PANTIP.COM : K10508403 ใครผายลม?.... ไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 3

วันนี้เอาน้ำจิ้มก่อนนะครับ เพราะดูตารางงานแล้วกว่าผมจะว่างก็อีกหลายวัน

จาก http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10401230/K10401230.html ข้อความกระทู้สรุปได้ความว่าปัญหาที่เด็กส่วนใหญ่เรียนไม่รู้เรื่อง ผลการเรียนต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมากนั้นเกิดจากการที่ครูไม่สามารถให้เด็กสอบตก

คราวนี้มาดูความเห็นของฝ่ายค้านกันครับ (คห.ของผู้ที่เห็นด้วยกับกระทู้มีมากครับ ขอไม่นำมาลงนะครับ)
คห. 7 จริงๆนโยบายกลางมันก็มีระบุให้มีการซ้ำชั้นอยู่นะครับ

อันนี้นำมาจากโรงเรียนหนึ่งนะครับ
ผู้เรียนที่มีผลการเรียนเฉลี่ยไม่ถึง ๑.๐๐ ในปีการศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ ให้โรงเรียนโดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล วิเคราะห์ สรุปสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาผู้เรียนเฉพาะราย เสนอผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้น ทั้งนี้ จะต้องแจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบพร้อมทั้งร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียน ต่อไป
และก็มีโรงเรียนหลายโรงเรียนที่ให้ซ้ำชั้นได้ แม่ผมเป็นครูมาหลายสิบปี ก็ให้นักเรียนซ้ำชั้นไปหลายคน แต่การจะให้ซ้ำชั้นมันก็จะส่งผลตามมาค่อนข้างมาก ถ้าเป็นไปได้ก็จะหาแนวทางไม่ให้ซ้ำชั้น เช่นให้เรียนเสริมแทนการซ้ำชั้น

ส่วนที่ว่าไม่ให้ขึ้นเงินเดือน ไม่ไ้ด้เลื่อนขั้น คงเป็นการนำนโยบายไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมของผู้บริหารสถานศึกษาครับ

คห. 10 ผมว่าเด็กปกติไม่ตกกันนะ เพราะก่อนจะตกมันต้องแสดงท่าทีออกมาก่อน แล้วครูก็จะเข้าไปช่วยแก้ไข ดังนั้นการตกจึงเป็นเรื่องยากมาก ส่วนใหญ่ที่ตกกันก็จะเห็นว่ามีปัญหาทางบ้าน ปัญหาติดเกมส์ เด็กปกติธรรมดาทั่วไปก็ตกได้ แต่ก็อย่างที่คุณครับผมพูดน่ะครับ เด็กปกติไม่น่าจะเรียนได้ต่ำกว่าเกรด 1 ต่อให้เรียนแย่อย่างไรก็ตามทีเถอะ ดังนั้นถ้าเกิดเด็กเกิดตกขึ้นมา ก็ต้องมีการสืบหาต้นตอของปัญหา แล้วส่วนใหญ่ก็จะพบว่าปัญหาเกิดจากครู แล้วมันก็จะไปมีผลกับครูต่อไปครับ
สำหรับนโยบายจากส่วนกลางจากสพฐ. ได้กำหนดแนวทางการเีรียนซ้ำชั้นไว้อย่างชัดเจนครับ ตามลิงค์ด้านล่างเลยครับ http://www.ryt9.com/s/cabt/31117
คห.40 จริงครับตามนั้น ขอสรุปนะครับ
1. นโยบายส่วนกลางไม่ได้ห้ามให้เด็กซ้ำชั้น จะให้ซ้ำหรือไม่ให้ซ้ำเป็นแนวทางปฏิบัติของแต่ละโรงเรียน ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูและผู้บริหารแต่ละคน
2. ไม่มีนโยบายลงโทษ ลดระดับ ริดรอนผลประโยชน์ของครูที่ให้นักเรียนซ้ำชั้นแต่อย่างใด
3. ในทางปฏิบัติจากโรงเรียนหนึ่งนะครับ เด็กจะตกได้ก็ด้วย 3 ประเด็น 1)คือสอบไม่ผ่าน 2)เวลาเรียนไม่ผ่าน 3)คุณลักษณะไม่ผ่าน
4. แนวทางในการเลื่อนขั้น (ราชการ) ขั้นปกติไม่มีผลครับ จะสอนแย่ สอนดีอย่างไรก็ได้รับการพิจารณาอย่างทัดเทียมกัน แต่ในขั้นพิเศษ(หรือ 2 ขั้น) เป็นการพิจารณาภายในของโรงเรียนครับ ว่าครูคนไหนสอนดี ทำเกียรติประวัติ ก็จะได้รับการพิจารณา 2 ขั้น ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ผู้บริหารเอามาพิจารณามากกว่าครับ ถ้าครูสอนแล้วเด็กตก ก็จะทำให้มีข้อโต้แย้งในการพิจารณา 2 ขั้นได้ครับ

