ความคิดเห็นที่ 1 การใช้คำว่า เตียงหัก เป็นการดูถูกฝีมือช่างทำเครื่องเรือนเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 16:27:14

ความคิดเห็นที่ 2 "เตียงหัก" = เตียงหักแยกออกจากกัน ไม่สามารถใช้นอน(ร่วมกัน)ได้อีกต่อไป ผมว่ามันก็สื่อความหมายได้อยู่นะ...^^! จากคุณ : inspector G เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 16:43:35

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยใหม่ ไม่ได้ใช้ เตียงสักเท่าไร จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 17:11:28

ความคิดเห็นที่ 4 เตียงหัก   คือซื้อเตียงใหม่เท่านั้น   เหมือนคู่ที่เลิก คู่ที่แยก  ไม่สามารถมาอยู่ร่วมกันได้อีก ถ้าเตียงฝุ่นจับ  ก็ปัดกวาดได้นี่คะ    เตียงฝุ่นจับน่าจะใช้กับการเเยกกันอยู่มากกว่าค่ะ ---------------------------- จาก  มโนอุปลักษณ์(Conceptual Metaphor)   =   [การครองคู่สมรส  คือ  อุปกรณ์ในห้องนอน] แบบเปรียบ(Source Domain):อุปกรณ์ในห้องนอน                     สิ่งที่ถูกเปรียบ(Target Domain) : การครองคู่สมรส ร่วมเรียงเคียงหมอน  --------------------------------->    เริ่มแต่งงาน เตียงหัก --------------------------------------------->    หย่า การเปรียบเทียบดังนี้  แสดงว่าคนไทยมีชุดความคิดการครองคู่เทียบกับอุปกรณ์ในการนอนในระบบความคิดหรือระบบปริชาน (Cognitive Sytem) มาก่อนหน้านี้แล้ว จากคุณ : Language & Culture (แฟนนายแบบ) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 18:09:50

ความคิดเห็นที่ 5 นอกจากนี้คนไทย  ยังมีมโนอุปลักษณ์(Conceptual Metaphor)   [ความรัก คือ ไฟ] ในระบบปริชาน(Cognitive Sytem) ด้วยค่ะ -------------------------- แบบเปรียบ(Source Domain):ไฟ                     สิ่งที่ถูกเปรียบ(Target Domain) : ความรัก เชื้อไฟ  --------------------------------->    ความน่าสนใจของฝ่ายตรงข้าม  ตัณหา และธรรมชาติเรียกร้อง การจุดไฟ ------------------------------->    การพยายามเริ่มความสัมพันธ์ การลุกโหมไฟ------------------------------>     การซั่มกัน   การดื่มด่ำในเสน่หา การหรี่ไฟ ------------------------------->    การห่างกันสักพัก ไฟมอด--------------------------------->    เลิกกัน   เริ่มเฉด เเยกกันอยู่ ถ่านไฟเก่า ----------------------------->    แฟนเก่า  คู่เก่าจะรัก/ซั่มกันใหม่ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 18:32:11

ความคิดเห็นที่ 6 พอเข้าใจแล้วครับ แต่ผมไปมองในเชิงว่า เตียงถูกใช้มาก มันเลยหัก นั่นจึงหมายความว่ารักกันดี ผมว่าคำนี้ เหมือนเหรียญสองหน้านะ แล้วแต่ว่าจะมองยังไง ขอบคุณทุกความเห็นครับ จากคุณ : อรชรอ้อนแข้ง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 20:04:57

ความคิดเห็นที่ 7 บังเอิญตอนที่เตียงถูกใช้มากๆ ภรรยาแกไม่อยู่นะซิ จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า ผมใคร่เรียก เตียงแอ่นแคร่คลอน เสียมากกว่าครับ อย่างเช่น แหม คู่นี้แต่งงานกันไม่ถึงเดือน ก็เตียงแอ่นแคร่คลอน ต้องซื้อเตียงใหม่เสียแล้ว สงสัยจะได้ลูกหัวปีท้ายปี จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 02:15:28

