Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อยากให้คนที่มีลูกได้อ่านครับ ติดต่อทีมงาน

ถ้าผิดห้องก็ขอโทษนะครับ อยากให้ทุกคนที่มีลูก หรือคิดว่าซักวันอาจมีลูกได้อ่านจริงๆครับ

เป็นข่าวที่ลงในเวบไซต์ของ มติชน ซึ่ง สรุปมาจาก dek-d.com นะครับ

"มติชนออนไลน์" ได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจกระแสความเคลื่อนไหวของเด็กนักเรียนจากเว็บไซต์ Dek-D.com ในช่วงโค้งสุดท้ายของการยื่นใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย และได้พบว่ามีกระแสของเด็กจำนวนไม่น้อย ที่ได้เข้ามาระบายความรู้สึกให้กับเพื่อนๆในสังคมออนไลน์ด้วยความโกรธและเสียใจ ที่พวกเขาต้องเลือกเรียนในคณะหรือมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากจะเรียน แต่เพียงเพราะ มันกลับเป็นความคาดหวังและความต้องการของผู้ปกครองเท่านั้นเอง...



ตัวอย่างกระทู้เรื่องยาวชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่า



"จากเด็กมัธยม...สู่สมรภูมิแห่งการแข่งขัน" (ตอนที่ 7 [กว่าจะพบตัวเอง] คณะนี้ใครกันแน่ที่ต้องเรียน) ได้ปรากฏข้อความตอนหนึ่งว่า



"นอกจากพ่อแม่จะเข้มงวดกับการเรียนของเราแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่เราต้องพบเจอคือ ไม่สามารถเลือกความต้องการของตนเองได้ ทุกประเทศทั่วโลกก็ล้วนมีปัญหาแบบนี้ และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องเจอกับปัญหา...เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ย่อมต้องการให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด โดยหวังว่าลูกต้องได้เรียนในคณะที่ดีๆ จบออกมาแล้ว ต้องมีงานทำ ได้เงินเดือนสูงๆ โดยลืมไปว่าคนจะประสบความสำเร็จ จริงๆแล้ว คือคนที่ใช้ชีวิตทุกวันได้อย่างมีความสุขต่างหากล่ะ..."



จากนั้นก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆในกระทู้ดังกล่าวว่า





ความคิดเห็นที่ #1



ถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจเอง แล้วไม่ถูกใจพวกท่าน ท่านก็พยายามใช้ความคิดเดิม ทั้งๆที่บอกกับเราว่าอยู่กับการตัดสินใจของลูก แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ คราวหน้าบอกมาเลยว่าจะให้เรียนอะไร...อย่าให้ความหวัง


ความคิดเห็นที่ #2



พ่อกับแม่เราอยากให้เราเป็นหมอ คือปลูกฝังตั้งแต่เด็กเลย เลี้ยงเราในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเป็นหมอแบบสุดๆ พูดจากับเราก็ใช้คำศัพท์เฉพาะทางของแพทย์


แต่ด้วยความเป็นเด็กในตอนนั้น เราก็ยอมฟังพ่อแม่พูดทุกอย่าง แล้วก็เลย "อยาก" เป็นหมอ ด้วยความต้องการของพ่อแม่



พอขึ้นมัธยมปลาย ด้วยความที่เราเป็นคนชอบวิชาชีวะมาก และได้เป็นเด็กค่ายสอวน. (มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาฯ) ในวิชาชีวะด้วย


นั่นทำให้พ่อกับแม่ยิ่งคาดหวังและกดดันเรามากขึ้นเรื่อยๆ พูดทุกวันว่าหมอดีอย่างนี้อย่างนั้น อะไรก็หมอๆๆตลอด พอเราเถียงกลับ แม่ก็หาว่า เราดูถูกอาชีพของพ่อ (เพราะพ่อเราเป็นหมอ) คือเราว่าหมอก็เป็นอาชีพที่ดีจริงๆ แต่มันไม่ใช่ตัวเรา เราไม่ชอบการตัดสินใจอะไรที่มากๆโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับชีวิต เพราะเพียงแค่ชีวิตเดียวก็สำคัญมากพอแล้ว
และถ้าเราไปเป็นหมอ ก็มีอีกมากมายหลายชีวิตที่ฝากเอาไว้ในมือของเรา  





เราคิดว่า อาชีพทุกอาชีพมีความสำคัญเท่ากัน ขาดอาชีพใดอาชีพหนึ่งก็คงเป็นสังคมที่สมบูรณ์ไม่ได้


และที่สำคัญ... โลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ "หมอ" หรือ "วิศวะ"


ความคิดเห็นที่ #3





เราโดนบังคับกลายๆว่าอยากให้เรียนใกล้บ้าน  เราเองไม่อยากขัดใจ ก็เลือกใกล้ๆ แต่เขายังเห็นว่ามันไกลไปอีก  ไม่รู้ว่าอยากจะให้เราเรียนที่บ้านไปเลยดีไหม จะได้ไม่ต้องเสีย


ค่าใช้จ่ายอะไรเลย เสียแค่ค่าหนังสือ แล้วก็ไปสอบเอาเองอะไรประมาณนั้น


เราเข้าใจว่าเขาเป็นห่วง เข้าใจปัญหาการเงิน แต่อยากให้เขาเข้าใจบ้างว่าที่ๆเขาอยากให้เรียน มันไม่มีคณะที่เราชอบ อยากบอกว่าที่หนูเลือก เพราะหนูอยากเรียน และก็พยายามช่วยแบ่งเบาภาระสุดๆแล้ว  ถ้ายังอยากจะให้ช่วยมากกว่านี้...ให้หนูเลิกเรียนไปเลยก็ได้