จะเห็นว่าปัญหา ที่เกิด เกิดจากส่วนบุคคลนะครับ ไม่ได้เกิดจากส่วนกลาง ถ้าจะแก้รัฐบาลก็แก้ได้แค่กรอบการบริหาร นโยบาย มาตรฐาน ซึ่งมันก็ยังไม่ครอบคลุมไปถึงการบริหารภายในโรงเรียน เพราะรัฐบาลระบุนโยบายได้ไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งตรงนี้รัฐบาลก็คงจะทราบกันล่ะครับ แต่คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจากผลักดันสร้างคนที่มีศักยภาพมาแทนคนเก่า จัดอบรมพัฒนาบุคลากร (ซึ่งก็ไม่ได้อะไรมาก) มันเป็นเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมส่วนบุคคลครับ ถ้าจะปรับต้องปรับภาพรวม

ผมเห็นด้วยกับปัญหานะ ครับ แต่ผมมองในมุมมองว่าถ้าผมเป็นคนกำหนดนโยบาย ผมจะกำหนดนโยบายอย่างไรให้ปัญหาหมดไปได้ นอกเสียจากการสร้างครูและผู้บริหารที่มีคุณภาพ (ซึ่งก็เห็นว่ากำลังทำอยู่ทุกวันนี้) ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น การใช้ข้อสอบกลางวัดนักเรียนทุกระดับชั้น ผมมองว่าใช้งบประมาณมากและประเทศยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้ครับ

คห.41-42 กล่าวถึงผลเสียของการให้เด็กซ้ำชั้น

คราวนี้มาดูหลังจากถกกันไปอีกพักหนึ่ง กระทู้ก็เดินทางมาถึง
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10475456/K10475456.html
ยังเป็นความเห็นของท่านผู้ไม่เห็นด้วยกับกระทู้นะครับ
คห.11 ระบบเลื่อนชั้นอัตโนมัติ คือให้นักเรียนได้เลื่อนชั้น แม้ว่าจะติด 0 หรือ ร เป็นระบบที่ใช้ในปัจจุบันโดยมีรากฐานมาจากงานวิจัยหลายอัน ที่ชัดเจนมากก็คืองานวิจัยของยูเนสโกที่ศึกษาแล้วพบว่าการให้เด็กซ้ำชั้นมี แนวโน้มที่จะสร้างปัญหาทางสังคม อารมณ์ และพฤติกรรมต่อเด็กสูง อีกทั้งยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเรียนได้ดีเท่าที่ควร จึงให้เด็กเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้เด็กจะต้องมีเกรดเฉลี่ยมากกว่า 1.00 และจะจบการศึกษาได้ก็ต่อเมื่อทำการสอบซ่อม เรียนเสริม ฯลฯ ตามแ่ต่โรงเรียนจะมีแนวทางเพื่อให้ผ่านทุกรายวิชา

แต่เมื่อนำระบบนี้ มาใช้พบว่าในไทยมีการละเลยการซ่อมเสริมเด็กที่ไม่ผ่าน จึงเป็นปัญหาของระบบนี้อย่างที่พบกันอยู่ทุกวันนี้ แต่ทั้งนี้การจะไปใช้ระบบซ้ำชั้นหรือใช้ระบบเดิมต่อไปนั้นก็ต้องมีการ พิจารณาอย่างถ้วนถี่ว่าจะเกิดผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน

คห.64 ขยายความต่อนะครับ กระบวนการการจัดการเรียนการสอนในประเทศไทยจะเป็นอย่างนี้ครับ

