ความคิดเห็นที่ 1 พระราชินีวิกตอเรีย  ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องนี้ค่ะ จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:26:15

ความคิดเห็นที่ 2 ไฟร่ฟ้ายาจกเข็นใจ ปถุชนหนีไม่พ้นเรื่องกาม จากคุณ : jeeta09 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 10:57:56

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าวนึกว่าคุยเรื่อง ราชบุตรเขย จากคุณ : จิงใจ (nop2001) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 16:34:28

ความคิดเห็นที่ 4 แต่นางเอเลนอร์ เฮอร์แมนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงนะครับ แล้วทางราชสำนักปกปิดเรื่องนี้ อันที่จริงผมก็ไม่เชื่อเฮอร์แมนเท่าไร แต่คือมีรูปของพระนางวิกตอเรียทรงฉายกับจอห์น บราวน์ หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายพระราชสวามี แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:42:45 จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 20:19:47

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วเคยมีคนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่องHer Majesty Mrs.Brown จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 20:21:55

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่อง Her Majesty Mrs.Brown เป็นเรื่องของพระนางกับจอห์น บราวน์ ซึ่งแตกต่างจากเรื่อง The Young Victoria ที่แสดงถึงความซื่อสัตย์ในรักของพระนางกับเจ้าชายพระราชสวามี แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 20:37:36 จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 20:26:54

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนในเรื่องของพระนางแคโรไลน์ มาทิลดาแห่งเดนมาร์กเลยอยากทราบว่าในรัชสมัยเดนมาร์กนั้นมีการประหารชีวิตที่เฮอร์แมนเขีบนไว้จริงหรือเปล่า ที่ผู้ชายจะถูกตัดมือก่อนแล้วค่อยตัดหัวไปเสียบประจาน ส่วนสตรีจะถูกตัดมือแล้วตัดหัว จากนั้นร่างจะถูกกรีดและเอาไส้ออกมาตอกติดกับล้อรถ แขนขาถูกตัดออกมาติดกับอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นการประหารตามวิธีแบบเดนมาร์กในศตวรรษที่ 17 และ 18 รูปพระนางแคโรไลน์ มาทิลดาแห่งอังกฤษ ราชินีแห่งเดนมาร์กผู้อาภัพ จากคุณ : 111 (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 20:33:28

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วกอยากทราบว่าทำไมพระนางวิกตอเรีย ถึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 ก็ในเมื่อพระเจ้าวิลเลียมยังทรงมีพระญาติที่เป็นชายอีกมากมาย ทำไมถึงทรงเลือกเจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเคนท์เป็นรัชทายาทล่ะคับ จากคุณ : 555 (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 20:36:40

