ความคิดเห็นที่ 1 คิดว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ค่ะ จากประสบการณ์ตรง เราเป็นคนพูดคุยได้คล่องกับชาวต่างชาติ เนื่องจากสถานที่เรียน บวกกับได้พบเจอบ่อย แต่พอให้มาเขียนessay เราคิดไม่ออกเลย เราว่าจะเขียนเก่งไม่เก่งอยู่ที่การฝึกฝนมากกว่าค่ะ ในขณะเดียวกัน เพื่อนๆเราเช่นคนจีน หรือรวมทั้งคนไทยนี่แหละ ส่วนมากนะคะ การเขียนจะค่อนข้างเก่ง เพราะอยู่ในเนื้อหาการศึกษา และท่องจำคำศัพท์ตลอด แต่พอให้สื่อสารกับชาวต่างชาติจริงๆกลับกลายเป็นพูดตะกุกตะกัก ติดๆขัดๆ เป็นต้น จากคุณ : สาวประเภทสวย เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 01:43:35

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่จำเป็น เพราะคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่เป็นแนวแกรมมามากกว่าอยู่แล่ว ส่วนใหญ่จะอ่านเขียนดีกว่าพูด ถ้าอยากเขียนดี ก็ลงคอร์สแกรมมา การเขียน ไปเลยดีกว่า จากคุณ : PaBo เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 12:06:38

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวไม่เคยเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ และไม่ตั้งใจเรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วย แต่สามารถเรียนEng 2 และ 3 ได้เกรด A (Eng4 ยังไม่ได้เรียน ยังไม่ขึ้นปี2จ้ะ 55) คิดว่าคงเป็นเหตุมาจากที่ตัวเองชอบอ่านการ์ตูนออนไลน์ และคนแปลไทยแปลไม่ทันใจ ชอบแอบไปอ่านเว็บภาษาอังกฤษก่อน เลยคิดว่าการอ่านน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการเรียนวิชาภาษาอีงกฤษค่ะ ยังไงก็ลองดูนะคะ ^^ จากคุณ : hmtomon เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:26:22

ความคิดเห็นที่ 4 Not necessarily true. It is different skill. If you have more chances to listen/speak/interact, your speaking skill will be better. But if you don't interact, but you read a lot and have to write/translate for a living, your writing skill will be better. My writing skill is many times better than my speaking ability. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 10:30:22

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าขึ้นอยู่กับว่า เราฝึกฝนหรือได้ใช้ทักษะอะไรบ้างค่ะ ส่วนตัวเราต้องพูด ฟัง โต้ตอบภาษาอังกฤษทุกวัน ทักษะด้านนี้ก็ดีกว่า แต่เรื่องการเขียนนี่ เอ่อ....เขียน essay ล่าสุดคือตอน ป. 5 แล้วเพิ่งเขียนอีกทีตอนจบป.ตรี เราว่าตอนเราอยู่ป. 5 ยังเขียนดีกว่าตอนนี้อีก T_T จากคุณ : โคอาล่าบ้องแบ๊ว เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 11:03:42

