PANTIP.COM : K10503858 ยศ Duke of Cambridge ทำไม ปริ้นซ์วิลเลี่ยม ถึงได้รับพระราชทานยศนี้ครับ สงสัยครับ [ประวัติศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 6

ขอเพิ่มเติมจากที่อ่านมานะคะ

การพระราชทานพระอิสริยยศให้แก่สมาชิกที่เป็นเจ้าฟ้าชายในพระราชวงศ์อังกฤษในวันพระราชพิธีเสกสมรสวันคล้ายวันประสูติ หรือวโรกาสพิเศษอื่นๆ นับว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันยาวนาน มีดังนี้คือ

1. ในปี 1923 เมื่อเจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต (พระอิสริยยศของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ในขณะนั้น) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 อภิเษกสมรสกับ เลดี้ เอลิซาเบธ โบวส์-ลีออง (สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระบรมราชชนนี) ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of York, Earl of Inverness and Baron Killarney

2. ในปี 1928 เมื่อเจ้าฟ้าชายเฮนรี่ พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทรงมีพระชนมายุครบ 28 พรรษา ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Gloucester, Earl of Ulster and Baron Culloden และในปี 1935 ได้อภิเษกสมรสกับ เลดี้ อลิซ มอนเตกู ดักลาส-สก็อต (ผู้ดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศในปัจจุบันคือ เจ้าฟ้าชายริชาร์ด พระโอรส)

3. ในปี 1934 เมื่อเจ้าฟ้าชายจอร์จ พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 อภิเษกสมรสกับ เจ้าฟ้าหญิงมารีนาแห่งกรีซและเดนมาร์ก ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Kent, Earl of St. Andrews, Baron Downpatrick (ผู้ดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศในปัจจุบันคือ เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรส)

4. ในปี 1937 เจ้าฟ้ายเอ็ดเวิร์ด (พระอิสริยยศของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 หลังจากการสละราชสมบัติ) ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Windsor เมื่ออภิเษกสมรสกับ นางวอลลิส ซิมป์สัน แม่ม่ายชาวอเมริกัน

5. ในปี 1947 เมื่อเรือโทฟิลิป เม้านท์เบ็ตเต็น (พระอิสริยยศเดิมคือ เจ้าฟ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก) อภิเษกสมรสกับ เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธ (พระอิสริยยศของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในขณะนั้น) และทรงแปลงสัญชาติเป็นชาวอังกฤษเพื่อให้เหมาะสมคู่ควรกับรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Edinburgh, Earl of Merioneth and Baron Greenwich

ในปี 1981 เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อภิเษกสมรสกับ เลดี้ ไดอานา สเปนเซอร์ ก็ไม่ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศใดเพิ่มเติม เนื่องจากพระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และมีพระอิสริยยศอื่นๆ ต่อท้ายอยู่ก่อนแล้ว

6. ในปี 1986 เมื่อเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ พระราชโอรสพระองค์ที่สาม อภิเษกสมรสกับ ซาร่าห์ เฟอร์กูสัน ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of York, Earl of Inverness and Baron Killyleagh

7. ในปี 1999 เมื่อเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสพระองค์เล็ก อภิเษกสมรสกับ โซฟี ไรส์-โจนส์ ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Earl of Wessex and Viscount Severn (ในตอนแรกจะได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Cambridge แตทรงปฏิเสธพระอิสสริยยศนี้ เนื่องจากทรงโปรด Earl of Wessex ตัวละครเอกในเรื่อง Shakespeare in Love อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงกำหนดว่าเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ดจะได้รับพระราชทานพระอิสริยยศ Duke of Edinburgh หลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าฟ้าชายฟิลิป)

8. ในครั้งล่าสุดปี 2011 เมื่อเจ้าฟ้าชายวิลเลียม พระโอรสในเจ้าฟ้าชายแห่งเวลส์ อภิเษกสมรสกับ แคเธอรีน มิดเดิลตัน ก็ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็น Duke of Cambridge, Earl of Strathearn and Baron Carrickfergus

จากคุณ : minervabellissima24 (minervabellissima24)

เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 10:59:14

ความคิดเห็นที่ 7

อยากแบ่งปันเรื่องประวัติพระอิสริยยศ Duke of Cambridge ตามที่เคยได้ทราบและรวบรวมมาให้ได้อ่านกันค่ะ

พระอิสริยยศดยุคแห่งเคมบริดจ์ (Duke of Cambridge) เคยได้มีการแต่งตั้งและพระราชทานให้กับเจ้าชายในพระราชวงศ์อังกฤษมาตั้งแต่สมัยคริสตศตวรรษที่ 17 แต่ก็ไม่มีพระองค์ใดที่ได้รับพระทานหรือสถาปนาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากว่าแต่ละพระองค์สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์มาก

ต่อมาในปี 1706 พระอิสริยยศนี้ได้พระราชทานแก่เจ้าชายจอร์จ ออกัสตัส พระโอรสในเจ้าชายจอร์จ หลุยส์ รัชทายาทแห่งฮาโนเวอร์และดยุคแห่งบรันสวิค-ลึนบูร์ก (ต่อมาเสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งอังกฤษ) และเมื่อเจ้าชายจอร์จ ออกัสตัส ดำรงพระอิสริยยศเป็นรัชทายาท (เจ้าชายแห่งเวลส์) และสืบราชสมบัติต่อมาเป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 พระอิสริยยศ Duke of Cambridge จึงรวมกลับเข้าไปสู่ราชบัลลังก์ (merged to the crown) จากนั้นพระอิสริยยศนี้ได้พระราชทานแก่เจ้าฟ้าชายอดอลฟัส พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 (พระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2) ในปี 1801 แต่สิ้นสุดลงเมื่อพระโอรสของพระองค์สิ้นพระชนม์ลงโดยไม่มีทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 1904

เจ้าฟ้าชายอดอลฟัส (1774-1850) อภิเษกสมรสในปี 1818 กับเจ้าหญิงออกัสตาแห่งเฮสส์-คาสเซิล (1797-1889) และมีพระโอรสธิดา 3 พระองค์คือ เจ้าฟ้าชายจอร์จ ดยุคแห่งเคมบริดจ์ (1819-1904) เจ้าฟ้าหญิงออกัสตาแห่งเคมบริดจ์ (1822-1916) ซึ่งอภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายฟรีดริช วิลเฮล์ม แกรนด์ดยุคแห่งเม็คเล็นบูร์ก-สเตรลิตซ์ และเจ้าฟ้าหญิงแมรี อเดเลดแห่งเคมบริดจ์ (1833-1897) ซึ่งอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟรานซิส ดยุคแห่งเท็ค

เมื่อเจ้าฟ้าชายอดอลฟัส สิ้นพระชนม์ในปี 1850 เจ้าฟ้าชายจอร์จ พระโอรสจึงได้ทรงสืบทอดพระอิสริยยศเป็นดยุคแห่งเคมบริดจ์ ด้วยทรงเชื่อว่า “การอภิเษกสมรสแบบคลุงถุงชนนำไปสู่ความล้มเหลว” (arranged marriages were doomed to failure) จึงทรงเลือกอภิเษกสมรสด้วยความรักกับนักแสดงละครชื่อ ซาร่าห์ หลุยซ่า แฟร์บราเธอร์ ในปี 1847 การอภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชนขัดต่อพระราชบัญญัติการอภิเษกสมรสแห่งพระราชวงศ์ (Royal Marriages Act) จึงไม่เป็นที่ยอมรับแก่พระราชวงศ์และราชสำนัก (โดยเฉพาะสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย พระประมุขสูงสุดในสมัยนั้น) พระโอรสทั้งหมดที่เกิดมาจึงเป็นลูกนอกสมรสและไม่มีสิทธิได้รับฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์หรืออยู่ในลำดับการสืบราชสมบัติ และเมื่อเจ้าฟ้าชายจอร์จสิ้นพระชนม์ลงในปี 1904 พระอิสริยยศดยุคแห่งเคมบริดจ์ก็ได้สิ้นสุดลงไปด้วย

