ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับคนที่หวังเอาดีด้านภาษา รู้ลึกสักสองภาษาก็พอ สำหรับเรานะ ไม่ต้องกังวลว่ามีใครเหนือกว่าแบ่งได้สองพวก พวกแรก อยากเหนือคนอื่น พยายามเรียนมากๆเข้าไว้ ไม่มีทางสำเร็จหรอก โดยเฉพาะสำหรับคนไทย สภาพแวดล้อมไม่อำนวย ไม่เหมือนหลายประเทศที่เขามีสภาพแวดล้อมบังคับให้เขาใช้สองภาษาขึ้นไป ยิ่งพวกลูกหลานอพยพ ลูกครึ่งนี่ตัวดี บางคนใช้สี่ห้าภาษาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเขาอยากใช้หรือไม่ก็ตาม กว่าเราจะตามเขาทัน ลิ้นห้อยพอดี เหอะๆ อีกสาเหตุที่เราแน่ใจว่าพวกนี้ไม่มีทางสำเร็จ(ในความรู้สึกของคนคนนั้น)คือ คำว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถ้ามีความทะเยอทะยานมากยังไงก็ไม่รู้จักพออยู่ดี ยิ่งรู้กว้าง ยิ่งรู้ว่าเราไม่รู้อะไรเลย อีกพวกคือ ฉันไม่สนว่าใครจะรู้กี่ภาษา ฉันเอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว สำหรับเราภาษามีไว้สื่อสาร เป็นเครื่องมือ หนึ่ง ช่วยให้เราเอาตัวรอด ถ้าจะพูดถึงการเอาตัวรอดจริงๆ อย่าใส่ใข่ไว้ในตะกร้าใบเดียวดีกว่าค่ะ หมายถึงว่านอกจากภาษาแล้วยังต้องพัฒนาด้านอื่นด้วย อ้อ เอาตัวรอดมันมีหลายความหมายนะ ในทางอาชีพก็สองภาษาก็พอแล้ว(ภาษาแม่กับภาษาที่สอง) ถ้าในชีวิตประจำวันก็นี่เลย มือ ภาษาใบ้ พยักหน้า ส่ายหัว โบกมือ ใช้สีหน้าก็ไม่ว่า ใช้ได้ดีและทุกสถานการณ์อีกต่างหาก จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 06:36:10

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อนเมกันเราพูดได้หลายภาษาอยู่ แต่เค้าบอกว่าอ่านเขียนไม่ได้ค่อยได้ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 07:21:50

ความคิดเห็นที่ 3 การเก่งด้านภาษา มันจะทำให้เราอยู่เหนือคนอื่นได้ไง? สมมุติเราเก่งภาษาเยอรมัน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส แถมจีนกับเกาหลีด้วยเอ้า เพื่อนเค้าพูดภาษาเขมร อย่างงี้เราเหนือเค้าตรงไหน? ต่ำกว่าเพื่อนเค้าด้วย ค่าที่พูดกันไม่รู้เรื่อง แล้วเหนือกว่าชาวบ้านแล้วมันดียังไง? จากคุณ : SaintPSU เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 08:34:18

