ความคิดเห็นที่ 1 คนที่ใช้งานภาษานั้น ๆ จริง ๆ ไม่มีใครหรอกที่ใช้ถูกต้อง ออกเสียงชัดเจนตรงเป๊ะ ไม่มีการย่อหรือกร่อนคำ (อาจมีในกรณีที่ทำงานกับการใช้ภาษาแบบออกเสียง เช่นดีเจหรือนักข่าว) ฝรั่งก็พูดอังกฤษไม่ชัดเหมือนกัน ทำเสียงอยู่ในลำคอบ้าง แบน ๆ บ้าง ย่อคำกร่อนคำ ใช้ศัพท์สแลง สารพัด แต่ภาษาอังกฤษมันใช้งานกันเยอะกว่า เลยเข้าใจไปจนได้ในที่สุดง่ายกว่า ว่าแต่ ไม่ค่อยจะเห็นฝรั่งคนไหนติดต่องานหรือธุระสำคัญกับคนไทยด้วยภาษาไทยเลยนะ? จากคุณ : Beauty&Stupid เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 07:32:21

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นเด็กรุ่นๆ คงเพราะติด "เหล็กดัด" (ฟัน) จากคุณ : Emmanuel เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 08:05:36

ความคิดเห็นที่ 3 ในเมืองไทยมีพ่อพันธ์ แม่พันธ์  ไทย จีน แขก ลาว เขมร พม่า ฝรั่ง  อื่นๆทั่วโลกมาออกลูกในเมืองไทย  เสียงก็เป็นแบบนี้  ครูสอนภาษายังแย่  กฏมีไว้เป็นแนว  แต่เวลาทำแหกกฎบ้าง จากคุณ : แปลงข้าว เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 08:15:46

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าไปเชื่ออะไรฝรั่งมันมากเลยพี่ขนาดเขายังต้องมาเรียนกับพี่ จะไปเอาอะไรมาตัดสินมากมาย อย่างตัว R ฝรั่งเองมันก็ไม่ออกกลั้วแบบเราพี่ว่ามันออกเสียงตัว ร อย่างไรล่ะครับ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 09:01:37 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 5 ที่มีปัญหาในการสื่อสารร.เรือ กับ ล.ลิง สลับกันทำให้การสื่อสารผิดพลาดและเกิดปัญหาบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาติดต่องานหรือธุระสำคัญกว่าจะคุยกันรู้เรื่องต้องเสียเวลาพอสมควร.... *************************************************** ที่ว่านี้เป็นยังไงเหรอครับ? ลองยกตัวอย่างให้ดูหน่อย ผมว่าการใช้สองคำนี้สลับกันจริงแต่ก็แทบจะไม่มีปัญหาระหว่างคนไทยด้วยกันนะ ไม่งั้นคนไทยคงคุยกันไม่รู้เรื่องจนสุดท้ายต้องกลับไปออกเสียง "ร" เป็น "ร" และ "ล" เป็น "ล" ให้ชัดกันไปแล้ว ฉะนั้นถ้าคนต่างชาติเขาบอกว่าสื่อสารไม่เข้าใจกับคนไทยเพราะการสลับเสียง หรือคนไทยไม่ออกเสียง "ร" ให้ชัด ผมว่ามันเป็นปัญหาในการทำความเข้าใจในบริบทของการสื่อสาร ศัพท์ สำนวน แสลงแบบคนไทยมากกว่าหรือเปล่า? ประมาณว่าพอคุยกับคนไทยไม่ค่อยเข้าใจก็เลยโยนความผิดให้เป็นเรื่องการออกเสียงควบกล่ำอะไรไป คนต่างชาติเองก็มีปัญหาในการใช้ภาษาตัวเองเหมือนกันครับ ไม่ได้ต่างจากคนไทย ทั้งการออกเสียง ตัวสะกด การใช้คำ ไวยากรณ์ ผมเห็นมาเยอะแยะ... ส่วนประเด็นนอกเหนือจากนี้ ที่ว่าคนไทยใช้ภาษาไทยได้แย่ลงนั้น เป็นความจริงอย่างที่สุดครับ เพราะคนไทยไม่มีวัฒนธรรมในการรักการอ่าน ไม่ชอบเขียน ไม่ชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ภาษาที่ใช้ก็ย่อมหยาบลงเป็นธรรมดา ลองให้พูดหรือเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ร้อยทั้งร้อยมีปัญหาทั้งนั้น จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 09:09:22

