คันไม้คันมือ เห็นกลอนของเก่า ก็เลยสะบัดปลายปากกา แปลเป็นร้อยกรอง กาพย์ยานี 11 เอามาฝากให้อ่านกัน แล้วก็เลยขอแตกกระทู้ไปแปะใหม่ เผื่อคนอื่นจะได้อ่านบ้าง
เมื่อยามเจ้าแย้มสรวล โลกสำรวลสรวลกับเจ้า
เมื่อไห้ใจโศกเศร้า เจ้าหดหู่อยู่เอ้กา
ต้องยืมความสนุก เติมแก้ทุกข์อันหนักหนา
ทั่วโลกทุกหน้าตา มีปัญหาเกินพอเพียง
ยามเจ้าขับกล่อมไพร ภูน้อยใหญ่ร่วมซ้องเสียง
ยามถอนใจจำเรียง เสียงโหยหายในสายลม
ยามลิงโลดโห่ร้อง ย่อมกึกก้องเสียงประสม
ยามโอดโอยระทม เขากระเถิบกระถดถอย
เมื่อเจ้าหฤหรรษ์ เขาผายผันตามติดต้อย
เมื่อเจ้าต้องเศร้าสร้อย เขากลับเบือนบ่ายหน้าหนี
เมื่อสุขสนุกนัก เขาร่วมตักตวงเต็มที่
เมื่อทุกข์ทับทวี เขาไม่แบ่งให้เบาบาง
หากมีเรื่องดีใจ มากมิตรไซร้มาร่วมทาง
หากมีเรื่องหม่นหมาง มวลมิตรหายไร้ร่องรอย
ชวนลิ้มสุราบาน รสหอมหวานไร้คนถอย
ดื่มยาขื่นขมหน่อย เชิญเจ้าดวดแต่เดียวดาย
แม้นอิ่มหมีพีมัน เรือนเจ้านั้นแน่นสหาย
แม้นอดอยากเจียนตาย โลกผ่านผันมิหันมอง
มีชื่อมีเงินตรา สร้างบุญญานับหน้าผอง
ยามตายควรตรึกตรอง ใครที่ไหนจักช่วยฝืน
คูหาแห่งสุขศรี ยังมีที่ให้หยัดยืน
แห่แหนกันครึกครื้น กระบวนยาวดูยิ่งยง
คนเราทุกรูปนาม ต่างติดตามเรียงแถวตรง
ผ่านช่องอันต้องปลง ทุรคมมิเว้นคน