ความคิดเห็นที่ 9 หนัง The Young Victoria นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ควีนวิกทรงพบกับเจ้าชายอัลเบิร์ตใหม่และอภิเษกสมรสกัน ส่วนหนัง HM Mrs.Brown นั้นหลังพระสวามีสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ประมาณว่า ควีนวิกโทมนัสมาก แล้วก็มีบราวน์คนที่ว่าเหมือนมาปลอบประโลม ดามหัวใจ ไรประมาณนี้ ส่วนเรื่องที่ว่ามีความสัมพันธ์กับบราวน์นี้จริงหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ส่วนการสืบสันตติวงศ์ของควีนวิกตอเรียนั้น เมื่อแรกเริ่มรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 นั้น พระองค์ทรงมีพระราชธิดา 1 พระองค์แต่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ทรงพระเยาว์ นอกจากนี้ก็ทรงมีพระโอรสและพระธิดาอีก 10 พระองค์ แต่ล้วนเป็นพระราชบุตรนอกสมรสทั้งสิ้น เพราะเกิดจากนางสนม ไม่มีสิทธิ์ขึ้นพระนามอยู่ในลำดับการสืบสันตติวงศ์ ราชบัลลังก์จึงตกมาอยู่กับพระญาติในสายที่ใกล้ที่สุด ก็คือเจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเคนต์ ซึ่งเป็นพระภาคิไนย หรือหลานแท้ๆ เพราะพระบิดาของเจ้าหญิงวิกตอเรีย คือเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเคนต์ เป็นพระราชโอรสองค์ 4 ซึ่งถัดจากพระเจ้าวิลเลียม ซึ่งเป็นพระองค์ที่ 3 ส่วนพระญาติพระองค์อื่นๆ คือพระอนุชาองค์ถัดๆมา ได้แก่ ดยุคแห่งคัมเบอร์แลนด์ ก็ไปเป็นกษัตริย์แห่งแฮนโนเวอร์ อยุคแห่งซัสเซ็กซ์ ดยุคแห่งเคมบริดจ์ เจ้าชายอ๊อกเตเวียส และเจ้าชายอัลเฟรด (สองพระองค์สุดท้ายสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์) ส่วนเรื่องของควีนแคโรไลน์ มาทิลดานั้น ผมหาอ่านมาแล้ว ในวิกิบ้าง เว็บอื่นๆบ้าง ก็มีการประหารแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่ได้เกิดกับพระนาง แต่เรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวนั้นมีจริง ทรงมีความสัมพันธ์กับหมอชาวเยอรมันคนนึง แล้วพระสวามี คือพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 ก็ทรงทราบ และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระนางคบกับหมอคนนั้นได้ กลับทรงปิติยินดีด้วยซ้ำที่มีคนมาเติมเต็มความรักให้พระนางแทนพระองค์ได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นวิกลจริต ทั้งสองจึงคบกันในสายพระเนตรของพระเจ้าคริสเตียนตลอด ควีนแคโรไลน์ก็เป็นที่รักของประชาชน แต่งตั้งหมอเยอรมันคนนี้เป็นราชเลขานุการในพระองค์ แพทย์ประจำพระองค์พระเจ้าคริสเตียน ขุนนางชั้นสูงจนถึงนายกรัฐมนตรีตามลำดับ พระนางแคโรไลน์กับหมอชู้รักมีพระธิดาด้วยกันคือ หลุยส์ ออกัสต้า ซึ่งหลังจากประสูติ พระนางก็ให้พระเจ้าคริสเตียนรับพระธิดาองค์นี้ไว้เป็นสมาชิกราชวงศ์ ทรงกราบทูลว่าพระธิดาองค์นี้เป็นพระราชบุตรสืบสายพระโลหิตของพระองค์ พระองค์ก็ทรงเชื่อ จึงทรงรับและให้ทำพิธีจุ่มศีลล้างบาป สถาปนาเป็นเจ้าหญิงหลุยส์ในเวลาต่อมา จนเมื่อพระมารดาเลี้ยง คือควีนจูเลียน่า พระพันปีหลวง ทรงไม่ชอบพระนางแคโรไลน์มาแต่ไหนแต่ไร พยายามจะยึดอำนาจ ทรงใช้ความวิกลจริตของพระโอรสเลี้ยง ในการอนุมัติการจับกุมหมอเยอรมันและพระนางเเคโรไลน์ ในข้อหาคบชู้และให้หย่ากับพระเจ้าคริสเตียนทันที ควีนจูเลียน่าทรงใช้อุบายหลอกหมอว่า พระนางแคล (ขอเรียกพระนามย่อนะ อิอิ) ทรงสารภาพแล้วว่าคบชู้จริง หมอจึงสารภาพหมดทุกอย่าง ศาลจึงตัดสินให้ประหารชีวิต ซึ่งการประหารชีวิตที่จขกท.ว่าก็ใช้กับหมอคนนี้แหละครับ ไม่ได้ใช้กับพระนางแคล พระนางจูจึงไล่พระนางแคลออกจากเดนมาร์ก แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 00:58:06 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 00:50:13 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 00:28:20 จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 23:59:23

