PANTIP.COM : K10188060 ทำไเรื่องหลายชีวิต ตัวเอกของเรื่องของเรื่องทำไมต้องตายด้วยนั่งเรือ [หนังสือ-การประพันธ์]

ความคิดเห็นที่ 5

สายันห์ เล็กอุทัย ผู้ร่วมก่อตั้ง ASTV และเป็นแกนนำเสื้อเหลือง เคยพิมพ์หนัีงสือแนวภูมิปัญญาตะวันออก ...(จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว...แต่มีหลายเล่ม)กับสำนักพิมพ์ผู้จัดการของสนธิ ลิ้มทองกุลหลายเล่ม โดยที่นำหนังสือต่างประเทศมาดัดแปลง แล้วทำได้แนบเนียนมากๆ

นั่นก็คือเขาเอาตำรา Zen Macrobiotics ของ นักเขียนญี่ปุ่น George Ohsawa (เดิมชื่อว่า 桜沢如一 Sakurazawa Yukikazu) กับของ Michio Kushi (ชื่อญี่ปุ่นคือ 久司道夫 Kushi Michio) มาเขียนเป็นภาษาไทย แล้วพูดว่า "คนจีนกล่าวไว้ว่า..." แต่จริงๆแล้วมันน่าจะเป็น "คนญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า..." เพราะ สายันห์ เล็กอุทัย เอามาจากคนญี่ปุ่น (ที่เขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษ) แล้วรูปภาพในหนังสือภาษาไทย สายันห์ เล็กอุทัย ดัดแปลงจากภาพเส้นเดี่ยวง่ายๆให้กลายเป็นลายพู่กันจีน สายันห์ เล็กอุทัย ทำได้แนบเนียนมากๆ คนไทยที่ไม่เคยศึกษาวิชา Zen Macrobiotics เป็นภาษาอังกฤษจะจับไม่ได้เลย และจะหลงคิดว่า สายันห์ เล็กอุทัยค้นคว้าจากตำราจีน (จริงๆแล้วเรื่องที่เขาค้นจากตำราจีนก้อมีบ้าง แต่น้อยนิด ส่วนใหญ่จะเอามาจากนักเขียนชาวญี่ปุ่น)

ลองไปอ่านแนวคิดภาษาไทยที่เอาของญี่ปุ่นมาได้ที่เวปนี้
http://songkhlahealth.org/paper/214

จริงๆแล้วถ้าจะหาบทความของสายันห์ เล็กอุทัยแนวนี้ น่าจะค้นได้อีกมากมาย โดยใช้ keywords พวกนี้คือ

สายันห์ เล็กอุทัย ผู้จัดการ
สายันห์ เล็กอุทัย หยินหยาง
สายันห์ เล็กอุทัย คนจีนกล่าวไว้ว่า
สายันห์ เล็กอุทัย ภูมิปัญญาตะวันออก

สายันห์ เล็กอุทัย พูดถึงวิธีตัดสินว่าพืชหรือสัตว์ชนิดใดมีพลังหยินหรือหยายโดยดูจากสัดส่วนของ sodium กับ potassium จริงๆแล้วแนวคิดนี้มาจาก George Ohsawa นั่นก็คือ George Ohsawa เคยทำการทดลองทางเคมีร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน และเขียนเรื่องนี้เอาไว้ในหนังสือชื่อ The Book of Judgement

