ความคิดเห็นที่ 1 ระดับเจ้านายสุขสบายครับ...ถ้าไม่ทำตัวเป็นปรปักษ์ จากคุณ : atk เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 17:49:55

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้อ่านวารสารมิวเซียมสยาม ตอน โยเดียกับราชวงศ์พม่า ของ มิคกี้ ฮาร์ท ชาวพม่า ได้กล่าวถึงชาวสยามที่ถูกกวาดต้อนไปหลังเสียกรุงทั้งสองครั้ง แต่ไม่ทราบว่าจะเชื่อถือได้ขนาดไหนครับ จากคุณ : jubper เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 17:54:22

ความคิดเห็นที่ 3 คงจะไม่สบายเท่าไร จากคุณ : ship9960 เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 18:31:24

ความคิดเห็นที่ 4 อยากสบายอย่างพระสุุพรรณกัลยา  ???? พอ พ่อตาย ลูกก็รับช่วงต่อ จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 20:47:32

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าไปอยู่บ้านเขา คงไม่สุขใจเหมือนบ้านเราหรอกครับ แต่ว่าถ้าเข้าเมืองตาหลิ่ว แล้วหลิ่วตาตามก็คงจะอยู่รอด จากคุณ : ผมแก่แล้ว (ผมแก่แล้ว) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 21:16:02

ความคิดเห็นที่ 6 คุณนายช่างปลูกเรือนคะ ถ้าจะเข้ามาตอบแบบนี้ ไม่ต้องมาตอบก้อได้นะคะ จากคุณ : เตยงาม เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 21:52:11

ความคิดเห็นที่ 7 แต่นี่คือ ของจริง เรื่องจริง จากคนที่ศึกษาเรื่องพม่า   และไม่เคยรับอามิสจากพม่า จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 22:28:11

ความคิดเห็นที่ 8 ในพงศาวดารพม่า  บันทึกว่า พระเจ้าอุทุมพร  ที่ทรงผนวชอยู่นั้น  พระเจ้ามังระ  โปรดให้ลาผนวช (ลาสิกขา) แล้วโปรดให้สร้างพระตำหนักพระราชทาน ณ เมืองสะกาย  ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี  คนละฟากแม่น้ำกับกรุงอังวะ บรรดาเจ้านายราชตระกูล  ขุนนางและราษฎรที่ถูกกวาดต้อนไป  ก็โปรดให้ตั้งบ้านเรือนรวมอยู่ด้วยกัน  เป็นหมู่บ้านชาว โยเดีย (อโยธยา) ดังนั้นตามรูปการณ์แล้ว  เจ้านายพระราชวงศ์จึงน่าจะมีความเป็นอยู่ที่ดีตามอัตภาพ  ที่ขาดคงเป็นเพียง อำนาจ เท่านั้นเองครับ เท่าที่สังเกตุมา  ชาวพม่า ล้านนา ล้านช้าง  ค่อนข้างจะนับถือเจ้านายและราชวงศ์ เห็นได้จาก  กษัตริย์พม่าแต่ก่อน ๆ พอได้ปราบดาภิเษกตั้งราชวงศ์ใหม่  มักจะพยายามเขียนประวัติสายสกุลให้สืบมาแต่  โบราณกษัตริย์  อย่างไกลก็ศากยะวงศ์ของพระพุทธเจ้า  อย่างใกล้ก็  พระเจ้าอนุรุธมหาราช (อโนรธามังฉ่อ) จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 54 22:33:35

ความคิดเห็นที่ 9 สงสัยน่ะครับ 1 เชลยอยุธยาที่ถูกกวาดต้อนและรอดไปถึงพม่า    น่าจะมีซักแค่ไหนครับ   แต่เดาว่าไม่น่าถึงแสน    เอาแค่2-3หมื่นก็น่าจะมากแล้ว 2 ทำไมเชลยเหล่านั้นเมื่อไปอยู่พม่าแล้ว   จึงไม่คิดจะหนีกลับมาในเขตไทยกันเลย แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 00:31:06 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 00:30:23

