|
ขอบคุณ คุณ At Your Service มากๆเลยครับ ที่ช่วยให้กระทู้นี้มีรายละเอียดที่เป็นประโยน์มากยิ่งขึ้น
เพื่อนๆที่สนใจทุนนี้ add link ข้างบนที่คุณ At Your Service นำมาแปะไว้ไห้ไว้เลยครับ ทุน Erasmus Mundus(EM)นี้ เริ่มให้ทุนครั้งแรกเมื่อปี 2547 ระยะที่หนึ่งคือ 2547-2551
ตอนนี้อยู่ในช่วงของระยะที่สองคือ 2552-2556 ในแต่ละระยะ หลักสูตรที่เปิดให้เรียนก็จะเหมือนกันไปตลอด ตามที่กำหนดไว้นี้แหละครับ แต่อาจจะมีเพิ่มเข้ามาบ้าง (กฏหมายก็มีครับ คุณโจโฉว) อันนี้เฉพาะ Action1 นะครับ
ส่วน Action2 นั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะมี web page รวมไว้ แบบ Action1 หรือไม่ ถ้าหาเจอจะนำมาบอกครับ (รบกวนคุณ AYS ด้วยนะครับ ได้ร่วมกันแล้ว ช่วยกันต่อไปนะครับ เพราะคุณน่าจะคล่องในเรื่องนี้มากกว่าผม 55)
ถ้าไม่เจอ (ตอนผมสมัคร ก็เหมือนเจอแบบฟลุ๊คๆครับ search ไปเรื่อยๆ บังเอิญเจอ เกือบสมัครไม่ทัน) ในช่วงที่เขาเปิดรับสมัคร ลองsearch คำว่า erasmus mundus ก็น่าจะเจอครับ เข้าไปดูรายละเอียดโครงการ ซึ่งหลักสูตรจะแตกต่างกันไป
ที่สำคัญคือ ในแต่ละรอบการรับสมัคร สมัครได้คนละไม่เกิน 3 โครงการ นะครับ เลือกให้ดี ถ้าสมัครเกิน เขาจะตัดสิทธิ์ทั้งหมดเลย (เข้าใจเอาเองว่า รวมทั้งสองAction ไม่เกิน 3)
มาถึงการสมัครของผมนะครับ...
(ตอบคำถามคุณโจโฉก่อนดีกว่า ผมจบวิศวะมาก่อนครับ ทำงานก็วิศวะ คนละแนวเลยใช่ไหมครับ 555 เกรดก็น้อยนิด เพราะเข้าไปเรียนแล้วไม่ชอบ แต่ตอนนั้นได้ทุน 4 ปี ทำสัญญาแล้ว ก็เลยต้องเรียนให้จบ เคยถามตัวเองว่า ถ้าให้ไปสอบเอ็นท์ใหม่ จะเลือกเรียนอะไร..... IR คือคำตอบแรกๆครับ... จบมาก็ต้องทำงานใช้ทุน หนีไปไหนไม่ได้ ลืมเรื่องอยากเรียน IR ไปเลย แล้วก็มาเรียนนิติ มสธ. เพราะคิดว่าเป็นประโยชน์ในการทำงาน (ไม่เคยรู้ว่า มสธ. เปิดสอน IR ด้วย) จนถึงตอนจบนิติ ถึงได้รู้ว่า มี IR เปิดสอนด้วย
เกิดประกายทันทีเลยครับ ว่าอยากเรียน แล้วถ้าเรียนได้ดี จะหันไปเอาดีทางนี้
ประกอบกับได้อ่านหนังสือ ..ทุนเรียนฟรีมีทั่วโลก...ก็ได้ข้อมูลว่า แถบยุโรป มีทุนเรียน ป.โท เยอะ หรือเรียนฟรี ก็มี...กินอยู่เอาเอง (ก็ยังดี)
นั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นที่ท้าทายและต้องซุ่ม เพราะบอกใครเขาจะเชื่อว่าเป็นวิศวกรอยู่ดีๆ แต่ฝันจะจบรัฐศาสตร์เกียรตินิยม มสธ. แล้วได้ทุนต่อโทต่างประเทศ และ จะเรียน ป.เอก ต่ออีกด้วย 555
แต่ผมไม่สนความคิดลบๆของคนรอบข้าง ที่บอกว่า
อายุก็เกินเกณฑ์จะขอทุนแล้ว ใครเขาจะให้ทุน??? จบ มสธ. จะไปสู้พวก จุฬาฯ มธ. ได้เหรอ เขาเก่งๆกันทั้งนั้น ชื่อเสียงมหาลัยก็เป็นที่รู้จัก??? ประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพนั้น ก็ไม่มี???