ความคิดเห็นที่ 6 คำถามที่ว่า "การที่จะเขียนได้ดี จำเป็นต้องพูดได้ดีก่อนรึป่าวคะ ?" ตอบ จำเป็น "พูดดี" หมายถึงเวลาพูดน่ะสร้างประโยคได้ถูกต้องตามหลัก grammar แต่ไม่นับสำเนียงไม่ดีนะ เพราะพวกอดีตเมืองขึ้นอังกฤษอย่างแขกอินเดียหรือคนสิงคโปร์เนี้ยสำเนียงไม่ค่อยดีหลายๆคน แต่เขียนเก่งมากๆ แล้วจะยังไงพวกเขาก้อยังพูดคล่องนะ บอกตรงๆว่าเขียนเก่ง (หมายถึงไม่มีผิด grammar เลยนะ) แล้วพูดผิดๆถูกๆ หรือนั่งคิดตั้งนานยังพูดไม่ออก ตะกุกตะกัก นี่ เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต ตั้งแต่ทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในประเทศไทยมา 23 ปี ส่วนคนพูดเก่งแล้วถูก grammar เปัะๆ แต่เวลาเขียนดันเขียนผิดบานเบอะ กลายเป็นมีมากมาย คนไทยนี่หละหลายๆคนดัดจริตเสียงเท่เหมือนอเมริก้นเลย แต่พอเขียนออกมาผิดดูไม่ได้ มีเยอะมากๆเลยหละ...ซึ่งก้อเป็นเรื่องธรรมดา เพราะขนาดฝรั่งเจ้าของภาษาพูดทั้งชัดทั้งถูก grammar แต่เขียนผิด grammar บาน มีเยอะแยะไป เพราะเขียนมันยากกว่าพูดตั้งหลายเท่า ถ้าคุณเห็นใครเขียนเป็นตุเป็นตะแพล็บเดียวปั่นไปได้ตั้งหลายสิบหน้า แต่พูดตะกุกตะกัก หรือพูดผิดๆถูกๆ ให้สันนิษฐานไว้ว่าเขาเขียนเร็วแต่เขียนผิด grammar บานเบอะเลยหละ ในรอบ 20 ในต่างแดน บวกอีก 23 ปี ของการทำงานสอนภาษาอังกฤษ + แปลเอกสาร + เป็นล่าม อีก 23 ปี ในเมืองไทย รวม 43 ปี  เราพบคนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 มาหลายพันคน หาคนพูดอังกฤษเก่งสำเนียงดีมากๆได้ หลายร้อยคน แต่คนเขียนภาษาอังกฤษเก่งระดับ “ไม่มีผิดแบบ syntactic errors in the writing of second language learners แบบหาไม่เจอเลย หมดจดเกลี้ยงเกลา ในชีวิตนี้เราพบมาแค่ 2-3 คนเอง และคนพวกนี้บางทีไม่ใช่เรียนเอกอังกฤษด้วย แต่อยู่ในต่างแดนในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งฟัง พูด อ่าน เขียนมาหลายสิบปี และ/หรือเป็นอัฉริยะทางด้านภาษา” สรุป คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 แล้วเขียนอังกฤษเก่งแบบไม่มีที่ติ ส่วนใหญ่ไปโตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 1 ตั้งแต่อายุไม่เกิน 13 คนพวกนี้อายุแค่ 30 ก้อเขียนเก่งแล้ว  แต่คนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ที่เป็นคนธรรมดาๆ ไม่ใช่อัฉริยะทางด้านภาษา ถ้าไม่ได้อยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 1 ตั้้งแต่เด็กๆ กว่าจะเขียนเก่งได้อายุก้อปาเข้าไปตั้งเกือบๆ 50 แล้วกันทั้งนั้น... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 00:24:00 แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 54 15:10:12 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 15:04:56

