ผลสอบ เรื่องการซื้อขายปริญญา ป.บัณฑิต

อธิการบดียอมรับเซ็นให้จริง ทั้งที่สภามหา'ลัยยังไม่อนุมัติ

วุฒิการศึกษาปลอมออกฤทธิ์แจ้งความเอาผิด 4 นศ.ปลอมแปลงเอกสาร หลังพบหลักฐานมัดตัว "ไชยยศ" แฉนักศึกษาอีกพันกว่าคนเข้าข่ายซื้อปริญญา เผยมหา'ลัยขอเวลารวบรวมเอกสารเข้าชี้แจง 25 เม.ย. ส่งกรรมการสอบการเรียนการสอน หากพบว่าผิดเตรียมเข้าเทคโอเวอร์ ด้าน “สุเมธ” เสนอเข้าคุมการดำเนินงานหากแก้ไม่ได้ต้องเพิกถอนใบอนุญาต

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการตรวจสอบวุฒิการศึกษาปลอม ว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานเบื้องต้นจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่เข้าไปตรวจสอบ กรณีนักศึกษา 4 คน ที่ให้การเป็นพยานกับทางคุรุสภา โดยคณะกรรมการฯ เริ่มตรวจสอบเอกสารสำเร็จการศึกษา พบว่ามีลายเซ็นของอธิการบดีที่เซ็นกำกับรับรองว่านักศึกษาจบการศึกษาและผ่านการฝึกงาน และเมื่อสอบถามนักศึกษา 4 คน แจ้งว่าเป็นนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ที่เริ่มเรียนภาคฤดูร้อนเดือนมี.ค. 53 จากนั้นเรียนภาค 1/2553 เดือน มิ.ย.-ก.ย. 53 และ ภาคเรียนที่ 2 เดือน ก.ย.-พ.ย. 53 ในระหว่างการเรียนทั้งภาคเรียนที่ 1 และ 2 ต้องไปฝึกงานภาคปฏิบัติในโรงเรียนที่กำหนด แต่เมื่อคณะกรรมการฯไปตรวจสอบกับโรงเรียนที่ระบุนั้น ทางโรงเรียนยืนยันว่านักศึกษาทั้ง 4 คนไม่เคยมาฝึกสอนเลย แต่ในเอกสารการฝึกสอนกลับมีลายเซ็นของผู้ประเมิน และเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นลายเซ็นปลอม ดังนั้นเบื้องต้นถือว่านักศึกษา 4 คน ปลอมแปลงเอกสาร

นายไชยยศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการฯยังตรวจสอบพบอีกว่าอธิการบดี ยังได้เซ็นเอกสารรับรองให้กับผู้ที่จบ ป.บัณฑิต ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับนักศึกษา 4 คนดังกล่าว รวมแล้ว 1,349 คน และส่งให้คุรุสภา เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่จากที่คณะกรรมการฯ ตรวจสอบพบว่ารายชื่อทั้งหมดยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย และเมื่อตรวจสอบระบบการจัดเก็บทรานสคริปต์ของมหาวิทยาลัยพบว่าไม่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบด้วย แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่าพิมพ์ข้อมูลผิด อย่างไรก็ตามเบื้องต้นถือว่าความผิดชัดเจน คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ถูกดำเนินคดีอาญาจำนวนมาก แต่มหาวิทยาลัยอ้างว่าขณะนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ไม่สามารถเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลได้ แต่จะรวบรวมเอกสารและบุคลากรมาชี้แจงในวันที่ 25 เม.ย.นี้