คำพูดเหล่านี้อาจจะบั่นทอนกำลังใจผมไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ท้อครับ เพราะเชื่อเสมอว่า คนเราขอให้มีฝัน มีเป้าหมาย จะมีแรงพลัง ให้ก้าวเดินไปให้สุดกำลัง ได้ไม่ได้ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอให้พยายามให้เต็มที่ก่อน ถึงไม่ได้ก็ไม่เสียใจครับ เพราะเราได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้ทำนี่สิ เราจะเสียดายไปตลอด
กลับมาสู่การสมัครทุนEM ของผมต่อครับ...
หลังจากที่จบ รัฐศาสตร์ IR มสธ. แล้ว ผมก็่หาข้อมูลในเน็ต ว่ามีทุนที่ไหนบ้าง นอกจาก ทุน EM ก็มีทุนของญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอะครับ แต่บางทุนก็จำกัดอายุ ซึ่งผมก็เกินแล้ว เช่น world bank, ADB และทุนญี่ปุ่น ทุนญี่ปุ่นบางอัน ก็ต้องการเอกสารที่ยุ่งยากมากๆ ทุนสิงคโปร์ก็ภาษาอังกฤษไม่ถึง เขาจะเอาไอเอลท์ 7 สุดท้ายได้สมัครแค่ทุน EM 3 โครงการ และ ทุนเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกำหนดว่าหน่วยงานต้องสนับสนุน(สาขาเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ สมัครเผื่อไว้ เพราะคิดว่าโอกาสได้ทุน EM มีแค่ 10-20% เท่านั้น)
สิ่งที่ต้องใช้เวลาคือ การไปขอ Recommendation Letter จากอาจารย์ เพราะการเรียน มสธ. จะไม่ค่อยรู้จักอาจารย์ คิดถึงอยู่ท่านเดียวคือ อาจารย์ประจำกลุ่ม เมื่อตอนอบรมประสบการณ์วิชาชีพ นอกนั้นก็ไม่คุ้นเคยท่านนัก
ก็เลยไปพบท่านพร้อมข้อมูลของเราและข้อมูลทุนที่จะสมัคร พอท่านทราบวัตถุประสงค์ของเรา ท่านก็แสดงความยินดีที่จะสนับสนุนเขียนจดหมายให้ และขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ด้วยว่า จดหมายอีกฉบับจะขอความกรุณาอาจารย์ท่านใดออกให้อีกหนึ่งท่าน ท่านเลยช่วยเป็นธุระขอความกรุณาท่านหัวหน้าสาขาวิชา(คณบดี) ออกให้ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรนะครับ ขอให้เตรียมไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ ของผมกว่าจะได้เป็นเดือนครับ เลยพลาดสมัครทุน EM หลักสูตร Global Studies ซึ่งอยากเรียนมากที่สุดไป (แต่คงเป็นโชคดี เพราะดูแล้วถ้าสมัครก็คงไม่ได้ เพราะคนสนใจเยอะมาก เพราะมี UCL, University College of London มหาลัยดังมากของอังกฤษ ให้เลือกเรียนด้วย)
ตอนนั้นผมยังไม่พบโครงการของ Action2 เลยครับ พิจารณาจากหลักสูตรของ Action1 แล้ว เหลือให้ผมสมัครได้แค่สาขา Master of Public Policy อันเดียว ผมก็สมัครไป เพียงแต่หลักสูตรนี้ต้องส่ง Recommendation Letter ที่ปิดผนึกจากอาจารย์(ห้ามเราอ่าน) ส่งฉบับจริงไปให้มหาลัยที่เป็น coordinator คือ CEU, Central European University ที่บูดาเปสต์ ฮังการี ผมก็ต้องเสียเงินส่งEMS ไป ค่าส่งประมาณหนึ่งพันบาท โดยหลักสูตรนี้มี 4 มหาลัยให้เลือกเรียน คือ ปีแรก ให้เลือกระหว่าง University of York ,อังกฤษ กับ International Institute of Social Studies , กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ปีที่สอง ให้เลือกระหว่าง Barcelona Institute of International Studies, Spain กับ Central European University, ฮังการี ผมเลี่ยงไม่เลือก York อังกฤษ เพราะรู้ว่าค่อนข้างดัง คนคงอยากไปเรียนเยอะ เลยเลือก ISS กับ Barcelona เพราะค่อนข้างชอบสเปนเป็นการส่วนตัว และที่นี่เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงทางด้าน IR
