ความคิดเห็นที่ 1 เดินไปถึงตอนสิบโมงเช้า เพื่อไปรับรางวัล เป็นหนังสือ ๙ พระพุทธรูป ณ วังหน้า พร้อมแผ่นภาพหนึ่งชุด จากนั้นก็คุยอย่างสนุกสนานกับคุณ เด่นดาว ศิลปานนท์ รักษาการผอ. พช. พระนคร และคุณดิษพงศ์ เนตรล้อมวงศ์ ภัณฑารักษ์   เป็นผู้ที่ช่วยประสานงานให้ถ่ายภาพและคุยกับคุณเด่นดาวด้วยค่ะ ตอนแรกเกร็งมากๆ เราใครก็ไม่รู้จะมาขอถามปัญหา ถึงจะเป็นคำถามที่คนถามเยอะแล้วก็ตามเถอะ คุยแบบลืมเวลาไปชั่วโมงกว่า ถึงคำตอบอาจจะไม่ใช่สิ่งที่หลายๆคนอยากฟัง หรือจะมีคนขำๆว่าถามไปทำไม คำตอบก็เดิมๆ แก้อะไรไม่ได้ แต่พอคุยแล้วรู้สึกดีหลายๆอย่าง เรื่องถามคำถามขอยกยอดไปก่อนนะคะ เพราะต้องเรียบเรียงสักหน่อย เลยจะยกเรื่องนำชมพิพิธภัณฑฯมาก่อน จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:29:03

ความคิดเห็นที่ 2 นิทรรศการแรกที่เราเข้าไปดู คือ ประวัติศาสตร์ชาติไทย ในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เข้าไปห้องแรกจะเป็นเรื่องชนเผ่าต่างๆแบ่งตามกลุ่มภาษา และเสนอทฤษฎีคนไทยมาจากไหนหลายๆทฤษฎี อีกมุมเป็นเรื่องบ้านเชียง แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 00:32:06 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:31:44

ความคิดเห็นที่ 3 ห้องถัดไปเป็น ทวารวดี ศรีวิชัย อะไรประมาณนั้น มีโบราณวัตถุชิ้นเด่นๆของยุคนั้นๆจัดแสดงอยู่ ถึงเป็นของจำลอง แต่ของจริงก็ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑฯนี่ล่ะ เพียงแต่มีห้องจัดแสดงแยกของแต่ละชิ้น จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:33:27

ความคิดเห็นที่ 4 ถัดไปเป็นล้านนา มีไดโอรามาแสดงการตั้งเมือง ที่สำคัญ คือจัดแสดงหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงหลักที่ 1 ที่เคยเรียนในหนังสือเรียน ได้เห็นของจริงที่นี่ (จริงใช่ไหมคะ เมื่อเห็นมีขายที่ศึกษาภัณฑ์ด้วย ^ ^ ) จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:35:34

ความคิดเห็นที่ 5 ถัดไปอีกนิดมองครั้งแรกนึกว่าปืนใหญ่ แต่จริงๆแล้วเป็นท่อน้ำ ท่อน้ำมันสำคัญมากๆ การมีท่อน้ำ หมายถึงมีระบบชลประทาน มีน้ำเพาะปลูก มีอาหารอุดม ก็จะเลี้ยงคนได้เยอะ พอคนเยอะ ก็จะเป็นอาณาจักร เดินต่อมาอีกนิดก็มีปืนใหญ่จริงๆให้ดู จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:36:20

ความคิดเห็นที่ 6 ตามด้วยเครื่องถ้วยสังคโลก นอกจากป้ายบอกชื่อ อายุแล้ว ยังมีอธิบายรายละเอียดของเครื่องสังคโลก ตั้งแต่การปั้น จนถึงการค้าขายส่งออก จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:37:13

ความคิดเห็นที่ 7 มาถึงสมัยอยุธยา พระเจ้าอู่ทองสร้างเมือง มีไดโอรามาการสร้างเมือง และเรื่องราวอยู่บนกำแพงเมืองจำลอง จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:38:14

ความคิดเห็นที่ 8 ถัดมาเป็นความรุ่งเรืองของอยุธยา มีการค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม จัดแสดงพระและสิ่งบูชาของศาสนาอื่น แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 00:39:09 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:38:55

ความคิดเห็นที่ 9 แปะรูปผิด ^ ^" จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:39:57

ความคิดเห็นที่ 10 ถัดมาเรื่องของพระศรีสุริโยทัยจนถึงวันชะตาเมืองตก  เสียกรุงครั้งที่ 1 อีกฝั่งหนึ่งแสดงเครื่องทองกรุวัดราชบูรณะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:40:42

ความคิดเห็นที่ 11 จากนั้นเป็นช่วงของสมเด็จพระนเรศวร ดูกันนานมาก เพราะมัวแต่เทียบตัวแสดงในหนังทั้งเรื่องสุริโยทัย และตำนานสมเด็จพระนเรศวร ใครแสดงเป็นใคร ฉากที่กล่าวถึงอยู่ตรงไหน ในเรื่องเป็นยังไง สนุกมากเลย การจัดแสดงก็มีไดโอรามาประกอบแสงเสียง และบอร์ดบรรยาย ฉากยิงปืนข้ามแม่น้ำ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:41:42

ความคิดเห็นที่ 12 ฉากยุทธหัตถี จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:42:57

ความคิดเห็นที่ 13 ต่อมาบ้านเมืองสงบ ยุคสมเด็จพระนารายณ์ มีการติดต่อต่างประเทศ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:44:09

ความคิดเห็นที่ 14 จนถึงการเสียกรุงครั้งที่สอง กำแพงเมืองเริ่มร้าว มีไดโอรามาเรื่องบางระจัน ข้างๆมีลำดับกษัตริย์อยุธยา ดูแล้วก็ต้องย้อนกลับไปดูตอนก่อนหน้าเพราะสับสนและเถียงกันเอง เป็นกลุ่มที่เสียงดังที่สุดในพิพิธภัณฑฯเลย ขอโทษคนที่ไปชมในวันเดียวกันด้วยนะคะ แต่มันสนุกจนอดไม่อยู่จริงๆ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:44:52

ความคิดเห็นที่ 15 ถัดไปเป็นเรื่องการรบของพระยาตาก ว่ามีลำดับการเดินทางและสู้รบอย่างไรบ้าง มีแผนผังและไดโอรามา เพนกวินฯบอกว่าสมัยเรียนไม่เห็นมีสรุปให้แบบนี้เลย แต่เราเคยมาสมัยเด็ก เราก็ไม่นิ่งอ่านขนาดนี้นะ ของบางอย่างอาจจะต่างไปตามช่วงอายุคน จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:45:30

ความคิดเห็นที่ 16 มีจัดแสดงแท่นที่ประทับของพระเจ้าตากสินฯ ให้ดูกันระยะประชิดเลยทีเดียว จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:45:53

ความคิดเห็นที่ 17 ถัดไปเป็นการสถาปนากรุงธนบุรี มีแผนที่พร้อมไฟให้ดูว่าสมัยนั้นยังแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า มีการสู้รบกันเป็นระยะ แต่ก็ยังมีการฟื้นฟูงานศิลปะและศาสนาด้วย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:46:40

ความคิดเห็นที่ 18 มาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เรียงลำดับตามรัชกาล เล่าเรื่องสงครามเก้าทัพ มาถึงตรงนี้ก็คิดถึงละครเรื่องสงครามเก้าทัพ (ใครทันบ้าง เช็คอายุ) จัดแสดงกลองสำหรับชาวบ้านมาตีร้องทุกข์ ถ้าเป็นสมัยนี้จะร้องทุกข์ต้องตั้งกระทู้ บอกสื่อ แสดงเรือสำเภาแทนการค้าขายกับชาติต่างๆ มีเก้าอี้พับที่ ร.๑ ใช้ประทับเวลาออกรบ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:50:02

ความคิดเห็นที่ 19 รัชกาลที่๔ มีการติดต่อกับชาติตะวันตก เริ่มมีภาพถ่ายจัดแสดง มีลูกโลกและรถไฟเป็นของจัดแสดงดั้งเดิมตั้งแต่ตั้งหอคองคอเดีย พิพิธภัณฑฯแห่งแรก ปล. โซ่ขนาดใหญ่  เป็นโซ่ที่ขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากันเรือรบต่างชาติ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:51:21