1. มีหลักสูตรตายตัวที่กำหนดว่าในแต่ละภาคการศึกษานักเรียนต้องลงเรียนวิชาใดบ้าง
2. นักเรียนเข้าเรียนตามรายวิชาในภาคการศึกษานั้นๆ
3. หากสอบไม่ผ่าน ก็สามารถไปเรียนวิชาที่กำหนดในหลักสูตรของภาคการศึกษาต่อไปได้ แต่ต้องไม่ถูกพิจารณาให้ซ้ำชั้น (เกรดต่ำกว่า 1.00)
4. สำหรับวิชาที่สอบไม่ผ่านให้มีการสอบซ่อม เรียนเสริม ฯลฯ เพื่อให้ผ่าน

ตัวอย่าง เช่น เทอม 1 เรียนวิชา GAT1 เทอม 2 เรียนวิชา GAT2 (โรงเรียนบางโรงเรียนมีวิชานี้จริงๆ) ถ้าเด็กติด 0 GAT1 ในเทอม 1 ก็มาเรียน GAT2 ในเทอม 2 ได้ครับ

จะเห็นว่าแม้ว่าระบบเกรด คือระบบพิจารณาผลการเรียนออกมาเป็นระดับต่างๆ กับสิทธิในการเข้าเรียนรายวิชาต่างๆในโรงเรียน ไม่ได้สัมพันธ์กันเลย จึงมีการเลื่อนชั้นอัตโนมัติเกิดขึ้น นั่นคือ ม.4 ขึ้นไปเรียน ม.5 ได้แม้ว่าจะติด 0 บางรายวิชา (แล้วก็ใช้ระบบเกรดอยู่ด้วย)

ตัวอย่างที่ให้มาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่ต่างกับ ป.1 ขึ้น ป.2 ครับ

คห.65 อิงจากข้อความของ จขกท
*************ผมขอเรียนว่าที่เกิดผลออกมาว่าเด็กเรียนไม่รู้เรื่องนั้น เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่ ไม่ได้ตัดเกรดแบบ "อิงเกณฑ์" ครับ
(อิงเกณฑ์ภาษาอะไร เด็กหลายคนอ่านหนังสือไม่ออก แล้วจะอ่านโจทย์รู้เรื่องได้อย่างไร แต่สอบผ่านทุกวิชา)
************ผมว่าไม่ได้ทั้ง "อิงกลุ่ม" ไม่ได้ทั้ง "อิงเกณฑ์" ครับ แต่อิงกระทรวงศึกษา*******

ที่ ว่าสถานศึกษาละเลยการซ่อมเสริมนั้น ก็จริงบางส่วน แต่ในระดับชั้นที่สูงขึ้น ไม่มีครูคนไหนสามารถสอนเด็กที่อ่านหนังสือไม่ออกให้เข้าใจตามหลักสูตรได้ ครับ
วิทยาลัยที่เพื่อนผมสอนนั้น เขาจัดให้เด็กกว่า 70% สอบซ่อมถึงครั้งที่ 5 และในที่สุดก็ประกาศให้ผ่านทั้งหมดตามเกณฑ์...เอ้ยตามคำสั่ง(คงไม่เป็นลาย ลักษณ์อักษร)ของเบื้องบน

ผมเห็นด้วยครับ แต่ลองพิจารณาดูอีกทีจากคำพูดของคุณเองครับ ว่าปัญหาจริงๆเป็นที่ระบบ หรือที่บุคลากร แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกัน แต่โปรดเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียวครับ ^-^
(คำตอบสำหรับ คห. 64-65 ของ จขก. อยู่ที่คห. 66 แต่ผมจะไม่ยกมา เอาไว้เสนอในเรื่องของระบบเกรด)

คราวนี้มาดู คห.89 ของท่านเดียวกัน
ช่วงแรกพูดถึงระบบเกรด(ยกไว้ก่อนนะครับ เอาทีละประเด็น)
ช่วงสุดท้าย ท่านบอกว่า ...มันกระทบภาพรวมทั้งหมดเลยนะครับ แต่อย่างที่ชี้แจงไปก็คือจะเห็นว่ามีปัญหาเรื่องเวลา ซึ่งตรงนี้ปัจจุบัน ระบบการศึกษาไทยระบุให้ใช้การสอนเสริมแทนการเรียนซ้ำเพื่อให้ผ่านวัตถุ ประสงค์ครับ แล้วผมก็ไม่มองว่าเป็นการทำผิดพลาดด้วย เพราะตามศักยภาพของประเทศเรายังทำได้เท่านี้อยู่ ไม่สามารถจัดระบบลงทะเบียนซ้ำได้ในตอนนี้ครับ โดยเฉพาะในเด็กเล็กนี่ ผมว่าระบบการลงทะเบียนซ้ำนี่ไม่สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กพอสมควรเลย

------------------------------------จบหลักฐาน------------------------------------

สรุปว่าการเรียนการสอนของเรานี่ ครูจำเป็นต้องให้เด็กในชั้นทุกคนสอบผ่านไหมครับ หรือว่าให้ตกได้?????????????