ความคิดเห็นที่ 7 คราวนี้มาแนะแนวเรื่องการเรียนของ จขกท ถ้าอ่อนมากๆควรเรียน aua ให้พูดได้ฟังได้ก่อน เราเคยเห็นคนไทยที่ไม่เคยไปเมืองนอกมา หลายๆคนเรียน aua แล้วพูดชัดถูก grammar โอเคเลยทีเดียวหละ จากนั้นถ้าคุณอยากเรียนเขียนคุณต้องหาตำราพวก grammar กับ writing และ video clips (มีสอนทั้ง grammar ทั้งสอนเขียนเหมือนไปนังเรียนในมหาลัยต่างประเทศเลยหละ) จากต่างประเทศ ที่ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งทำไว้เป็นภาษาอังกฤษมาศึกษา แต่ "อย่าอ่านตำราภาษาไทย และอย่าไปติว writing กับโรงเรียนสอนภาษาอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ได้ผลหรอก" แต่ถ้าคุณมีเงินพอ ก้อลองไปเรียนปริญญาโททางด้านภาษาอังกฤษกับมหาลัยดีๆในต่างแดน อาจช่วยเร่งให้เก่งเร็วได้ แต่คุณต้องทำใจว่า "คุณเริ่มฟิตจัดตอนจบปริญญาตรีไปแล้ว ถ้าวาสนาสูงส่ง ไปพบอาจารย์เก่งๆ เข้า คุณเรียนแล้วฝึกทุกวัน ถ้าตอนนี้คุณอายุ 25 คุณเขียนเก่งแบบเทพ ได้ตอนอายุ 35 (ถ้าคุณเป็นอัฉริยะทางด้านภาษา) แต่ถ้าคุณเป็นคนธรรมดา ก้อต้องทำใจ เพราะกว่าจะเขียนเก่งแบบนักเขียนฝรั่งดังๆได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเรียนเอง) อายุคุณก้อปาเข้าไป ตั้ง 50 แล้ว หรือมากกว่านั้นอีก...เลยหละ...!!!" ^ แต่ก้อไม่ต้องกลัว เพราะถ้าอายุ 30 กว่าๆ แล้วเขียนคล่อง แต่ยังเขียนผิดธรรมชาติมากมาย สิ่งที่คุณเขียนมันก้อยังสื่อสารได้ นะ เพราะเราไปเป็นล่ามในที่ประชุัมบริษัทข้ามชาติในไทยบ่อยๆ ในที่ประชุมเวลาเขาฉายขึ้นจอข้อความที่คนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 เขียนนะ พวกอดีตเมืองขึ้นอังกฤษ เราจับผิดแทบไม่ได้เลย แต่ชาติอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย(ที่อยู่ในประเทศไทยที่ระบบการสอนภาษาอังกฤษประสบความล้มเหลว) ต่อให้เรียนปริญญาโทหรือเอกจากเมืองนอกมา  ถ้าไม่ได้ไปโตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 1 ตั้งแต่อายุไม่เกิน 13 ขวบนะ ในรอบ 23 ปี ที่ทำงานด้านภาษาอังกฤษในเมืองไทย เ้ราหาคนเก่งระดับเราจับผิด (เขียนผิดธรรมชาติ)  ถ้าอายุต่ำกว่า 50 นะ หาแทบไม่เจอเลยซักรายเดียว จริงๅ...!!! ดังนั้น ถ้า จขกท เรียนจนพอเขียนได้ แต่ผิดบ้างเล็กน้อย อ่านรู้เรื่อง ก้อไม่ต้องกังวลมาก ฝรั่งเรียนภาษาไทยหรือจีนท่องศัพท์หนักๆ 5 ปี เขียนไทยหรือจีนไม่ผิดเพี้ยนเป็นไปได้ง่ายๆ แต่คนไทยหรือจีนเรียนอังกฤษ 15 ปี ถ้าท่องแต่ศัพท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ร้องเพลงจำศัพท์ ที่กำลังนิยมกันอยู่นะ" รับประกันได้เลยว่า เขียนคล่อง (แค่พออ่านรู้เรื่องเท่านั้น)แต่คนที่เก่งอังกฤษจริงๆ (ระดับนักเขียนฝรั่งดังๆระดับอัฉริยะ) จะจับผิดได้เกือบๆ ทุก paragraph เลยหละ...!!! นี่เรื่องจริงๆ ไม่ใช่อิงนิยาย "ดังนั้น ถ้าใครพูดว่า เคยเห็นคนเขียนเก่ง แต่พูดไม่เก่ง แสดงว่า คนพูดน่ะ ไม่รู้ว่าไอ้คนเีขียนเก่งน่ะ มันเขียนเร็วแต่ัมันเขียนผิดเพียบเลยหละ...!!!" จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 00:47:55