ความคิดเห็นที่ 20 รัชกาลที่ ๕ เริ่มด้วยสาแหรกราชตระกูล ถัดมาเป็นเรื่องการปกครอง เปลี่ยนเป็นระบบกรม กระทรวง เรื่องการค้าขาย การคมนาคม การโทรเลข การเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของชนชั้นสูง จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:52:05

ความคิดเห็นที่ 21 รัชกาลที่ ๖ การแต่งการเริ่มเปลี่ยนไปอีก มีเรื่องของเสือป่า การละคร รัชกาลที่ ๗ เป็นเรื่องช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:52:41

ความคิดเห็นที่ 22 รัชกาลที่๘ และ ๙ เป็นบอร์ดเรื่องพระราชกรณียกิจ   สรุปห้องนี้ก็คือเวอร์ชั่นคลาสลิกของมิวเซียมสยาม และนิทรรศน์รัตนโกสินทร์นั่นเอง เนื้อหาเป็นไปตามชื่อ คือเล่าประวัติศาสตร์ของ”ชาติไทย” เนื้อหาตรงกับในหนังสือเรียน(สมัยเรา)อย่างมาก แสดงประวัติสาสตร์ตามเปลี่ยนแปลงของผู้ปกครอง การเกิดและล่มสลายของอาณาจักร งานของกษัตริย์และศิลปะกระแสหลัก แต่ไม่มีการกล่าวถึงประชาชนและวิถีในประวัติศาสตร์ นิทรรศการสมัยหลังเลยพยายามเพิ่ม เนื้อหาเรื่องของคนและวิถีชีวิตเพิ่มเข้าไปมากขึ้น เรื่องการออกแบบและจัดไฟ เราคิดว่าทำได้ดี เมื่อนับตามอายุของชุดนิทรรศการแล้ว แม้เนื้อหาจะละเอียดยิบ คล้ายหนังสือไปหน่อย แต่เราก็เลือกอ่านเฉพาะที่สนใจ และพออ่านแล้วก็รู้สึกว่าเนื้อหาเล่าเรื่องที่เราสงสัยได้ดี พื้นโทรมเป็นบางจุด  ชุดเสียงที่ได้ลองมีเสียสองชุด คอมพิวเตอร์เสีย เครื่องหนึ่ง ของจำลองในตู้สิบกว่าตู้ ที่เห็นชัดๆก็มีเสียแค่ต้นไม้ล้มต้นหนึ่งและมุมหลังคาแบบจำลองหัก ในความเห็นของเรา มันก็ไม่ได้โทรมขั้นเลวร้ายอะไรแม้แต่น้อย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:56:25

ความคิดเห็นที่ 23 จากในหนังสือนำชม พิพิธภัณฑ์มีห้องนิทรรศการประมาณ ๓๘ ห้อง ตอนนี้ดูไปแล้ว ๑ ห้อง เป็นเวลาบ่ายโมงถึงได้ไปกินข้าว พักกินมื้อกลางวันที่ร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์ ด้านหลังโรงราชรถ ไว้พรุ่งนี้มาต่อส่วนที่เหลือนะคะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 01:01:07

ความคิดเห็นที่ 24 จะรออ่านบทสัมภาษณ์นะครับ แล้วก็ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาแบ่งสรรกัน ปล.ถ้าเป็นไปได้อยากให้ใส่ลายน้ำที่รูปด้วยจัง กลัวเดี๋ยวจะมีคนอื่นเอารูปใช้อีก จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 01:16:05

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับการพาเที่ยวครับ (ติดตามมาตั้งแต่กระทู้นิทรรศรัตนโกสินทร์แล้วครับ) เห็นอย่างงี้สงสัยต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนพิพิธภัณฑ์สักหน่อยแล้วเรา ^^ จากคุณ : นอกราชการ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 08:42:55

ความคิดเห็นที่ 26 คห. 24 ขอบคุณค่ะ เรื่องรูป ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะใส่ลายน้ำ แต่คิดดูแล้วภาพเล็กมากและไม่ได้ถ่ายเจาะชิ้นงาน ถ้าจะนำไปทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันคงยาก เลยปล่อยให้เห็นรูปชัดๆจะดีกว่า ถ้าหากใครจะนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้คนเข้าพิพิธภัณฑ์มากขึ้น เราก็คิดว่ามันเป็นกำไรนะคะ ขอเพียงให้เครดิตกำกับไว้ก็พอ แต่ถ้าอยากได้ใช้งานจริงๆ ติดต่อไปทางพช. เพื่อจะได้ถ่ายภาพเพื่อไปใช้งานได้เต็มที่ ภาพของเราเองก็ไม่ได้สวยงามพิเศษอะไร คห. 25 มีคนถามว่าทำไมเราต้องลงทุนขนาดนี้ หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายหรือเปล่า ขอตอบว่าไม่เลยค่ะ เราไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายเลย เราก็เที่ยวของเราเป็นประจำ การตั้งกระทู้เราก็ไม่ได้เสียอะไร แต่เราได้มากมายมหาศาลมาก ทำให้เีราเที่ยวอย่างใส่ใจมากขึ้น และเจอสิ่งใหม่ๆมากขึ้น การรีวิวทำให้เราได้ทบทวนความคิดของตัวเอง เวลามีคนมาอ่านถ้าชอบก็ทำให้หัวใจพองโตค่ะ คำวิจารณติติงต่างๆ ก็ทำให้เราคิดทบทวนและเปิดมุมมองใหม่ แล้ยิ่งมีคนบอกว่าอยากไปพิพิธภัณฑ์ที่เราเขียนถึง มันเป็นความภูมิใจอย่างที่สุด ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 09:50:36

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพสวยดีครับ น่าสนุก  รอชมต่อนะครับ   จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:46:37

ความคิดเห็นที่ 28 มาปูเสื่อรอชมเช่นกันครับ จากคุณ : จ้องจนปวด เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 17:46:04

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคุณplaka มากเลยค่ะ ที่คอยนำสิ่งดีๆมาแบ่งปัน ขอเป็นกำลังใจให้และจะคอยติดตามชมนะคะ จากคุณ : pink cocktail เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 18:48:27

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาชื่นชมกระทู้ ^^ สนุกมากจริงๆ กับห้องประวัติศาสตร์ การได้ถกเถียงข้อมูลความรู้ นำไปสู่การเรียบเรียงข้อมูลและต่อยอดความคิดให้เพิ่มขึ้น อยากไปดูพิพิธภัณฑ์อีกเรื่อยๆ มีความสุขเมื่อได้ดูกับเพื่อนที่สนใจในประวัติศาสตร์ เหลืออีก 40 กว่าห้อง พยายามเข้านะ หุหุ จากคุณ : เพนกวินร่าเริง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 22:13:58

ความคิดเห็นที่ 31 มาแล้วค่า อย่างเบลอๆ งานหลวงยังเสร็จไม่หมด ปันใจมางานราษฎ์ก่อน เพนกวินฯ เหลืออีกแค่ ๓๗ ห้องเท่านั้นเอง ถ้าหารตามค่าเข้าแล้ว ค่าชมแต่ละห้องนิทรรศการราคาไม่ถึง ๑ บาท !!!! ******** ที่ต่อไปที่ไปชมคือ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปสำคัญอื่นๆอีกหลายองค์ คงไม่ต้องอธิบายถึงพระพุทธสิหิงค์ใช่ไหมคะ เข้าไปกราบเป็นมงคล จากนั้นชมความงามของพระที่นั่ง ภาพชุมนุมเทวดาภายใน เราชอบมากเพราะดูแปลกดีเป็นแถบสลับแดงดำ ดูมีความโมเดิร์นในตัวแบบเหนือกาลเวลาดี ที่ชอบอีกอย่างคือต้นไม้เงินต้นไ้ม้ทองด้านข้าง เป็นบรรณาการจากเชียงใหม่ สมัย ร.๕ และยังมีตู้ลายรถน้ำสวยๆอีกด้วย ต้องขออภัยที่ไม่มีรูปพระสิหิงค์มาให้ชม เพราะเราถ่ายแล้วภาพสั่น เศร้ามาก และตอนนี้มีการบูรณะบุษบกอยู่ค่ะ ถ้าไปชมตอนนี้ก็จะได้บรรยากาศการซ่อมแซม น่าสนใจไปอีกแบบ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 22:40:39

