ความคิดเห็นที่ 1 บางคนฟังได้ บางคนฟังไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นนักเรียนเตรียมอุดมฯ จบ ม. ปลาย ได้ทุน King's Scholarship ไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ 6 เดือน ข้อสอบภาษาอังกฤษอะไรเขาก้อสอบผ่านหมด เพราะเขาสอบทุกวิชาได้คะแนน 99.99% ในขณะที่เราสอบทุกวิช่าได้คะแนนแค่ 30.00% เราเลยต้องอยู่ต่างแดนตั้ง 5-6 ปี่แน่ะ กว่าจะฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องเหมือนเขา...555+++... แต่อีกหลายสิบปีผ่านมา เราฝึกลัทธิเต๋า แล้วเพิ่ม iq เรา เราเลยรอให้พวกเด็กเรียนเก่งๆแมร่งแก่เฒ่าเดินกระย่องกระแย่ง สมองเสื่อม ในขณะที่เรายิ่งแก่ก้อยิ่งหน้าเด็ก และเดินเหินว่องไว สมองทำงานรวดเร็วและเรียนอะไรใหม่ๆได้เร็วมากๆ กลับไปแข่งกับพวกมัน ยิ่งเรียนสูงเราก้อยิ่งอยากแข่งด้วย...เพราะว่าเราเป็น โรคจิตชอบแข่งขันกับคนเก่งๆ....555+++... เมื่อ 2-3 วันที่แล้วพ่อเราเรียกเราไปพบ เพื่อติวเข้มว่าทำไมเราไม่มีทายาทสืบสกุล และทำไมเราไม่เรียนสูงๆ และตำหนีว่าแฟนเราไม่ยอมมีลูกกับเราเพราะกลัวแม่เธอที่เป็นประสาทจะโกรธที่ลูกสาวมาแต่งงานกับผู้ชาย แล้วไม่จยอมรับใช้แม่เหมือนทาส พ่อเราก้อได้แต่ถามว่า "เมื่อไหร่แม่แฟนเราจะตายสักที...555++..." เราพยายามบอกพ่อเราว่าตอนนี้เราเรียนทุกอย่างจาก google  แล้วเรียนรู้ลึกกว่าคนจบปริญญาเอกมากๆ (เราชอบประลองวิชากับคนจบสูงๆ) เพราะเราเห็น Thomas Edison ไม่ได้เรียนจบสูงๆแต่ก้อเป็นอัฉริยะได้... 555+++...แต่พ่อเรางงๆ ว่า เอ มันยังไงกันหว่า? จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 00:02:26

ความคิดเห็นที่ 2 It depends on your base. If you are quite good academically, say your O-NET's Englilsh test is more than 95%, I bet that you can speak English quite OK in 6 months living overseas. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 00:07:24

ความคิดเห็นที่ 3 คือจุดประสงค์ไม่ต้องการพูดเหมือนเจ้าของภาษาเป๊ะ "แต่" แค่ขอให้ฟังและพูดโต้ตอบกลับได้รู้เรื่อง คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกัน พอให้สามารถสื่อสารได้ พื้นฐานของ จขกท พอเอาตัวรอดได้บ้างไม่ถึงกับแย่และไม่ถึงกับเก่ง เพิ่งเรียนจบแต่ยังไม่อยากทำงานเลยไปเตร่หาปสก(เรียนเทคคอร์ส+ใช้ชีวิต) ไปก่อน ส่วนตัวจขกท ชอบให้มีคนสอนมากกว่า(ชอบเรียนมากกว่าและได้ไปหาปสกใหม่ๆให้กับชีวิต) คือไม่ชอบเรียนเอง ทำความเข้าใจเองอ่านเองค่ะ ชอบให้คนสอนมากกว่า ท่านอื่นสามาถให้คำแนะนำได้น่ะค่ะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 00:24:15 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 00:22:52 จากคุณ : ก้อนเมฆสีเทา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 00:20:20

