หนังสืออ่านในหลักสูตรของ มสธ มันโคตรเยอะเลยหละ เมื่อต้นปีที่แล้วเราเกือบหลวมตัวไปลงเรียนศิลปศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ กะอีแค่อยากได้ปริญญาทางด้านภาษามาไว้ประดับบารมี แต่พอเห็นหนังสือที่เราต้องอ่านแล้วหนะ (หลายเรื่องเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบด้วยดิ) เลยเปลี่ยนใจคิดว่า มะอาว ถอยหนีดีกว่า แล้วพัฒนาแนวคิด "ฮึดสู้" ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมา...
เราเปลี่ยนเป็นหันไปสอยเอา ebooks ตำราภาษาอังกฤษ กับพวก video clips การสอนภาษาอังกฤษจากต่างแดน มาเรียนเอง เพราะมันยืดหยุ่นกว่า และได้เนื้อหาที่ทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าการเรียนตามหลักสูตรของมหาลัยซะอีก เผลอๆเราจะสร้างสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมาสอนตัวเอง (หรือสอนผู้อื่น) ได้ดีกว่ามหาลัยซะอีก เพียงแต่แค่อยากได้ปริญญาทางด้านภาษาเท่านั้นเอง ตอนนี้เราก้อเริ่มไปสอย video clips ภาษาอังกฤษที่สอนวิชา computer science มาเีรียนด้วยตัวเอง เพราะเราชอบเรียนคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง คราวนี้เลยอยากเรียนแบบถูกหลักการเหมือนที่หลักสูตรในมหาลัย โหเรียนจาก video clips จากต่างแดนพวกนี้นะ มันได้ความรู้พอๆกับการไปนั่งฟัง lecture ในมหาลัยในอเมริกาเลยหละ เพียงแต่ว่า "เราไม่ได้ปริญญาเท่านั้นเอง"
แต่สำหรับคนบางคนแล้วปริญญาอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มันสมัครงานก้อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย แต่เราใช้วิธี think positive แล้วพยายามอยู่ให้รอดได้โดยไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาสูงๆ ดังนั้น เราจึงต้อง "ฝึกพลังจิต" ให้ มั่นใจในตัวเองมากๆยิ่งๆขึ้นเรื่อยๆ จนเราหาเงินได้โดยไม่ต้องมีวุฒิสูงๆ ในขณะที่เราพยายามเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเองนอกมหาลัยอย่างแท้จริง เราว่ามันท้าทายดี เราทำงานในเมืองไทยรอดตายมา 23 ปี แล้ว โดยไม่ใช้วุัฒิปริญญาสมัครงานเลย แต่ก้อยังอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
ถ้าคุณจะเรียน มสธ คุณต้องทำใจได้ว่า "ต้องอ่านหนังสือมากถึงมากที่สุด และในบางครั้งคุณต้องทนอ่านเรื่องที่คุณไม่ชอบด้วย" ทั้งนี้ เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษามาสมัครงาน แต่สำหรับเราแล้ว "เราทนไม่ได้ที่จะอ่านเรื่องอะไรที่เราไม่สนใจ" ดังนั้นเราจึงใช้วิธี "คิดบวก แล้วเสี่่ยงดวงเอา"
แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 17:53:03
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มี.ค. 54 17:47:50
|
|
|
|