ความคิดเห็นที่ 32 โรงราชรถ เป็นโรงรถที่ใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็นมา ภายในเก็บราชรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่พลาดไม่ได้ถ้ามาชมพช.พะนคร พระมหาพิชัยราชรถ สร้างตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ใช้สำหรับทรงพระบรมศพกษัตริย์เกือบทุกพระองค์ ด้านข้างรถมีลิฟท์ด้วย ที่ถูกต้องเรียกว่าเกรินเทียบ เวชยันตราชรถ ใช้สำหรับพระบรมวงศ์ผู้ทรงศักดิ์สูง นอกจากนั้นยังจักแสดงราชรถ โกศ พระยานมาศสามลำคานที่เราเห็นในงานสมเด็จพระพี่นางฯ เป็นหนึ่งในประวัติสาสตร์ที่ผ่านมาในช่วงชีวิตเราที่ไม่อยากให้มี ดูแล้วนอกจากชื่นชมความงามแล้ว ก็เศร้าด้วย แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 54 20:40:09 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 22:51:54

ความคิดเห็นที่ 33 พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ใช้เป็นห้องนิทรรศการชั่วคราว ขณะนี้จัดแสดงนิทรรศการ "งานช่างศิลปกรรมและสุนทรียภาพ ไทย-ญี่ปุ่น" จะจัดไปถึงวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔ นี้เท่านั้น รีบไปดูกันนะคะ จากนั้นจะไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกิวชู จ.ฟุคุโอกะ ระหว่าง ๑๒ เมษายน-๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ ******** ตอนไปญี่ปุ่นอาจจะใช้ชื่อว่า "งานช่างศิลปกรรมและสุนทรียภาพ ญี่ปุ่น-ไทย" :P ล้อเล่นนะคะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 22:59:22

ความคิดเห็นที่ 34 ลักษณะการจัดแสดงจะเป็นการเทียบเชิงช่าง เหมือนรายการคุณพระช่วย ช่วงคุณพระประชัน ประมาณ ไืทยมีไหยุคก่อนประวัติศาสตร์นะ อ๋อญี่ปุ่นก็มี มีไหฝังศพด้วยนะ เชอะ ไทยก็มีไหฝังศพเหมือนกัน คนไปดูก็สนุก เราใช้วิธีดูก่อนแล้วทายว่า แต่ละคู่เขาเปรียบกันเรื่องอะไร แล้วค่อยไปอ่านเนื้อหาเป็นเฉลย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:07:24

ความคิดเห็นที่ 35 นอกจากเรื่องการเปรียบมวยเป็นคู่ๆ นิทรรศการจัดแสงได้สวย จัดมุมได้สวย ออกแบบตู้ได้มาตรฐานสากล มีมุมนั่งชื่นชมงานศิลปะและสูจิบัตรให้อ่าน แอร์เย็นด้วย ^ ^ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:10:10

ความคิดเห็นที่ 36 ในพระที่นังอิศราวินิจฉัย ยังมีพระที่นั่งบุษบกมาลาอยู่ด้านใน เป็นที่ออกว่าราชการของวังหน้า จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:18:16

ความคิดเห็นที่ 37 ด้านหลังของพระที่นั่งเป็นห้อง มหรรฑภัณฑ์ ีกรงเหล็กตรงกลางห้องแสดงเครื่องทอง จากกรุวัดราชบูรณะ ได้อารมณ์เดียวกับตอนไปเกาะกรงดูเครื่องเพชรเครื่องทองที่ลูฟ แต่ของเราอยู่ใกล้กว่า รอบๆมีวางระแทะ ที่เราชอบมากคือบ้านตุ๊กตาของชาววัง คนสมัยนั้นเล่นบ้านตุ๊กตา สะสมของจิ๋ว คนสมัยนี้เล่น Pet society ไม่ได้ต่างกันเลย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:22:29

ความคิดเห็นที่ 38 พระที่นั่งพิมุขมณเฑียร จัดแสดงเสลี่ยง คานหาม ชิ้นที่ไม่ควรพลาด  คือพระที่นั่งราเชนทรยาน ไว้ใช้ในพิธีสำคัญอย่าง ราชาภิเษก อีกชิ้น สัปคับงา ทำจากงาช้าง สวยมาก วางบนหลังช้าง ช้างมันจะเสียใจไหมเนี่ย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:33:50

ความคิดเห็นที่ 39 จริงๆแล้วตามผังต่อจากนี้ควรเดินวนขวา แต่เราเดินกันผิดทาง จึงเริ่มวนจากห้องสุดท้ายก่อนนั่นคือ พระที่นั่งบูรพาภิมุข แสดงเครื่องดนตรีต่างๆ เพิ่งอ่านหนังสือนไชม เขาบอกว่าของสำคัญคือ ระนาดแก้วสมัย ร.๒ และแคนยางของพระปิ่นเกล้า แต่เราไม่ได้ดู ดูแค่ มโหรีเครื่องใหญ่ และกลองใหญ่มากๆ อ่านในประวัติเมื่อกี้ ห้องนี้เป็นห้องที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทเสด็จสวรรคต ******** ขอสารภาพว่าหลังจากนี้ไปแทบจะวิ่งดู ให้ครบทุกห้อง เพราะเหลือเวลาอีกไม่นานพิพิธภัณฑ์จะปิด หนังสือนำชมในมือ ไม่มีเวลาให้เปิดอ่าน ก็จะเสนอเป็นภาพรวมๆ และอะไรที่เตะตามากๆนะคะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:44:26

ความคิดเห็นที่ 40 พระที่นั่งพรหมเมศธาดา แสดงผ้าโบราณหลายๆแบบ ห้องนี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ไม่นาน   จำได้ว่ามาดูเมื่อประมาณสองสามปีก่อน ไม่ใช่แบบนี้ ตอนนี้การจัดวางสวยมากขึ้น วิธีการจัดวางก็สวยงามตามหลักการจัดผ้า นอกจากบอกชื่อผ้า ที่มา อายุ ยังมีบอกบริบทของผ้าด้วย เช่นการนุ่งห่มของชาววัง แต่การจัดแสงยังมีปัญหา เนื่องจากแสงจากภายนอกสว่างกว่าในตู้ เข้าใจว่า ต้องคุมแสงที่จะส่องบนผ้าทำให้ใช้แสงสว่างมากไม่ได้ และในห้องไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศ ทำให้ต้องเปิดหน้าต่างรับลม จึงไม่สามารคุมแสงภายนอกได้เต็มที่ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 41 ถัดไปเป็นสวน หมู่พระวิมานจะมีตึกสามหลังเรียงขนานกัน สำหรับสามฤดู ทิศใต้ เป็นที่ประทับฤดูฝน ตรงกลาง ประทับในฤดูหนาว ทิศเหนือ สำหรับฤดูร้อน ส่วนทิศตะวันออกและตะวันตกมีอาคารขวางเชื่อม ทำให้มีสวนตรงกลางสองสวน เป็นส่วนที่เราชอบมากๆ สวนที่มีกำแพงล้อมรอบ ได้อารมณ์ Secret garden จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:54:48

ความคิดเห็นที่ 42 พระที่นั่่งปฤษฎางคภิมุข แสดงอาวุธ เครื่องช้าง เครื่องม้า และ พระที่นั่งอุตราภิมุข แสดงศิลาจารึก จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 23:57:49

ความคิดเห็นที่ 43 มุขเด็จด้านตะวันตก แสดงเครื่องไม้ งานที่เราชอบมาดู คือ บานประตูวัดสุทัศน์ฯที่ถูกไฟไหม้ ประตูบานใหญ่มาก แกะลายซ้อนเป็นชั้นๆ   บางส่วนเป็นฝีพระหัตถ์รัชการที่ ๒ ด้วย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:00:49

ความคิดเห็นที่ 44 พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข แสดงเครื่องมุก ในห้องนี้มีลับแลประดับมุก ที่อยู่ในหนังสือโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติชิ้นสำคัญของชาติ >< ไม่ได้ถ่ายรูปมา ตอนนั้นยังไม่ได้ื้ซื้อหนังสือ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:05:37

ความคิดเห็นที่ 45 พระที่นั่งวสันตพิมาน แสดงเครื่องถ้วย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:07:36

ความคิดเห็นที่ 46 พระที่นั่งทักษิณาภิมุข เราเรียกว่าห้องหุ่น หนึ่งในห้องโปรดของเรา จริงๆแล้วแสดงเกี่ยวกับการละเล่นต่างๆ เช่น หุ่น หัวโขน สกา หมากรุก มีกระทั่ง หวย กอขอ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:10:30

