ความคิดเห็นที่ 1 โทษเท่าสามัญเป็นเพียงคำพูดโก้หรูเฉยๆนะเราว่า ไม่อย่างนั้น ฉินซีฮ่องเต้หรือพวกทรราชทั้งหลายคงต้องตายหมื่นกว่าครั้งแน่ๆ คงเจอในละครอย่างเดียว ถามในแง่ประวัติศาสตร์เรานึกไม่ออกว่าประวัติศาสตร์จีน ฉบับภาษาจีนมีคำพูดนี้ จะมีแค่นินทาลับหลังมากกว่า ส่วนในทางปฏิบัติไม่มีแน่ๆ อีกอย่างมันมีประโยคที่มีความหมายขัดกัน คือ ฮ่องเต้สั่งให้ตายก็ต้องตาย สั่งให้อยู่ก็ต้องอยู่ คำพูดนี้เจอในหนังสือประวัติศาสตร์จีน ครั้งสองครั้ง ประโยคที่เจอบ่อยในหนังสือภาษาจีนคือ ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ มันเป็นคำพูดที่สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง นิยายจีนประชาชนเป็นผู้เขียน พวกเขาก็แค่เขียนความต้องการของพวกเขาออกมา เอามารวมกับประวัติศาตร์ก็คงไม่ได้ ในไทยมีหนังสือหลายเล่มที่รวมเอานิยายกับประวัติศาสตร์เข้าด้วยกัน คนอ่านยิ่งอ่านยิ่งงง และมันเป็นแรงบันดาลใจให้เราเรียนภาษาจีนเพื่ออ่านประวัติศาสตร์จีนเป็นภาษาจีนโดยตรงเพื่อความแน่นอนไม่มั่วนิ่ม ในความคิดเรา ประวัติศาสตร์เขียนด้วยเลือดและอำนาจ ในปัจจุบันเขียนด้วยเลือดและเงิน การลงโทษทางกายของสมัยก่อนโหดกว่าสมัยนี้มากนัก ทั้งไทย จีน ฝรั่ง จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 15:48:33

ความคิดเห็นที่ 2 ไทย จีน พม่า ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันไม่เคยมีกฎหมายให้สิทธิว่าใครจะฟ้องร้องเอาผิดกับผู้นำประเทศได้ กฎหมายจะยกเว้นให้เป็นพิเศษ ประเทศที่คนฟ้องร้องเอาผิดกับผู้นำประเทศได้คือสหรัฐอเมริกาเพราะรัฐธรรมนูญสหรัฐบังคับใช้กับทุกคนเท่าเทียมกันหมดไม่มีข้อยกเว้น มันเป็นประเทศที่ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพมากๆ แม้กระทั่งการเผาธงชาติสหรัฐก็ไม่ผิดกฎหมายสหรัฐ เพราะศาลสูงสหรัฐเคยตัดสินไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่าการเผาธงชาติถือว่าเป็น symbolic speech (หรือเป็นหนึ่งใน non-speech acts) ซึ่งเข้าข่าย freedom of expression ที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้ The First Amendment to the US Constitution ลองไปอ่านคำพิพากษาคดีตัวอย่างการเผาธงชาติสหรัฐดูได้ที่นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Texas_v._Johnson แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 54 17:22:08 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 17:16:47

ความคิดเห็นที่ 3 ชนชั้นปกครองในจีนสมัยโบราณนั้นมีอภิสิทธิ์มากมายครับ อาจจะมากกว่าชนชั้นปกครองของไทยสมัยโบราณด้วยซ้ำไป พวกบัณฑิตไม่ต้องเสียภาษี ขึ้นศาลก็ไม่ต้องคุกเข่า สามารถร่างสำนวนสู้คดีในศาลเองได้ ไม่รวมการใช้เงินอำนวยความสะดวกในศาลหรือเล่นเส้นสายอีกด้วย นอกจากนี้ในหลายๆคดีสามารถใช้เงินไถ่ความผิดได้ครับ หรือไม่ก็ใช้ให้ลูกน้องรับผิดแทนได้ (ของไทยเราก็สามารถใช้ทาสรับผิดแทนนายทาสได้ กับความผิดหรือทัณฑ์บางประเภท) คำพูดของฝรั่งที่ว่า คนกลุ่มใดร่างกฎหมาย กฎหมายก็รับใช้คนกลุ่มนั้น ไม่ผิดครับ เป็นอย่างนั้นจริงๆ หากท่านเป็นชาวบ้านตาสีตาสาธรรมดา จะสู้คดีให้ชนะผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นหรือขุนนางท้องถิ่นนี่ ลำบากกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 54 17:38:59 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 17:37:32

ความคิดเห็นที่ 4 เปาบุ้นจิ้น ในหนัง โม้ และ มั่ว  เป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 18:11:24

ความคิดเห็นที่ 5 คดีสะท้านฟ้าที่แสดงถึงว่า ขุนนางตัดสินผิด แต่ได้รับการปกป้องกันเป็นทอดๆ ก็คือคดีของ หยางไน่หวู่ ครับ เขาไล่ฟ้องตั้งแต่ศาลของขุนนางประจำอำเภอไปยันฮ่องเต้เลย แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 54 18:37:34 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 18:36:22

ความคิดเห็นที่ 6 ฮ่องเต้ กับ อ๋อง ต่างกัน แต่คำว่าอ๋องจะแปลว่ากษัตริย์ก็ตาม แต่ก็ไม่ใหญ่กว่าฮ่องเต้ ฮ่องเต้ มีฐานะเป็นรัฐาธิปัตย์ พระราชโองการที่ออกมาคือกฎหมาย ฉะนั้น ฮ่องเต้จึงจะถูกฟ้องว่าทำผิดกฎหมาย แทบจะเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นถูกฟ้องเรื่องผิดจารีต เช่น อกตัญญู ซึ่งก็เป็นเรื่องภายในราชสำนัก ส่วนเชื้อพระวงศ์ยังอยู่ภายใต้กฎหมาย จึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ แต่อาจจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นพิเศษ จึงดูว่าอยู่เหนือกฎหมาย ในทางสยาม ก็ไม่ใช่ไม่มีคดีแบบนี้ คดีหม่อมไกรสร เริ่มเรื่องจาก การชำระคดีของชาวบ้านที่ตุลาการมีการกินสินบาทคาดสินบน แล้วมีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ร.3 ทรงชำระความ จึงทราบว่าเกี่ยวข้องกับ พระองค์เจ้าไกรสร จึงมีการชำระความจนกลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ และนำไปสู่การสำเร็จโทษพระองค์ท่าน สรุป สมัยก่อนพระมหากษัตริย์ที่ไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะทรงเป็นรัฐาธิปัตย์ จึงไม่อาจจะทำผิดกฎหมายได้เอง จึงไม่สามารถฟ้องร้องได้ครับ จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:44:37