ความคิดเห็นที่ 4 "..มคนรู้จักรู้หลายภาษา รู้ทั้งจีนกลาง กวางตุ้ง ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย อังกฤษ คุณว่าเขาพอหรือเขาอยู่เหนือคนอื่นหรือยัง.." >> คำว่า "พอ" และ "เหนือ" เป็นสิ่งที่เป็นอัตวิสัยของคนมอง เมื่อเป็นอัตวิสัยก็คงไม่ต้องวิจารณ์อะไรต่อแล้ว ถ้าคุณมองว่ายังไม่พอมันก็ไม่พอ ถ้าคุณว่าพอมันก็พอ "..ต้องได้กี่ภาษาคุณถึงจะอยู่เหนือคนอื่น (เหนือในที่นี้ไม่การแขงขันหรือการดูถูกนะครับ).." >> คุณถามขัดแย้งกันในตัวเอง การเหนือคนอื่นหรือไม่จะตัดสินได้ก็ต้องเปรียบเทียบ เปรียบเทียบเมื่อไรก็คือการแข่งขัน จะดูถูกหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ผมเห็นเหมือนคุณ SaintPSU ว่าแล้วจะเหนือไปทำไม? อยากโชว์พาวปานนั้นเชียว? ทักษะภาษาเขามีไว้เพื่อสื่อสาร ใครมีความจำเป็นต้องสื่อสารกับใครด้วยภาษาอะไรก็ไปขวนขวายให้เกิดทักษะภาษานั้นๆจนเชี่ยวชาญพอที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาให้กับตัวเอง จะรู้ภาษาอะไรบ้างก็เป็นเรื่องของความจำเป็นในการแก้ปัญหา บางคนรู้แค่ภาษาเดียวก็พอ บางคนต้องห้าหกภาษา แล้วคนที่รู้ห้าหกภาษานั้นถือว่าเหนือกว่าคนรู้ภาษาเดียวหรือ? ด้วยเหตุผลดังฤา? ในเมื่อทั้งสองคนมันมีความจำเป็นต้องใช้ภาษาไม่เหมือนกัน ผมเองรู้แค่สองภาษาคืออังกฤษกับไทยสำหรับตัวผมก็ถือว่าพอแล้ว เอ้า แถมภาษาอีสานบ้านเกิดอีกภาษาหนึ่งถ้าหากถือว่ามันเป็นภาษาถิ่นซึ่งมีศัพท์สำนวนสำเนียงต่างไปมากพอจนถือว่าเป็นอีกภาษาก็ยังได้ แล้วผมด้อยกว่าคนที่รู้ภาษาจีนกลาง ญี่ปุน เกาหลี เยอรมัน ฯลฯ ตรงไหน? ตราบใดที่ผมไม่คิดจะไปเป็นล่ามหรือนักแปลในภาษานั้นๆหรือมีความจำเป็นต้องสื่อสารกับคนที่ใช้ภาษานั้นๆโดยใช้ภาษาเขา ผมก็ว่าไม่จำเป็น อยากคุยกันใช้ภาษาอังกฤษภาษาเดียวก็ครอบคลุมความจำเป็นในการใช้งานสวนมากได้แล้ว ยกเว้นแต่อยากซึมซับอรรถรสแห่งวรรณคดีหรือร้อยกรองของเขา อย่างนี้ต้องรู้ภาษาเขา ผมไม่ได้ปฏิเสธว่าการรู้ภาษาให้มากเข้าไว้เป็นสิ่งที่ดี ยิ่งรู้มากยิ่งดี เพราะภาษาเป็นสื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ มองกันในแง่นี้ เราก็ควรเรียนรู้ภาษาทุกภาษาทั้งโลกให้หมด จะได้เข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึั้น แต่ในทางปฏิบัติ เอาแค่เรียนภาษาที่จำเป็นต้องใช้ก็แทบอ้วกแล้ว คุณถามว่า รู้ลึกแค่ไหนดี? ก็เอาเท่าที่จำเป็น ถ้าจะเอาแค่ขอข้าวกินหรือถามทาง มันก็ไม่ต้องลึกมาก แต่ถ้าอยากรู้จักเขาดีก็ต้องรู้ในระดับวรรณศิลป์หรือระดับเอกสารวิชาการหรือเอกสารทางการ มันขึ้นกับความต้องการของคน เอาแน่ไม่ได้หรอก แล้วก็จะรู้กี่ภาษาก็ตาม มีอยู่ภาษาหนึ่งที่ต้องรู้ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ชาติไหนภาษาไหน นั่นคือ ภาษาคน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 09:02:22

ความคิดเห็นที่ 5 ได้หมดนี่ เหนือแน่นนอน  ครับ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมัน อารบิค อังกฤษ ยิดดิช  พัชทู แต่ที่แน่ๆ  แค่ พูดภาษาคน ให้รู้เรื่อง เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ พอแล้ว จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 09:50:52

ความคิดเห็นที่ 6 55555 "ภาษาคน" แค่นั้นก็พอนะ ถ้ามันทำให้เราทำสิ่งต่างๆได้อย่างราบรื่น และเราเองก็มีความสุขกับชีวิตของเรา เท่านั้นก็น่าจะพอไม่ใช่หรอ ถ้าต้องวิ่งตามเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆเรื่อยๆไป มันก็คงไม่สิ้นสุดหรอก จากคุณ : บะหมี่หมูซามูไร เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 09:53:28