ความคิดเห็นที่ 47 พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ ต้องถอดรองเท้าและเดินขึ้นบันได พระที่นั่งนี้เป็นที่สมเด็จพระบวรราชเจ้าเสนานุรักษ์ทิวงคต หลังจากนั้นใช้เป็นที่ประดิษฐานอัฐิสมเด็จบวรราชเจ้าฯ ต่อมาย้ายไปไว้ที่วัดพระแก้ว เหลือแต่บุษบกยอดปราสาทที่วางอัฐิ ในห้องตอนนี้จัดแสดงเครื่องทอง พระพุืทธรูป พระพิมพ์ เราชอบเครื่องทองลงยาจุฬาลงกรณ์ชุดนี้มากเลย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:15:47

ความคิดเห็นที่ 48 จบส่วนจัดแสดงในหมู่พระวิมาน ห้องจัดแสดงที่ปิดคือห้องชั้นบนสองห้อง ห้องจัดแสดงงาช้าง และ ห้องเครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา ต่อไปเหลืออีกสองอาคาร คืออาคารมหาสุรสิงหนาท และอาคารพระพาสพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงศิลปะวัตถุเรียงตามสมัยตั้งแต่ ก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงรัตนโกสินทร์ จะมาลงต่อวันพรุ่งนี้นะคะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:22:07

ความคิดเห็นที่ 49 เสียดายห้องหลังๆ ไม่ได้เก็บรายละเอียดสมบัติชาติที่น่าสนใจเลย เวลาสี่ชั่วโมงนี่ดูไม่ทันนะเนี่ย วิ่งผ่านแต่ละห้องเหมือนชะโงกทัวร์ 55555 วันหลังไปใหม่ คราวนี้ไปตั้งแต่เวลาเปิดจนปิดเลย ฮาาาาา รอให้จบทัวร์พิพิธภัณฑ์อื่นๆก่อน ^^ จากคุณ : เพนกวินร่าเริง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:30:51

ความคิดเห็นที่ 50 ชอบไปที่นี่เหนือนกันครับ แต่ไม่ได้ไปมาสองสามปีแล้ว หลายห้องดูเปลี่ยนไปจัดได้ดีขึ้นจริงๆ เสียดายแทนจขกทที่ห้องแสดงงานช้างปิดปรับปรุง เพราะสำหรับผมเป็นห้องที่ดูสวยงามมีมนต์ขลังที่สุดเลยครับ ปล.ผมอยากให้มีการติดเครื่องปรับอากาศทุกห้องมากๆครับ คิดว่าน่าจะทำให้คนไปชมกันมากขึ้น เพราะว่าอากาศเมืองไทยมันร้อนครับไม่เอื้อต่อการให้เดินชมนานๆ บางครั้งผมเองยังรีบเดินไปหาแอร์เลย แต่ก็เข้าใจแหละว่าเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ถ้ารัฐบาลสนันสนุนค่าไฟสักนิดนะ พิพิธภัณฑ์ไม่กี่แห่งมันคงไม่เพิม่จากนโยบายประชานิยมตอนนี้เท่าไรหรอก จากคุณ : boebus เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 02:43:37

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าจะไปวัดพระแก้วหรือพิพิธภัณฑืเนี่ย ผมเลือกไปช่วงธนวาคมมกราคมครับ ลมหนาวมาปุปวันรุ่งขึ้นไปเลย อากาศกำลังสบายน่าเดิน ถ้าไปช่วงเมษา เตรียมผ้าขนหนูผืนเล็กๆไปด้วยก็ดี จะได้ซับหน้าซับเหงื่อหน่อย ร้อนจริงๆ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:25:00

ความคิดเห็นที่ 52 เกือบพลาดเที่ยวชมด้วยคราวนี้ ไปเรียนอยู่แถวนี้ แต่พอโดนชวนแล้วก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน อายจัง 5555+ ขอบคุณนะคะที่ชวน คราวต่อไปเอาอีกนะ แต่ขอเป็นวันอาทิตย์ จะได้รู้ตัวว่าว่างชัวร์ จากคุณ : Candlelight Memorial เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:28:11

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาต  ท่าน จขกท  โพสข้ามกระทู้นะครับ รบกวนสอบถามให้ด้วยนะครับว่า เสาหินโบราณ  ที่เรียกว่า  หลักทอด ที่เคยเป็นหลักเขตแดนระหว่างเมืองเวียงจันทน์  กับเมืองจำปาสัก กรมศิลปากร  ไปขุดย้ายมาจากบ้านบุ่งคล้า  อำเภอกุฉินารายณ์  จังหวัดกาฬสินธุ์  ตั้งแต่ประมาณ ปี 2515 - 2520 ตอนนี้อยู่ที่ไหน รบกวนสอบถามให้ด้วยนะครับ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 11:32:00

ความคิดเห็นที่ 54 คห. 49 เอาไว้แก้มือใหม่ คราวหน้าไปเดินดูสองตึกหลังก่อน คห. 50 เสียดายเหมือนกันค่ะ แต่ไม่เป็นไร ไว้ไปชมใหม่คราวหน้า เรื่องแอร์ ก็เกี่ยวกับงบจริงๆล่ะค่ะ การหาเิงินมาติดแอร์ไม่เท่าไหร่ แต่การหาเงินมาจ่ายค่าแอร์ ค่าช่างแอร์ ค่าน้ำยาแอร์สิคะ หนักใจจริงๆ คห. 51 เพิ่งเข้าหน้าร้อน ไปเดินก็ร้อนแล้วค่ะ ทำอย่างไรได้ บ้านเราเป็นเมืองร้อน หน้าร้อนให้หนาวก็คงแปลก คห. 52 ที่เกือบพลาดเพราะเป็นวันเสาร์นี่ล่ะ นึกว่ามีเรียน รอบหน้านะ ถึงวันเสาร์ก็จะชวน ^ ^ คห. 53 ต้องขอโทษคุณ คอแก้ง ด้วยนะคะ คือว่าติดต่อไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่แล้วค่ะ แล้วก็ติดต่อไปที่ พช. พระนคร คุยเรื่องเกี่ยวกับพิพิธภัณฑสถานน่ะค่ะ แนวการบริการ การบริหาร การประชาสัมพันธ์ เราคิดว่าเรื่องศิลปวัตถุที่ทำการขุดค้น ถึงจะเป็นงานของกรมศิลปากร แต่น่าจะอยู่ในสายงานของสำนักโบราณคดี พิพิธภัณฑสถาน พระนคร อยู่สำนักพิพิธภัณฑ์ คนละสายงานกันน่ะค่ะ และเราก็ไม่ทราบว่าการขุดค้นในเขตต่างจังหวัด จะต้องส่งโบราณวัตถุเข้าที่พิพิธภัณฑ์ไหนหรือมีส่วนกลางอย่างไร และไม่ทราบว่าควรจะถามได้ที่สังกัดไหน เราติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อถามคำถามผ่านทางเฟสบุคของ พช. รบกวนคุณคอแก้ง ลองติดต่อเข้าไปถามโดยตรง น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่าค่ะ http://www.facebook.คอม/nationalmuseumbangkok หรือ อีเมล์ national.museum.bkk@gmail.คอม (อย่าลืม เปลี่ยน คอม เป็น com ค่ะ ) จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 13:21:05

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ นับเป็นอีก 1 สถานที่ๆ ผมชอบไปมากที่สุดแห่งหนึ่ง เดินเที่ยว เดินชมศิลป ได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อหน่าย จากคุณ : สะตอคุง เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 19:01:19

ความคิดเห็นที่ 56 คห. 55 จริงค่ะ ขนาดเราไม่มีความรู้เรื่องงานศิลป์ ยังสนุกเลย เดินทั้งวันไม่เบื่อ ******** มาชมกันต่อนะคะ อาคารมหาสุรสิงหนาท เป็นอาคารสองชั้น แสดงงานศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บ้านเชียง ทวารวดี ชวา ศรีวิชัย ลพบุรี และเทวรูปโบราณ ตามลำดับ ห้องแรกที่เข้าชมคือ  ศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บ้านเชียง นอกจากหม้อไหบ้านเชียง ยังมีโครงกระดูก ภาพเขียนสี จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:02:10

ความคิดเห็นที่ 57 ศิลปะชวา ศรีวิชัย ชิ้นที่เตะตาคือ พระคเณศ และ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เพราะชิ้นใหญ่และอยู่กลางห้อง แต่พลาดชิ้นสำคัญๆไปมากมาย ต้องหาเวลาไปดูใหม่ ^ ^ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:06:12

ความคิดเห็นที่ 58 ศิลปะลพบุรี เทวรูปโบราณ พลาด หาทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ไม่เจอ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:10:13