ต่อมาในปี 1917 พระอิสริยยศแห่งเคมบริดจ์ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ในชั้นมาร์ควิส (marquessate) แก่เจ้าชายอดอลฟัส ดยุคแห่งเท็ค (1868-1927) (พระโอรสในเจ้าฟ้าหญิงแมรี่ อเดเลดแห่งเคมบริดจ์ กับ เจ้าชายฟรานซิส ดยุคแห่งเท็ค และพระอนุชาในสมเด็จพระราชินีแมรี่) พระองค์ทรงสละพระอิสริยยศเยอรมันเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเปลี่ยนพระนามเป็น “อดอลฟัส เคมบริดจ์” สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทรงมีพระบรมราชโองการสถาปนาให้เป็น Marquess of Cambridge, Earl of Eltham and Viscount Northallerton

อดอลฟัสอภิเษกสมรสในปี 1894 กับ เลดี้ มาร์กาเร็ต กรอสเวเนอร์ (1873-1929) ธิดาของดยุคแห่งเวสต์มินส์เตอร์ และมีพระโอรสธิดาทั้งสิ้น 4 องค์ ได้แก่ จอร์จ เคมบริดจ์ มาร์ควิสที่ 2 แห่งเคมบริดจ์ (1895-1981) เลดี้ แมรี่ (เคมบริดจ์) ซอเมอร์เซ็ต ดัชเชสแห่งโบฟอร์ต (1897-1987) เลดี้ เฮเลนา (เคมบริดจ์) กิบส์ (1899-1969) และลอร์ด เฟรเดอริค เคมบริดจ์ (1907-1940) เมื่ออดอลฟัสสิ้นพระชนม์ในปี 1927 จอร์จ เคมบริดจ์ จึงได้สืบทอดเป็นมาร์ควิสแห่งเคมบริดจ์จนกระทั่งถึงปี 1981 เมื่อสิ้นพระชนม์โดยไม่มีทายาทชายสืบทอดต่อไป ทั้งนี้มาร์ควิสแห่งเคมบริดจ์พระองค์ที่สองและสุดท้ายได้อภิเษกสมรสกับ โดโรธี เฮสติงส์ (1899-1988) และมีธิดาเพียงองค์เดียวคือ เลดี้ แมรี่ เคมบริดจ์ (1924-1999) โดยไม่มีสิทธิสืบทอดตำแหน่งใดได้ จึงนับว่าพระอิสริยยศแห่งเคมบริดจ์ได้สิ้นสุดลงอย่างแท้จริง

พระอิสริยยศดยุคแห่งเคมบริดจ์ที่พระราชทานให้แก่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมเกิดจากสายสัมพันธ์ย้อนจากสายตรงขึ้นไปถึงเจ้าฟ้าชายอดอลฟัส ดยุคแห่เคมบริดจ์พระองค์แรก โดยผ่านมาทางพระราชนัดดาคือ เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรี่แห่งเท็ค (หรือ สมเด็จพระราชินีแมรี่ พระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 และเป็นพระธิดาพระองค์เดียวในเจ้าฟ้าหญิงแมรี่ อเดเลดแห่งเคมบริดจ์) พระองค์ทรงหมั้นหมายอยู่ก่อนกับเจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุคแห่งคลาเรนซ์ รัชทายาทลำดับที่สองแห่งราชบัลลังก์ (ต่อจากเจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย) ซึ่งทรงประชวรด้วยโรคหวัดซึ่งกลายเป็นไข้หวัดใหญ่ จนสุดท้ายเป็นโรคปวดบวม และได้สิ้นพระชนม์ในปี 1892 จากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมา เจ้าหญิงแมรี่ทรงหมั้นหมายและอภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายจอร์จ ดยุคแห่งยอร์ค (ต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5) พระอนุชาในดยุคแห่งคลาเรนซ์แทน ทั้งสองพระองค์เป็นพระอัยกาและอัยยิกาในสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษองค์ปัจจุบัน และเป็นบรรพบุรุษของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม การสถาปนาพระอิสริยยศดยุคแห่งเคมบริดจ์ขึ้นใหม่เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสจึงเหมาะสมกับพระองค์ในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์และรัชทายาทลำดับสองแห่งราชบัลลังก์
แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 23:01:40
แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 13:17:23

จากคุณ : minervabellissima24

เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 11:49:12