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท กำลังล้นๆ อะไรอยู่หรือเปล่าครับ : ) การความสามารถในการใช้ภาษา(เป็นอย่างดี)ทำให้ได้เปรียบคนอื่นในแง่ของการสื่อสารมากกว่าก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าคุณจะไป "เหนือ" คนอื่นนะครับ มันมีองค์ประกอบอีกมากมายที่จะกำหนดความเหนือคนอื่นๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่สามารถไปเทียบเทียบว่า "เหนือ" หรืออะไรได้ด้วยซ้ำเพราะคนเราแตกต่างกันทั้งพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดู การศึกษา ประสบการณ์ บุคลิกนิสัยใจคอ โอกาส และอะไรอีกหลายๆอย่าง แต่ถ้าจะเทียบให้เหนือจริงๆ ผมว่าสิ่งที่คนเดี๋ยวนี้ขาดกันมากๆคือ "ตรรกะ" กับ "คุณธรรม" ซะมากกว่าไม่ใช่ความรู้อะไรทั้งนั้น กลับมาเรื่องภาษา คนไม่เก่งภาษาแต่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย กับคนเก่งภาษามากๆแต่ก็เป็นได้แค่ลูกจ้างเขาก็มีออกถมเถ อย่างนี้จะเรียกว่าคนเก่งภาษาด้อยกว่าคนอื่นได้ไหมละครับ? อีกอย่างการเก่งภาษามันมีขอบเขตที่ลึกหลายระดับ หลากบริบทในการใช้มากมาย การที่เราจะตัดสินว่าคนนั้นคนนี้เก่งภาษา หรือได้กี่ภาษา มันก็ต้องดูต่อไปอีกว่าเรามีความรู้หรือเครื่องมือในการประเมินตรวจสอบดีแค่ไหนที่จะไปบอกเขาว่าเก่งหรือไม่เก่งด้วย พูดให้ง่ายเข้าก็คือ ถ้าภาษาคุณยังไม่ดีพอก็ยากที่จะไปฟันธงว่าเขาเก่งภาษาอะไรได้แค่ไหนยังไงบ้าง ผมว่าคุณเรียนภาษาต่างประเทศที่คุณสนใจนั่นแหละ(ไม่จำเป็นต้องเยอะ) เรียนให้ดีที่สุดโดยใส่ตรรกะเข้าไปเยอะๆในการเรียน ไม่ต้องไปแข่งกับใครด้วย แล้วคุณจะมีความรู้ความเข้าใจที่ "เหนือ" กว่าตอนนี้แน่นอน จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:29:59

ความคิดเห็นที่ 8 ภาษาที่ยากที่สุดในโลกคือ "ภาษาคน" และ "วิธีการสื่อสาร" ต้องเป็นแบบ 2-way communication กล่าวคือ "พูด และรู้ฟัง" ขอฝากคติพจน์-คำคมของเหล่านักปราชญ์ ดังนี้ * Good language cures great sore. [ภาษาที่ดี ย่อมบรรเทาความเจ็บปวดได้] * A polyglot knows no language really well. [ผู้ที่พูดหลายภาษาย่อมจะไม่รู้จริงในภาษาใด] * การรู้ทุกอย่างไปเสียหมด ก็เท่ากับไม่รู้อะไรเลย [To know everything is to know nothing. Jack of all trades and master of none.] * He who knows useful things, not many things, is wise. [ผู้ที่รู้เพียงบางอย่างที่มีประโยชน์ แม้ไม่อาจจะรู้้หลายอย่าง ก็นับว่าเป็นคนฉลาดแล้ว ----> อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว จงพากเพียรไปเถอะ จะเกิดผล] จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:28:43 A:58.8.52.65 X: TicketID:255444

ความคิดเห็นที่ 9 คนยิ่งรู้มากยิ่งถ่อมตน การที่จะอยู่เหนือคนอื่น ต้องเกิดจากการที่คนอื่นยอมรับนับถือ ไม่ใช่ทะนงตัวว่ารู้มากแล้วจะให้คนอื่นมายอมรับครับ จากคุณ : yangtaiping เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:59:46