ความคิดเห็นที่ 10 สมัยนั้นอยู่ที่ไหนก็คงจะเหมือนกันมั้งครับ ก็ต้องทำนาหาปลาเลี้ยงปากท้อง จะคิดเรื่องเดินเท้ากลับมาอยุธยา ก็คงจะเกินกำลังกระมัง จากคุณ : อุบาสกฉางชุน เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 00:56:02

ความคิดเห็นที่ 11 การเดินทางลำบากจริงๆ หนีกลับมาต้องมาเป็นหมู่คณะใหญ่ ไม่งั้นเจอภัยระหว่างทาง อดตาย ขาดอาหาร โจรป่า ยากที่จะกลับมาถึงบ้านเกิดได้ ต้องอยู่ทำมาหากินในแผ่นดินใหม่ เป็นคนของที่ใหม่ไปเลยครับ   การกวาดต้อนผู้คนมีผลเพื่อจะได้กำลังพลในการรบ การจัดเตรียมอาหารและอาวุธไว้รบ จากคุณ : หัวโต๊ะโต่ะ~ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 08:09:45

ความคิดเห็นที่ 12 1. พม่าบันทึกว่ากวาดต้อนไปได้ 1.5 หมื่นคน ครับ แต่ตัวเลขนี้คงจะเป็นตัวเลขที่ไปนับที่พม่า เมื่อเชลยทั้งหมดเดินทางไปถึงแล้วกระมัง ตัวเลขจริงๆน่าจะมากกว่านี้ครับ แต่หายไปเพราะการหลบหนี, ล้มตาย หรือโดนชักออกจากสารบบไปเป็นทาสของเหล่านายทหารพม่าในระหว่างทางบ้าง 2. การเดินทางข้ามจากอังวะมาสยามทำได้ลำบากมากครับ ชาวบ้านในสมัยโบราณถ้าไม่ใช่พ่อค้าหรือนักเดินทางจริงๆ ผมว่าน้อยคนที่จะเคยเดินทางไปไกลกว่าบ้านเกิดเกิน 100 กิโลเมตร จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 10:12:21

ความคิดเห็นที่ 13 เคยอ่านในศิลปวัฒนธรรมค่ะ ว่า มีพระราชนัดดา(หญิง)ของรัชกาลที่ 1 ถูกกวาดต้อนไปคราวนั้น บวชเป็นชี หนีกลับมาเจอกัน อาหลานจำกันได้ ดีใจกันมาก จำไม่ได้ว่า ชื่ออะไร เปิดในเว็บก็ไม่เจอค่ะ จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 12:46:09

ความคิดเห็นที่ 14 พระราชภาติกะ พระองค์นั้น พระนามว่า พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมขุนรามินทรสุดา พระธิดาองค์เดียวของ พระเจ้ารามณรงค์ พระเชษฐาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ ครับ พระองค์ผนวชเป็นรูปชี ที่เมืองทะวาย จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:27:06

ความคิดเห็นที่ 15 จาก คคห ของคุณ zodiac28 ลองดูแผนที่พม่าดูสิครับว่า  เมืองสะกาย - อังวะ  อยู่ไกลจากเขตแดนล้านนาแค่ไหน  ไม่ต้องพูดถึงกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์เลยครับ อีกอย่างการ เล็ดลอด หลบหนีมาน่าจะมีอยู่บ้าง  แต่ถ้ามาเป็นขบวนใหญ่ต้องถูกตามจับแน่ครับ  และถ้าครัวหลบหนีแล้วถูกจับได้  โทษมีสถานเดียวคือ ตาย แต่ถ้ามาขบวนใหญ่มากอึกทึกครึกโครม  ทางพม่าก็ต้องแต่งกองทัพตามหรือให้หัวเมืองรายทางดักจับแน่นอนครับ ดูตัวอย่าง  ชาวมอญ  อพยพเข้ามาทีต้องส่งหนังสือมากราบทูลเพื่อขอกองทัพไปคอยคุ้มกันถึงชายแดน และเพิ่มเติม จาก คคห ของคุณพระนายไวย ครับ กรมขุนรามินทรสุดา  ไม่ได้หนีกลับมานะครับ แต่พระยาทะวาย  ส่งกลับมาถวาย เพราะตอนนั้นพระยาทวายเป็นขบถต่อพม่า  และส่งทูตมาสวามิภักดิ์กับไทย เผอิญช่วงนั้น  กรมขุนรามินทรสุดา  ประทับอยู่ที่เมืองทะวาย  พระยาทวายทราบว่า  เป็นพระเจ้าหลานเธอ (หลานอา) ในรัชกาลที่ 1 จึงบอกส่งตัวมาถวาย จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:28:56