ความคิดเห็นที่ 9 "เตียงหัก" ในบริบทสังคมไทย ไม่น่าใช้กับ "การที่หญิงกับชายเลิกกัน" นะ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ "บ้านแตกสาแหรกขาด" ซะมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเพณีที่ชอบดูถูกผู้ชายไทยว่าไม่เอาไหนเรื่อง sex โดยการกำหนดให้ผู้ชายจ่ายค่าสินสอด ซึ่งเรามองดูว่ามันเป็นค่าทำขวัญที่ผู้ชายไม่ได้ให้ความสุขผู้หญิง แต่ทำให้ผู้หญิงเจ็บตัวลูกเดียวก้อเลยต้องจ่ายแก้วแหวนเงินทอง รถ บ้าน ที่ดิน ให้เป็นการชดเชยให้ผู้หญิง...(ดังนั้นผู้ชายไทยทุกคนที่เก่งเรื่อง sex ควรประท้วงให้เลิกราประเพณีจ่ายสินสอดแก่ผู้หญิง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แ่ก่ตัวผู้ชายเอง...555+++...)มันก้อเลยโยงใยกับคำว่า "บ้านแตกสาแหรกขาด" ซะมากกว่า...อิๆๆ... ส่วนคำว่า "เตียงห้ัก" นั้น พวกฝรั่งชอบใชักันในการประโคมข่่าวว่า "รักกันจนเตียงหัก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอน Elizabeth Taylor ไป honeymoon กับสามีใหม่ของเธอ (จำไม่ได้แล้วว่าคนไหนเพราะมีหลายคนเหลือเกิน) หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า "Elizabeth Taylor มีความสุขกันสามีใหม่มากซะจนเตียงหักสะบั้น...!!!"... หลังจากอ่านข่าวนี้ เรากก้อเลยเริ่มคิดอะไรแหกคอกออกไป...ในทางตรงกันข้าม นั่นก้อคือ ในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิประมาณลบ 3-4 องศาเซลเซียส คืนหนึ่งตอนเที่ยงคืนเราแอบปีนรั้วเข้าไปในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในนครลอนดอนแล้วไปฝึกมวยไทยโดยการออกอาวุธแบบไม้พันลำอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงเป็นชั่วโมง จนกล้ามเนื้อล้าเหนื่อยจนทนไม่ไหวต้องหยุดก่อน แต่ปรากฎว่า "หนาวขนาดนั้นเหงื่อไม่ออกแฮะ...!!???" แต่ในคืนต่อมาในขณะที่อุณหภูมิยังคงเท่าเดิมเรากลับไปที่เดิมอีกในเวลาเดียวกัน แล้วฝึกรำมวย taijiquan (太極拳)ของ สำนัก Wudang ช้าๆเบาๆ สบายๆตัว คือ relaxed completely รำอยู่ประมาณ 45 นาที พบว่า "เราร้อนผ่าวทั้่งร่างเหมือนไฟเผาจนมีไอสีขาวๆปลิวกระจายออกมารอบๆตัวแล้วเหงื่อออกจนท่วมตัว เปียกโชกไปหมดทั้งร่าง" จนเราทนความร้อนไม่ไหวต้องแก้ผ้าล่อนจ้อนกลางหิมะ ถึงจะรำมวยต่อไปได้ หลังจากประสบการณ์อันมหัศจรรย์นี้ เราลอง "เปลี่ยนเทคนิคในการทำรักใหม่" โดยการใช้ "ความนุ่มนวลกับสมาธิอันแก่กล้า (ส่ง qi (กำลังภายใน) ผ่านส่วนต่างๆของอวัยวะที่ใช้ทำกิจกรรม"...ผลปรากฎว่า "การทำรักในรูปแบบนี้ ซึ่งไม่พยายามอวดเก่งทำแรงๆให้เตียงหัก กลายเป็นได้ผลมากกว่า เพราะ qi ที่ส่งไปให้ partner(คู่ที่ทำรักด้วย) สามารถโน้มน้าวจิตและประสาทเธอให้คล้อยตาม ไปได้ และทั้ง 2 คนสามารถสื่อสารกันได้ในระดับ spiritual plane และไปถึงจุดหมายปลายทางได้ง่ายมากกว่า และมีความสุขมากกว่าการพยายามใช้ความรุนแรงจนเตียงหัก..." จึงนับได้ว่าปรัชญาของเต๋าที่สอนเรื่อง non-action action (การกระทำโดยไม่กระทำ) และเ้รื่อง using softness to overcome hardness (การใช้ความอ่อนสยบความแข็ง) ใช้ได้ผล ไม่เพียงแต่จะในด้านวรยุทธ์เท่านั้น แต่ยังใช้ได้ผลกับ love making อีกด้วย สรุป คำว่า "เตียงหัก" มัน out of place ไม่ควรนำมาใช้กับความสัมพันธ์ของหญิงชายคู่ใดๆเลย ไม่ว่าจะหมายถึง "รักกันปานจะกลืน" หรือ "เลิกรากัน ไม่อยากเห็นหน้ากันอีกชั่วชีวิต"... แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 18:38:07 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 54 18:34:40 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 18:25:12

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าจริงจังกับคำที่สื่อไทยประดิษฐ์ขึ้นมาใช้เป็นพาดหัวข่าวเลยครับ เขาใช้ความรู้สึกส่วนตัวว่าคำนี้คำนั้นใช่แล้ว (ด้วยความภาคภูมิใจว่าเก๋เท่ห์ซะเหลือเกินละ) ผมไม่ทราบว่าหนังสือพิมพ์ฉบับใดใช้คำนี้พาดหัวข่าว แต่ก็ไม่แปลกใจในวิธีการเลือกใช้คำหรือประดิษฐ์คำพาดหัวข่าวของคนพวกนี้ เพราะมันช่วยขายหนังสือพิมพ์ได้ กาละครั้งหนึ่งนานมากแล้ว หนังสือพิมพ์ที่อ้างว่ามีจำนวนพิมพ์และขายมากที่สุดในประเทศไทย ใช้คำแทนทีมชาติฟุตบอลเยอรมันว่า "ทีมนาซี" ในข่าวกีฬา คิดว่าเก๋เท่ห๋ มาก ร้อนถึงสถานฑูตเยอรมันประจำประเทศไทยต้องออกมาประท้วงว่าประเทศเยอรมัน ไม่ใช่ประเทศนาซี ทีมชาติฟุตบอลเยอรมันก็ไม่ใช่ "ทีมนาซี" น่าเศร้า จากคุณ : ทัศนะ (Tassna) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 20:07:52