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเห็นด้วยกับคุณโจโฉครับ ผมว่าฝรั่งท่านนั้นเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ ปัญหาพวกนี้นั้น ผมก็เห็นคนทุกชาติเป็นเหมือนกันทั้งนั้น ยิ่งเรื่องการออกเสียง "ร" กับ "ล" สลับกันนั้น ผมก็พบเจออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการสื่อสารเลยครับ ออกเสียงไม่ตรงอย่างไร ก็ยังเข้าใจความหมายได้อยู่ดี ผมว่าฝรั่งท่านนั้น ไม่เข้าใจความหมายเองมากกว่า แล้วก็เลยไปยึดติด ตีโพยตีพายว่าเป็นเพราะออกเสียงผิดไปเสียฉิบ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 10:07:22

ความคิดเห็นที่ 7 ที่มีปัญหาน่าจะเป็นเรื่องการออกเสียงที่ไม่มีทั้ง ร หรือ ล เสียมากกว่า ความหมายเลยเปลี่ยนหรือเพี้ยนไป ฝรั่งฟังไม่รู้เรื่อง นอกจากฝรั่งที่คุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนไทย คงไม่ใช่การใช้ ร และ ล สลับกัน "จะมีฝรั่งมากินข้าวที่บ้าน หาปาสดจริงๆไม่ได้เลย สัญญากับเขาว่าจะทำปานึ่งเกี้ยมบ๊วยให้เขากิน ชักเคียดแล้วว่ะ...." ได้ยินแล้วเคียดหู แต่ก็รู้เรื่อง จากคุณ : ทัศนะ (Tassna) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 10:24:46

ความคิดเห็นที่ 8 คนต่างชาติพูดรัว พูดมั่ว คนชาติเดียวกันฟังรู้เรื่อง...คนไทยพูดรัว พูดมั่ว คนไทยด้วยกัน ก็ฟังกันรู้เรื่อง คนต่างชาติมีปัญหากับการฟังคนไทยพูดรัว พูดมั่ว คนไทยก็มีปัญหากับคนต่างชาติที่พูดรัว พูดมั่ว เช่นกัน ผมมีร้านอาหารที่คนต่างชาติเข้าแยะครับ จึงเจอค่อนข้างจะบ่อยจากผู้ที่กำลังเรียนภาษาไทย และร้อนวิชา ส่วนมากแล้วจะเรียนจากครู หรือผู้สอนที่พยายามเน้นการใช้ "ร" ให้ต่างจาก "ล" มากเกินธรรมชาติ ส่วนใหญ่ที่เห็นเรียนๆกัน ก็จะเป็นการเรียนจากคนทั่วไปที่พอจะสื่อสารกับคนต่างชาติรู้เรื่อง หรือว่าจากคน ที่รู้จักกัน ซึ่งพอจะสอนให้พูดได้ อ่านได้ หรือเขียนได้ แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งไปมากกว่านั้น ซึ่งก็พอๆกับการที่คนไทยเรียนภาษาต่างประเทศจากคนที่ไม่มีคุณสมบัติในการสอนพอ คนต่างชาติบางคนบอกว่าผมพูดผิด ต้องออกเสียงอย่างเขา บางคนถึงกับบอกว่าผมเขียนเมนูผิด...เอากับเขาซิ จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 13:11:11

ความคิดเห็นที่ 9 ไม้บรรทัดฉันอันเดียววัดคนทั้งโลก แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 13:23:22 จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 13:21:49

