ความคิดเห็นที่ 1 เราได้ไอเอลท์พาร์ทอ่าน 8 นะคะ อันนี้รอบสอง รอบแรกทำไม่ทันค่ะ ก็แนะนำให้ทำแบบฝึกหัดเยอะๆค่ะ โครงสร้างประโยคต้องแม่น เพราะจะได้จับใจความสำคัญได้เร็ว ประธานหลัก กริยาหลัก กรรม ส่วนขยาย ถ้าจับได้ จะอ่านได้เร็วลื่นปื้ดๆ เลยค่ะ อย่าไปอ่านตรงตัวเทกซ์นานนะคะ อ่านผ่านๆ พอจับความได้แล้วไปดูคำถามเลยแล้วค่อยมาอ่าน อย่างละเอียดตรงที่คำถามต้องการ อันนี้วิธีของเรา จากคุณ : sweetkiwi เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 14:42:14

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยสอบได้เท่านั้นหรอกคะ และคะแนนรวมไม่ถึง 6 ด้วย แต่เปลี่ยนใจมาเรียนญี่ปุ่นแทน  แต่จากการมาใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงๆ บอกได้คำเดียวว่าฝึกฝนเท่านั้น ได้ใช้มากและใช้บ่อยเท่าไหร่ ยิ่งเก่งและเร็วเท่านั้น ฝึกเพื่อเอาไปใช้ในชีวิตจริงไม่ใช่ฝึกเพื่อสอบอย่างเดียวน่าจะทำได้ดีกว่าคะ  สู้ สู้คะ จากคุณ : มะม่วงมัน เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 21:27:00

ความคิดเห็นที่ 3 ู ^ จะบอกข่าวร้ายให้ว่าภาษาญี่ปุ่นน่่ะโหดกว่าภาษาอังกฤษตั้งหลายเท่า ในรอบ 15 ปีของการทำงานแปลเอกสาร เวลาเราเจอภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นส่วนใหญ่มันมักจะอ่านไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะหานักแปลเก่งญี่ปุ่นมากๆได้ยากเต็มที ขนาดคนไทยที่เคยเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นมาเกิน 10 ปึีหรือแม้กระทั่งอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นที่สมาคมนักเรียนเก่าญีปุ่น แปลไทยเป็นญี่ปุ่น เขียนภาษาญี่ปุ่นไปคนญี่ปุ่นยังส่ายหัวอ่านไม่รู้เรื่องเลยหละ พอแปลญี่ปุ่นเป็นไทยภาษาไทยก้ออ่านไม่รู้เรื่อง เดี่ยวนี้วงการแปลตื่นตัวจ้างนักแปลที่เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งเรียนภาษาไทยจนแตกฉาน มาตีตลาด เพราะภาษาไทยเรียนง่ายกว่า คนญี่ปุ่นเรียนภาษาไทยไม่กี่ปี เก่งกว่าคนไทยเรียนญีปุ่น กันคนละโลกเลยหละ...!!! จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 00:14:18

ความคิดเห็นที่ 4 อ่าน อ่าน อ่าน และ อ่าน ครับ ไม่มีเคล็ดลับ หรือ ทางลัดหรอกครับ การฝึกฝนเท่านั้นที่จะช่วยได้ อ่านในที่นี้สามารถอ่านได้ทุกอย่างเลยครับ ข่าว บทความ นิยาย นิตยสาร อาจจะเริ่มจากเรื่องที่เราสนใจก่อน จะได้มีแรงบันดาลใจในการฝึกฝนครับ การอ่านสามารถทำให้เกิดผลดีได้ ดังนี้ครับ 1. ทำให้เราคุ้นเคยกับภาษา อ่านจับใจความได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหาของสิ่งที่เราอ่านทั้งหมดหรอกครับ เพียงจับประเด็นที่สำคัญได้ก็ถือว่าได้ฝึกฝนแล้วครับ 2. ยิ่งอ่านเยอะยิ่งรู้เยอะ ทำให้ผลในการสอบ part อื่นดีตามไปด้วย เพราะเรามีข้อมูลในการใช้ภาษาเชิงตรรกะมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งใน part speaking และ writing ผมเป็นคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษเท่าไหร่ครับ บอกตรงๆ แกรมม่าอ่อนมากๆ แต่อาศัยการอ่านนี่แหละครับ ทำให้เราคุ้นเคยกับการใช้ภาษามากขึ้น ผมสอบครั้งแรก reading ได้ 4.5 ครั้งที่สองได้ 8 ห่างกัน 2 ปี ส่วนใหญ่ผมก็ฝึกฝนด้วยการอ่านมาตลอดเลยครับ Learning is all about self-motivation การเรียนรู้อยู่ที่แรงบันดาลใจในตัวเราเอง คนอื่นช่วยได้แค่ให้การสนับสนุนและชี้แนะเท่านั้น ต่อให้คนสอนเก่งแค่ไหน ถ้าสอนแล้วคนเรียนไม่อยากรับก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นต้องตั้งเป้าหมาย มุ่งมั่นไปให้ถึงครับ สู้ๆ ครับ :D จากคุณ : PaddlePOP เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 18:38:25 A:58.9.157.67 X: TicketID:276373

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านเยอะๆครับ ตอนผมสอบ ได้ออกมาสวยงาม R9-L8-W7-S6 จากคุณ : มร.คงเส้นคงวา (teerasay) เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 02:04:30