ความคิดเห็นที่ 4 ตั้งใจจริง ได้แน่นอนครับ ผมอยู่เมืองไทย คบเพื่อนฝรั่งไว้คนนึง เอาไว้ฝึกพูด อ่านนิยายให้จบซักปีละ 3 เรื่อง อ่านข่าวทุกๆวัน ฟังรายการสัมภาษณ์ต่างๆ จาก Youtube ผมว่าก็พอสื่อสารได้นะ แต่ไม่ได้เป๊ะอะไร แต่ถ้ามองว่าภาษามีไว้เพื่อสื่อสาร ถ้าอยู่เมืองไทยทำได้แล้ว ไปเมืองนอก ผมว่าจะยิ่งเปิดโอกาสให้เป๊ะขึ้นนะครับ สู้ๆ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 01:01:21

ความคิดเห็นที่ 5 พูดเอาตัวรอดหนึ่งเดือนก็เอาอยู่แล้ว ดูคุณพอจะมีพื้นฐานอยู่บ้าง น่าจะไปได้สวย พอกลับประเทศไทยแล้ว ถ้าหาคนพูดด้วยไม่ได้จริงๆก็ให้อ่านออกเสียงค่ะ เราเพิ่งรู้วิธีนี้มันช่วยได้เยอะทีเดียว นอกนั้นก็ทำตามคห.สี่ จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 05:09:24

ความคิดเห็นที่ 6 ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบตัวในสถานที่ที่จะไปอยู่ด้วยค่ะ ถ้ารอบตัวมีคนไทยมาก วันๆ พูดกันแต่ภาษาไทย ดีไม่ดีครบ 6 เดือนกลับเมืองไทยภาษาไทยอาจดีขึ้นกว่าก่อนมาอเมริกาอีกมั้งคะ ส่วนภาษาอังกฤษคงไม่ต้องพูดถึง จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 07:15:07

ความคิดเห็นที่ 7 "..พ่อเราเรียกเราไปพบ เพื่อติวเข้มว่าทำไมเราไม่มีทายาทสืบสกุล.." >> ง่า ต้องขยันทำการบ้านง่ะ ".. "เมื่อไหร่แม่แฟนเราจะตายสักที...555++..." >> ใครกันแน่ที่ถามหยั่งงี้? เราว่าไม่ใช่คุณพ่อคุณละมั้ง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:10:24

ความคิดเห็นที่ 8 ู^ ^ ^ งงเหมือนกันค่ะ ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมคนไทยน่าจะน้อยค่ะไม่เยอะเท่า บอสตัน-ซานฟราน-นิวยอกหรือเมืองดังๆตามเมืองใหญ่ๆค่ะ จขกท อยู่กับญาติที่เป็คนไทย1คนแต่งงานกับฝรั่ง พี่เค้าออกกฎมาว่าจะไม่พูดภาษาไทยกับหนูเพื่อจะได้ฝึกค่ะ ต้องสู้และฝึกเอาไว้เยอะๆๆ จะชนะพวกคนที่ชอบ "ดูถูก" ให้จงได้ ตอนนี้ก็พยายามฟังข่าว จากเนตเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมค่ะ จากคุณ : ก้อนเมฆสีเทา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:24:42

ความคิดเห็นที่ 9 การฝึกทักษะภาษานั้นอยากได้ผลให้เร็วและแน่นอนต้องฝึกแบบ 24/7 คือยี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวันและเจ็ดวันในหนึ่งสัปดาห์ พูดง่ายๆ ฝึกแบบ immersion คืออยู่ในสถานการณ์หรือบริบทแบบฝรั่งซึ่งบังคับให้เราต้องอ่านต้องเขียนต้องฟังต้องพูดต้องคิดเป็นภาษานั้นๆตลอดเวลา การไปเมืองนอกก็เป็นวิธีการทำแบบนี้อย่างหนึ่ง ดังนั้นหากมี immersion จริงก็ได้ผลแน่นอนเพราะยังไงๆการขอข้าวขึ้นรถถามทางด่าพ่อล่อแม่เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วโดยปกติของคนทุกคน ขอให้ทำจริงๆเถอะ หกเดือนไม่นับว่านานแต่ว่ายังไงๆก็ต้องได้อะไรติดไม้ติดมือมาแน่ จะได้แค่ไหนมีตัวแปรเช่น หัวทางภาษาของคุณเอง ถ้ามีหัวก็ไปเร็ว หรือสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ไปอยู่บ้านญาติที่เขาไม่ยอมพูดภาษาไทยกะคุณก็ดีอยู่หรอก แต่เกิดเขาเป็นคนพูดน้อย วันหนึ่งพูดสักสิบคำ เจอกันตอนเช้าพูดห้าคำ เจอตอนเย็นพูดอีกห้าคำ อย่างนี้จะอยู่เมืองนอกหรือเมืองไทยก็งั้นๆแหละ ไม่ได้ต่างอะไร จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:47:24