ความคิดเห็นที่ 11 จะกลายเป็นเรื่องปรัชญาไปซะแล้ว เอาให้ง่ายก็ไปแนวภาษาที่ไปทางเดียวกัน เกื้อหนุนกันบ้าง เช่นแกรมม่าีญี่ปุ่น เกาหลี ตัวคันจิญี่ปุ่น อักษรจีน คำศัพท์จีน เกาหลี สามภาษานี้หนุนกันพอควร พวกที่ได้สองภาษาในนี้จะเรียนอีกภาษานึงจะเร็วกว่าชาวบ้านมาก เรื่องภาษาทางยุโรปก็น่าจะคล้ายกัน เราเอาเท่าที่เราใช้ก็พอแล้ว รู้ไม่กี่ภาษาเอาให้แน่นดีกว่าพวกรู้เยอะ อย่่างละนิดแบบใช้จริงกระท่อนกระแท่น จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:56:53

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ @11 มีส่วนครับ ปีก่อนผมลงเรียน《基础日语 I》(ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน 1) กับ 《医用日语听说》(ภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสนทนาทางการแพทย์) สองวิชานี้พร้อมกัน โดยที่พื้นฐานก่อนเรียน ผมก็ได้แค่พยัญชนะ-สระ พอเรียนๆ ไป อาศัยท่องๆ ตามบทเรียน เน้นเขียนทบทวนบ่อยๆ ผลสอบวิชาหลังดีกว่าวิชาแรก เพราะอ่านคันจิแล้วเข้าใจประโยคง่ายกว่า จำ-เขียนได้ไวกว่า ส่วนวิชาแรกที่รู้สึกยาก(ทั้งที่เป็นพื้นฐาน) เพราะใช้ตัวประสมเกือบหมด ผมเขียนได้ช้ามาก จนเพื่อนญี่ปุ่นที่เรียนด้วยกันนั่งขำ จากคุณ : yangtaiping เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 16:23:06

ความคิดเห็นที่ 13 น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ โดยส่วนตัวแล้วผมเพียงอยากรู้หากจะเอาดีทางด้านภาษาหนะครับ ขอบเขตของมันอยู่เท่าใด เพราะทุกวันนี้การแข่งขันมันสูง คนส่วนหนึ่งต้องการรู้ภาษาที่สามที่สี่เรื่อยไป จริงๆแล้วผมคิดว่าเรียนหลายภาษาไม่น่าจะเป็นปัญหา ถ้าเรียนแล้วมีความพอใจ จากคุณ : YoshiDa_Bangkok เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 19:38:33

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 7     จขกท กำลังล้นๆ อะไรอยู่หรือเปล่าครับ : ) การความสามารถในการใช้ภาษา(เป็นอย่างดี)ทำให้ได้เปรียบคนอื่นในแง่ของการสื่อสารมากกว่าก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าคุณจะไป "เหนือ" คนอื่นนะครับ มันมีองค์ประกอบอีกมากมายที่จะกำหนดความเหนือคนอื่นๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่สามารถไปเทียบเทียบว่า "เหนือ" หรืออะไรได้ด้วยซ้ำเพราะคนเราแตกต่างกันทั้งพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดู การศึกษา ประสบการณ์ บุคลิกนิสัยใจคอ โอกาส และอะไรอีกหลายๆอย่าง แต่ถ้าจะเทียบให้เหนือจริงๆ ผมว่าสิ่งที่คนเดี๋ยวนี้ขาดกันมากๆคือ "ตรรกะ" กับ "คุณธรรม" ซะมากกว่าไม่ใช่ความรู้อะไรทั้งนั้น กลับมาเรื่องภาษา คนไม่เก่งภาษาแต่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย กับคนเก่งภาษามากๆแต่ก็เป็นได้แค่ลูกจ้างเขาก็มีออกถมเถ อย่างนี้จะเรียกว่าคนเก่งภาษาด้อยกว่าคนอื่นได้ไหมละครับ? อีกอย่างการเก่งภาษามันมีขอบเขตที่ลึกหลายระดับ หลากบริบทในการใช้มากมาย การที่เราจะตัดสินว่าคนนั้นคนนี้เก่งภาษา หรือได้กี่ภาษา มันก็ต้องดูต่อไปอีกว่าเรามีความรู้หรือเครื่องมือในการประเมินตรวจสอบดีแค่ไหนที่จะไปบอกเขาว่าเก่งหรือไม่เก่งด้วย พูดให้ง่ายเข้าก็คือ ถ้าภาษาคุณยังไม่ดีพอก็ยากที่จะไปฟันธงว่าเขาเก่งภาษาอะไรได้แค่ไหนยังไงบ้าง ผมว่าคุณเรียนภาษาต่างประเทศที่คุณสนใจนั่นแหละ(ไม่จำเป็นต้องเยอะ) เรียนให้ดีที่สุดโดยใส่ตรรกะเข้าไปเยอะๆในการเรียน ไม่ต้องไปแข่งกับใครด้วย แล้วคุณจะมีความรู้ความเข้าใจที่ "เหนือ" กว่าตอนนี้แน่นอน .......................... เปล่าครับไม่ได้ล้น ^_^ เพียงอยากทราบความคิดเห็นนะครับ ว่าจะเอาดีทางด้านภาษาต้องมีขอบเขตอยู่เท่าไหร่ อย่าได้ตีความผิด ผมก็เหมือนคนทั่วไป ที่เพียงอยากรู้หลายภาษา แต่ขอบเขตของตัวเองมีแค่ไหนก็ทราบดี จึงเรียนได้เท่านี้ และก็อยากรู้ว่าสำหรับคนอื่นนั้นเขาไปได้เท่าไหร่ จากคุณ : YoshiDa_Bangkok เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 19:43:36

