ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆคุณแม่น่าจะอ่านหนังสือก่อนพาลูกไปเที่ยวน่ะครับ เช่นสมมติว่าวันนี้จะไปอยุธยา คุณแม่ก็เลือกหาหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอยุธยามานั่งอ่านก่อนหน้าสักหนึ่งอาทิตย์ หรือเลือกอ่านเฉพาะสถานที่ ที่เราต้องการไปก็ได้ ไม่ต้องอ่านทั้งหมด พวกหนังสือนำเที่ยวประเภทสารคดี นายรอบรู้ ที่ขายตามห้าง มักจะบอกประวัติความเป็นมาของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆอยู่แล้ว คุณแม่ก็เลือกในใจไว้ก่อนว่าจะพาลูกไปจุดไหน แล้วก็อ่านๆจำเอาจุดนั้น เป็นการได้ความรู้เพิ่มทั้งแม่ทั้งลูก สนุกดี ส่วนตามพิพิธภัณฑ์ ก็คงต้องลองหาดูจากในอินเตอร์เน็ตครับ ผมว่าได้ความรู้ครบเกือบทุกเรื่องและทุกสถานที่ หรือถ้าสนใจในการอ่านด้วย บอกรับนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ได้ครับ เช่นพวกศิลปะวัฒนธรรม หรือวารสารเมืองโบราณ หรือของกรมศิลป์ มีให้เลือกมากมาย เป็นการฝึกรักการอ่านไปในตัวอีกทาง ยินดีต้อนรับอนาคตนักโบราณคดีหรือนักประวัติศาสตร์ล่วงหน้าครับ... จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:39:56

ความคิดเห็นที่ 2 ชวนมาดูข้อมูล ที่ www.oknation.net/blog/voranai ครับ จากคุณ : วรณัย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 15:24:06

ความคิดเห็นที่ 3 เคยไปดูหนังสือที่ศูนย์หนังสือจฬา ที่นั่นหนังสื่อแนวๆนี้ก็เยอะนะครับ จากคุณ : ปุ้ม ครับ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 17:37:35

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าหนังสือน้องเค้าคงมีอยู่แล้ว แต่ที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประเภทเค้าเล่าว่าอะไรอย่างนี้  ตอนไปเที่ยวอยุธยาก็ซื้อหนังสือมาอ่านหลายเล่มมาก แต่ก็เป็นเพียงประวัติศาสตร์ พวกเกร็ดชาวบ้านเล่าก็ได้จากอ่านหนังสืออื่น ๆ  เช่นทำไมที่วังโบราณมีต้นพุทราเยอะ เค้าก็เล่ากันว่าพม่าเอาพุทรามาเป็นเสบียงแล้วถ่ายทิ้งไว้  เรื่องดาบที่พิพิธภัณฑ์สามพระยา ก็ได้ยินเล่ามาว่าไม่มีใครสามารถชักดาบออกจากฝักได้ มีแต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านสามารถชักได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ทำให้ประวัติศาสตร์สนุกขึ้นค่ะ ลองติดต่อเจ้าหน้าที่ที่พิพิธภัณฑ์ให้พาชมสิคะ เค้าเล่าเรื่องได้สนุกทีเดียว จากคุณ : iluvtravel เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:19:59

ความคิดเห็นที่ 5 ชื่นชมตัวน้องและคุณแม่มากๆค่ะ ปลื้มใจและภูมิใจแทนจริงๆ คุณแม่ลองติดต่อตามมหาวิทยาลัยที่มีภาควิชาประวัติศาสตร์ดูนะคะ น่าจะมีน้องๆนักศึกษารับติวหรือให้ความรู้ทางด้านนี้อยู่เยอะ ส่วนเรื่องพาไปทัศนศึกษา ก็น่าจะทำได้นะคะ เพราะนักศึกษาสายนี้ส่วนหนึ่งจะออกไปประกอบอาชีพมัคคุเทศน์กันเยอะ น่าจะช่วยน้องได้มาก นอกจากนี้บางครั้งทางภาควิชายังจัดค่ายโบราณคดีสำหรับเยาวชนอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ถ้าคุณแม่สนใจ ลองติดต่อทางคณะดูนะคะ หรือจะไปที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองเลยก็ได้ ศิลปากรเค้าเป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ แต่นักศึกษาน่ารักมีไมตรีจิตดี ลองถามพวกเค้าดูรับรองว่าคุณแม่ต้องได้ข้อมูลเพิ่มแน่นอนค่ะ ยินดีกับคุณแม่ด้วยนะคะที่มีลูกน่ารักและเก่งแบบนี้ ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ช่วยส่งเสริมน้องต่อไปนะคะ จากคุณ : pink cocktail เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:15:34