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณคุณพระนายไวยและคุณคอแก้งนะคะ คุณคอแก้งคะ  ก็แสดงว่า หนีไปเมืองทะวายได้ และหนีกันมาเยอะด้วย จากอังวะมาทะวายของมอญ อาจจะเห็นลู่ทางว่าเป็นเส้นทางเดียวที่จะเข้าไทยได้ ทำไมพม่าไม่ตามล่าล่ะคะ  และทำไมไม่มีคำให้การเป็นบันทึกไว้บ้างนะ หรือมีและเป็นอันเดียวกับคำให้การชาวกรุงเก่าคะ จากเว็บสกุลไท http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=517&stissueid=2421&stcolcatid=2&stauthorid=13 ความในพงศาวดาร กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า                 ‘เจ้าพระยายมราชก็ส่งพระองค์เจ้าชีมากับพระราชาพิมลแลข้าไทชาวกรุงตามเสด็จพระองค์เจ้าชีลงมาเป็นอันมาก...สมเดจพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ทรงไต่ถามทุกขศุขตั้งแต่ตกไปอยู่เมืองอังวะแล้ว หลบหลีกลงมาได้จนถึงเมืองทวาย พระองค์เจ้าชีเล่าถวายถึงความทุกขยากลำบาก แล้วก็ทรงพระกันแสง สมเดจพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็กลั้นน้ำพระเนตรมิได้ รับสั่งให้พระองค์เจ้าชีลงสรงอุทกวารีอยู่ที่หาดทรายทำไว้ในแม่น้ำน้อย แล้วสรงน้ำปริตรแล้วก็ให้เรียกเรือมารับพระองค์เจ้าชี แลข้าไทที่ตามมานั้นเปนเรือหลายลำด้วยกัน ก็ให้สนมกรมวังนำส่งพระองค์เจ้าชีเข้ามา ณ กรุงเทพฯ’ จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 10:30:22

ความคิดเห็นที่ 17 ก็คงเป็นลักษณะว่า  ค่อย ๆ เดินทางมาเรื่อย ๆ ไม่ให้ทางพม่าผิดสังเกต  จนมาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ที่เมืองทะวาย อีกอย่างหนึ่งเมืองมะริด และเมืองทะวาย เป็นเมืองบนเส้นทางการค้าขายฝั่งตะวันตกของแหลม มลายู โดยเฉพาะเมืองมะริดที่อยู่ใกล้กันเป็นท่าเรือกำปั่น สำเภาอยู่แล้ว เมื่อไทยเข้มแข็งก็พยายามเอาเมืองมะริดไว้ในอำนาจ  พม่าเข้มแข็งก็พยายามแย่งเอาเมืองมะริดไปจากไทย จึงคิดว่าเส้นทางมะริด ตองอู แปร และอังวะ  น่าจะเป็นเส้นทางสำคัญมีพ่อค้าเดินทางไปมาไม่ขาดแน่ ๆ ครับ คงพอจินตนาการได้นะครับว่า ถ้าเดินทางมาเมืองมะริดและเมืองทะวายคงสะดวกและไม่เป็นที่ผิดสังเกต เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ นะครับ จากคุณ : คอแก้ง เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 20:10:36

ความคิดเห็นที่ 18 ลองมาเดินป่าเมืองกาญจน์กันเล่นๆ ไม๊ครับ ไม่ต้องมาก ลองอยู่ให้ได้เกิน 5 วัน ก็พอครับ จากคุณ : zenzen เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 00:38:29

ความคิดเห็นที่ 19 มีการให้ลองพิสูจน์ด้วย จากคุณ : ดุริยางคศิลปิน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 14:22:01