ความคิดเห็นที่ 15 คนที่คิดแต่ว่าจะทำไงให้เหนือคนอื่น แข่งกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลานี่ แค่นึกภาำพก็น่าเหนื่อยแทน เหมือนเก่ง แต่ไม่ฉลาด หาความสุขในชีวิตยาก เป็นคนน่าเวทนา และน่าเห็นใจ ป.ล.เรารู้สึกอย่างนี้จริงๆนะ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 21:33:10

ความคิดเห็นที่ 16 เอ เรากลับเข้าใจเจ้าของกระทู้แฮะ เรื่องความคิดที่ต้องการเหนือกว่าคนอื่นหรือแข่งกับคนอื่นอยู่ตลอด โลกสมัยนี้มันก็ยังงี้แหละ เราแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา ใครจะเถียง ตอนเรียน สอบแข่งกันเข้าโรงเรียนดีๆ พอเข้ามหาลัยก็อยากเข้ามหาลัยดีๆ อยากเข้าคณะที่ตัวเองอยากเรียน เวลาไปสมัครงาน เอาแค่ตอนเขียนประวัติ ยังต้องนั่งคิดเลยว่าจะทำยังไงให้คุณสมบัติเราเหนือกว่าคนอื่น ถ้าคุณเป็นฝ่ายบุคคล ต้องเลือกคนมาสัมภาษณ์รอบแรก คุณจะเรียกใครมาก่อนระหว่างคนที่คุณสมบัติโดดเด่นกว่าคนอื่น กับคนที่ดูไม่มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเลย แล้วไอ้คนที่มันจะมีคุณสมบัติเหนือกว่าคนอื่นเนี่ย มันก็ต้องมีการเตรียมตัวการวางแผนที่ดีใช่มั้ย ตั้งแต่ตอนเรียนว่าจะเลือกเรียนอะไรยังไงดีและเหมาะกับตัวเรา แล้วการเตรียมตัววางแผนเพื่อสิ่งที่ต้องการในชีวิตนี่มันน่าเวทนาและน่าเห็นใจตรงไหน คนที่ไม่รู้จักคิดวางแผนอะไรเลย เรื่อยเปื่อยไร้จุดมุ่งหมายนี่ ชีวิตเค้าจะมีความสุขเหรอคะ —————————— กลับมาที่เจ้าของกระทู้ เหมือนที่หลายๆท่านบอกไป รู้ไม่ต้องหลายภาษา แต่ใช้ให้ได้ ใช้ให้เป็น สื่อสารให้มีประสิทธิภาพ จะมีประโยชน์มากกว่า ถ้ารู้แค่สื่อสารได้ เอาตัวรอดได้ ยังนึกไม่ออกว่าจะมีประโยชน์กับหน้าที่การงานอะไรนอกจากเวลาคุณไปเที่ยวในประเทศที่ใช้ภาษานั้นๆแบบไม่ง้อทัวร์ ทั้งนี้ อยู่ที่ว่าคุณอยากทำงานอะไรในอนาคตด้วย รู้แต่ภาษาอย่างเดียวมันไม่พอ สิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานคือทักษะด้านอื่นๆ ทักษะทางภาษาที่มีสุดท้ายแล้วอาจจะเป็นแค่ตัวประกอบ ส่วนเพื่อนคุณคนที่รู้หลายภาษา ในความเห็นเรา เค้าไม่ได้เหนือกว่าคนอื่นเลย เพราะรู้หลายภาษาขนาดนั้น เราไม่คิดว่าเค้าจะรู้ลึกรู้จริงไปทุกภาษาเพราะมันดูเหวี่ยงแหเกินไป สมมุติว่าถ้าเรามีหน้าที่หาคนมาเป็นเลขาเจ้านายต่างประเทศนะ เราเลือกคนอื่นที่รู้แค่ภาษาที่ใช้งานแต่รู้จริงและใช้ได้ดี ดีกว่า จากคุณ : The Starry Night เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 06:25:31

