ความคิดเห็นที่ 1 การสอนเป็นการเปลี่ยนคน สอนแล้วไม่เปลี่ยนก็เสียเวลาเปล่าทั้งคนสอนคนเรียน ในที่นี้ จขกท จะสอนภาษาเขา ตัวเองก็ต้องเข้าใจก่อนว่าจะเปลี่ยนเขาในด้านไหน? เปลี่ยนด้านความรู้ อย่างที่เรียกว่าปัญญาพิสัย? หรือเปลี่ยนด้านความชำนาญ อย่างที่เรียกว่าทักษะพิสัย? หรือเปลี่ยนด้านความคิด อย่างที่เรียกว่าเจตคติพิสัย? การเปลี่ยนคนทั้งสามด้านนี้มีจุดประสงค์ต่างกันและวิธีการก็ต่างกันด้วย ใช้วิธีเดียวกันไม่ได้ ภาษาอังกฤษต้องการการเปลี่ยนคนในด้านความรู้และด้านความชำนาญเป็นหลัก เรื่องการเปลี่ยนความคิดนั้นมีบ้างแต่น้อย เมื่อตระหนักเช่นนี้แล้วจึงจะสามารถออกแบบวิธีการสอนให้เหมาะกับคนเรียนได้ การเรียนการสอนให้เปลี่ยนความรู้ จากไม่รู้กลายเป็นรู้ ปกติเขาก็ใช้วิธีบรรยายเพราะง่ายที่สุด แต่สอนภาษานั้นบรรยายอย่างเดียวไม่ได้เพราะคนเรียนอาจจะมีความรู้เต็มพุงแต่ใช้งานภาษาอังกฤษไม่เป็นเอาเลย จึงต้องมีการ่ฝึกความชำนาญหรือฝึกทักษะเข้ามาด้วยซึ่งต้องถือว่าสำคัญที่สุด เพราะความชำนาญนั้นถ้าไม่ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ไม่เก่ง และการฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีกนั้นที่สำคัญไม่ได้อยู่ตรงครูฝึกเท่านั้นแต่ว่าคนเรียนตัองไปฝึกเองตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง อยู่กับครูวันละชัวโมง ออกจากห้องไปก็วางทิ้งไว้ในห้อง อย่างนี้อีกร้อยชาติก็ไม่เก่ง ดังนั้นจะสอนอะไรบ้าง? ด้วยวิธีไหน? จขกท จะต้องไปวิเคราะห์ก่อน จะเดินดุ่ยๆไปสอนโดยที่ยังไม่ได้กำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของผู้เรียนว่าจะเปลี่ยนอะไรเขาเห็นจะไม่ได้ ไปวิเคราะห์มาก่อนนะครับ อยากให้เขารู้อะไร อยากให้เขาเป็นอะไรบ้าง แล้วต้องใช้ทรัพยากรอะไรในการเรียนการสอน โสตทัศน์อะไร? หนังสืออะไร? เทปอะไร? ซีดีอะไร? เว็บไหน? เป็นต้น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 05:08:09

ความคิดเห็นที่ 2 ในเมื่อจะเน้นเรียนการสนทนา ก็ต้องสอนให้ออกเสียงคำอังกฤษอย่างถูกต้อง เริ่มตั้งแต่การออกเสียงพยัญชนะอังกฤษที่ไม่เหมือนอักษรไทย คือ sh, (ต่างจาก ch ยังไง),  v, (ต่างจาก w ยังไง), z ต่างจาก s ยังไง, th ออกเสียงยังไง การออก accent ในแต่ละคำ คำอังกฤษตั้งแต่ 2 พยางค์ขึ้นไปจะมี accent ที่พยางค์หน้าหรือพยางค์หลังหรือพยางค์อื่น สอนให้ออกเสียง - present (noun) กับ present (verb) - desert (noun) กับ desert (verb) กับ dessert - คำหลายพยางค์ เช่น initiative, opportunity เป็นต้น ให้ดูวีดีโอคลิปที่มีฝรั่งอ่านออกเสียงให้เราอ่านตาม ในยูทูบมีเยอะแยะ ฝึกออกเสียงตามฝรั่ง ทั้งบทสนทนาด้วย เป็นต้น จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:00:04