สายันห์ เล็กอุทัย พูดเรื่องลักษณะของพีชที่มีพลังหยินว่ามีลักษณะดังเช่น
1. มีสัดส่วนของ โพแทสเซียมสูงในอาหาร
5. มีปริมาณน้ำหรือของเหลวอยู่สะสมภายในมาก เช่น แตงโมหรือมะพร้าว
6. ต้นไม้ที่ขึ้นตั้งตรงสูงชะลูดเสียดฟ้า เช่น ต้นไผ่ ต้นมะพร้าว ต้นตาล
^ู^
ข้อความแบบนี้ George Ohsawa กับ Michio Kushi เคยเขียนไว้ในหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ สายันห์ เล็กอุทัยแค่แก้ตัวอย่างต้นไม้เท่านั้นเอง
สายันห์ เล็กอุทัย พูดเรื่องลักษณะของพีชที่มีพลังหยางว่ามีลักษณะดังเช่น
1. อาหารที่มีสัดส่วนโซเดียม (เกลือ) สูง
6. พืชที่มีความชื้นหรือปริมาณน้ำภายในน้อย
7. พืช ผลไม้ที่ขึ้นขยายออกด้านข้าง แนวนอน
^ู^
ข้อความแบบนี้ George Ohsawa กับ Michio Kushi เคยเขียนไว้ในหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ สายันห์ เล็กอุทัยแค่แก้ตัวอย่างต้นไม้เท่านั้นเอง

แต่สายันห์ เล็กอุทัยบอกว่า แนวคิดมาจากคนจีน ซึ่งจริงๆแล้ว "ไม่ใช่" คนจีนลำดับหยินกับหยางไม่เหมือนกับญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่นในวิชาแทงเข็ม (acupuncture) คนจีนลำดับหยินกับหยางของอวัยวะตามพลังของ qi (พลังลมปราณ) ที่ไหลเข้าออกอวัยวะภายใน แต่ George Ohsawa ลำดับหยินกับหยางใหม่แบบฉบับญี่ปุ่นเพราะท่านถือว่ายุคนี้เป็นยุค "physical world" จึงลำดับหยินหยางตามลักษณะของอวัยวะมนุษย์ (เวลาพูดถึงหยินหยางเพื่อรักษาอาการป่วยของคน...จนบางทีหยินกับหยางของอวัยวะภายในของญี่ป่นกับจีนไปกันคนละเรื่องเลย แต่แทงเข็มของจีนและญี่ปุ่นก้อใช้ได้ผลเหมือนๆกัน...อย่างน่าประหลาด) ตามลักษณะของต้นไม้ (เวลาพูดถึงอาหาร) หรือตามลักษณะของสัตว์ (เวลาพูดถึงอาหาร)

ดร. สาทิส อินทรกำแหง เอาแนวคิดของ Zen Macrobiotics ของ George Ohsawa มาดัดแปลงเป็นชีวจิต คือทำให้เป็นแบบไทยๆง่ายๆ แต่ท่านก้อให้ credit ปรมาจารย์ George Ohsawa ไว้ ผลงานของท่าน ดร. สาทิส พลอยทำให้เราได้รับประโยชน์ไปด้วย เพราะตอนเรากลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ เราหาอาหาร organic ปลอดสารพิษกินไม่ได้ จนป่วยไปหลายปี ท่าน ดร. สาทิส มาช่วยชีวิตเราไว้โดยการกระตุ้นให้คนไทยรับประทานอาหารธรรมชาติ ก้อเลยมีกลุ่มเกษตรอินทรีย์ (organic farming) ผลิตอาหารออแกนิก เราเลยได้กินอาหารดีๆแล้วหายป่วยได้ในที่สุด...
แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 12:44:05

จากคุณ : fortuneteller

เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:32:15

ความคิดเห็นที่ 6

หากมองในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์กับการเมืองที่มองผ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ บังเอิญตอนนี้กำลังอ่านงานวิจัยของ ศ.สายชล สัตยานุรักษ์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง "คึกฤทธิ์กับประดิษฐกรรมความเป็นไทย" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชุดงานวิจัยเรื่อง "โครงการประวัติศาสตร์วิธีคิดเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมไทยของปัญญาชน พ.ศ. ๒๔๓๕-๒๕๓๕" โดยได้รับเงินอุดหนุนจาก สกว.ครับ

