 |
ส่วนที่คุณ SHOMSIPANG ได้กรุณาแนะนำไว้ในความเห็นที่ ๒๖ ว่า แน่ใจเหรอคะ ว่าไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องกันได้ ลองไปไล่อ่านประวัติศาสตร์ดูนะคะ ถ้าพระพันปีหลวงไม่ได้ทรงขอไว้แล้วล่ะก้อ หลังร.6 สวรรคต คงไม่มีพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าครองราชย์ต่อหรอกค่ะ ป่านนี้ไปราชสกุลไหนต่อไหนไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ใช่ว่า จะไม่มีเจ้านายองค์อื่นที่อายุมากกว่าร.7 เสียเมื่อไหร่ มีตั้งหลายพระองค์ ลองไปสืบค้นดูนะคะ มีหลักฐานเห็นอยู่แบบนี้ ไม่ต้องถึงกับสืบสาวราวเรื่องหรอกมั้งคะ
ขอเรียนด้วยความเคารพว่า ผมเองไม่ใช่นักวิชาการประวัติศาสตร์ เคยเรียนวิชาประวัติศาสตร์มาก็ในสมัยประถมและมัธยมเท่านั้น แต่เป็นคนที่ชอบอ่านเอกสารประวัติศาสตร์ และเมื่อมีข้อสงสัยในเรื่องใดก็จะพยายามสืบค้นข้อมูลให้ได้รายละเอียดมากที่สุด สำหรับเรื่องกล่าวกันว่าสมเด็จพระพันปีหลวงขอพระราชทานพรนั้น ก็เคยอ่านพบในหลายที่ แต่เมื่อพยายามจะค้นข้อมูลสอบทานไปว่า ท่านผู้ใดเป็นผู้บันทึกเรื่องนี้ไว้ ก็ไม่สามารถหาตัวผู้ที่เผยแพร่เรื่องนี้เป็นคนแรกได้ คงเป็นเพียงพงศาวดารฉบับกระซิบที่ไม่อาจหาหลักฐานมายืนยันได้
กรณีเช่นที่กล่าวมานี้ คุณ SHOMSIPANG ก็คงจะเคยได้ยินเรื่อง "กบฎ ร.ศ. ๑๓๐" ที่กล่าวอ้างกันว่า มูลเหตุมาจาก มหาดเล็กของสมเด็จพระบรมฯ (ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖) ไปวิวาทกับทหาร แล้วเกิดการตีกันทหารได้รับบาดเจ็บ แล้วเป็นเหตุให้สมเด็จพระบรมฯ มีรับสั่งให้โบยทหารที่วิวาทนั้นโดยไม่โบนมหาดเล็กคู่กรณี
เรื่องดังกล่าวเมื่อตรวจสอบหลักฐานทางประวัติศาสตร์กลับพบข้อเท็จจริงใน "ยุทธโกษ" ซึ่งเป็นจดหมายเหตุของกรมยุทธนาธิการระบุว่า เหตุเกิดจากการที่ทหาร ๓ นาย คือนายร้อยเอกสม เจริญผล นายร้อยตรีจั่น และนายดาบบางจากกรมทหารราบที่ ๒ ได้ชวนนายสิบ พลทหาร ถอดเครื่องแบบและวนกันไปเดินเที่ยวเล่น ระหว่างทางได้พบกับมหาดเล็กของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ๒ นายเดินมากับผู้หญิง นายร้อยเอกสมและพรรคพวกจึงเข้ารุมตีพวกที่เดินมานั้น หลังจากไต่สวนแล้ว ปรากฏว่าทหารมีความผิดจริง จึงต้องลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ในขณะที่ราชกิจจานุเบกษาก็ลงประกาศกรมยุทธนาธิการว่า ด้วยนายร้อยเอก สม นายร้อยตรี จั่น กรมทหารราบที่ ๒ ประพฤติตนไม่สมควรกับตำแหน่ง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอด นายร้อยเอก สม นายร้อยตรีจั่น จากตำแหน่งยศบรรดาศักดิ์แล้ว ฯ ศาลายุทธนาธิการ วันที่ ๑๙ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๘ (ลงพระนาม) จิรประวัติวรเดช ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ
กรณีเดียวกันนี้เมื่อสอบทานจากประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ก็ได้ความตรงกัน และมีพระราชบันทึกด้วยว่า (๑) เรื่องนายทหารถูกเฆี่ยนเพราะวิวาทกับมหาดเล็กของฉัน,... เปนเหตุการณ์อันได้เกิดขึ้นในมิถุนายน, ๒๔๕๒, ในเวลานั้นพวกกรมรถม้าของฉันอยู่ที่วังจันทร์ , และกรมทหารราบที่ ๒ อยู่ที่โรงเชิงสพานมัฆวานรังสรรค์, ฉะนั้นจึ่งเปนอันมีชายหนุ่มๆ สองพวกอยู่ในที่ใกล้เคียงกัน, ก็เปนธรรมดาอยู่เองที่จะต้องเกิดเหตุระหองระแหงกันบ้าง, เนื่องด้วยการแย่งผู้หญิงกันเปนต้น. การทุ่งเถียงและพูดแดกดันกันนั้นคงจะได้มีแก่กันอยู่นาน, ในที่สุดคืนหนึ่งจึ่งได้ถึงแก่ตีกันขึ้น, และหม่อมราชวงศ์เหรียญ , พนักงานรถม้าของฉันคน ๑ ได้ถูกนายทหารราบที่ ๒ ตีหัวแตก. เมื่อเกิดชำระกันขึ้นได้ความว่าตัวการมีนายร้อยเอกสม, นายร้อยตรีจัน, กับนายดาบบาง, ได้พาพลทหารออกจากโรงไปตีเขา. กรมนครชัยศรี เอาตัวพวกทหารขึ้นศาลทหารชำระได้ความจริงว่าได้ออกจากโรงทหารผิดเวลาและยกพวกไปตีเขาเช่นนั้น, เห็นว่าเปนโทษหนัก, จำเปนต้องลงอาญาให้เปนเยี่ยงอย่าง, กรมนครชัยศรีจึ่งได้กราบบังคมทูลพระเจ้าหลวงขอให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนหลังคนละ ๓๐ ทีและถอดจากยศยศ. การลงอาญาครั้งนั้นไม่ใช่โดยโดยความขอร้องของฉันเลย, ตรงกันข้ามฉันเปนผู้ท้วงว่าแรงเกินไป, แต่กรมนครชัยศรีว่าจะต้องลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง. หาไม่จะกำราบปราบปรามทหารที่เกะกะไม่ได้, และนายทหารจะถือตนเปนคนมีพวกมากเที่ยวรังแกข่มเหงเขาร่ำไปให้เสียชื่อทหาร
นี่คือการสืบค้นหลักฐานของผม แต่เรื่องที่กล่าวกันว่า สมเด็จพระพันปีหลวงทรงขอพระราชทานพร ผมไม่เคยเห็นหลักฐานที่สามารถใช้อ้างอิงได้เลยครับ
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 07:25:05
จากคุณ |
:
V_Mee
|
เขียนเมื่อ |
:
29 เม.ย. 54 06:50:13
|
|
|
|
 |