ความคิดเห็นที่ 59 อาคารพระพาสพิพิธภัณฑ์ ไม่ได้ถ่ายภาพค่ะ เหลือเวลาไม่กี่นาทีก่อนพิพิธภัณฑ์จะปิด ตึกนี้แสดงศิลปะอยุธยา สุโขทัย เชียงแสน-ล้านนา พระพุทธรูป เงินตรา ประณีตศิลป์ รัตนโกสินทร์ ช่วงบ่ายๆ แสงทอดผ่านชิ้นงานสวยมากเลย เพิ่มค่ะ นอกจากอาคารที่กล่าวมา ยังมี พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ที่ประทับของสมเด็จพระปิ่นฯ มีแสดงพระแท่นบรรทม และเครื่องเรือน แบบยุโรป ตำหนักแดง เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ใน ร.๒ ต่อมาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระปิ่น ที่พระราชวังเดิม และย้ายมาที่วังหน้า ปัจจุบันแสดงสิ่งของส่วนพระองค์สมเด็จพระศรีสุริเยนฯ ตอนนี้ปิดเพื่อบูรณะ รอบๆยังมีศาลาอีกสี่หลัง สวยทุกหลังค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 54 00:05:26 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:13:26

ความคิดเห็นที่ 60 เข้าสู้ช่วงตอบคำถาม (ตึกตัก ตึกตัก ตื่นเต้น) ของสำคัญที่ควรไปดูคืออะไร ? คำตอบคือ แต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน แต่เห็นว่าควรเป็นงานที่มีชิ้นเดียว หาดูที่ไหนไม่ได้ พระพุืทธสิหิงค์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระนารายณ์ เขาพระเหนอ ศิลาจารึกพ่อขุนรามฯหลักที่1 ราชรถ ที่เราถามคำถามนี้จริงๆ มีสาเหตุ จะเห็นได้จากสถานการณ์จริงว่า เดินเข้าไปชมแล้วไม่รู้ว่าควรจะดูชิ้นไหน หรือมีชิ้นที่อยากจะดู แต่ไม่รู้อยู่ห้องไหน ถามเจ้าหน้าที่ประจำห้อง เจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ เพราะอะไรรอคำตอบในข้อต่อไป สิ่งเดียวที่จะช่วยเราได้คือ แผ่นพับที่แจกตอนซื้อตั๋ว ในแผ่นพับให้ข้อมูลดังนี้ ข้อมูลการเดินทาง (ได้รับตอนมาถึงแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกอีกก็ได้) แผนผัง และประเภทสิ่งจัดแสดงในห้อง เช่น ห้อง ๑ ประวัติสาสตร์ชาติไทย ห้อง ๑๐ ห้องอาวุธ ห้อง น๗ ศิลปะเชียงแสน (ไม่มีรายละเอียดอื่น ) ด้านหลัง เป็นประวัติของวังหน้า และการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ (เืรื่องก็น่าสนใจ แต่ไม่ได้ช่วยในการนำชม) จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 20:55:35

ความคิดเห็นที่ 61 เรามีตัวช่วยอีกตัว คือ คู่มือนำชม ราคาเล่มละ ๑๐๐ บาืท ซื้อไว้นานมากแล้ว ไม่รู้ว่ามีเวอร์ชั่นใหม่กว่านี้หรือไม่ เพิ่งเคยได้ใช้ ผลคือ ข้อมูลละเอียดดี มีบอกว่าในห้องนั้นมีของอะไร ชิ้นไหนเด่น ถ้าเป็นอาคารสำคัญมีประวัติของอาคารด้วย อย่างเป็นห้องที่เสด็จสวรรคต แต่ใช้ยากมากเลย ข้อแรก ผังเรียงลำดับอย่างหนึ่ง เนื้อเรื่องเรียงลำดับอีกอย่างหนึ่ง เช่น ผังให้เดิน ห้องประวัติษาสตร์ชาติไทย ตามด้วยไหว้พระพุทธสิหิงค์ ตามด้วยชมหมู่พระวิมาน แล้วค่อยชมอาคารด้านข้าง เนื้อหา กลับเรียงจาก ห้องประวัติศาสตร์ชาติไทย ตามด้วยนำชมอาคารด้านข้าง ตามด้วยไหว้พระพุทธสิหิงค์ แล้วค่อยชมหมู่พระวิมาน ข้อสอง จะเปิดหาจากสารบัญ ชื่อห้องในสารบัญกับห้องในผังบางครั้งคนละชื่อ หน้าสารบัญกับผังอยู่ห่างกัน ต้องเปิดหาทุกครั้ง ข้อสาม ถึงจะบอกว่าของสำคัญในห้องนั้นอยู่ห้องไหน แต่ไม่บอกว่าจัดอยู่ตรงไหน ต้องเดินหาเอาเอง จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:05:45

ความคิดเห็นที่ 62 ที่บ่นมาสองคห. มีข้อเสนอแนะค่ะ เราไปเที่ยวลูฟ เขาแจกแผ่นพับ เป็นแผนที่ ด้านหนึ่งเป็นแผนผังบอกของที่จัดแสดง พร้อมชี้ว่าชิ้นสำคัญในแต่ละห้องคืออะไร ตั้งอยู่ที่จุดไหน มีโปรแกรมบอกว่า ถ้ามีเวลาน้อย ชิ้นเด่นที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงคืออะไร สำคัญอย่างไร เราคิดว่าทำได้ไม่ยาก และทำได้เลย ใช้แทนแผ่นพับเดิม จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:10:17

ความคิดเห็นที่ 63 มีแผ่นพับชัดๆของลูฟ ลองเปิดดูได้ค่ะ http://www.louvre.fr/media/repository/ressources/sources/pdf/src_document_52741_en_v2_m56577569831286488.pdf เราคิดว่าศิลปะวัตถุเป็นจุดแข็งของพิพิธภัณฑ์ คงน่าเสียดายที่มีอุปสรรคคือผู้ชมหาศิลปะวัตถุไม่เจอ พอมาดูแล้วก็บ่นวา ไม่เห็นมีอะไรเลย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:16:19

ความคิดเห็นที่ 64 ข้อสอง เรื่องการปรับปรุงการจัดแสดง มีหลายคำถามมากเลยค่ะ ก่อนที่จะลงไปถึงรายละเอียด จะขอเล่าเรื่องการบริหารก่อน พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ได้งบค่าใช้จ่ายปีละประมาณสามล้านบาทนิดๆ ค่าไฟและค่าน้ำ ต่อปี ประมาณ สามล้านบาทนิดๆ (งบนี้ไม่ร่วมส่วนค่าจ้างนะคะ) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แค่น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาขัดพื้น ไม่มีงบพอ ค่าซ่อมแซม ถ้าไปเดินชมจะเห็นว่าพื้นทางลาดมีรอยปะ อยากเปลี่ยนแต่ตีราคาแล้วงบพอแค่ปะ การของบประมาณรายปีเพิ่ม แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะงบประมาณแต่ละปีคำนวนจากฐานเดิม ปีนี้สามล้าน ปีหน้าก็จะได้สามล้าน ค่าเข้าชม เด็ก ๑๐ บาท ผู้ใหญ่ ๓๐ ฝรั่ง ๒๐๐ เก็บมาได้ส่งเข้าส่วนกลาง รวมกับพิพิธภัณฑ์อื่นในสังกัด และเฉลี่ยกันใช้ พิพิธภัณฑ์เล็กๆหรือโบราณสถานบางแห่งเดือนหนึ่งแทบไม่มีผู้ชม แต่ก็ต้องดูแลรักษาเช่นกัน พิพิธภัณฑ์ในสังกัดบางแห่ง เก็บค่าเข้าชมแค่ ๕ บาท (รวมรายได้แล้วพอจ่ายค่าจ้างพนักงานขายตั๋วไหมหนอ) เจ้าหน้าที่ ภัณฑารักษ์ สี่คน ทำงานวิชาการ ดูแลคลัง ทำทะเบียน  เตรียมนิทรรศการ เตรียมกิจกรรม และยังต้องดูแลโบราณวัตถุ ที่จะมีการซื้อขายและขนย้ายไปต่างประเทศ ต้องออกตรวจร้านโบราณวัตถุ ต้องเป็นกรรมการเมื่อมีการตั้งร้านขายโบราณวัตถุ และตั้งพิพิธภัณฑ์ใหม่ คิดว่าจดมาได้ครบนะคะ อาจจะมีงานอื่นอีก ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ หนึ่งคน ทำหน้าที่ส่งข่าว ประชาสัมพันธ์ นำชม งานทั่วไป เจ้าหน้าที่ประจำห้อง หน้าที่สำคัญสุดคือดูแลของ ถ้าหาย ต้องชดใช้ด้วย!! ต้องดูแลความสะอาด เช็คจำนวนผู้เข้าชม (ตอนที่เราไปดู บางคนต้องดูแลมากกว่าหนึ่งห้อง) ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ ผู้นำชมนะคะ เจ้าหน้าที่ไม่ผิด ถ้าตอบคำถามเราไม่ได้ เขาอาจะพอรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหนด้วยความคุ้นเคย แต่เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และไม่ได้รับการอบรมมา ตำแหน่งนี้ในต่างประเทศก็มีค่ะ และเขาก็ไม่ตอบคำถามเราเหมือนกัน อาสาสมัครนำชม มีโครงการอาสาสมัคร อบรมปีละร้อยกว่าคน มาช่วยงานได้จริงไม่มาก แก้ค่าเข้าชมของชาวต่างชาติ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 54 00:16:07 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 21:43:54

