ความคิดเห็นที่ 1 คนที่เป็นครูต้องพัฒนาตัวเองเสมอครับ :) มีหลักสูตรใหม่ๆ มีเทคนิคการสอนใหม่ๆ มีอะไรใหม่ๆ --และต้องดีให้กับคนเรียนตลอดครับ (ว่าไปตอนนี้ผมก็พยายามทำอยู่ เหนื่อยกว่าตอนสอนตัวเองอีก 5555) แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 54 08:39:28 จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 08:38:40

ความคิดเห็นที่ 2 สอนให้ได้เงิน ให้ดัง กับสอนเพื่อเป็นครูในอุดมคติ บางทีมันก้อไม่เหมือนกันนะ อย่างเช่นเราดู video clips ที่พวกติวเตอร์สอนให้จับประเด็นสำคัญๆได้ในการทำข้อสอบ เราว่าถ้าคนมาดูแล้วจะเลื่อมใสมากๆนะ เพราะมันจะทำให้นักเรียนระดับปานกลาง ที่ไม่อ่อนมาก ไม่เก่งมาก ทำข้อสอบทะลุเป้า ไปเรียนต่อได้ (แต่คนที่อ่อนมากๆเรียนแบบนี้กลายเป็นสอบตกหมด) แต่จบมากลายเป็นใช้ภาษาอังกฤษผิดธรรมชาติกันเกือบหมด...!!???...เว้นเสียว่าคนพวกนั้นไปอยู่ในสภาพแวดล้อมของการพูดภาษาอังกฤษมานานๆ หรือไม่ก้อไปค้นเจอตำราดีๆจากต่างประเทศเข้า แล้วศึกษาด้วยตัวเองอย่างหนัก เราเลยคิดว่าอาจารย์ในอุดมคติก้อคือคนที่สอนความรู้ต่ำสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองในอนาคต สอนแค่ให้ฟัง พูด อ่าน เขียนเรื่องง่ายๆในชีวิตประจำวัน ให้รู้วิธีสร้างประโยคให้เป็นธรรมชาติ (รู้วิธีเลียนแบบประโยคที่เจ้าของภาษาพูดหรือเขียน) ให้รู้ศัพท์แค่พอขยับไปใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษได้ ฟังกับอ่านบทเรียนจากต่างประเทศได้ รู้วิธีใช้ software ทุ่นแรงในการจดจำและ organize สิ่งที่เรียนรู้ รู้วิธีใช้ google ในการค้นข้อมูลเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง รู้วิธีสร้างบทเรียนภาษาอังกฤษ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของ digital media) ให้ตัวเองเรียน...ฯลฯ ที่คุณบอกว่า "แต่พอสองปีผ่านไป เหมือนผมสอนสิ่งเดิมๆ" แก้ได้โดยการฝึกคิดพลิกแพลง based on หลักการที่ว่า "หลายหัวย่อมหลากหลายกว่าหัวเดียว" นั่นก้อคือ ไม่ว่าคุณจะสอน grammar หรือ conversation ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก้ออย่าหวังพึ่งความเก่งของตัวเองเป็นหลัก แต่ให้ฝึกนำสื่อการสอนที่ฝรั่งเจ้าของภาษาึซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทำไว้ เอามา "เล่นแร่แปรธาตุ" แล้วคุณจะสร้างสื่อการสอนที่หลากหลายมากๆได้ ในขณะที่สร้างสื่อการสอนคุณก้อเรียนไปเองด้วยได้... คุณโชคดีที่สอนผู้ใหญ่ เพราะคุณสอนตามแนวที่เราคิดไว้ได้ ซึ่งเป็นแนวที่ไม่ได้สอนทำข้อสอบโดยตรง และเป็นการสอนให้นักเรียนฝึกคิด ฝึกค้นข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งในกระบวนการสร้างสื่อการสอนอาจารย์ก้อเรียนรู้ไปด้วย แต่ิวิธีการของเรา ถ้าไปสอนในมหาลัย แล้วซวยไปเจอเด็กอ่อนๆมากๆ (เพราะเรียนกับครูที่อ่อนมากๆมาแบบสะสมกันตั้งแต่ประถมและมัธยมมาแล้วเกิน 10 ปี) ซึ่งยากมากๆที่จะเยียวยา ได้ในระยะเวลาของหลักสูตรปริญญาตรี หรือโท การสอนแบบเป็นอาจารย์อุดมคตินักศึกษาที่อยากสอบผ่านเรียนจบไวๆ อาจได้ F หมด แล้วคุณก้อจะตกงาน คุณก้อเลยต้อง "หย่อนข้อลง" ให้นักศึกษาเรียนจบผ่านไปได้... เราจึงคิดว่าการสอนคนที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหู ให้พอสื่อสารได้ ให้มีพื้นฐานความรู้ และกระตุ้นความคิดสร้างสรรรค์ เพื่อที่จะให้เกิดความสนใจเรียนรู้ต่อไปได้ด้วยตนเอง (โดยใช้เครื่องมือไฮเทค เช่น ICT เข้าช่วย) และให้คิดเองเป็น มันเป็นอะไรที่ท้าทายมากกว่าการสอนนักเรียนเก่งๆ... เมื่อ 20 ปีที่แล้วเราเคยสอนภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้ไม่่สอนแล้ว คือเรากำลังเรียนภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆวันละนิดวันละหน่อย เอาไว้ตอนเราเรียนรู้มากกว่านี้ โดยการคิดวิธีสอนพลิกแพลงไปเรื่อยๆ แล้วเก็บสะสมมันไว้...ตอนนี้เอาไว้สอนตัวเองไปพลางๆก่อน...คือเมื่อก่อนเราเรียนแค่อาศัยประสบการณ์จากสิ่งแวดล้อม ไม่ค่อยได้เรียนทฤษฎี (คือไม่ได้เปิด textbooks) มันก้อเลยบางทียังมีข้อผิดพลาดบ้างพอสมควร แต่ตอนนี้เราพยายามหัดเรียนฤทษฎีกับหัดใช้เทคโนโลยีระดับสูงเป็นตัวช่วย ด้วย...ค่อยๆแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองไปเรื่อยๆ เราก้อเลยคิดว่า คงตอนอายุประมาณ 100 ปี แล้วเราอาจเก่งขึ้น และเราจะลองกลับไปสอนภาษาอังกฤษดูใหม่...เลยตอนนี้บางทีต้องฝึกวรยุทธ์จีนมากกว่าฝึกภาษาอังกฤษ เพราะกลัวจะเดินไม่ไหวซะก่อนตอนเก่งภาษาอังกฤษเมื่ออายุมากๆเข้า...555+++... แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 01:23:33 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 54 12:57:55 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 12:49:32