ต่อข้อถามการให้เวลามหาวิทยาลัยถึงวันที่ 25 เม.ย. ไม่เกรงว่าหลักฐานต่าง ๆ จะถูกทำลายหรือ นายไชยยศ กล่าวว่า เพียงหลักฐานของนักศึกษา 4 คน มหาวิทยาลัยแย่แล้ว เพราะทุกอย่างมัดตัวแน่นหนา และยังมี 1,345 คน ซึ่งเชื่อว่าบางคนเข้าข่ายซื้อปริญญามาอีก ทั้งนี้ตนว่ามหาวิทยาลัยคงกลบหลักฐานไม่มิดแน่ ตนเรียกร้องบัณฑิตที่รู้ตัวว่าซื้อใบปริญญา ทั้งมหาวิทยาลัยที่กำลังถูกสอบและมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ให้แสดงตนกับ สกอ. เพื่อรับการกันไว้เป็นพยาน พร้อมทั้ง สกอ. และคุรุสภา จะหาทางเยียวยาให้ แต่หากจะฝืนใช้ใบปริญญาปลอม จะมีความผิดอาญา และเสียอนาคต

“คณะกรรมการฯ ให้เวลาทางมหา วิทยาลัยได้รวบรวมเอกสารและบุคคล เพื่อมายืนยันในวันที่ 25 เม.ย. ตามที่ร้องขอ เพื่อจะได้ไม่โดนมหาวิทยาลัยกล่าวหาว่าฟังความข้างเดียว แต่ถ้าถึงวันขีดเส้นตายมหาวิทยาลัยยังไม่ส่งข้อมูลมา ผมคงต้องออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยให้ สกอ.รวบรวมหลักฐาน และเฉพาะกรณีนักศึกษา 4 คน ชัดเจนแล้วว่ามีความผิดทางอาญา จะแจ้งความดำเนินคดี ขณะเดียวกันให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบด้วยหากพบว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายฐานความผิดฉ้อโกง มีการฟอกเงิน จะให้ดำเนินคดีตามฐานความผิดนั้น ๆ และผมให้ สกอ.ตรวจสอบการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในทุกสาขา คณะวิชา ถ้าผิดอีกอาจถึงขั้นต้องตั้งคณะกรรมการเข้าควบคุมมหาวิทยาลัยเพื่อบริหารจัดการแทน แต่หากเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ คงต้องปิดมหาวิทยาลัย รวมทั้งต้องหาที่เรียนเพื่อเยียวยาให้กับนักศึกษาที่เรียนถูกต้องด้วย” นายไชยยศ กล่าว

ต่อข้อถามลายเซ็นของอธิการบดี เป็นของจริงหรือปลอม นายไชยยศ กล่าวว่า อธิการบดี ยอมรับว่า ได้เซ็นจริง และหากจะอ้างว่า เซ็นไปโดยไม่ทราบ ถือว่าประมาทก็ยังมีความผิดฐานประมาทเลินเล่อ ตนเห็นใจทุกฝ่าย แต่ต้องรักษามาตรฐานการศึกษาไว้ และกรณีนี้ก็ชัดเจน สกอ. คงปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะหากปล่อย ก็จะมีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และตนต้องการให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง

ด้านนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการติดตามตรวจสอบที่คุรุสภาตั้งขึ้น เพื่อเตรียมตัวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล จากนั้นจะนำรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงมีบุคคลทยอยเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งทางคุรุสภาจะดำเนินการติดตามตรวจสอบต่อไป เรื่องนี้คงไม่เงียบเพราะคุรุสภาจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้จะติดตามตรวจสอบกรณีมหาวิทยาลัยซึ่งจัดนอกที่ตั้งที่อาจจะดำเนินการไม่ถูกต้องด้วย

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า การกระทำของสถาบันดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายคุณภาพการศึกษา ตนจึงเสนอ นายไชยยศ ว่าต้องเข้าไปควบคุมการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและหากมหาวิทยาลัยไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ต้องเพิกถอนใบอนุญาต และในวันที่ 18 เม.ย. นี้ ตนจะหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตั้งคณะกรรมการเข้าไปควบคุมการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย ส่วนนักศึกษาทั้ง 4 รายนั้นเบื้องต้นยังถือว่าไม่มีความผิดและถูกกันตัวไว้เป็นพยานก่อน.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=132803

จากคุณ	: หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ	: วันเนา 54 14:22:25