จากหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร 3 ผมว่าศึกครั้งนี้ สำคัญกว่าเหตุการณ์ไล่จับเรือพระยาจีนจันตุ มากๆ เลยครับ
|
 |
ผมว่าเหตุการณ์พระยาจีนจันตุ เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญน้อยกว่าตอนที่ สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปปราบพระยาพิชัย กับพระยาสวรรคโลก ช่วงก่อนจะเกิดศึกพระยาพสิม กับพระเจ้าเชียงใหม่อีกนะครับ
เหตุการณ์ นี้ต่อเนื่องมาจากครั้งที่พระองค์ทรงประกาศอิสรภาพจากหงสาวดีแล้ว ทรงรวบรวมคนไทยแถบหัวเมืองเหนือ เข้าสู่กองทัพของพระองค์เพื่อเตรียมรับศึกหงสาฯ แต่ปรากฏว่าพระยาพิชัย กับพระยาสวรรคโลก เจ้าเมืองสำคัญของทั้ง 2เมือง ไม่ให้ความร่วมมือเพรายังเกรงกลัวทัพหงสาวดีอยู่มาก และไม่เชื่อมั่นว่า พระนเรศวรผู้นี้ จะชำนาญศึกถึงขนาดสู้รบปรบมือกับหงสาฯ ได้ และเกรงว่าความ "Shift หาย" จากพวกหงสาฯ จะมาถึงตน จึงนิ่งอยู่ ไม่รับฟังคำสั่งของสมเด็จพระนเรศวร จนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรต้องยกทัพพิษณุโลกขึ้นไปเมืองพิชัย
พระยา พิชัย รวบรวมทหารและชาวเมืองพิชัย ขึ้นไปรวมกำลังที่เมืองสวรรคโลก และประกาศไม่เข้าร่วมกองทัพของสมเด็จพระนเรศวร ทำให้พระองค์ต้องยกทัพตามขึ้นไปถึงเมืองสวรรคโลก
พระองค์ทรงส่งขุน นาง 2 คน เข้าไปเจรจากับเจ้าเมืองทั้ง 2 เพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่าที่จะรบราฆ่าฟันให้เสียกำลังกันไปเปล่าๆ แต่ปรากฏว่า เจ้าเมืองทั้ง 2 นี้กระทำกำแหง บังอาจตัดหัวข้าหลวงของสมเด็จพระนเรศ แล้วโยนศีรษะข้าหลวงทั้ง 2 ออกไปหน้าค่ายหลวงของพระองค์ ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธเป็นอย่างยิ่ง จึงบัญชาให้ทหารเข้าตีเมืองสวรรคโลกและจับเจ้าเมืองทั้ง 2 ให้ได้
ทหาร จากพิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร ระดมกำลังเข้าตีเมืองถึง 3 วัน เมืองสวรรคโลกจึงแตก สามารถจับพระยาพิชัย กับพระยาสวรรคโลกได้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงพิโรธมาก เพราะช่วงเวลา 3 วันที่ทำศึกไทยฆ่าไทยกันเองนี้ ต้องเสียทหารอันเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าต่อการทำศึกกับหงสาฯ ไปเป็นจำนวนมาก จึงจับพระยาทั้ง 2 มัดตระเวณบกตระเวณเรือ 3 วัน และประหารชีวิตไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทหารชาวพิชัยและสวรรคโลก ที่รอดชีวิตก็เข้ามาร่วมทัพขององค์สมเด็จพระนเรศวรนับแต่นั้น
สมเด็จ พระนเรศวร ทรงเห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่สามัคคี ต่างฝ่ายต่างเกรงกลัวพวกหงสาฯ กันอยู่ พระองค์จึงยกทัพไปเมืองสุโขทัย ทำพิธีศรีสัจปาลกาล ในพระอุโบสถวัดศรีชุม ให้ทหารทั้งหมดกระทำสัจปฏิญาณ ว่าจะร่วมสู้ศึกหงสาฯ นำอิสรภาพคืนกลับสู่กรุงศรีอยุธยาอย่างสมบูรณ์อีกให้ได้
น่าเสียดาย นะครับที่ฉากนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ เพราะเหตุการณ์นี้แสดงนัยยะสำคัญถึงความสามัคคีของคนไทยในชาติ และความยากลำบากของสมเด็จพระนเรศวร ในการรวบรวมคนไทย (ที่ส่วนใหญ่ยังขลาดกลัวพม่า) เข้าสู่กองทัพของพระองค์ เพื่อเข้าสู้ศึกหงสาฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
--- ปล.---แต่ถึุงอย่างไร ผมก็เคารพการตัดสินใจของท่านมุ้ย กับทีมเขียนบท ครับ ท่านคงมีเหตุผลที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวของพระยาจีนจันตุ ซึ่งอาจมีสีสันมากพอที่จะเป็นภาพยนตร์ได้ครับ
| จากคุณ |
:
ออกหลวงมงคล 
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 54 13:50:45
|
|
|
| 
