มีบุญหรือไม่มี อัศจรรย์หรือไม่อัศจรรย์ เราก้อว่ามันขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนแก่อายุเป็นร้อยด้วย....!!!!!
ย่่าเราตอนเสีย อายุท่านก้อเกือบๆร้อยปีเหมือนกัน ขาดไปแค่ ปีสองปีเอง แต่ท่านก้อไม่แข็งแรงนัก ส่วนพ่อเราตอนนี้ก้อใกล้จะ 90 เข้าไปแล้ว พ่อเคยบอกเราว่าพ่อเกิดหลังหลวงพ่อคูณเพียงแค่วันเดียวเอง ซึ่งรู้สึกว่าหลวงพ่อคูณท่านก้้อเพิ่งฉลองครบรอบวันเกิด 87 ปีไปเมื่อปีที่แล้วนี้ ตามกระทู้นี้
http://www.khaoyaizone.com/news_index.php?sub=news_show&art=30
ดังนั้นปีนี้หลวงพ่อคูณกับพ่อเรา ทั้งสองคนก้ออายุปาเข้าไป 88 แล้ว น่ะสิ
พ่อเราตอนนี้ถึงจะใกล้ 90 เต็มทีแล้ว แต่สุขภาพพ่อเราดีกว่าย่าเราตอนอายุมากๆนะ เพราะพ่อยังเดินเหินได้ึึคล่องโดยไม่ใช้ไม้เท้าเลยหละ พ่่่อยังขับรถได้สบายๆ ช่วยตัวเองแบบว่าตื่นเช้ามาพ่อจะออกกำลังทุกเช้า ไม่ต้องมีคนดูแลพยาบาล แล้วพ่ออยากกินอะไรพ่อก้อขับรถออกไปซื้อมาหุงหากินเอง แบบหน้าตาเฉยเลย อ้ะ เราจะช่วยทำอาหารให้พ่อ แต่พ่อบอกว่า "ไม่ต้อง" พ่อจะทำเอง บางทีไปไหนด้วยกัน 2 คน เราจะเข้าไปช่วยพยุงพ่อเดินเหินหรือขึ้นจากรถ แต่เราโดนพ่อดุเอาว่า "ไม่ต้อง"...555+++...พ่อเราใจแข็งเด็ดเดี่ยวมากๆ (พ่อดูแลตัวเองได้ยอดเยี่ยมมากๆหลังจากที่แม่เราเพิ่งตายไปได้ยังไม่ถึงปีเลย) พ่อไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ พ่อเราเรียนเตรียมธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 5 พ่อเรียนหนังสือเก่งมากๆ (เป็นรุ่นคนมีชื่อเสียงที่จบกฎหมายจาก ม.ธรรมศาสตร์ แล้วเป็นเนติบัณฑิตรุ่นอาวุโส น่ะ) พ่อบอกว่า กลุ่มพวกเตรียมธรรมศาสตร์รุ่น 5 มีด้วยกันทั้งหมด 800 กว่าคน แต่ตอนนี้มีชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 300 กว่าๆคนเอง...ถ้าสมาชิกท่านใดตายไป ลูกหลานต้องส่งจดหมายไปแจ้งทางกลุ่มสมาคมพวกเขา แล้วกลุ่มสมาคมพวกเขาก้อจะส่งเงินมาช่วยงานศพ
แต่เราก้อว่ากรณีย่าเรากับพ่อเราน่ะ
"ก้อยังไม่ถึงระดับอัศจรรย์เรื่องอายุยืนหรอก"...
เราก้ออายุเกิน 60 แต่ก้อยังฝึกวรยุทธ์จีนกับโยคะอยู่ เรารำมวยจีนท่าที่เคลื่อนไหวร่างกายออกอาวุธอย่างรวดเร็วหนักหน่วงรุนแรงได้สูสีเฉินหลงกับ Jet Li เพียงแต่เรามั่วมากกว่า ในขณะที่เฉินหลงกับ Jet Li เขาเรียนวรยุทธ์จีนมาถูกหลักมากกว่าเรา เมื่อสองสามวันก่อนเรารำมวยหมัดเมาให้เพื่อนๆเราดู พวกเขาตกใจมากๆว่าเราเอนกระดูกสันหลังองศาประหลาดๆ พลิกกลับไปกลับมา ขณะออกลูกเตะสูงๆอย่างรวดเร็วหนักหน่วง ได้สบายๆ แล้วพวกเพื่อนๆเรางงว่าเราไม่หลังหักได้ไง เมื่อเราอายุขนาดนี้...!!!???...ตอนนี้หน้าตาเรายังดูเด็กกว่าอายุจริงเราหลายสิบปี
"แต่เราก้อยังไม่กล้าคุยว่า กรณีเรา มันอัศจรรย์ เรื่องสุขภาพดีเยี่ยม หรอกนะ...!!!??"
