ความคิดเห็นที่ 1 อาจจะเป็นการคัดเลือกและให้เด็กกลับมาสอบใหม่อีกครั้งก็ได้ค่ะ... แต่ถ้าตัดสิทธิเด็กในทันที ไม่ให้โอกาสเด็กแสดงความจำนงค์เข้าเรียนอีก อย่างนี้ก็ทำกันเกินไป ทั้งนี้ทั้งนั้น โรงเรียนน่าจะบอกเกณฑ์คัดเลือกนี้แก่เด็กแต่แรกเพื่อที่เด็กจะได้รู้ว่าตัวเขาต้องทำอย่างไรเพื่อมีสิทธิเรียนต่อ การมาบอกคุณสมบัติเรียนต่อ ในช่วงสุดท้ายของการประเมินผลหรือตอนที่จะประกาศ...เด็กไม่มีโอกาสได้ปรับปรุงผลการเรียนของตัว....แบบนี้มันก็ไม่ค่อยแฟร์กับเด็กเท่าไหร่... จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:14:09

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงรอยต่อ ขึ้น ม.ปลาย กับต่อมหา'ลัย เป็นช่วงที่มีอะไรมากลั่นแกล้งเด็กทุกๆปี นึกอะไรได้ก็เอามาทดลองใช้กัน แต่เด็กที่อยู่ในช่วงนั้นเค้าไม่มีโอกาสทดลอง พวกเค้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว น่าเห็นใจมากๆ จากคุณ : reccaninja เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:42:47

ความคิดเห็นที่ 3 ู^ ^ ^ พึ่งไม่กี่ปีมา ก็มีเรื่องเปลี่ยนระบบเป็น Admission, Gat Pat ไม่รู้การศึกษาไทยมันเป็นอะไรของมัน จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:27:13

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับผม คิดว่าไม่น่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง หรือ อะไำรอย่างนั้นนะ ผมคิดว่าทุกฝ่ายพยายามหาวิธีปรับปรุง แต่ประเด็นคือ -มันปรับปรุงได้จริงมั้ย -คนที่คิดปรับปรุงแก้ไข เข้าใจลึกซึ้งหรือเปล่า -เคยให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน คือ ผมว่าบางทีมันเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุดแล้วมันก็เลยกลายเป็นการเพิ่มปัญหาไม่จบสิ้นซะที ผลก็เลยทำให้นักเรียนต้องรับกรรม จากคุณ : At Your Service เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 12:55:33

ความคิดเห็นที่ 5 ปีนี้มีปัญหามากหน่อยครับ รมต.แกมาใหม่ แกออกกฏเข้มเลย ปัญหาของเด็กจบม.3 ปีนี้ เลยโชคร้ายไป สรุปคือ 1. นโยบายเสริมสร้างศักยภาพ เช่นห้องวิทยาศาสตร มากินโควต้าปกติ เช่นมี ม4 ห้องวิทย์ พสวท  1ห้อง  ห้องปกติ ก็ลด 1ห้อง 2. ห้ามรับเด็กเกิน 50 คน  จริงๆ ผมเห็นด้วยนะ ไม่ควรเกิน แต่ควรยกเว้น สำหรับเด็ก รร.เดิม  น่าจะยัดได้เป็น 55 คนไปเลย 3. ส่วนเกฑณ์ 3.37 นี่เวอร์มากกกกกกกกก เป็นกำลังใจให้นะครับ  ตอนลูกผมสอบ ม4 รร.ดังไม่ได้ สองเดือนก่อน ผมนอนไม่หลับเลย  ตอนนี้ได้ห้องวิทย์ แห่งหนึ่งแล้ว คลายกังวลลงไปนิด จากคุณ : SuperCrazyBoy เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 15:20:48

ความคิดเห็นที่ 6 3.36 ก็เยอะแล้วนะ จะอะไรกันนักหนา เราเข้าใจ เพราะเราก็เพิ่งจบม.3 จากคุณ : ตุ่นน้อยตัวกลม (ตุ่นน้อยตัวกลม) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 18:39:57

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าทำได้ไม่ผิดอะไรถ้า.. มีการแจ้งล่วงหน้าในระยะเวลาที่เหมาะสมให้เด็กได้เตรียมตัวก่อน ไม่ใช่คิดจะทำก็ทำเลยปุบปับ อยากจะรับกันที่เกรดเท่าไหร่ก็บอกล่วงหน้ามาเลย เด็กจะได้ตั้งใจมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการเรียนต่อ แล้วก็ควบคุมมาตรฐานการออกเกรดให้ได้ด้วย ห้องหนึ่งมากกว่าห้าสิบคนมันเยอะไปจริงๆ สมควรควบคุม แต่ไม่ใช่คิดจะลดก็ลด ไม่คิดถึงเด็ก จากคุณ : plaka เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 22:04:25