ความคิดเห็นที่ 8 ที่เ้ราพูดไว้ใน คคห 7 ว่า "ฝรั่งเรียนภาษาไทยหรือจีนท่องศัพท์หนักๆ 5 ปี เขียนไทยหรือจีนไม่ผิดเพี้ยนเป็นไปได้ง่ายๆ แต่คนไทยหรือจีนเรียนอังกฤษ 15 ปี ถ้าท่องแต่ศัพท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ร้องเพลงจำศัพท์ ที่กำลังนิยมกันอยู่นะ" รับประกันได้เลยว่า เขียนคล่อง (แค่พออ่านรู้เรื่องเท่านั้น)แต่คนที่เก่งอังกฤษจริงๆ (ระดับนักเขียนฝรั่งดังๆระดับอัฉริยะ) จะจับผิดได้เกือบๆ ทุก paragraph เลยหละ...!!!" ^ เพราะอะไร? ตอบ ภาษาไทยหรือจีน คำศัพท์แต่ละคำ ถึงแปลหลายความหมายได้ก้อจริง แต่มันไม่มี grammar โยงกับคำศัพท์ทุกตัวอย่างซับซ้อนเหมือนในภาษาอังกฤษ ลองมาดู 5 ประโยคข้างล่างนี้ กัน คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 แล้วพูดคล่อง ถ้าไม่เรียนจนถึงระดับพัฒนา "การรับรู้พิเศษ" ขึ้นมา ละก้อ เวลาเขียน แล้วเขียนประโยค 5 ประโยคข้างล่างเนี้ย ออกมาสลับกันไปสลับกันมา ก้อไม่รู้หรอก ว่า มันผิดตั้ง 4 ประโยค แต่ถูกแค่ประโยคเดียวเอง...!!! 1. Can you suggest me a good dictionary? 2. He suggested us to go for a drink. 3. What do you suggest us to do? 4. Who would you suggest for the job? 5. I suggest to wear something warm. ^ 5 ประโยคนี้ เอามาจาก เอามาจาก คคห 8 ในกระทู้นี้ http://pantip.com/cafe/library/topic/K10279650/K10279650.html คือกว่าจะจำเรื่องพวกนี้ (grammar ที่โยงกับศัพท์ทุกคำ) ได้หมดในสมองจนเขียนไม่มีผิดเลยนะ ถ้าใครมาฟิตจัดเรียน writing เอาเมื่อจบปริญญาตรีแล้ว ถ้าไม่ใช่อัฉริยะด้านภาษา แต่เป็นบุคคลธรรมดาๆนะ เราว่า กว่าจะเขียนไม่ผิดเลยได้ก้อ อายุ 50 เกือบๆจะ หรือเลย 60 ไปแล้ว...อย่างแน่นอน...!!! ดังนั้นวิชาภาษาอังกฤษคือสาขาเดียว ที่ ถ้าคุณจะแข่งกับใคร (ซึ่งต่างจากเรียนแพทย์หรือวิทยาศาสตร์) คุณไม่ต้องกลัวว่าเขาจะจบเอกอังกฤษระดับปริญญาตรี โท หรือเอก ขอให้ชั่วโมงบินคุณมากกว่าเขา และคุณอ่านตำราต่างประเทศเยอะๆ และทุ่มเวลาเรียน (grammar เฉพาะตัวที่โยงกับศัพท์ทุกตัวไปให้หมด ทำให้คุณเขียนประโยค 50 ประโยคพลิกแพลง แต่มีความหมายเหมือนๆกันได้ ซึ่งภาษาอื่นหาเขียนพลิกแพลงสู้ภาษาอังกฤษลำบากมากๆ)  คุณก้อเก่งกว่าคู่แ่ข่งคุณได้สบายๆ... นั่นก้อเพราะว่าภาษาอังกฤษมันมีความลึกลับ อยู่ในตัวมันมากๆ ที่ต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันชั่วชีวิต ไม่ใช่แค่เรียนจบเอกอังกฤษ หรือไปเรียนกวดวิชาร้องเพลงจำศัพท์มาแ่ค่ไม่กี่เดือน แล้วจะเก่งกันได้ง่ายๆ...!!!!! แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 01:15:49 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 01:12:13

ความคิดเห็นที่ 9 I am the one who can write good English but speaks very badly due to personal handicap, the so-called "the King's Speech". Since I rarely have a chance to speak that much due to my personal handicap when I have to speak, it does not come out good, sometimes full of grammatical errors due to several factors including stage fright, stuttering etc. Don't forget that I was educated in Thai