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน (โดยปราศจากอคติ) จะรวบรวมและเรียบเรียงไปอธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจ ตอนสอนก็พยายามบอกอยู่ตลอดว่าเสียงที่ฟังในซีดีหรือข้อความในตำรานั้น อาจเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยหรือกลุ่มคน ตัวอย่างที่ผู้เรียนยกมาคืำอ คำว่า น้ำปลา แต่พูดเป็น "น้ำปรา" แล้ว เป็น "แร้ว" กล้าม เป็น "ก้าม" ฯลฯ การเปิดใจรับฟังมุมมองที่แตกต่างทำให้ผู้สอนพัฒนาวิธีการถ่ายทอด และตอบข้อข้องใจของผู้เรียนได้ดีขึ้น เห็นด้วยกับประเด็นที่ว่าผู้สอนซึ่งเป็นต้นแบบทางภาษาขาดคุณสมบัติเลยทำให้ผู้เรียนเพี้ยนตาม จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 14:28:32 A:90.224.230.168 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 11 ก่อนอื่น ผมว่า ทั้งเจ้าของกระทู้ ที่เป็นอาจารย์ ต้องทำความเข้าใจ ภาษา การเรียนรู้ภาษา และภาษาศาสตร์ ในระดับหนึ่งก่อน เพราะ ภาษามีประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อักษรไทย เป็นระบบที่บันทึกเสียงการออกเสียงในอดีต ย้อนกลับไปสมัยสุโขทัย ไม่ใช่การออกเสียงปัจจุบัน แม้จะมีลักลั่นในภายหลังจากผู้ไม่รู้ในหลักภาษาศาสตร์ประวัติศาสตร์ไทยก็ตาม ภาษาไทยก็เช่นเดียวกับ ภาษาอังกฤษ คือมีหลายสำเนียง โดยแยกตาม ท้องถิ่น หรือ แยกตามระดับชนชั้น รวมถึง สถาณการณ์ในการใช้ภาษาหนึ่ง อย่างเช่น ข้าราชการในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีภูมิลำเนาบ้านเกิด อยู่ที่ จังหวัดเพชรบุรี ภาษาและสำเนียงภาษาแรกของเขาคือ สำเนียงเพชรบุรี เวลาเขาพูดคุยกับคนที่บ้าน เขาพูดด้วยสำเนียงเพชรบุรี แต่เมื่อเขาไปทำงาน เพื่อร่วมงาน พูดสำเนียงสุพรรณบุรี ก็ สามารถพูดได้เช่นกัน และเมื่อมีคนจาก กรุงเทพ มาติดต่อ ที่ศาลากลาง เขาก็สามารถ สื่อสารด้วยสำเนียง กทม ได้ แต่ทั้งนี้ ทั้งสามสำเนียงเป็นสำเนียงภาษาพูด หากแต่เมื่อเขาได้มีโอกาส ไปสัมนางานที่เป็นทางการที่กรุงเทพ เขาก็ต้องขึ้นพูดกลางที่ประชุม ด้วยภาษาไทยมาตรฐาน ซึ่งในการพูดทั้ง สี่ลักษณะ อาจจะมีการออกเสียง ร เรือ แตกต่างกันออกไปได้ โดย ในแบบที่หนึ่ง อาจจะออก ร เรือเป็น [ ɾ ] trap ส่วนกรณีที่สอง ออกเป็น [ l ] lateral หรืออย่างเป็นทางการ [ r ] trill เช่นเดียวกับคนอังกฤษ ที่จะพูดภาษาถิ่น Cockney เมื่ออยู่กับบ้าน พูดสำเนียง Estuary English เมื่อออกนอกบ้าน และพูด RP เมื่อใช้ในพิธีที่เป็นทางการครับ อีกคำหนึ่ง ที่ควรทำความเข้าใจคือ คุณจะสอนภาษาในลักษณะใด Presciptive vs Descriptive perspective จะสอนสำเนียงใด แต่ทางที่ดี ควรสอนการแยกระดับ Register ให้มากครับ มันมีความสำคัญ ต่อการแยกแยะ ความเป็นมิตร หรือบ่งบอกเพศสภาวะได้ครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 16:02:06

ความคิดเห็นที่ 12 แวะมาอีกที เห็นด้วยกับ คห.11 การเป็นอาจารย์สอนภาษาควรต้องสอน+ให้ผู้เรียนเข้าใจถึงเรื่องบริบทการใช้ภาษาในสถานการณ์จริงด้วยครับ ไม่ใช่สอนแต่ในส่วนของระบบภาษาเพียงอย่างเดียว เพราะการใช้ภาษามันมีเรื่องของระดับภาษา วัจนลีลาที่แตกต่างกันออกไปตามบทบาทสถานภาพ เพศ อายุ การศึกษา รสนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ฯลฯ มันไม่มีอะไรที่ตายตัวเพียงอย่างเดียว เช่น การออกเสียง "ร" ที่รัวลิ้นเป็นเสียงที่ถูกต้องอย่างเดียว ถ้าออกแบบอื่นถือเป็นการออกที่ผิดหมด...ตัวอย่างนี้ไม่รวมคนที่ออกเสียง "ส" แบบเอาฟันกัดปลายลิ้น หรือแบบลมออกข้างลิ้นนะครับ (กรณีนี้เป็นการออกเสียงที่ผิดตามความเห็นผมเพราะคนออกเสียงแบบนี้มีเป็นส่วนน้อย ฟังแล้วเสียบุคลิกมากๆ) ภาษามีการเปลี่ยนแปลงแปรผันไปเป็นธรรมดาเมื่อใช้โดยคนหมู่มากในสังคม ซึ่งการแปรที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเรื่องการออกเสียง ไวยากรณ์ การใช้คำศัพท์อะไรก็แล้วแต่เป็นเรื่องของคนหมู่มากที่ต้องทำความเข้าใจ และเลือกใช้ให้เหมาะสม (ถึงแม้ว่ามันจะผิดแปลกจากทฤษฎีในระบบภาษาก็ตาม) เพราะตราบใดที่มันอยู่ในกระบวนการสื่อสารที่ถูกที่ถูกทาง ถูกเวลาถูกสถานที่ เช่นคุยกับเพื่อนหรือคนทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องออก "ร" แบบรัว แต่ถ้าต้องขึ้นไปพูดในที่ประชุมวิชาการหรือสอนหนังสือก็ออก "ร" แบบรัวตามมาตราฐานก็เป็นสิ่งที่ควรทำ อะไรแบบนั้น... แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 18:34:47 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 18:33:26 จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 18:30:47