ความคิดเห็นที่ 17 อืม...ขอโทษทีถ้าใช้คำแรงไปค่ะ เรามีความเห็นว่าสำหรับคนเก่งแบบที่คุณ The Starry Night กล่าว ที่ว่าเก่งเพราะมีการเตรียมการและวางแผนที่ดีนั้น เรามองว่าคนแบบนี้เค้าแข่งกับตัวเองค่ะ ไม่ได้แข่งกับคนอื่น ทำให้เค้าพัฒนาตัวเองได้ก้าวไปไกลกว่าคนอื่น คนแบบนี้เรียกว่าเก่ง ฉลาด + เฉลียว แต่แบบที่ จขกท.กล่าว แบบว่ารู้หลายภาษา แต่รู้ไม่ลึก รู้ไม่จริง แค่เน้นปริมาณว่าพูดได้หลายภาษา เราว่าเค้าเก่งแบบฉาบฉวย ผักชีโรยหน้าค่ะ ถ้าเน้นปริมาณ แต่ไม่เน้นคุณภาพ จะกลายเป็นว่ารู้อะไรไม่แท้สักอย่าง แต่...อย่างไรก็ตาม คนเรานั้นมีดีในตัวเองในด้านต่างๆกัน ใครจะรู้ คนที่ จขกท.กล่าวถึงที่ว่ารู้หลายภาษานั้น เค้าเองอาจมีความสามารถด้านอื่นชนิดที่หาตัวจับยากเช่นกัน เรามีความเห็นว่า คนแต่ละคนนั้นมีลักษณะเป็น Unique ค่ะ มีดีและด้อยต่างกัน แต่ทุกคนล้วนแต่มีดีในตัวเองที่เป็นลักษณะเฉพาะ ไม่สามารถนำมาเปรียบกันได้ คนที่เรียนแย่ ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่เก่งในด้านอื่น หรือด้านนั้น เราเจอเด็กที่เรียนแย่มากกกกกกกก.....พอมาอยู่ในมือ ชี้ช่องหน่อยเดียว สปีดอัพอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจระคนประหลาดใจ ว่าวิธีการสอนแบบที่เหมาะกับเค้าจะทำให้เค้าไปได้ไวขนาดนี้เชียว!! คนเรามีดีซ่อนอยู่กันทุกคน เราเชื่ออย่างนั้นนะ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 09:08:42

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณ Lovely Creature และ คุณ Starry Night คุณทั้งสองเป็นผู้สาธิตการตอบกระทู้แบบมีคุณภาพอย่างที่เราอยากเห็นเกิดขึ้นบ่อยกว่านี้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 11:13:15

ความคิดเห็นที่ 19 “For a man to conquer himself is the first and noblest of all victories.” [ชนะตนเอง คือชัยชนะอันดับหนึ่งและทรงเกียรติอันสูงสุด] จากคุณ : ร่วมด้วยช่วยกัน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 11:28:37 A:58.8.47.186 X: TicketID:255444

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ ค.ห ที่ 18ที่สุดครับ น้อมรับทุกความคิดเห็นครับ แม้การตอบกระทู้จะเริ่มต้นด้วยการเสียดสีไว้ก่อนก็ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นคนตั้งมันขึ้นน้อมรับทุกประการ จากคุณ : YoshiDa_Bangkok เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 18:48:49