ความคิดเห็นที่ 8 คห 1 และ 7 แหม อ่านแล้วนึกถึงบอลไทยลีกเลย (ขอนอกเรื่องหน่อยนึงนะ หุ หุ) อยากจะเพิ่มทีมก็เพิ่มมันดื้อๆ เตะจบฤดูกาลแล้วค่อยบอกว่าจะเพิ่มทีมซะงั้นก็มี เหอๆ ทำใจครับ บริหารแบบไทยๆ ก็แบบนี้แล กฎระเบียบอะไรก็ลืมมันไปซะ เพราะถ้าผู้บริหารนึกอยากจะเปลี่ยน บางทีท่านก็สั่งเปลี่ยนกันดื้อๆ เดี๋ยวนั้นเลย ไม่ต้องบอกล่วงหน้าก็ได้ ใครจะทำไม มองโลกในแง่ดีก็ต้องบอกว่า แบบนี้ก็ดีอย่าง เด็กจะได้ต้อง "เต็มที่" ตลอดเวลา ไม่มีสิทธิ์ผ่อนหรือขี้เกียจเรียนในเทอมสุดท้ายได้เลย เพราะไม่รู้ว่าถ้าผ่อนแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ให้เข้มงวดขึ้นหรือไม่อย่างไร -------------------------------------------------------------------------------------- แต่บอกตรงๆ ว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ "บ้องตื้น" มากครับ เพราะจริงๆ มันต้องแก้ปัญหามาตั้งแต่ว่าทำไงถึงจะทำให้เด็กไม่ไปล้นกองที่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง ถ้าสามารถทำให้ทุกโรงเรียนมีมาตรฐานและชื่อเสียงเท่าเทียมกัน ปัญหาเด็กล้นห้องในบางโรงเรียนก็ลดลงหรือหายไปเองอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 04:16:40 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 03:35:45

ความคิดเห็นที่ 9 อยากได้ข้อมูลว่า 3.36  ขึ้นไป กี่คน 3.0  ขึ้นไป กี่คน ฯลฯ ถ้าเด็กเกินครึ่งได้ 3.36   นั่นบอกอะไรบางอย่างครับ จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 11:17:12

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องเรียนโรงเรียนขยายโอกาสอย่างเรา หนังสือฟรี ค่าเทอมไม่มีเก็บ ลงภาคปฏิบัติจริงๆ เกษตรคือเกษตร วิทยาศาสตร์คือวิทยาศาสตร์ ฮ่าๆ จบมาก็ฟัดเหวี่ยงกับคนอื่นได้พอสมควรอยู่  ประหยัดเงินได้มากโข ความรู้ก็ได้เท่ากันด้วย ถ้าไม่นับเส้นสาย ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ ^__^ น่าสงสารเยาวชนรุ่นน้องจริงๆ น้องเอ๋ย เสียเงินมากเท่าไหร่เล่า ตัวเจ้าจึงจะมองว่าคุ้ม ^__^ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 11:47:17

ความคิดเห็นที่ 11 แล้ว #10 ตกลงเรียนที่ไหนกันนี่? เรียนนอกหรือเรียนใน? คนเรียนเก่งก็งี้แหละ เลือกได้ กลายเป็นตัดสินใจลำบากไปฉิบ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 16:41:26

ความคิดเห็นที่ 12 รู้สึกว่าปัญหานี้คล้าย กับปัญหาของโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวๆ ศรีนครินทร์เหมือนกัน ไม่ทราบว่าเป็นโรงเรียนเดียวกันหรือเปล่า ทางโรงเรียนบอกตั้งแต่แรกว่ารับเกรด 2.00 ขึ้นไป  แต่มาบอกเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ตอนประกาศผลนี่แหละ   และมีประกาศอีกว่าสามารถไปสมัครสอบเข้าม. 4ได้อีกครั้ง แต่เป็นโรงเรียนอื่นไม่สามารถสมัครสอบโรงเรียนเดิมได้    โรงเรียนรับเด็กนอก 150คน หมายความว่าเด็กโรงเรียนเดิมไม่มีสิทธิสอบแข่งกับเด็กนอก จะไปสมัครสอบโรงเรียนเตรียมใหญ่ก็ไม่ทันแล้วครับ หมดเขตรับสมัครแล้ว สมัครที่โรงเรียนอื่นส่วนใหญ่ก็ไม่รับ หรือรับน้อย 10-20 คนเอง เพราะเขารับเด็กโรงเรียนตัวเองก่อนทั้งนั้น  เด็กก็เคว้งเลย ผู้ปกครองก็เครียดไปตามๆกัน น่าสงสารมาก หากเปิดโอกาสให้เด็กสมัครสอบแข่งกับเด็กนอก 150 คนวัดกันไปเลยว่าใครเก่งกว่าก็เข้าเรียนได้ ก็ไม่เป็นปัญหามากตามกระทู้ เพราะเด็ก 3.00 กว่า ถึง 2.00 กว่าๆ ก็ประมาณ 100 เศษๆ ** แก้ไข รับวิทย์-คณิต 150 คน ศิลป์คำนวณ 50 คน ทั้งหมด 200 คน แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 19:07:02 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 19:06:20 จากคุณ : Junkceylon เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 18:44:58

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนสอบเข้ามหา'ลัย เราเป็นรุ่น admission ค่ะ ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ เ้หมือนตัวเองเป็นหนูทดลอง พ้นรุ่นเราไป เจอ gat pat โอ้ว..รุ่นเราดูดีขึ้นมาทันที เราเคยคิดเล่นๆ ว่า สงสัยท่านๆ ทั้งหลาย คงจะห่างหายจากการสอบเข้าหลายปี หรือไม่เคยเรียนในประเทศ จบนอกกันตลอด เลยไม่เข้าใจปัญหาของการศึกษาไทย - -" จากคุณ : fafay เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 18:45:09