school system. I read hundreds of English books, mostly graded readers, when I was in high school. And I posted several times that I was so good at grammar that in mid-term MS. 5 I could get 100% correct on STRUCTURE. I think, I am not the only one who can read/write many times better than speaking. Use it, or lose it. I did dnot have so many occasions to speak even when I was educated abroad. So it is within reasons that I could not and cannot speak well. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 01:13:05

ความคิดเห็นที่ 10 ประสบการณ์ตรงของผม ผมเขียนเก่งก่อนพูดครับ โธ่ สมัยเราเรียนน่ะ ไปหาฝรั่งที่ไหนมาพูดด้วย ก็อ่านก่อนเขียนก่อนจนคล่อง มาฟังกับพูดทีหลัง ตอนหัดฟังหัดพูดนี่ขอสนับสนุนคุณหมอดูว่า AUA เป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะแนวทางของเขาเป็นการฝึก input คือการฟัง และ output คือการพูด อย่างครบวงจรและ intensive พอสมควร การฟังและการฝึกออกเสียงอักขระทั้งพยัญชนะและสระอย่างถูกต้อง ผมได้รับการฝึกที่เข้มข้นจากที่นี่ ถ้าตั้งใจละก็ได้ ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างคุ้มค่าแน่ๆ อย่างไรก็ตาม หากต้องการความคล่องแคล่วในการสนทนาจริงก็ไม่มีอะไรทดแทนการลงสนามจริงๆได้ แต่ว่าหากมีการฝึกเตรียมให้ถูกต้องไว้ล่วงหน้าได้ละก็ จะทำให้ผู้ฝึกมีทักษะที่แน่น จะต่อยอดอย่างไรก็ได้ และอีกอย่างหนึ่ง การที่เขียนได้แน่นมาก่อนนั้นเป็นเครื่องค้ำยันการพูดให้แน่นได้เร็วขึั้นมาก คำว่า "แน่น" ผมหมายถึงสาระของการพูดและวิธีการพูดแบบเป็นทางการ การพูดไม่เป็นทางการแบบ everyday conversation นัันไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรมาก พูดทักทายขอข้าวขอเหล้าถามทาง พูดจำพวกนี้ก็เก็บเอาข้างทางน่ะแหละ เป็นเร็วและคล่องได้เร็ว แต่ว่าพอจะให้พูดแสดงข้อคิดเห็น นำเสนอข้อมูล และการโต้เถียงหักล้างด้วยชั้นเชิงทางตรรกะ ถ้าคนเขียนเป็นและแน่นอยู่ก่อนแล้วก็จะถอดเอาทักษะของการเขียนไปครอบใส่การพูดได้ไม่ยากเย็นอะไรเพราะสาระทางความคิดมันใช้กรอบเดียวกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 15:35:09

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าคิดว่าคุณ K.Senior กับคุณแอ๊ด ปากเกร็ดจับประเด็นเราคลาดเคลื่อน เรื่อง speech problem ที่คุณ K. อ้างถึง เราคิดว่าถ้าปัญหาคืออวัยวะเปล่งเสียงหรือระบบประสาทสั่งงาน สั่งการไม่ออกตอนพูด มันไม่เกี่ยวกับประเด็นที่เราบอกว่า "คนเขียนเป็นเพราะรู้โครงสร้างประโยค ต้องคิดประโยคพูดออกมาได้อย่างแน่นอน (โดยไม่คำนึงถึงสำเนียงนะ)"...