ถ้าใครมีชีวิตอยู่จนอายุเป็นร้อย แล้วเดินยักแย่ยักยันปวดเมื่อยตามตัว หรือบางทีถึงกับเดินไม่ไหวต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ลูกหลานต้องคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ แบบว่าทรมานสังขารสุดๆ อะนะ ต้องถือว่า มีกรรม ซะมากกว่า ไม่ใช่มีบุญ
คนที่ว่าอายุเป็นร้อยปีแล้วมีพลังมหาศาล (มีวรยุทธ์สูงส่ง) แบบ เจ้าสำนักเส้าหลิน คือ พระจากอินเดียที่มีนามว่า Bodhidharma (菩提达摩) หรือที่คนไทยเรียกว่า ตั๊กม้อ หรือแบบเจ้าสำนัก Wudang ซึ่งเป็นนักพรตเต๋า คือ Zhang Sanfeng (张三丰)) หรือที่คนไทยเรียกว่า จางซันฟง รวมทั้งพวกโยคี ที่ฝึกวิชาเร้นลับจน มีพลังโคจรทั่วร่างได้ ระดับเปล่งแสงออกมาเป็นประกาย คนพวกนี้ ตอนอายุเป็นร้อยๆปี กลับยังมีหน้าตาเด็กๆอยู่อย่างน่าทึ่งเลยจริงๆหละ...!!!??...คนพวกนี้สิ ถึงจะเรียกได้ว่า
อายุยืนแบบมีบุญ และเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างแื้ท้จริง
ตอนนี้เราก้อยังค้นคว้าเรื่อง esoteric arts (ศาสตร์เร้นลับ) แนวนี้ อยู่ แต่ตอนนี้ฉีกแนวจากแทนที่จะอ่านคัมภีร์โบราณ เรากลายเป็นเรียนรู้เรื่องพวกนี้จาก digital media เมื่อเร็วๆนี้เราไปได้ video clips สอนพวกวิชาโยคะระดับสูงมา พอดูๆไปแล้วตกใจมากๆที่ การฝึกสมาธิอย่างถูกต้องมันทำให้ร่างกายมีพลังจนมีแสงเป็นประกายทั่วอวัยวะภายในแผ่กระจายไปรอบตัว เหมือนแม่เหล็กไฟฟ้า และมีปฏิกริยาทางเคมี แบบเปลื่ยนร่างกายจากชราภาพให้กลับเป็นเด็กวัยรุ่นได้จริงๆ...(เหมือนคำสอนในคัมภีร์โบราณของเต๋า เลยหละ) ซึ่งทำได้ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า biological transmutation คือเปลี่ยน cells สมองและร่างกายแบบผ่าเหล่าผ่ากอ...
บางคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องโม้ หรือเป็นความเพ้อฝันของเรา แต่จากการค้นคว้าเรื่องพวกนี้มานานหลายสิบปี เรามีหลักฐานยืนยัน ได้ค่อนข้างแน่ชัดว่า
มนุษย์ที่ฝึก (ไม่ว่าจะตามแบบพุทธ เต๋า เซน ฮินดู หรือคริสต์ หรือศาสนาอื่นใดก้อตาม) จนถึงระดับ enlightenment แล้ว ก่อนจะกลายเป็นเซียน (หรือพระโพธิสัตว์) หรือนิพพาน (ศาสนาอื่นอย่างฮินดูก้อมีคนบรรลุนิพพาน)
"ร่างกายจะเปลี่ยนจากชราภาพไปเป็นเด็กวัยรุ่นก่อน แล้วจึงละสังขาร เพราะถือเป็น evolution ระดับสูง"
แต่
"ไม่ใช่ แบบเห็นใครชราภาพ ป่วยหนัก แล้วตายไป ก้อเที่ยวมาบอกต่อๆกันว่าคนๆนั้นมีบุญ ละสังขาร แล้วนิพพานไปแล้ว"
เราว่า มันเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นมีใครวาดรูปพระอรหันต์เดินหลังโกงๆ ยักแย่ยักยันเลย...!!!"
ปรากฎการณ์ของ enlightenment มันเป็น evolution ระดับสูงที่ทรงพลังมากสุดๆ คนมีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะตีความคำสอนของศาสดาได้อย่างถูกต้อง แล้วฝึกได้ถึงระดับนั้น แต่คนบุญไม่ถึงจะหลงผิดคิดว่า แค่ถือศีลหรือทำบุญตักบาตรหรือทำพิธีกรรมทางศาสนาก็จะนิพพานได้ แต่จริงๆแล้ว ไปไม่ถึงหรอก อย่างว่าแต่นิพพานเลย เอาแค่ enlightenment ให้กลายเป็นเซียนแบบเต๋า (เทียบเท่าพระโพธิสัตว์ของพุทธ) ก้อยังไปไม่ถึง เลยหละ เพราะยังไม่หลุดพ้นจาก Samsara...ดูได้ยังไงล่ะ? ก้อดูจากอาการชราภาพนั่นยังไงล่ะ เพราะยังเป็นหนึ่งในสังขารของคนที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่...
สรุป
คนที่อายุยืนมากๆ แล้วสุขภาพทรุดลงไปตามสังขารอยู่เรื่อยๆจนถึงวันตาย ก้อยังถือว่า "ยังมีกรรมอยู่" และ "ไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์แต่อย่างใดเลย"...ผู้มีบูญจะ "ซ่อมแซมร่างกายให้กลับเป็นเด็กวัยรุ่นก่อน แล้วจึงดึงวิญญาณออกจากร่างเพื่อละสังขาร"
คนจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย อายุเป็นร้อยร่างกายแข็งแรงมากๆ มีตั้งมากมาย น่าจะเป็นเพราะพวกเขาเรียนรู้ esoteric arts (ศาสตร์เร้นลับ) แนวสุขภาพ ทำให้กลายเป็นมีความรู้ด้านการแพทย์ทางเลือกหรือการแพทย์แผนโบราณประจำชาติของพวกเขา นั่นแหละ...
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 16:39:33
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 16:32:05
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 16:28:31
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 16:23:13
แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 11:21:42