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับคุณแอ๊ดนะคะ บางทีเราอยากให้ความรู้เค้าแทบตาย อยากรู้อะไรสูบได้เลยเต็มที่! เอาเล๊ย! แต่.....เด็ก "ไม่ ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น เบื่อ ไม่เอาอ้ะ ยาก" เจอเด็กอย่างนี้พลังใจของคนสอนจะวูบดับลงดื้อๆ บางคนก็มีความสุขกับการกินหญ้าข้างทางไปวันๆ ทำไมอ้ะ พ่อแม่รวย ไม่เคยต้องลำบาก จะเรียนไปให้หนักกบาล 'มัย? อยากบอกมาก ครูก็ไม่อยากเป็นนกเอี้ยง คอยจิกกินหมัด หาผลประโยชน์จากพ่อแม่หนูไปวันๆหรอกลูก สำคัญที่สุดคือ ครูไม่อยากให้ลูกศิษย์ครูถูกตราหน้าว่าเป็น "......" เอ่อ....จขกท. ก่อนจะเตรียมอะไรมากมาย โปรดดู ประเมินคนเรียนก่อนนะจ๊ะ ถ้าเข็นไม่ไป ไม่เอาอะไรสักอย่าง เดี๋ยวจะบันดาลโทสะได้ ^^" เตรียมยาดมไปด้วย อย่าลืม ^^ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:38:20

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนแรกเราเคยแต่ไปสอน conversation ตามบ้านกับสำนักงานซึ่งง่ายหน่อย แต่พอสอนเด็กนักเรียนครั้่งแรกก้อมืดแปดด้านเลย ไม่รู้จะสอนยังไง ก้อเลยขอหนังสือเรียนภาษาอังกฤษที่เด็กเรียนอยู่ที่โรงเรียนมาอ่านสำรวจดู แล้วพยายามสร้างสื่อการสอนขึ้นมาใหม่หมดให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันได้ ทำเหมือนกับ old wine in a new bottle นั่นก็คือให้เด็กเรียนเรื่องเดียวกับที่โรงเรียนนั่นแหละ (เพื่อการสอบผ่าน) แต่ใช้ teaching materials ที่ไม่เหมือนกัน (เพี่อไม่ให้เด็กเบื่อกับรูปแบบการเรียนการสอนเดิมๆที่จำเจ) แล้วค่อยคิดสอนให้ใช้งานในชีวิตจริงได้ (เพราะบางทีสอบได้กับใช้งานจริงมันไ่ม่เหมือนกัน และสอนๆไปลูกเขาสอบไม่ได้ดี พ่อแม่จะเพ่งเล็งเอา) สมัียก่อนสร้างสื่อการสอนดีๆทำยากมากๆ ต้องมีรายการตัดต่อทั้งหนังสือและเทปจากต่างประเทศซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงพอดู แต่เราว่าสมัยนี้ง่ายมากๆ ใช้ digital media จาก Internet ได้หมดเลย ไม่ต้องลงทุนเลยสักบาทเดียว ติวเตอร์แค่หิ้ว netbook ไปเครื่องเดียวก้อพอ(ซึ่งในนั้นจะมีเครื่องมือครบทุกอย่างเช่น dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ แบบเป็น software และ utility software ที่ช่วยจำศัพท์หรือช่วย organize topics ต่างๆ ฯลฯ) ไม่ต้องแบกหนังสือพะรุงพะรังไปเหมือนเมื่อสมัยก่อน แล้วไปต่อเน็ตความเร็วสูงบ้านนักเรียนหรือติวเตอร์จะใช้ aircard ใส่ sim ระบบ 3G เลยก้อได้ แต่ประการหลังค่าใช้จ่ายตกอยู่กับติวเตอร์ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 14:00:48 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:40:42