อันนั้นเป็นกรณีของคุณ K. ส่วนกรณีของคุณแอ๊ด นั้น ถ้าเก่งระดับเขียนออกมาเป็นโครงสร้างประโยคที่ถูกต้องได้ แล้วพอจะพูด (ถ้ายังไม่เคยลงสนามพูดเลย) อย่างมากมันก้อแค่พูดออกมาช้า แต่จะถึงกับพูดไม่ออกเป็นใบ้ หรือพูดออกมาแล้วผิดเละ มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน (เว้นเสียแต่ว่าจะ feel nervous อย่างแรง...!!) เพราะจะอย่างไรก้อตามหลักการสร้างประโยคตอนเขียน มันเอามาใช้พูดได้อยู่แล้ว (แต่ถ้าขาดประสบการณ์มันก้อแค่พูดแบบเป็นทางการมากไปหน่อย ไม่เหมือนพวกฝรั่งกับฝรั่งพูดกันใน pub ตอนเมา) เท่่านั้นเอง... แล้วคนเขียนถูกเป๊ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเก่งระดับเห็นนประโยค 5 ประโยคใน คคห 8 ของเรา แล้วรู้โดยสัญชาติญาณทันทีว่า มี ผิด 4 ประโยคตรงไหน แล้วถูกแค่ 1 ประโยคตรงไหน แล้วรู้ธรรมชาติของคำศัพท์แบบนี้ กับคำศัพท์พื้นฐานแค่ defining vocabulary 2000 คำ (ที่ใช้พูดเกือบจะทุกอย่างในชีวิตประจำวันได้) แค่นี้ก้อพูดไม่ผิดเละอยู่แล้ว มันจะถึงกับพูดไม่ได้หรือพูดผิดเละ มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน (เว้นเสียแต่ว่าจะมี speech problem หรือ nervous อย่างแรง ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว) ยกตัวอย่างเช่นในบริษัทแปลแห่งแรกที่เราเคยทำงานด้วย มีนักแปลหลายคน แต่มี 2 คนที่น่าสนใจศึกษาคือพวกเขาจบจากสถาบันเดียวกัน คนหนึ่งผู้หญิงอีกคนหนึ่งผู้ชาย เวลาแปลอังกฤษเป็นไทย ไม่มีใครกินใครลง คือผลัดกันตรวจงานของกันและกัน แล้วก้อยำงานของกันและกัน (ปรับให้ดีขึ้น) มาได้แบบไม่เคยมีใครเพลี่ยงพล้ำต่อกันและกัน แต่เวลาแปลไทยเป็นอังกฤษจะไม่เคยผลัดกันตรวจของกันและกัน แต่ทั้ง 2 คนจะส่งคำแปลภาษาอังกฤษให้ชาวต่างชาติที่เก่งระดับ subeditor หนังสือพิมพ์ฝรั่งตรวจ เวลาเราดูภาษาอังกฤษที่ทั้ง 2 คนเขียน ผู้หญิงแพ้ขาดลอยเลย เพราะเธอเขียนมี syntactic errors in the writing of second language learners เพียบเลย ส่วนผู้ชายเขียนมาเราจับผิดเขาไม่ได้เลย แล้วเวลา 2 คนพูดอังกฤษ เราก้อเคยฟัง ผู้หญิงเขียนผิดยังไงก้อพูดผิดยังงั้น ส่วนผู้ชายที่เขียนถูกเป๊ะๆพูดไม่มีผิดเลยหละ... ตรรกะแบบนี้มันกลับไปกลับมา ไม่เป็นจริง (ต้องระวัง) นั่นก้อคือ คนพูดเก่งเป๊ะๆ แต่กลายเป็นเขียนผิดบานเบอะ นั่นมันกลายเป็นไปได้...!!!  อดีตแม่ยายเราเป็นคนอังกฤษพูดอังกฤษก้อเป็นธรรมชาติดี แต่เธอเขียนอังกฤษแล้วโครตผิดบานเบอะเลย...แบบเหลือเชื่อจริงๆอ้ะ...นั่นก้อเพราะว่าเธอไม่เคยมีความจำเป็นต้องเีขียนอะไรในชีวิตเลยนอกจาก shopping lists...แล้วเราก้อไม่เคยเห็นเธออ่านหนังสือเลยซักกะเล่มหนึ่งด้วย...!!! มันคงเหมือนๆกับว่า ชาวเยอรมันพูดภาษาเยอรมัน (ถูก เว้นเสียแต่ว่าจะไปโตต่างแดนแล้วไม่เคยเรียนเยอรมัน หรือเป็นใบ้นะ) แต่ คนพูดเยอรมันเป็นชาวเยอรมัน (ไม่ใช่เสมอไป เพราะชาวออสเตรียนก้อพูดเยอรมัน) ^ นี่หละคือสิ่งที่เราพยายามสื่อ... แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 20:31:13 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 20:26:52 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 20:19:12