ความคิดเห็นที่ 13 เราเจอฝรั่งคนอังกฤษเยอะแยะที่ออกเสียง "That's it." เป็น "แอ๊ะสิ" แล้วเจอคนอเมริกันพูด ain't บ่อยๆ มันก้อฟังยาก เหมือนกัน นั่นแหละ แต่เราก้อยังต้องทนฟังจนฟังรู้เรื่องเลย แล้วเจ้าฝรั่งคนนี้มันมาบ่นหาพระแสงอะไรกันเรื่องคนไทยออกเสียงไม่ชัด..???!! ปัญหามันก็เหมือนอย่างที่คุณ tnu พูดไว้ใน คคห8 นั่นแหละ ถ้าเราสอนภาษาอังกฤษให้คนไทย เราต้องสอนว่าฝรั่งพูดช้าเสียงมันอย่างหนึ่ง พูดเร็วเสียงมันอีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่สอนคนไทยว่าฝรั่งคนไหนพูดเร็วเสียงแบบนี้เท่ากับออกเสียงผิดหมด เวรกรรม! สรุปแล้วไอ้คนสอนภาษาไทยให้ฝรั่งนั่นแหละ "มันมั่ว"...555+++... แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 19:20:56 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 19:20:05 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 19:19:52 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 19:09:23

ความคิดเห็นที่ 14 ก็เห็นฝรั่งพูด ภาษาบ้านเขาเองยังไม่ชัดตั้งหลายคน มันจะมาสงสัยอะไรกับคนไทยพูดไม่ชัด ฟังไม่รู้เรื่องเองแล้วโทษคนนั้นคนนี้ เขาใช้คำว่า กลายเป็นประเด็นกลับมาถามผู้สอนว่าทำไมคนไทยส่วนใหญ่พูดภาษาไทยแบบรั่วๆ ไม่ชัดถ้อยชัดคำ ไม่พูดให้ถูกต้อง แสดงว่าพูดเร็วเกินไปฟังไม่รู้เรื่องมากกว่าพูดไม่ชัด จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 19:15:22

ความคิดเห็นที่ 15 คอกนีย์ฝรั่งอังกฤษออกเสียงชื่อสนามบิน Heathrow Airport ของตัวเองว่า ฮิโฟ แอร์เปาะ แล้วจะมาบ่นอะไรกับคอกนีย์ไทย ที่เรียกควายว่า ฟาย จากคุณ : ทัศนะ (Tassna) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 20:18:39

ความคิดเห็นที่ 16 ฝรั่งคนนั้นท่าจะอยู่แถวอินเดีย-ตะวันออกกลางมาก่อนละมัง            แถวนั้นเขาพูดเสียง ร รัวลิ้นกันเต็มที่   รัวกันยาวๆ   ไม่มีพลาด แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 21:03:14 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:02:42

ความคิดเห็นที่ 17 สอนนักเรียน สำเนียงมันก็ไม่เหมือนกัน เขียนก็ไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กออสเตรเลียในห้องเรียน การออกเสียงแตกต่างกับชาวบ้านมาก ๆ การเขียนก็ไม่เหมือน กัน คำว่า modernize, modernise ก็ไม่เหมือนกัน โชคดีมีพวกไทยอเมริกันเยอะหน่อย พูดแล้วรู้เรื่อง เข้าใจง่าย เด็กอังกฤษพูดไม่อ้าปากฟังยากมาก ๆ สะกดคำแปลก ๆ ก็มี จากคุณ : TOP เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:27:16 A:1.46.46.214 X: TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 18  เห็นด้วยกับ คห.12 ค่ะ จากคุณ : wwstyle เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 15:54:05

ความคิดเห็นที่ 19 ดีใจที่มีคนเข้ามาให้ความเห็นและข้อแนะนำเพิ่มเติม ขอขอบคุณอีกครั้ง จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 04:03:33 A:90.224.230.56 X: TicketID:159141