เรื่องหลายชีวิต หากมองบริบททางการเมืองในช่วงที่วรรณกรรมเล่มนี้ถือกำเนิดขึ้นมา คือช่วงต้นทศวรรษที่ ๒๔๙๐ ซึ่งมีเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในขณะนั้นคือ "สงครามเย็น" ทำให้อุดมการณ์ทางความคิดระหว่างฝ่ายซ้ายเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อปัญญาชนไทย ประกอบกับตัวของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เองในขณะนั้นแปรสภาพจาก "แอนตี้เจ้า" มาเป็น "นิยมเจ้า" อย่างเต็มตัวโดยเขียนนวนิยายเรื่อง "สี่แผ่นดิน" ออกมา ดังนั้น เพื่อต้องการ "ตอบโต้" แนวคิดฝ่ายซ้ายที่กำลังถ่าโถมเข้ามาในยุคนั้น ท่านชายคึกฤทธิ์จึง "ประดิษฐ์" ความเป็นไทย (Thainess) ขึ้นมา โดยเน้นไปที่บทบาทของกษัตริย์ และพุทธศาสนา ซึ่งเรื่องหลายชีวิตเป็นภาพตัวแทนความคิดเกี่ยวกับพุทธศาสนา และสี่แผ่นดินเป็นภาพตัวแทนของสถาบันกษัตริย์ของท่านชายครับ

ประเด็นที่ท่านชายคึกฤทธิ์ต้องการนำเสนอนั้นก็คือ สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ตัวละครทั้งหลายในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ลอย ละม่อม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะ "การกระทำ" หรือ "กรรม" ของแต่ละคน ไม่ใช้เกิดขึ้นเพราะ "ปัญหาโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจที่ไม่เสมอภาค" ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเขียนฝ่ายซ้ายในยุคนั้นกำลังชูประเด็นอยู่ครับ

และอาจารย์สายชลยังกล่าวอีกว่า "ม.ร.ว.คึกฤทธิ์พยายามทำให้ "คนไทย" มองสังคมและวัฒนธรรมไทยตรงกันข้ามกับที่นักเขียน "ฝ่ายซ้าย หรือ "ฝ่ายก้าวหน้า" เสนอ นั่นก็คือความไม่เสมอภาคทางสังคมไม่เป็นปัญหาใดๆ กลับเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อคนในสังคมมีความสัมพันธ์กันโดยรู้ "ที่สูงที่ต่ำ" ภายใต้กรอบแบบศีลธรรมของพระพุทธศาสนาแบบโลกียธรรม" ประเด็นนี้จะกลายเป็นที่มาของภาวะ "ความเงียบทางการเมือง" ในสังคมไทย

เพราะฉะนั้นการตั้งฉากให้ฉากสุดท้ายเป็น "เรือล่ม" นั้นก็ถือเป็นการหาคำตอบของท่านชายที่ว่า "ทำไมคนที่กระทำความดี กับความชั่วจึงได้รับผลตอบแทนอย่างเดียวกัน คือจมน้ำตายด้วยกัน และในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ คนทำชั่วบางคน (เช่น ลอยที่เป็นโจร) กลับมีความสุข แต่คนที่ทำความดี (เช่น ละม่อม) กลับมีความทุกข์" ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนในช่วงหลังสงครามโลกที่ชีวิตของคนไทยผกผันเป็นอย่างมาก เช่น ภาวะเงินเฟ้อทำให้ข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตประสบความเดือดร้อน แต่พวกที่โกงกินกลับสุขสบาย เป็นต้นครับ

สามารถดูรายละเอียดได้ที่ สายชล สัตยานุรักษ์. คึกฤทธิ์กับประดิษฐกรรมความเป็นไทย เล่ม ๑ ยุคจอมพลป. พิบูลสงคราม. กรุงเทพ : มติชน, ๒๕๕๐. (ในบทที่ ๓ หัวข้อ การปกครองแบบไทยและพุทธศาสนาครับ)

จากคุณ : ภารตยุทธ (ภารตยุทธ)

เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 17:40:34