เวลาที่มีการประเมินความดีความชอบ ถ้าหน่วยงานอื่นก็คงวัดตามภาระงานความรับผิดชอบ
ถ้าวัดความดีความชอบของครู ถ้าครูประจำชั้นที่มีเด็กสอบตกเทียบกับห้องที่ไม่มีเด็กสอบตกล่ะ
ผมว่ากติกา ก็บังคับให้ครูต้องผ่านให้เด็ก
แวดล้อม ก็บังคับให้ครูต้องผ่านให้เด็กอีก

จขก. : เข้าใจว่าระบบห้ามนักเรียนสอบตก
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ จขก. : ครูให้นักเรียนสอบตกไ้ด้

วันนี้เอาน้ำจิ้มแค่นี้ก่อนนะครับ คราวต่อไปจะพูดถึงว่าทำไมต้องให้เด็กที่ผ่านชั้น ป.1 อ่านออกเขียนได้ และคิดบวกลบเลขง่ายๆเป็น
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 54 23:39:27

จากคุณ : ครับผม

เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 20:57:24

ความคิดเห็นที่ 13

การเร่งรัดแก้ไขนโยบายอย่างเป็นทางการ เราอยากให้เลียนแบบผู้ใช้แรงงานอ่ะ ในข่าวเห็นผู้ใช้แรงงานส่งหนังสือให้นายกฯหรือไงเนี่ย พวกเราพูดคุยในนี้ไม่มีประโยชน์หรอก น่าจะฉวยโอกาสใช้วันเด็กให้เป็นประโยชน์บ้าง เราก็ถกกันไปเรื่อยๆ พอเริ่มถึงปลายปีมาร่างหนังสือกัน ถ้าจะให้สวย ออกทีวีด้วยยิ่งดี ว่าแล้วหน้าสรยุทธ์ก็ลอยเข้ามาในหัว

อีกด้านหนึ่งคือ รับบริจาคช่วยเด็กที่ยากจนหรือสนับสนุนการศึกษาของเด็กๆต่างจังหวัด นอกเหนือจากการบริจาคหนังสือ คล้ายๆห้องจตุจักรช่วยหมาแมวกันอย่างดิบดีและสามัคคีมาก หลายๆครั้งที่เราได้เข้าไปยังอดทึ่งไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่เพียงแค่บ่น แต่ยังลงมือทำมานานแล้วอีกด้วย วิ่งไล่จับหมาแมวเพื่อมาเลี้ยงดู รักษาหรือทำหมัน ประมูลของเพื่อเป็นกองทุน รวมตัวกระจายข่าวในเฟสบุ๊ค ส่งข้อความหลังไมค์เพื่อขอความช่วยเหลือ ฯลฯ ก็ทำกันมาแล้ว ห้องนี้เป็นห้องที่สามัคคีที่สุดในพันทิปในสายตาเรา

เรื่องการศึกษา เราว่าสามารถร่วมกับห้องชานเรือนได้ด้วย เพราะน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการใกล้เคียงกัน

เพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเรากลัวว่าเด็กซ้ำชั้นแล้วจะมีปม เราลองให้เด็กที่มีผลการเรียนต่ำเรียนเป็นบางรายดีไหมคะ? คล้ายๆเรียนพิเศษน่ะ แต่เจาะลึกเรียนจุดที่เด็กไม่เข้าใจ ครูผู้สอนที่รู้จุดนี้ สอนได้ตรงจุด หรือไม่ก็ดูว่าเด็กทำไม่ได้ในส่วนไหนของข้อสอบ ไม่ต้องเรียนซ้ำใหม่หมด สำหรับเด็กต่างจังหวัดอาจจะต้องจัดเวลา เพราะอ่านจากกระทู้http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10455834/K10455834.htmlคห.13,14ก็เห็นด้วยบางส่วนว่าเด็กต่างจังหวัดไม่เหมือนเด็กกรุงเทพ อาจจะไม่มีเวลาว่างเหมือนกับเด็กในเมือง ส่วนเด็กที่เรียนได้ก็ปล่อยเขาไปเล่นไป
ผสมกันระหว่างการซ่อมและเรียนพิเศษเข้าด้วยกัน เด็กเลื่อนชั้นได้ แต่เมื่อจะจบต้องผ่านทุกรายวิชา เมื่อถึงปีสุดท้ายเด็กจะรู้ว่าต้องผ่านหมด เด็กอาจจะกระตือรือร้นมากกว่าเดิม
เราเคยถูกครูเรียกตัวมาเรียนเป็นรายบุคคลช่วงพักตอนเด็กอ่ะ ได้ผลเสียด้วย ถึงแม้ว่าจะเรียนไม่กี่ครั้ง ถ้ามีหลายคนและมีปัญหาเดียวกันก็ให้เรียนรวมกันไปเลย แต่จุดนี้ นอกจากเวลาแล้ว ยังติดเรื่องจำนวนครูด้วยว่าจะพอไหม

ป.หนึ่งถึงป.สาม ก็ลองให้มีข้อสอบกลางในการสอบกลางภาคและปลายภาค ครูผู้คุมสอบ ไม่ใช่ครูผู้สอน จำได้ตอนป.หก ครูเอาเฉลยมาวางบนโต๊ะ คนที่ทำข้อสอบช้าก็มีเพื่อนบอกให้ กันเด็กไม่ให้ตก ซึ้ง ส่วนระดับมัธยมถ้าอยากจะแบ่งระดับโรงเรียนจะแยกออกข้อสอบก็ไม่ว่ากัน

สำหรับเด็กในต่างจังหวัดอาจจะได้เข้าโรงเรียนครั้งแรกตอนอายุเจ็ดขวบ ต่างจากเด็กในเมืองที่ส่วนมากจะเข้าโรงเรียนตอนสองหรือสามขวบ เป็นไปได้ว่าข้อสอบกลางที่ออกมาอาจจะต้องมีปรับเปลี่ยนบ้าง ให้ความเอาใจใส่กับเด็กที่เข้าเรียนครั้งแรกตอนป.หนึ่ง

เมื่อกี้กลับไปอ่านกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10455834/K10455834.html
ยืมพื้นที่นะคะ
เจอคห.13,14 ขอยืมคห.19 ตอบนะคะ เพราะคิดตรงกัน

ส่วนคห.16 ขอตอบว่า การเรียนที่เราอยากเห็นคือ ครูสอนในห้องตามหลักสูตร ทันเวลา ส่งเสริมให้เด็กเรียนนอกห้อง มีปัญหาก็มาถาม กระตุ้น(ไม่ใช่บังคับ) ให้เด็กกระตือรือร้นค่ะ

จากนั้นก็ช็อคในคห.20

จากนั้นก็กระทู้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10475456/K10475456.html
จากคห.9
เรื่องเกรด ตอนนี้มีการเพิ่มเกรด 0.5เข้าไป แสดงว่าระบบเกรดมันหยาบเกินไป ไม่กระตุ้นเด็ก ถ้าระบบ0.5ยังใช้ไม่ได้ผล ลองกลับไปใช้ระบบเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมไหม? แต่ไม่ต้องใช้ระบบนี้หมด ใช้กับเด็กโตก็พอ ชอบคห.21มากๆเลย
และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคห.13,30
คห.กระแทกใจ34 และคห.ของคุณบานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้ ที่ชอบยิ่งกว่านั้นคือ น้องเขาเป็นคนรุ่นใหม่ เห็นเด็กรุ่นหลังจากเรามาพูดแบบนี้ ใจชื่น สำหรับน้องกล้วยฯ(ขอแปลเป็นไทย อิอิ)กับTHANODOMพี่ขอให้กิ๊บแค่สามพอนะ พี่ยังต้องใช้กิ๊บอีกตั้งเดือน กลัวปลายเดือนจะเป็นโรคกิ๊บจาง งก

อ่านไปได้ประมาณครึ่งเดียว หมดแรงแล้ว จะติดตามกระทู้ปัจจุบันนี้แทนก็แล้วกันนะคะ

จากคุณ : ขวัญ (khumchalong)

เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:06:59