโดดเรียนมาช่วยทำนา ไม่มีทางจะได้ไปกวดวิชา หรือทำการบ้านกับเขา คือถ้าจะเรียนให้ได้เกรดปกติก็ต้องขยันมากกว่าเด็กปกติหลายเท่า มือถือ มอไซด์นี่คือของฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้ชีวิตสบายขึ้นได้บ้าง(จะให้เดินเป็นสิบกิโลเหรอครับ บ้านนอกรถสาธารณะแทบไม่มี) ฯลฯ มีอีกเยอะแยะครับ และถ้าคุณทำจริงๆ คุณก็คงแทบไม่มีโอกาสมานั่งเล่นเนทแบบนี้หรอก และพูดถึงปริมาณข้าวที่ผลิตได้ เราผลิตเกินพอกินเองครับ แต่รายได้ไม่มากพอที่จะ cover ส่วนอื่นๆเช่นที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมไปถึงภาษีที่จะมาเป็นงบประมาณประเทศด้วย อย่าลืมว่า GDP ภาคกสิกรรม แค่ 11% นะครับ ต่อให้ทำนาเพิ่มอีกเท่าตัว ก็ยังแค่ 20% เหมือนเงินเดือนหมื่นนึงลดเหลือสองพัน คุณอยู่ได้ไหม คือถ้าพร้อมจะกินอยู่แบบชาวนาเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ผมว่าพอจะได้อยู่ แต่ถามว่าทนได้จริงๆน่ะหรือ? ภาพลักษณ์ชาวนาที่อยู่อย่างเรียบง่ายไม่ลำบาก เป็นภาพลักษณ์ที่สร้างขึ้นเป็นภาพมายาในละครหรือนิยายประโลมโลก แบบตื่นเช้ามาทำงานสบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง บ่ายๆมาทำงานอดิเรก หรือเล่นกับลูกกับหลาน พอจะทำได้จริงครับ ถ้าคุณมีที่นาสักห้าสิบไร่ ให้คนอื่นเช่าน่ะนะ :P เอ๊ะ นอกประเด็นหลักแล้ว ขอโทษที พอมีประเด็นย่อยๆแล้ว อดพูดถึงไม่ได้ ส่วนประเด็น land for sale ก็เห็นด้วย ว่าอนาคตถ้าเขมรไม่เปลี่ยนนโยบายก็จะมีปัญหามากกว่าเรา แต่ ณ ปัจจุบัน ผมว่าเราน่ะน่าจะมีปัญหาไม่น้อยกว่าเขาเลย เพียงแต่กระแสมันไม่ดัง เจ้าของที่ดินสวยๆ โดนบังคับขายให้นายทุน(ทั้งไทยและเทศ) หมดแหละครับ  เจอ the offer you never refuse เข้าไป ใครจะไม่ขายล่ะ แต่ก็ยังดีที่ได้เงินบ้าง ส่วนใหญ่ก็ซื้อรถแล้วมาตายดาบหน้าเป็นแรงงานในเมืองหลวง(เพราะไม่มีที่ทำกินแล้วนี่นา) แถมที่ดินก็กระจุกตัวอยู่ในมือนายทุนไม่กี่คน เก็งกำไรราคาแพง ต้นทุนทำธุรกิจสูงขึ้น กลายเป็นปัญหาสังคมวนกลับไป ทางแก้ก็ต้องมีภาษีที่ดินแบบก้าวหน้า ซึ่งผมว่าคงต้องรออีกยี่สิบปีเป็นอย่างน้อย ถึงจะมีโอกาสทำได้(คือรอให้ land lord คนเก่าๆตายไปก่อน) จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 09:29:07