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบพระคุณทุกท่านค่ะที่สละเวลามาตอบและให้กำลังใจค่ะ เรืองหนังสือน้องมีเยอะมากๆ ค่ะ น้องอ่านเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่ไม่ใช่สำหรับเด็กวัยน้อง  น้องอายุเจ็ดขวบค่ะ อย่างของ มิวเซียมเพรสนี่มีทุกเล่มเลยเพราะมีภาพและรายละเอียดลึกๆ และอ่านของอาจารย์สันติ อะไรสักอย่างด้วยค่ะ  พอเขาอ่านหลายเล่มมันก็ตีกันค่ะ คือมันมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจ และในหลายเล่มก็ไม่ตรงกัน และเขาก็มาถามคุณแม่ คุณแม่ก็อ่านแต่ไม่เท่าเขา ตอบไม่ได้จริงๆ ค่ะ แล้วมันยากเกินที่คุณแม่จะสามารถตอบได้ค่ะ คุณแม่จะลองติดต่อไปที่มหาวิทยาลัยดูค่ะ  ตอนที่ไปพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เค้ามีพาชมเป็นหมู่คณะ คุณแม่ไปแค่สองคนถ้าคุณพ่อไปด้วยก็สามคนเลยเกรงใจค่ะ ขอบพระคุณมากๆ นะคะ จากคุณ : เพนเทน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 23:54:58

ความคิดเห็นที่ 7 blog ของคุณวรณัยน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ อ่านแล้วอยากให้ลูกไปเป็นศิษย์ก้นกุฎิเลยค่ะ จากคุณ : เพนเทน เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 00:12:53

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วควรคอยเตือนให้น้องเขามีสติและตั้งคำถามต่อเรื่องราวที่คนเขียนตลอดเวลามิให้หลงใหลให้ปัญญาอยู่กับตัวเข้าใจเสมือนประวัติศาสตร์ก็คือคำพูดคือความเห็นของคนในวันนี้ใส่กรอบแว่นตาของวันนี้มองกลับไปพิจารณาเมื่อวันวาน ไม่มีพระเอก ไม่มีตัวร้าย ไม่ใช่บทละคร ไม่มีอารมณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นไปตามเหตุ ปัจจัย ทำให้เกิดมีวันนี้ และมักไม่มีความจริงไหนเป็นบทสรุปสุดท้าย ความจริงสัมพัทธ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามการอธิบาย หลักฐาน ข้อมูลใหม่กว่า กระจ่างกว่า ไม่ยึดติดถือมั่นมีความหลากหลายในแต่ละคนคิด และทุกคนมีสิทธิคิด มีสิทธิ์แสดงความเห็น เราอ่านทำความเข้าใจค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเองและเราก็จะได้เป็นหนึ่งในความคิดเพิ่มขึ้นมาอีกคนเพื่อที่คนอืนจะได้นำไปสร้างกระบวนการคิดต่อๆไป แต่บางครั้งก่อนที่จะเข้าใจเนื้อหาก็อาจต้องทำความเข้าใจว่าใครเขียนอะไรอย่างไรเพื่ออะไรเพื่อตั้งหลักให้กับตัวเองไม่เคลิ้มหรือกลายเป็นเครื่องมือของใคร แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 00:15:25 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 00:14:02 จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 00:13:33

ความคิดเห็นที่ 9 ได้อ่าน Blog ของคุณวรณัยแล้ว อยากขอเรียนรู้บ้างเหมือนกันค่ะ ได้ความรู้ และแนวคิดต่าง ๆ เยอะเลย ^^ คุณเพนเทนค่ะ หากสนใจคนนำชมโบราณสถาน น่าจะลองดูข่าวสารของชมรม กลุ่มรักอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม หรือคณะตามภาควิชามหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาจมีการจัดทัศนศึกษาไปตามที่ต่าง ๆ ก็ได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่ไปอย่างนี้มักมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิไปด้วย ได้ท่องเที่ยวกับความรู้ไปในตัว จากคุณ : คนชื่นชอบนิยาย ^^ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 00:45:49