ความคิดเห็นที่ 10 Not Really, I think the communication is the basic between Sender and receiver by service provider therfor, if one way communication is not specific only speaking but the speaker should realize to use body language such as hand , arm , body action and Eye contact to the audience as well. moreover, not specific the time but it depend on the your sign or talent and know how to search the goal krub? ลองเขียนโพสเล่นๆครับกับศัพท์ธรรมดาที่ไม่ใช่ Technical term คือผมมองว่าไม่เสมอไปครับเพราะรูปแบบของการสื่อสารคุณต้องเข้าใจก้อนว่ามิติของการนําสาสน์อยู่ที่ผู้ส่งและผู้รับสาสน์หรือแมสเสจนั้นครับ ผ่านทางอากาศก็ต้องแหงล่ะครับจะให้พูดกันในนํ้าหรือ(ยกเว้นใครเองสามารถแยกองค์ประกอบของอากาศให้กลายเป็นนํ้าได้) ครับ. นอกจากนี้เวลาคุยกันก็ต้องดูที่ภาษากายและประสานสายตาด้วยครับ ฝรั่งเขาถือว่าเวลาพูดกับคนไทยที่เขาเข้าใจง่ายก็เพราะคนไทยยิ้มเก่ง ดูจริงใจครับ ถึงจะคุยไม่เก่งไฟไม่แลบ พิมพ์ไม่เร็วเหมือนเสมียนคอลเซ่นเตอร์ก็เหอะครับ เหอ เหอ มีเหน็บฯ จากคุณ : ฮกซี เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:32:12

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วแต่คนนะคะ อย่างเราไปอยู่อังกฤษปีแรก  ได้อะไรไม่มาก คือไม่พอใจกับภาษาตัวเองอย่างยิ่ง (พื้นฐานอังกฤษค่อนข้างโอเคค่ะ)  เอ๋อ ไปปีนึง นั่นเพราะว่า สิ่งแวดล้อมเราส่วนมากอยู่กับคนไทยค่ะ    เช่น  ช่วงเช้า ไปเรียนภาษา  (ก็จะเจอแต่เพื่อนหลากหลายประเทศที่ทักษะภาษาพอๆกัน พูดผิดก็ไม่มีใครแก้ให้ นอกจากคุยกับอาจารย์)     ช่วงบ่าย ก็ไม่ค่อยได้คุยกับใคร   ช่วงเย็น ทำงานร้านอาหารไทย เม้าท์แต่ไทย ฟังแต่คนไทยพูด     คุยกับลูกค้า ก็คุยแต่ประโยคเดิมๆ ที่เด็กเสริฟพึงจะคุยด้วย ขึ้นปีที 2  ค่อยดีขึ้นมาหน่อย   ฟังได้โอเค พูดดีขึ้น หัดเลียนสำเนียง จนเพื่อนๆที่นู่นทักว่าสำเนียงไม่เหมือนคนไทย ปีที่ 3    ดีขึ้นเยอะค่ะ  เพราะดูซีรี่ย์บ่อยๆ   มีเพื่อนมากขึ้น   มีแฟนด้วย เลยได้พูดคุยอังกฤษกันทุกวัน ฉะนั้น เรื่องพวกนี้ แล้วแต่ความพยายามของแต่ละคน และสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในแต่ละวันค่ะ จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:30:31

ความคิดเห็นที่ 12 จนกว่าคุณจะฝันเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ จากคุณ : pureblood (Pureblood) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 19:56:19

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่อยากจะบอกว่าแค่สามเดือนก้อได้แล้วครับ ขออย่างเดียวคือใจสู้ แล้วไปในที่ๆไม่มีคนไทยเลย ก้อพอ พูดง่ายๆว่า สามเดือนนั้นต้องไม่ใช่ภาษาไทยอีกเลย ได้ชัวร์ (ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ความใจสู้และทักษะการเอาตัวรอดของแต่ละคน) จากคุณ : MSM69 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 23:09:04