นักวิชาการแนะพ่อแม่ส่งลูกเรียนม.เมืองนอกเตรียมความพร้อมแต่เกิด
เตือนทำใจลูกมีปาร์ตี้-นัดเดท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่เพนนินซูล่า พลาซ่า มีการจัดงาน "เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยท็อปในอังกฤษและสหรัฐฯ อย่างไร" โดย ดร.นันทวรรณ วิจิตรวาทการ คณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้จบการศึกษาจากสหรัฐฯ และส่งลูกทั้ง 3 คนเข้ามหาวิทยาระดับท็อปในสหรัฐฯ กล่าวว่า เราควรจะเตรียมความพร้อมตั้งในท้อง เพราะเด็กที่เกิดมา ต้องมีความพร้อมตั้งแต่แรกเกิด วิธีเลี้ยงลูกไม่มี
สูตรสำเร็จ แต่ในความง่ายมันยาก พ่อและแม่ต้องเป็นแบบอย่างให้กับลูก การเลี้ยงดูลูกเหมือนการลงทุน แต่ไม่ใช่ใช้เงินในการลงทุน สำหรับครอบครัวเราคือการลงทุนในเรื่องของเวลา โดยการใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับลูก ขณะเดียวกัน พ่อแม่ก็ต้องมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ให้แต่สิ่งดีๆ ตั้งแต่เริ่มต้น
"ตั้งแต่เล็กจนโต การเลี้ยงลูกของดิฉัน เราไม่เคยพูดคุยในทางลบ เราจะให้กำลังใจและพูดคุยในทางบวกเสมอ" ดร.นันทวรรณ กล่าว
ส่วนการเตรียมตัวในการเตรียมตัวต่อมหาวิทยาลัยท็อปในอังกฤษและสหรัฐฯ ต้องใช้ระยะเวลา เพราะการเตรียมตัวเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ต้องปลูกฝังและส่งเสริมตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่การอ่านหนังสือและการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากคุณสมบัติที่เข้าเรียนได้ ต้องมีภาษาอังกฤษ มีเกรดเฉลี่ยที่ดีพอสมควร โดยจะส่งเสริมให้อ่านหนังสือ
ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่เฉพาะเรียนแต่ไวยากรณ์
คุณสมบัติที่มหาวิทยาลัยท็อปเท็นจะเลือกเราคือ เราต้องมีเกรดเฉลี่ยที่ดีอย่างน้อย 3.00 ขึ้นไป และทำกิจกรรมมีทักษะหลายๆ ด้าน และในการเขียนใบสมัครเป็นส่วนที่สำคัญ ผู้ปกครองต้องคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ประวัติของลูกเด่นขึ้นมา ทางสหรัฐฯเองจะเน้นเรื่องการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นหรือทำกิจกรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเน้นเรื่อง
ของความสมดุลระหว่างการเรียนที่ดีและกิจกรรมที่ดี รวมทั้งการออกกำลังกายและทักษะในการใช้ชีวิต
สำหรับแม่ควรจะแบ่งมหาวิทยาลัยเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.มหาวิทยาลัยที่ลูกใฝ่ฝันอยากจะเข้า แต่อาจจะเกินเอื้อม 2 แห่ง 2.มหาวิทยาลัยที่อยู่ภายใต้ความสามารถของลูกเรา 10 แห่ง และ 3.มหาวิทยาลัยที่ลูกสามารถเข้าได้อย่างแน่นอน 10 แห่ง ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเอกชนในสหรัฐฯ จะบริการพาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้ปกครองต้องทำก่อนลูก
เข้าเรียน จะได้รับรู้สภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่นั่น
"อีกด้านหนึ่งของการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยในเมืองนอก พ่อแม่ต้องเตรียมใจ เพราะการดื่มเหล้าและปาร์ตี้ถือว่าเป็นปัญหาอันดับ 1 การมีแฟนและการนัดเดทเป็นเรื่องธรรมดา ต้องยอมรับชีวิตสังคมที่จะเปลี่ยน พ่อแม่ต้องทันลูก แต่ไม่ควรครอบงำหรือบังคับเขามากเกินไป
" ดร.นันทวรรณ กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1295608797&grpid=&catid=02&subcatid=0202