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อ อิอิ พระนางแคลหวังว่าจะได้กลับอังกฤษเสียที แต่พระเจ้าจอร์จที่ 3 พระเชษฐา และพระมเหสี ไม่ทรงอนุญาต กลับตรัสว่าไม่ให้หญิงนอกใจสามีเข้าดินแดนอังกฤษ เพราะไม่ขอเกี่ยวข้องกับกรณีที่พระขนิษฐาของพระองค์ไปคบชู้ แม้กระทั่งพระมารดาเอง ซึ่งเคยไปอบรมพระนางแคลถึงเดนมาร์กมาแล้ว แต่พระนางแคลก็สวนพระมารดาไปอย่างทันควันจนพระมารดาไม่อยากจะได้ยินชื่อของพระนางแคลอีก ทำให้ชางอังกฤษเริ่มไม่ชอบพระเจ้าจอร์จที่ 3 ขึ้นมา อีกทั้งชาวเดนมาร์กก็ไม่ชอบพระนางจูเลียน่า เพราะทรงปกครองแบบเผด็จการ ใช้อำนาจกษัตริย์พร่ำเพรื่อ ต่างก่อจลาจล ไม่เห็นด้วยที่จะพรากราชินีอันเป็นที่รักยิ่งของชาวเดนส์ไป ส่วนประชาชนชาวเดนมาร์กก็มิได้ใส่ใจในพฤติกรรมนอกใจพระสวามีของพระราชินี พวกเขาพยายามหาวิธีที่จะให้พระนางมาทิลดากลับมาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระนางจูเลียนาที่เป็นเผด็จการ เป็นที่เกลียดชังของประชาชน แม้กระทั่งเป็นที่เกลียดชังของพระเจ้าคริสเตียนเอง พระนางแคลไปประทับอยู่ที่แฮนโนเวอร์แทน ทำให้ประชาชนแถบนั้นรับเสด็จกันด้วยความจงรักภักดี โดยได้ประทับไปอยู่ปราสาทเก่าๆ และไม่ทรงม้าอีกเลย เพราะจะทำให้นึกถึงหมอคนนั้นทุกครั้ง จนเมื่อมีเหล่านักการเมืองมาขอเฝ้าพระนางแคล กราบทูลว่าจะทำการปฏิวัติโค่นอำนาจของพระนางจูล พระนางแคลทรงตกลง แต่ก่อนที่จะเสด็จกลับเดนมาร์ก ทรงประชวรหนักและสวรรคตเสียก่อน ส่วนพระนางจูล หลังจากขับไล่พระนางแคลแล้ว ก็ปกครองในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อ และทรงเลี้ยงดูเจ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าคริสเตียนให้อยู่ในกรอบของพระนางตลอด ไม่ใคร่ให้พบปะกับใคร โดยเฉพาะเจ้าหญิงหลุยส์ (พระธิดาของพระนางแคลกับหมอ) ซึ่งเจ้าฟชายเฟรดสนิทด้วยมากที่สุด เจ้าชายเฟรด ซึ่งไม่ชอบพระอัยยิกาคนนี้มาแต่ไหนแต่ไร เพราะทรงทราบว่าพระนางทำไว้กับพระบิดาพระมารดาอย่างไรบ้าง เมื่อเจริญพระชันษาขึ้น ทรงถูกพระนางบีบบังคับให้โอนถ่ายอำนาจให้ แต่เจ้าชายเฟรดก็ใช้อุบายให้พระบิดาแต่งตั้งพระองค์เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระนางจูล ชาวเดนมาร์กต่างยินดีกันถ้วนหน้าหลังจากสิ้นสมัยเผด็จการแล้ว ส่วนพระนางจูลทรงยอมแพ้และวางมือจากการเมือง และทรงใช้ชีวิตตามปกติจนกระทั่งสวรรคต พระบรมศพถูกชาวเดนมาร์กถ่มน้ำลายใส่นานหลายปี ส่วนเจ้าชายเฟรดก็ครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาเป็น กษัตริย์เฟรเดอริกที่ 6 และเป็นที่รักของเดนมาร์กสืบมา จบ....บริบูรณ์ เอาไปทำเป็นหนังได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:46:51

ความคิดเห็นที่ 11 สมเด็จพระราชินีแคโรไลน์ มาทิลดาแห่งเดนมาร์ก จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:53:10

ความคิดเห็นที่ 12 นายแพทย์โจฮันน์ ฟรีดริช สตรูซี ชาวปรัสเซีย ชู้รักของพระนางแคล จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:54:58

ความคิดเห็นที่ 13 สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์ก จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:55:38

ความคิดเห็นที่ 14 สมเด็จพระราชินีจูเลียน่าแห่งเดนมาร์ก พระบรมราชชนนี จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:56:27

ความคิดเห็นที่ 15 สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริคที่ 6 แห่งเดนมาร์ก จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:57:23

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : มวลชน (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 16:55:32

ความคิดเห็นที่ 17 พระเจ้าวิลเลียมที่ 4 แห่งอังกฤษทรงไม่มีจิตปฏิพัทธ์ในพระนางอเดเลดใช่มั้ยคับ หรือเพราะทรงมีพระธิดาแล้วพระนางไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้อีก อันทำให้เจ้าหญิงวิกตอเรียได้เข้ามาครองบัลลังก์ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 17:45:32 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 17:33:51 จากคุณ : มวลชน (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 17:14:51