ความคิดเห็นที่ 65 ถามว่า จะปรับปรุงการจัดแสดงได้ไหม คำตอบคือ พิพิธภัณฑ์มีแผน แต่เมื่อเปลี่ยนขั้ว แผนก็เปลี่ยน อันนี้เรื่องปรกติ เท่าที่คุยมีหลายเรื่องที่เจ้าหน้าที่อยากทำ เห็นถึงปัญหา และอยากแก้ไข แต่ก็ติดด้วยเรื่ิองที่ทราบกันดีอยูู่แล้ว แต่จากสิ่งที่เราสังเกต เราพบว่าพิพิธภัณฑ์มีการปรับปรุงอยู่นะคะ อย่างห้องผ้าก็เพิ่งปรับปรุง นิทรรศการช่วคราวก็ทำได้ดีมาก จากที่เราเห็นพิพิธภัณฑ์เมืองนอก เขาก็ปรับปรุงทีละห้อง อย่างตอนเราไปสมิทโซเนียน เขาก็เพิ่งปรับห้องจัดแสดงสิ่งมีชีวิตในทะเล แต่อีกหลายห้องเช่นไดโนเสาร์ ก็ยังเก่าโบราณอยู่ ไดโนเสาร์ในรูปประกอบยังหางลากพื้นตัวอ้วนๆอยู่เลย และยังไม่มีโครงการปรับปรุงในเร็ววันนี้ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:36:04

ความคิดเห็นที่ 66 ถามว่าเพิ่มมัลติมีเดียแบบนิทรรศรัตนโกสินท์ได้ไหม คำตอบว่า มีผู้ใหญ่เคยอยากทำ เปลี่ยนพิพิธภัณฑ์ส่วนหมู่พระวิมาน กลับเป็นเหมือนสมัยเป็นวังหน้า โครงการนี้ตกไปพร้อมกับผู้ใหญ่ท่านนั้น แต่พี่เด่นดาวก็บอกว่า ถึงทำจริงก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ จะเล่าเรื่องอะไร ข้อมูลบันทึกเรื่องวิถีชีวิตของไทยเรามีน้อยมาก ของที่เกี่ยวกับวังหน้า นอกจากอาคารก็เหลือไม่กี่ชิ้น จะจัดแสดงอะไร ในความคิดของเรา คิดว่าโชคดี ที่ไม่ได้ทำ มิวเซียมสยามและนิทรรศรัตนโกสินทร์ เป็นพิพิธภัณฑ์เน้นเล่าเรื่อง Story base ไม่ค่อยจัดแสดงสิ่งของ เน้นเล่าเรื่องเหมือนละครหรือหนัง ส่วน พช. พระนคร เน้นวัตถุ Object base จัดแสดงสิ่งของสวยงามและสำคัญ ถ้าให้เสนอ สิ่งที่ควรปรับคือ หนึ่ง การจัดแสง และจัดวางวัตถุ จัดแสงให้สวย น่ามอง เน้นแสงเงา จัดวางเพิ่มคุณค่า มีระยะมอง มีจุดเด่น จุดเน้น สอง ป้ายบรรยาย สั้น กระชับ เข้าใจง่าย น่าอ่าน พิพิธภัณฑ์อย่างลูฟ ออร์เซ่ MET แม้แต่อาร์ตมิวเซียมของสมิทโซเนียนที่เพิ่งรีโนเวทใหม่ทั้งอาคาร ไม่มีมัลติมีเดียเลย มีแต่วัตถุวางจัดแสดง ทำไมถึงเป็นพิพิธภัณฑ์โด่งดังได้ อีกอย่าง มัลติมีเดีย นอกจากแพงแล้ว อายุการใช้งานสั้น เสียง่าย ซ่อมยาก ซ่อมนาน ถ้าพิพิธภัณฑ์มีปัญหาเรื่องงบดูแล มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นจอดำและกองขยะในเวลาไม่นาน จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:51:56

ความคิดเห็นที่ 67  พอจะเข้าใจปัญหาและข้อจำกัดของพิพิธภัณฑ์ไทยบ้างหรือยังครับ  จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 22:56:54

ความคิดเห็นที่ 68 เรื่องการอนุรักษ์ เริ่มที่ตัวอาคารก่อนนะคะ ผนังหมู่พระวิมานที่เห็นดำด่างทำไมไม่ทาสี? ทาได้ค่ะ ทาแล้วไม่นานก็จะด่าง เพราะอาคารโบราณ ความชื้นจะขึ้นจากพื้นมาตามปูน วิธีแก้ต้องกระเทาะผนังทั้งหมด ฉาบใหม่ ถ้าจะทำ ต้องย้ายโบราณวัตถุออก ปัญหาตามมาคือ ไม่รู้จะย้ายไปไหน เพราะคลังเต็ม ต้องรอให้โครงการสร้างคลังเสร็จก่อนถึงจะทำได้ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:16:16

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่องโบราณวัตถุ ทำไมของเมืองนอกดูแลดีกว่าของเรา?ทำไมปล่อยบางชิ้นให้ทรุดโทรม? ไม่ได้ถามว่ามีเจ้าหน้าที่อนุรักษ์อยู่กี่คน แต่เดาได้เลยว่ามีไม่เยอะ   การอนุรักษ์แต่ละชิ้นต้องใช้เวลานาน ก็ต้องทยอยทำไปตามกำลังและลำดับความสำคัญค่ะ ไม่นับเรื่องความพร้อมของอุปกรณ์ และเครื่องมือ เทคนิคต่างๆ เราไปคลังกลางที่สิงคโปร์ เขามีห้องอบฆ่าแมลงขนาดใหญ่   มีห้องแลปเฉพาะ ที่ พช.พระนคร เห็นห้องเล็กๆอยู่สองห้อง ^ ^" จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:17:11

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องอากาศมีผลต่อการจัดแสดงไหม? อันนี้ไม่ได้ถามมาแต่ขอตอบแทนว่า มีผลค่ะ วัตถุแต่ละชิ้นต้องการการดูแลต่างกัน ไม้ กลัวแมลงและชื้น หิน กลัวความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น โลหะ กลัวชื้น และก็าซในอากาศ(แล้วแต่ชนิดโลหะอีก) ผ้า กระดาษ กลัวแสง แมลง และความชื้น อากาศบ้านเราร้อนชื้น เมืองนอกแห้งเย็น   บ้านเราแดดจ้าเกือบตลอดปี เมืองนอกแดดน้อยกว่า อาคารเราเป็นแบบโปร่ง แสงธรรมชาติ อาคารเมืองนอก ปิดทึบ ปรับอากาศตลอดเวลา ที่จริง บ้านเราก็สามารถควบคุมได้ค่ะ (ถ้าลงทุนและใส่ใจ) ถ้าสนใจว่าการจัดแสดงที่ควบคุมสภาพได้เป็นอย่างไร ไปดูได้จากนิทรรศการชั่วคราว ไทย-ญี่ปุ่น จะเห็นครบทุกอย่างตามประเภทวัตถุเลยค่ะ มีสารดูดความชื้น ถ่านดูดก๊าซ พลาสติกปลอดกรด แสงก็ถูกควบคุม มีเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องบันทึกการเปลี่ยนแปลงของความชื้น รวมไปถึงแท่นวาง และการยึดที่ปลอดภัยต่อตัววัตถุด้วย จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:19:44