และสิ่งทียากอย่างที่สอง คือ การเขียน Motivation Letter อันนี้ผมว่าสำคัญที่สุด และน่าจะเป็นส่วนที่ผมประสบความสำเร็จจนเป็นที่เข้าตาคณะกรรมการคัดเลือก เพราะภาษาอังกฤษของผมก็แค่พื้นๆครับ แค่พอผ่านเกณฑ์ คือ IELTS 6.5 แถม part writing อ่อนที่สุด ได้แค่ 5.5 (คุณ AYS เก่งกว่าผมมากๆครับ) แต่ขอชมตัวเอง (ไม่ว่ากันนะครับ) ว่ามีแนวคิดจากประสบการณ์ชีวิตที่กว้าง หลากหลาย และสามารถกลั่นออกมาเขียน ML ให้คณะกรรมการเห็นได้ชัดเจนว่า แนวคิดและความตั้งใจในการทำงานในอนาคตของเรา กับการได้เรียนหลักสูตรนั้น มันสัมพันธ์และเกี่ยวเนื่องกัน มีเหตุมีผล ไปด้วยกันได้ดี และถ้าสามารถบอกได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างไรด้วย จะดีมากๆ
หลังจากนั้นก็มาเสิร์ชหาข้อมูลทุนไปเรื่อยๆ บังเอิญมาเจอ โครงการของAction2 สองโครงการที่มีหลักสูตรที่ผมพอจะสมัครได้ คือ
EMA2, Asia Regional เป็นโครงการร่วมของมหาลัยในEU ดังนี้
University of Twente ,Netherlands University of Tilburg, Netherlands Humboldt University, Germany Oxford Brookes U., UK University of Trento, Italy University of Deusto,Spain
และมีมหาลัยนอก EU ที่เป็นเข้าร่วมโครงการ 13 ประเทศ คือ อัฟกานิสถาน ปากีสถานเนปาล ภูฏาน มัลดีฟ ศรีลังกา อินเดีย จีน เกาหลีเหนือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) สำหรับระดับ ป.โท นั้น โครงการนี้กำหนดๆไว้ว่ามี 34 ทุน (แต่ตอนประกาศผลเพิ่มเป็น 44 ทุน เพราะทุนระดับอื่น(บุคลากรมหาวิทยาลัย) มีคนผ่านการคัดเลือกหรือสมัคร ไม่ถึงจำนวนที่ต้องการให้ทุน)
โครงการนี้ดีมากๆตรงที่ ให้เราเลือกสมัครได้ถึง 3 หลักสูตร เรียงตามลำดับความสนใจ ผมเลือกสมัคร ดังนี้ครับ 1. หลักสูตร Euromaster, Humboldt U. แต่ปีแรกเรียนที่ U. of Bath, UK ปีที่สองให้เลือกไป France, German,Italy และ Spain แต่มีเงื่อนไขคือต้องมีความสามารถทางภาษาของประเทศที่จะไปเรียนในปีที่สองด้วย ผมไม่มีหรอก แต่เห็นในโครงสร้างหลักสูตรว่าปีที่สองก็มีเรียนที่อังกฤษด้วย เลยสมัครไป เพราะอยากไปเรียนที่ Bath
2. หลักสูตร Master of Euroculture, U. of Deusto, Bilbao, Spain จริงๆในข้อกำหนดของหลักสูตร ถึงแม้ว่าจะสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่เขาก็กำหนดไว้ว่าต้องมีความสามารถทางภาษาสเปนด้วย (เพราะคนสเปนเหมือนฝรั่งเศส คือ คนทั่วไปไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ) (ผมก็ไม่มีหรอกครับ แต่จะสมัครอ่ะ สาขาอื่นก็ไม่อยากเรียน ความดันทุรังสูงครับ..555)
3. หลักสูตร European Studies, U. of Twente, Netherlands อันนี้เรียนแค่ปีเดียว เลยเลือกไว้ปิดท้าย เพราะนอกนั้นไม่มีคุณสมบัติ หรือ เป็น field อืน ที่เราไม่สนใจ
โครงการนี้สมัครง่ายครับ เอกสารทุกอย่างสแกนแล้วอัพโหลดได้เลย ไม่ต้องส่ง hard copy , statement of purpose ก็เขียนไว้ใน word แล้ว copy ไป paste ในหน้าเว็บของโครงการได้เลย
ที่ดีอีกอย่างคือ โครงการนี้ไม่กำหนดประสบการณ์การทำงานครับ (คงเป็นเหตุผลนี้ด้วยล่ะมั้ง ที่ทำให้ผมไม่เสียเปรียบ)
..พักก่อนนะครับ ไว้ตอนหน้าจะเล่าถึงโครงการที่ 3 ที่ผมสมัครไป และผลการสมัคร วิธีการแจ้งผลการสมัคร และสิ่งดีๆที่คาดไม่ถึงอีกด้วยครับ
ขอบคุณครับที่ทนอ่านกันจนจบ คนเขียนยังเหนื่อยเลย และ ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า ถามได้นะครับ ถ้าตอบได้ ยินดีตอบครับ
จากคุณ |
:
ดลปรีดี
|
เขียนเมื่อ |
:
9 เม.ย. 54 15:59:52
|
|
|
|
|