ความคิดเห็นที่ 1 เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในปี 1936 เมื่อพระเจ้าจอร์ชที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรเกิดสิ้นพระชนน์ลง ราชบัลลังก์ทั้งปวงจึงตกเป็นของพระราชโอรสนามว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8  ด้วยวัยถึง 41 พรรษาและยังไม่มีคู่ครองทำให้สตรีจำนวนมากใฝ่ฝันที่จะปรนนิบัติพระองค์เพื่อก้าวขึ้นเป็นราชินี ท้ายสุดแล้ว พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ก็ได้ตัดสินพระทัยที่จะอภิเษกสมรสกับนาง วอลล์ลิส ซิมสัน จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:55:27

ความคิดเห็นที่ 2 วอลล์ลิส ซิมสันหรือวอลล์ลิส วอร์ฟิวด์ เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิด เธอก็เหมือนสตรีธรรมดา ๆ คนหนึ่งถ้าไม่ติดที่ว่าเธอเคยแต่งงานกับนายทหารเรืออเมริกัน ต่อมาได้หย่าขาดและก็แต่งงานใหม่กับ เอิร์รเนส ซิมสัน ผู้ประกอบการเดินเรือชาวอังกฤษ กลายเป็นว่าถ้าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ตั้งใจจะอภิเษกสมรสกับนางซิมสันจริง เธอจะต้องหย่าขาดกับสามีคนปัจจุบัน เท่ากับราชินีอังกฤษคนใหม่เคยเข้าพิธีวิวาห์ถึง 3 ครั้ง จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:55:55

ความคิดเห็นที่ 3 ความจริงข้อนี้ถูกต่อต้านจาก สแตนลี่ บอว์วิน นายกรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งเป็นคนอนุรักษ์นิยมและเหล่านายกรัฐมนตรีจากอาณานิคมต่าง ๆ ของอังกฤษในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็น แคนนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ โดยให้เหตุผลว่าประชาชนจะไม่ยอมรับราชินีผู้ผ่านการแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยสามีที่ถูกหย่าขาดยังมีชีวิตอยู่ จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:56:18

ความคิดเห็นที่ 4 นายกอังกฤษเลยแนะนำให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ทรงหาสตรีอื่นมาเป็นคู่ครองแต่พระองค์ยังทรงยืนยันที่จะอภิเษกสมรสกับนางซิมสัน   บอว์วินจึงเสนอทางเลือกให้พระองค์อยู่ 3 ทาง ได้แก่ พระองค์ทรงจัดงานอภิเษกสมรสตามพระทัยและตั้งนางซิมสันเป็นราชินี พระองค์ทรงอภิเษกสมรสตามพระทัยแต่ไม่แต่งตั้งนางซิมสันเป็นราชินี หรือให้พระองค์ทรงสละราชสมบัติ และได้กล่าวแนบท้ายไว้ว่าราษฎรจำนวนมากจะไม่พอใจทางเลือกใน 2 ข้อแรก แม้นว่าจะไม่ตั้งนางซิมสันเป็นราชินีแล้วก็ตาม จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:56:52

ความคิดเห็นที่ 5 ในตอนนั้น ประชาชนชาวอังกฤษให้ความสนใจในข่าวนี้มากและความคิดก็แตกออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายหนึ่งต่อต้านการอภิเษกสมรสกับอีกฝ่ายสนับสนุนการอภิเษกสมรส จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:57:12

ความคิดเห็นที่ 6 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดจึงทรงคิดว่า ถ้าพระองค์ยังคงยืนกรานที่จะเลือกนางซิมสันเป็นคู่ครอง ผลที่ตามมาคือความขัดแย้งของประชาชนและรัฐบาลของนาย บอว์วิน จะต้องลาออก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า บอว์วิน ต่อต้านงานวิวาห์ครั้งนี้และเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่ว่าไม่สามารถหาสตรีที่สง่าพอจะเป็นราชินีอังกฤษได้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก็จะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุนพระองค์กับผู้ต่อต้านพระองค์  เสมือนเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ว่า กษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:57:26