ความคิดเห็นที่ 18 จากที่ผมอ่านใน Sex with the king เห็นว่าพระองค์ทรงมีบุตรหลายคนกับพระสนม โดโรเธีย จอร์แดน จากนั้นพระองค์ก็ไม่สนใจเธออีกเลย รวมทั้งลูกๆของเธอก็ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว โดโรเธีย จอร์แดน จากคุณ : มวลชน (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 17:22:14

ความคิดเห็นที่ 19 ในสเปน ที่ผมสงสัยคือ ที่เอเลนอร์ เฮอร์แมนเขียนไว้ว่า เนื่องจากการคบชู้ของพระนางเจ้าอิซาเบลลาที่ 2 แห่งสเปนกับคาร์ลอส มาร์ฟัวรี อันเป็นเหตุให้ประชาชนไม่พอใจแล้วลุกฮือขึ้นปฏิวัติพระนางแล้วเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ พระนางต้องเสด็จลี้ภัย อยากทราบว่าเป็นความจริงตามที่เฮอร์แมนเขียนไว้หรือเปล่า พระนางเจ้าอิซาเบลลาที่ 2 แห่งสเปน จากคุณ : มวลชน (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 17:30:50

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องพระนางวิคตอเรียนั้น ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ แต่ก็มีการยืนยันถึงมิตรภาพของทั้งสอง พระนางวิคตอเรียในยามเป็นม่ายเหมือนไร้ที่พึ่งทางใจค่ะ พระนางอยู่สูงสุดของจักรวรรดิ มีทุกสิ่งเพียบพร้อม แต่ก็น่าจะทรงขาดความสุข ซึ่งแม้แต่หญิงม่ายสามัญชนอาจจะมีความสุขกว่า (อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องการบ้านการเมืองเหมือนพระนาง) เจ้าชายอัลเบิร์ตนอกจากเป็นที่รักของพระองค์ยังเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญ ระยะเวลาที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันนั้นมิใช่น้อย เมื่อเสียพระราชสวามีย่อมไม่แปลกที่ความโศกเศร้าจะหนักหน่วง นายบราวน์ ถือเป็นเพื่อนในจำนวนน้อยนิดที่เป็นเพื่อนแท้ๆของพระนาง นายบราวน์นั้นเป็นคนตรงๆ ทื่อๆ นักเลงๆ ไม่เกรงใจ (ท้าทายกระทั่ง Prince of Wales เลย) จะมีสักกี่คนที่กล้าอาจเอื้อมมาปลอบพระนาง พระนางเหมือนนักโทษในกรงขังที่เรียกว่าตำแหน่ง Queen ผู้ปกครองคนนับล้าน จะอ่อนแอให้ใครเห็นก็แทบไม่ได้ ดังนั้นการที่นายบราวน์กลายเป็นคนโปรด และเพื่อนในยามทุกข์ ยามชรา น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้พระนางยืนหยัดต่อไปได้ หากทั้งสองรักกันก็เป็นรักในยามโรย มันคงไม่ใช่รักแบบตัณหานำเหมือนหนุ่มสาว เพราะต่างก็มีอายุแล้ว คงเป็นเพื่อนใจกันมากกว่า จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 21:07:47

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องของนายจอห์น บราวน์ นั้น ตอบได้ยากว่าจริง หรือไม่จริงครับ แต่สิ่งจริงแน่นอนคือ ควีนทรงสนิทสนมกับนายจอห์นมากกว่าข้าราชบริพารทั่ว ๆ ไป ข้อเท็จจริงอีกสองประการก็คือ มีการ (ซุบซิบ) และแอบถวายพระราชสมัญญาให้ควีนว่า "Empress Brown" จริง และเจ้าชายแห่งเวลส์ ทรงเกลียดชังนายจอห์น บราวน์มาก จากคุณ : ohmygodness เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 21:11:08

ความคิดเห็นที่ 22 อยากทราบเรื่องของพระนางเจ้าอิซาเบลลาที่ 2 แห่งสเปนด้วยคับตามคห.19 จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก (มวลชนผู้ทุกข์ยาก) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 22:31:07

ความคิดเห็นที่ 23 สงสัยเพิ่ม จากคุณ : มวลชนผู้ทุกข์ยาก เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 08:46:20