ความคิดเห็นที่ 3 ถามกลับ นรในอุดมคติของครูเป็นอย่างไร ครูในอุดมคติจริงๆก็เเตกต่างกันไปเเล้วเเต่ตัวนักเรียนตามวัยตามสถานการณ์ -ต้องการครูสอนสนุก ไม่น่าเบื่อ เเต่เนื้อหานำไปใช้ได้จริง พบได้เยอะถ้าสอนตามสถาบันภาษา -หรือครูใจดี ให้การบ้านน้อย บอกข้อสอบเยอะ พบได้เยอะถ้าสอนประจำตามรร มหาลัย -หรือบางคนต้องการเอาความรู้ของครูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเเต่ละครั้งเรียน พบได้เยอะถ้าสอนเเบบตัวตัวเเบบผ่านสถาบัน -หรือพวกที่ต้องการให้ครูนำทางนรให้ไปถึงฝั่ง พบได้เยอะถ้าสอนเเบบตัวตัวเเบบรับนรเอง ถ้า นร ทุกคนเป็นนรในอุดมคติของครู คือ มีความอยากเรียนรู้สูง ครูก็ทำไงก็ได้ให้เด็กได้ความรู้กลับไปเเละนำไปใช้ได้ใช้เป็นให้ได้มากที่สุด โดยเนื้อหาที่สอนก็เป็นปัจจุบัน ทันสมัยเสมอ บางที ครูนำอะไรดีๆเป็นประโยชน์มากมาเล่ามาสอนให้นรฟัง เเทนที่จะเห็นว่ามันมีค่ามาก กลับฟังเเล้วไม่ยอมจดไม่อยากจำ หรือพยามยามเเนะนำ เเต่ในใจนรกลับรำคาญ ว่าขี้บ่น เป็นต้น เทคนิกก็สำคัญ คือ ครูนอกจากสอนเเล้วยังต้องเป็นนักสังเกตุด้วย คอยศึกษาถึงจุดอ่อนจุดเเข็งของนรเเต่ละคน เทคนิกนี้ใช้กับคนนี้ได้ กับอีกคนไม่ได้ ตรงจุดนี้คุณก็ต้องเป็นนักเรียนซะเอง จากคุณ : Thaumaturge เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 15:55:33

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกๆ ท่านมากเลยครับ รู้สึกได้อะไรกลับไปคิดเยอะพอควรเลย หากใครมีอะไรแนะนำ รบกวนช่วยให้ความเห็นเพิ่มด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับ จากคุณ : กาย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 00:28:08 A:118.173.98.102 X: TicketID:303386

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ จขกท โชคดีแล้วที่สอนผู้ใหญ่ ถ้าสอนเด็กมหาลัย ต่อใ้ห้คุณสอนเก่งระดับเทพ แต่ถ้าเด็กอ่อนมากๆ กว่าคุณจะสอนให้เด็กรู้ภาษาอังกฤษพอใช้งานได้เป็นเรื่องเป็นราว เด็กอาจเรียนไม่จบทันรับปริญญา...แล้วถ้าอาจารย์เข้มงวดมากเกินไป อาจารย์ก้ออาจตกงานได้... ไปอ่านกระทู้นี้สิ แล้วจะเห็นภาพ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10211729/K10211729.html จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 01:31:55

ความคิดเห็นที่ 6 ครูสมศรี จากคุณ : โสดดูดี เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 16:19:01