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อพระองค์ทรงคิดได้แล้ว จึงประกาศสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1936 โดยได้ประกาศผ่านทางวิทยุและได้ทิ้งวลีอมตะไว้ว่า  ข้าพเจ้าไม่สามารถแบกรับภาระและความรับผิดชอบในฐานะกษัตริย์ของประเทศได้โดยปราศจากสตรีที่ข้าพเจ้ารัก จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:57:44

ความคิดเห็นที่ 8 ในปีต่อมา ทั้ง 2 ก็ได้เข้าพิธีวิวาห์สมความตั้งใจ  โดยใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 35 ปี จนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เสด็จสวรรคตในปี 1972       เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นก่อนที่พระเจ้าจอร์ชที่ 6 ขึ้นครองราชย์ ซึ่งเป็นตัวละครเอกในเรื่อง The King's Speech   หนังเป็นยังไง นายตี๋ใหญ่ยังไม่ได้ดูเลยครับ โดย นายตี๋ใหญ่ จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:58:48

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ เป็นช่วงโหมโรงที่สนุกมาก จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 22:28:37

ความคิดเห็นที่ 10 โห ซึ้ง จากคุณ : ต้นน้ำลำธารท้องฟ้า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 22:53:01

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่มีอะไรมาขัดขวางรักแท้จริงๆ ขอบคุณจขกท. ครับ จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 23:26:36

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตถามค่ะ สงสัยมานานแล้วว่าการตั้งชื่อกษัตริย์ของต่างประเทศนี่เลือกจากอะไรหรอคะ อย่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เป็นพระโอรสของพระเจ้าจอร์ชที่ 5 แต่ทำไมเลขถึงไม่เรียงกันหรอคะ โดยที่ต่อจากนั้นก็มีพระเจ้าจอร์ชที่ 6 ปกติจะคุ้นแต่พระมหากษัตริย์สมัยอยุธยาที่มีพระนามเดียวกัน แต่เป็นลำดับ 1 2 3 4 น่ะค่ะ ปล. ถ้าใช้คำไม่เหมาะสมก็ขออภัยค่ะ จากคุณ : thezircon (thezircon) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:18:30

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าจำไม่ผิดจะอารมณ์ประมาณว่า ชื่อจะไม่ตั้งให้เหมือนกันเรียงกันมา เหมือนเป็นลำดับ 1 2 3 4 แต่จะตั้งเหมือนใครจะใช้ชื่ออะไรก็ชื่อนั้น แต่ถ้าบังเอิญชื่อนี่ซ้ำกับที่เคยมีมาอยู่แล้ว ก็จะตั้งเป็นหมายเลข 2 หรือที่เคยมีชื่อเดียวกันมา 5 คนแล้วก็จะต่อด้วยหมายเลข 6 ครับ จากคุณ : newuno เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:32:20

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนขึ้นเป็นกษัตริย์นั้นจะมีการ...เหมือนเถลิงนามย์กษัตริย์องค์ใหม่น่ะครับ อาจจะเลือกใช้พระนามเดิมก็ได้ หรือจะเลือกพระนามกษัตริย์องค์ก่อนๆที่พระองค์นับถือก็ได้ ถ้าพระนามซ้ำก็ +1 เข้าไปที่เลข ลองอ่านข่าวนี้ดูครับ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสถ้าได้ขึ้นครองราชย์อาจเลือกพระนามจอร์จแทน http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/4557924.stm จากคุณ : HotChoc เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:53:47

ความคิดเห็นที่ 15 อ๋อ ขอบพระคุณมากค่ะ จากคุณ : thezircon (thezircon) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 11:55:31