ความคิดเห็นที่ #4



พอเราซื้อระเบียบการแอดมิชชั่นมาดู แม่เราก็เอาระเบียบการไปเลย คณะไหนแม่ชอบแม่ก็จะดอกจันทร์ไว้ มหาลัยไหนแม่ชอบแม่ก็ดอกจันทร์ไว้ แล้วแม่ก็ยื่นระเบียบการมาให้เรา แล้วบอกว่า "ลองดูที่แม่ดอกจันทร์ไว้นะว่าลูกชอบไหม ถ้าชอบก็เลือกตามนั้นไปเลย" สุดท้ายพอเรามาดู มันไม่มีคณะไหนที่เราชอบเลย



แต่ยังดีที่มีมหาลัยที่เราอยากไป เราก็เลยบอกแม่ว่า "คณะที่แม่เลือกมา มันไม่ใช่ตัวลูก ขอเลือกคณะเองนะ" แม่เราก็เงียบไป ไม่ได้ว่าอะไร แต่พอตอนเราจัดอันดับคณะ แม่ก็ยื่นกระดาษมาให้ ในกระดาษมีรายชื่อมหาลัยอยู่ 4 ที่ คือ ม.เกษตร  ม.เชียงใหม่  ม.ลาดกระบัง  ม.พระนครเหนือ แล้วแม่เราก็บอกว่า "ถ้าอยากได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ก็ขอให้ติด 1 ใน 4 มหาลัยนี้"





ความคิดเห็นที่ #5





เราติดบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ และอักษร จุฬาฯ ใจเราอยากไปบัญชีที่ ม.ธรรมศาสตร์ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ยื่นจุฬาฯเป็นเพราะเผื่อเราไม่ติดบัญชี เนื่องจากเราเป็นเด็กสายภาษา


เพราะเหตุผลนี้ ที่บ้านเราทุกคน ย้ำว่าทุกคน กดดันให้เราเลือกอักษร เราร้องไห้เป็นอาทิตย์เลย ร้องทุกครั้งที่คิดถึงบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เราต้องเลือกอักษร เพราะที่บ้านบอกว่า


ถ้าจะเข้าบัญชี เขาจะไม่ส่งเรียนแถมใบยืนยันสิทธิของ ม.ธรรมศาสตร์ ที่บ้านก็ไม่ยอมเซ็นให้ด้วย สุดท้ายเราก็ต้องเลือกอักษร ทั้งที่เราไม่อยากเรียนเลยสักนิด มันแย่มากๆ


อนาคตของเราทั้งชีวิตแท้ๆ แต่ทำไมเราไม่มีสิทธิ์เลือกเองก็ไม่รู้สิ่งที่คนอื่นมองว่ามันดีที่สุด บางทีอาจไม่ได้เหมาะกับเราที่สุดสักหน่อย ถ้าไม่ติดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ เราคงตะโกนใส่หน้าไปแล้วว่า เอาความหวังดีพวกนี้คืนไปเถอะ ความหวังดีที่ทำความฝันเราพังทลายแบบนี้ เราไม่ต้องการ!!!


ความคิดเห็นที่ #6




ผมเองก็มีเป้าหมายไว้แล้ว ว่าผมจะเรียนอะไรต่อในอนาคตข้างหน้า ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าอาชีพที่ผมเลือกนั้นเป็นกระแสของตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าผมรู้ตัวว่าผมกำลังเดินทางผิดผมจะกลับมาเริ่มต้นใหม่  ผมโชคดีที่ผู้ปกครองผมท่านไม่บังคับเรื่องการศึกษา ท่านบอกผมว่า"ถ้าหากลูกรักที่จะเรียนแบบไหน ลูกก็เรียนให้มีความสุข" และผมก็จะพยายามให้เต็มที่

...........................................................................................



นี่คือบางส่วนของความคิดเห็น และความรู้สึกที่เด็กๆต่างใช้พื้นที่บนโลกออนไลน์ ถ่ายทอดผ่านให้กับคนในวัยเดียวกันได้รับรู้ เพราะคิดว่าต่างคนต่างจะเข้าใจกันและกันได้มากที่สุด


ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ น่าจะลองถามใจตัวเองสักหน่อยว่า สิ่งที่เราพยายามคาดหวังในตัวพวกเขา สิ่งที่เราต้องการให้เขามี เขาเป็นนั้น ได้มอบอนาคตที่ดีให้กับพวกเขาจริงๆ


หรือกลับไปสร้างความกดดัน ไปทำลายความฝันของเขากันแน่


จริงๆในโลกนี้ก็มีสัจธรรมอยู่หลายอย่าง อย่างหนึ่ง คือ เราต่างมีความเชื่อและความคิดเป็นของตนเอง เช่นเดียวกับที่เรามีความชอบและความปรารถนา ถึงเวลานี้ พวกเขา (ซึ่งเป็นไม่กี่ชีวิตที่เรารักและห่วงใยมากที่สุด) กำลังจะมีอนาคต กำลังเลือกความฝันและเส้นทางชีวิตเป็นของตนเอง จะผิดไหม หากจะปล่อยให้นกน้อยเหล่านี้ ได้มีอิสระ และโผบินไปยัง


น่านฟ้าที่พวกเขาต้องการ...


credit: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303217639&grpid=&catid=19&subcatid=1903

จากคุณ : ตั้งใจ
เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 15:27:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com