ความคิดเห็นที่ 71 อยู่กรุงเทพมา 19 ปี ไปมา 3 ครั้งแล้วค่ะ ครั้งแรกหงุดหงิด มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่พูดคุยเสียงดัง โพสต์ท่าถ่ายรูปอยู่นั่น ทั้งๆที่ห้ามถ่ายภาพ ในส่วนประวัติศาสตร์ชาติไทยอ่ะคุ่ะ เลยรีบๆเดินออกไป ไม่ได้ดูละเอียดเท่าไหร่ ชอบโรงเก็บราชรถ เคยถ่ายรูปราชรถไปรูปนึง ลูกบอก แม่ เค้าห้ามถ่ายภาพ แหะๆ พลาด พอไปดูห้องเก็บเครื่องดนตรีที่วังหน้ารัชกาลที่ 1 สิ้นพระชนม์ ลูกบอกรู้สึกกลัวบรรยากาศมันวังเวง แต่ดิชั้นชอบ ขลังดี ชอบห้องเก็บตู้พระไตรปิฎก แล้วก็ชอบที่มีรูปโบราณสถานก่อนที่จะมีการบูรณะ ก่อนจะกลับก็ไปเห็นรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์ปารมิตา รีบเรียกลูกมาดู บอกว่านี่ไง ที่มาของชื่อเรา ยืนเล็งกันตั้งนาน เพราะเล็กจัง คุณนายของดิชั้นปลื้มซะ จากคุณ : p_or (p_or) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:24:34

ความคิดเห็นที่ 72 งบน้อย ทำไมไม่หาทางช่วยจากภาคเอกชน? บริจาคให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หักลดหย่อนภาษีไม่ได้ ผู้ให้ต้องไม่หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากป้านเล็กๆ ^ ^(บรรทัดนี่เราเสริมเอง) ขอเสริมอีก เมืองนอกมีแผนกของระดมทุน มีระบบผู้สนับสนุน ทั้งแบบประชาชนและบริษัท มีแผนกประชาสัมพันธ์ ฝ่ายขาย มีนโยบายการเงิน และหาเงินจริงจังจากการขายของ ขายอาหาร ขายกิจกรรม จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:25:41

ความคิดเห็นที่ 73 เรื่องการประชาสัมพันธ์ ให้เยาวชนมามากขึ้น พช. ไม่มีฝ่ายการศึกษา และประชาสัมพันธ์ หน้าที่ตกเป็นของผู้ช่วยภัณฑารักษ์ หนึ่งคน ทุกวันนี้ แ้จ้งข่าวผ่านประชาสัมพันธ์ของกรม มีระบบจดหมายข่าว สำหรับผู้ที่ลงชื่อไว้ เพิ่งมีหน้าเฟสบุค ให้อีกทีเผื่อมีใครแอด http://www.facebook.คอม/nationalmuseumbangkok กิจกรรมส่งเสริมความรู้สู้ประชาชน มีบ้างไหม? มีจัดอยู่นะคะ เช่น ก่อนหน้านี้มีกิจกรรม ๙ พระพุทธรูปวังหน้า ที่เพิ่งผ่านไปคือ ชมวัดพระแก้ววังหน้า รู้สึกจะมีกิจกรรมของนิทรรศการไทย-ญี่ปุ่นด้วย ไม่ค่อยแน่ใจ และจะมีมาอีกเรื่อยๆค่ะ เข้าไปดูจากหน้าเฟสได้ค่ะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:35:01

ความคิดเห็นที่ 74 ทำไมถึงห้ามถ่ายรูป? ไม่ได้ห้ามถ่าย แต่ถ้าจะถ่ายภาพต้องขออนุญาตก่อน อำนาจการอนุมัติอยู่ที่อธิบดี ขั้นตอนคือ ทำหนังสือถึงอธิบดี ส่งมาที่ พช. พช. ส่งถึงสำนัก สำนักส่งถึงสารบรรณกรม สารบรรณกรมส่งให้เลขา เลขาส่งให้รองฯ รองฯส่งต่อให้อธิบดี และส่งย้อนกลับมา ตามลำดับจนกลับถึง พช. การแก้ให้ถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ต้องแก้ที่ระเบียบกรมศิลปากร ป.ล. สำหรับพิพิธภัณฑสถานต่างจังหวัดได้จะรับมอบอำนาจ ดังนั้นคนพิจารณาคือ ผ.อ. พิพิธภัณฑ์ แต่ส่วนกลางต้องส่งเรื่องเข้ากรม - -" ป.ป.ล. ถ้าห้ามด้วยเหตุของลิขสิทธิ์ พช.ไม่น่าจะทำได้นะ เพราะของเก่าเหล่านี้อายุมากเกินกว่าที่กฏหมายลิขสิทธิ์จะคุ้มครอง การทำซ้ำละลอกเลียนแบบไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ น่าจะผิดฐานฉ้อโกงถ้าหลอกว่าเป็นของจริงมากกว่า จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:51:50

ความคิดเห็นที่ 75 หมดคำถามแล้วค่ะ หวังว่าจะไม่มีอะไรตกหล่น ถ้ามีข้อไหนจำมาผิดพลาด รบกวนทักท้วงด้วยนะคะ คห. 67 คุณเหมียวออก้ามีอะไรเสริมไหมคะ คห. 71 ดีจังเลยค่ะไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว คุณลูกก็รู้จักรักษากฏน่าชื่นชมค่ะ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 23:57:16

ความคิดเห็นที่ 76 เรื่องห้ามถ่ายรูปก็พอเข้าใจค่ะ ที่เค้าว่าแฟลชมันอาจจะส่งผลเสียต่อโบราณวัตถุ แต่มันไม่มีการควบคุมเลยนะคะ เด็กบางกลุ่มก็ถ่ายกันโครมๆเลย เลือกมุมไปสิ มุมนี้แสงสวย มุมนั้นดี มุมโน้นเยี่ยม เห็นมาจริงๆ พวกเด็กๆคงไม่เข้าใจสัญลักษณ์ห้ามถ่ายภาพละมั้ง แถมยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยเตือนอีก เท่าที่เห็น เจ้าหน้าที่น้อยจริงๆ จากคุณ : p_or (p_or) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 00:32:11

ความคิดเห็นที่ 77 แถม การจัดแสดงของสมิทโซเนียน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งชาติ ภาพบนเป็นศิลปวัตถุ ภาพล่างเป็นสัตว์ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 00:42:47

ความคิดเห็นที่ 78 คห. 76 ใช่ค่ะ แฟลชมีผลบางส่วน ห้องประวัติศาสตร์ชาติไทย เส้นทางซับซ้อนค่ะ เจ้าหน้าที่ประจำดูแลได้ยากกว่าห้องจัดแสดงอื่นๆ ตอนที่เราไปถ่ายภาพ เดินถ่ายไปได้สักพักก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาถามค่ะ ต้องแสดงบัตรอนุญาต ถ้าเป็นส่วนอื่นแค่เดินเข้าห้องก็โดนทักแล้วค่ะ ต้องยื่นบัตรตลอด จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 00:46:29

ความคิดเห็นที่ 79 แถม ถ้าจำไม่ผิด คือThe MET (เลือกรูปมาแล้วลืมจด - -") ภาพบนเป็นห้องที่รีโนเวทใหม่แล้ว ต่างจากเดิมคือ การจัดแสดงกระจายตัวมากขึ้น แสงสวยขึ้น และป้ายมีการเล่าเรื่องราวมากขึ้นกว่า บอกชื่อ อายุ แหล่งที่มา ภาพล่างเป็นห้องจัดแสดงอื่นที่ยังไม่ได้รีโนเวท คนใส่ชุดดำที่ยืนพิงตู้ทางขวาในรูปบน เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้อง คอยห้ามคนแตะศิลปะวัตถุ ไม่ทำอย่างอื่น แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 54 00:51:46 จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 00:51:15

ความคิดเห็นที่ 80 น่าอิจฉาคุณplakaจังที่ได้ไปพิพิธภัณฑ์เหล่านั้นครับ อยากไปมากเลย สักวันจะไปเดินชมด้วยตาตัวเองให้ได้ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 21:23:25

ความคิดเห็นที่ 81 สงสัยเกี่ยวกับการถ่ายภาพในนี้น่ะครับ เคยจะเข้าแต่เห็นติดป้ายห้ามถ่ายรูปและให้ฝากกล้องเอาไว้ด้วย จึงไม่ได้เข้าไป พอมาเห็นว่ามีการถ่ายภาพภายในได้ด้วยเลยสงสัยครับ ต้องขออนุญาตหรือเปล่าครับ จากคุณ : ตาบอดสี เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 22:36:25