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างควีนเอลิซาเบธ ที่ 2 เพราะมีควีนที่ชื่อเอลิซาเบธมาแล้วหนึ่งพระองค์คือ ควีนเอลิซาเบธที่ 1 สมัยราชวงศ์ทิวดอร์ เห็นว่าจะตั้งพระนามซ้ำกันกี่ครั้งก็ได้หนิครับ อย่างเมื่อสมัยราชวงศ์แฮนโนเวอร์ มีกษัตริย์ที่พระนามว่า จอร์จ ติดต่อกัน 4 พระองค์ ก่อนจะถึงสมัยวิกตอเรีย ฝรั่งเศสก็มีพระเจ้าหลุยส์ติดต่อกันเป็นสิบๆพระองค์ ถึงแม้ว่าจะมีชื่อใหม่แทรกมาด้วยเช่น ฟรองซัวส์ ชาร์ลส์ ฯลฯ อย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่เคยตรัสว่าจะไม่ใช้พระนาม ชาร์ลส์ เมื่อเถลิงวัลย์เพราะเนื่องจากเกี่ยวพันกับเหตุการณ์สงครามกลางเมืองที่โค่นล้มราชวงศ์อังกฤษสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งราชวงศ์สจ๊วต พระองค์จึงกลัวที่จะใช้พระนามชาร์ลส์กระมัง (สมมุติถ้าพระองค์ครองราชย์แล้ว ตามหลักจะใช้พระนามแรกประสูติ คือ Charles III ก็ได้ แต่แล้วแต่พระราชวินิจฉัยของพระองค์เอง) เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต พระบิดาของควีนเอลิซาเบธ ก็ทรงเลือกพระนาม จอร์จ ในการขึ้นเถลิงวัลย์ ถ้าเจ้าชายวิลเลียมขึ้นครองราชย์ คงจะใช้ William V สุดแล้วแต่จะทรงวินิจฉัย แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 17:12:18 จากคุณ : U4704570 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 17:09:36

ความคิดเห็นที่ 17 หนังทำซะนาง วอลล์ลิส ซิมสัน ดูเเย่ไปเลย ผมว่าไม่จำเป็นต้องทำให้ดูเเย่ก็ได้นะ เเย่มั้ย หรือผมรู้สึกคนเดียว จากคุณ : ตั้งใจ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:14:19

ความคิดเห็นที่ 18 ตาม คห.7 ท่านพูดตามนี้ครับ (อ่านแล้วจับใจจริง ๆ) EDWARD VIII - ABDICATION SPEECH But you must believe me when I tell you that I have found it impossible to carry the heavy burden of responsibility and to discharge my duties as King as I would wish to do without the help and support of the woman I love. จากคุณ : หลวงปู่ (Likkasitltpw) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 01:29:19

ความคิดเห็นที่ 19 จับใจกับพระดำรัสของ King Edward มาถึงฟ้าชายชาร์ล ท่านรักใครก็รักคนนั้นจริงๆ คงเหมือนเสด็จทวดของท่าน อันนี้ไม่เกี่ยวกับทู้ แต่เห็นที่ Waikiki, ฮาวาย ร้านรองเท้า Ferragamo มีรูป Mrs Simson's ใหญ่หราอยู่ที่หน้าร้าน เข้าใจว่าท่านคงเป็นแฟนรองเท้ายี่ห้อนี้ ดิฉันเคยเดินเข้าร้านไป หยิบมาดูคู่หนึ่ง เห็นราคาแล้ว เดินออกหลังร้านเฉยเลยค่ะ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 09:41:00

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากค่ะ เขียนเล่าเรื่องได้สนุก น่าติดตามมากๆ เดี๋ยวจะมีพาร์ทต่อไปไหมคะนี่ จากคุณ : lovely sweetly shiny เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 21:52:56

ความคิดเห็นที่ 21 # 20 คงไม่มีพาร์ทต่อไปแล้วครับ แต่จะเขียนเรื่องอื่น ๆ แทน จากคุณ : หูเจินฟา (หูเจินฟา) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:27:01