ความคิดเห็นที่ 82 คห. ๘๐ เป็นโชคดีที่เราได้ไปค่ะ ดูไปดูมาก็เข้าใจว่าของบ้านเรา ไม่ได้แตกต่างไปจากเมืองนอกสักเท่าไหร่ พิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆก็มีนิทรรศการสวยลือชื่อ ไม่กี่นิทรรศการ ที่เหลือ ก็ไม่ได้ต่างไปจากบ้านเราสักเท่าไหร่ โชคดีที่บางประเทศระบบการศึกษาเขาค่อนข้างดี คนเลยรู้จักใช้พิพิธภัณฑ์ให้เป็นประโยชน์มากกว่าบ้านเราหน่อย เวลาไปเที่ยว เวลาน้อย ก็เลือกดูกันแต่สิ่งดีๆ เอามาเล่าสู่กันฟัง ตอนเด็กๆก็เข้าใจไปว่า เมืองนอกน่ะ เจริญเหมือนเมืองสวรรค์ พอได้ไปเองก็เข้าใจ บ้านไหน เมืองไหนก็มีทั้งดีและแย่ และไม่มีที่ไหนเหมาะกับเราเท่ากับบ้านเกิดเมืองนอนของเรา คห. ๘๑ ติดต่อเจ้าหน้าที่ ทำจดหมายถึงอธิบดีค่ะ รายละเอียดตาม คห. ๗๔ จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 23:24:29

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณนะครับที่นำมาให้ชมกัน โดยส่วนตัวแล้วช่วงที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ มีโอกาสไปมาแล้ว 3 ครั้ง สองครั้งแรกไปเพราะถูกสั่งให้ทำรายงานและกลับไปอีกครั้งเพื่อแก้ไขงานที่ไม่สมบูรณ์ ครั้งที่สามไปเพราะอยากจะไปเอง รู้สึกเหมือนมีมนต์ขลังทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้าไปในเขตวัง มันดูเงียบ สงบ วังเวงแตกต่างจากบริเวณนอกรั้วเหมือนเป็นคนละโลกกัน เป็นโลกของอดีต ไปทุกครั้งก็จะไปติดแหง่กอยู่ที่ตำหนักแดงกับโรงราชรถนานกว่าจุดอื่น ดูไป พินิจไป นึกย้อนไปถึงช่วงที่วังนี้ยังมีเจ้านายประทับอยู่ นึกถึงของต่างๆที่ยังถูกใช้ นึกถึงว่า แต่ละวันคนในวังนี้ เค้าทำอะไรกันบ้าง เหมือนเป็นภาพในจินตนาการของเราที่ฉาย ทับซ้อนกับภาพปัจจุบันขึ้นมา ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปอีก เรื่องถ่ายรูป ผมเคยไปขออนุญาตตรงส่วนของ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ยื่นบัตรนักศึกษา ให้เค้าไป แล้วบอกจุดประสงค์ไปว่า เรามาทำอะไร นั่งรอเซ็นชื่อนิดหน่อยประมาณ 5 นาที เค้าก็ให้เป็นบัตรอนุญาตถ่ายภาพมาหนีบกับเสื้อไว้ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนเยอะเหมือนที่ จขกท. บอก อาจจะด้วยเป็นเด็กด้วยแหละ เค้าเลยให้ แต่ระหว่างเดินถ่ายไป ก็เจอคนตำหนิเหมือนกัน เค้าก็ว่าด้วยหน้าตาและน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า "ไม่่เห็นป้ายเหรอคะว่าห้ามถ่ายภาพ" แต่พอเอาบัตรให้ดูเค้าก็เดินหนีไป แต่ไม่โกรธเค้านะ ชื่นชมด้วยซ้ำ อยากให้มีคนคอยเตือน พวกแหกกฎแบบนี้เยอะๆ จากคุณ : คุณชายริมฝั่ง เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 04:12:15

ความคิดเห็นที่ 84 ลองไปมิวเซี่ยมสยาม + พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ + พิพิธภัณฑ์รัตนโกสินทร์ตรงโลหะปราสาท พร้อมๆ กันในวันเดียวกันสิัครับ จะได้เห็นการเล่าเรื่อง "ประวัติศาสตร์" ไ้ด้คนละเวอร์ชั่นเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเดียวกัน ผมว่าตลกดี เหมือนอ่านราโชมอน แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 54 15:16:27 จากคุณ : Govinda Gopala เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 15:16:05

ความคิดเห็นที่ 85 # 84 ไปพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กับ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์มาแล้ว ยังไม่ได้ไปมิวเซียมสยาม อยากไปทั้งสามที่พร้อมกันในวันเดียว จะได้เห็นความแตกต่างของแต่ละที่ แต่คงทำไม่ได้ เพราะแต่ละที่ใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลยในการเดินดูรายละเอียดไปเรื่อยๆ จากคุณ : เพนกวินร่าเริง เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 17:29:07

ความคิดเห็นที่ 86 แหะๆ ไม่ได้อ่านจนครบ ครับ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 54 18:31:45 จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 18:31:09

ความคิดเห็นที่ 87 ไปสามที่วันเดียว ผมว่าจะชมจะสนุกไม่ไหวนะ เพราะมันมีกิจกรรม มีอะไรให้ชมให้ศึกษาเยอะแยะเชียวละ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 54 20:50:34

ความคิดเห็นที่ 88 @85 + 86 ไม่ต้องละเอียดก็ได้ครับ แค่ดูการ "นำเสนอ" กับ "มุมมอง" กว้างๆ ก็เห็นได้ชัดว่าต่างกัน หรือค่อยๆ ไปก็ได้ จะเห็นอะไรน่าสนใจเลยล่ะ ผมเคยพาเพื่อนฝรั่งไปดูพิพิธภัณธสถานแห่งชาติตอนเช้า แล้วพาไปดูมิวเซี่ยมสยามตอนเย็น ขนาดเดินไม่ได้อ่านทั้งหมดนี่ก็นับว่าการเล่าเรื่องต่างกันจนคนต่างชาติรู้สึกตัวได้เลยล่ะครับ  XD แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 00:17:53 จากคุณ : Govinda Gopala เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 00:17:27

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่ได้ไปมานานมากแล้ว แค่จากในรูปนี้ ก็ดูดีกว่าที่คิดไว้เยอะแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 54 00:12:37

ความคิดเห็นที่ 90 นาน ๆ ครั้งจะได้กดถูกใจ พอได้อ่านกระทู้นี้ต้องให้ถูกใจกับโหวตอย่างไม่ลังเล เพราะตัว เองก็ชอบพิพิธภัณฑ์เหมือนกันค่ะ ได้คุณ plaka มาเล่าเรื่องราวในพิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติ พระนคร ก็เหมือนตัวเองได้สัมผัสไปด้วย อย่างคนชื่นชอบฯ เองก็ไปมาหลายครั้ง จน นับไม่ถ้วนแล้วค่ะ เคยมีคนถามเราว่า "ไม่เบื่อบ้างเหรอ ไปซ้ำ ๆ หลายครั้ง" เราก็ตอบ ว่า "ขนาดไปเยอะ ยังไม่ค่อยรู้เลยว่า ชิ้นของที่นำมาจัดแสดงมีอะไรบ้าง" อย่างบางชิ้นเป็น หลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ เรายังไม่รู้เลยว่าได้มาตั้งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จนต้องกลับ มาดูใหม่ สิ่งที่เราเคยดู แล้วก็เดินผ่านไป จนมารู้ทีหลังว่าเป็นของควรค่าแก่การศึกษา อยากบอกว่า ไปพิพิธภัณฑ์ได้เพลิน ไม่เคยคิดเบื่อเลยค่ะ ;) จากคุณ : คนชื่นชอบนิยาย ^^ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 07:43:40

ความคิดเห็นที่ 91 ใครชอบทางด้านศิลปะน่าไปมากๆนะครับ ขอแนะนำเลย แต่เสียดายเรื่องงบประมาณ งบน้อยแล้วกว่าจะผ่านจะซ่อมนานและล่าช้ามาก จากการเคยฝึกงานที่นี้ครับ พี่เจ้าหน้าที่เขาก็บ่นกัน เรื่องกล้องวงจรบ้าง หรือเขายังบอกเองเลยว่า น่าจะมีผู้เชีย่วชาญมาประจำห้องมากกว่าพี่เจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าพี่ไม่ได้จบเรื่องนี้มาก็ไม่สามารถตอบคำถามผู้เข้าชมได้ น่าจะมีอบรมอะไรบ้างก็ได้ แต่ชอบมากครับที่นี้ จากคุณ : DirrtyVanilla เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:27:03