ความคิดเห็นที่ 1 อาจเป็นเพราะพระราเมศวรยกราชสมบัติให้ขุนหลวงพะงั่วเสียก่อนที่จะทำการชิงราชสมบัติ ซึ่งก็เหมือนเป็นการยอมแพ้และยอมรับในอำนาจของขุนหลวงพะงั่ว ครั้นขุนหลวงพะงั่วจะสำเร็จโทษเสียก็ไม่มีเหตุผลอันควรจึงได้ปล่อยให้ไปครองเมืองลพบุรี จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 17:58:34

ความคิดเห็นที่ 2 เคยอ่านข้อสันนิษฐานของ คุณพิเศษ เจียจันทร์พงษ์ บอกประมาณว่าเชื้อสายของสมเด็จพระรามาธิบดีอู่ทอง เป็นวงค์พรามหณ์ซึ่งตามกฎมณเทียรบาลว่าไว้ว่าให้ละโทษประหาร ในรัชกาลสมเด็จพระรามราชาธิราชซึ่งสืบเชื้อมาจากสมเด็จพระราเมศวร(วงค์พระรามาธิบดีอู่ทอง)ก็ถูกยึดอำนาจจากวงค์สุพรรณภูมิอีกครั้งและพระองค์ก็ถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่ ปทาคูจาม บ้างว่าเป็นอีกฟากของอยุธยาทางฝั่งเจ้าพระยา บ้างก็ว่าเป็นเมืองในดินแดนเขมรปัจจุบัน จากคุณ : Louvorian เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:11:34

ความคิดเห็นที่ 3 1.พระราเมศวร ถวายราชสมบัติให้ขุนหลวงพะงั่วแต่โดยดี ไม่ทำการต่อต้าน 2.ขุนหลวงพะงั่ว ทรงเป็นพระปิตุลา(ลุง) ของพระราเมศวร 3.วงศ์อู่ทองกับวงศ์สุพรรณภูมิต้องอาศัยอำนาจซึ่งกันและกัน เพื่อต่อต้านเมืองพระนคร และแคว้นสุโขทัย การจะแตกหักกับวงศ์อู่ทองเลยย่อมเป็นการตัดกำลังตัวเองไปด้วย อีกทั้งการไม่ทำการสำเร็จโทษกษัตริย์วงศ์อู่ทองย่อมเป็นการซื้อใจฝ่ายที่ยังจงรักภักดีด้วย (แต่พระราเมศวรเห็นตัวอย่างจากการยึดอำนาจคืนของพระองค์แล้ว จึงทรงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการสำเร็จโทษเจ้าทองลัน แต่ก็ไม่วายถูกพระอินทรราชายึดอำนาจคืนอยู่ดี) 4.วงศ์อู่ทองเป็นพราหมณ์ การสังหารพราหมณ์นั้นเป็นบาปอย่างมหันต์ (เทียบได้กับการสังหารพระสงฆ์) ซึ่งจารีตนี้สืบต่อกันเรื่อยมา จนบัญญัติไว้ในกฎมณเทียรบาลว่าโทษสูงสุดของพราหมณ์คือการเนรเทศ (ห้ามประหารชีวิต) จากคุณ : arawadee เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 20:10:36

ความคิดเห็นที่ 4 ล่าสุดนี้เลยครับ กับศิลปวัฒนธรรม เดือนเมษาที่ผ่านมา เรื่องการปฏิวัติรัฐประหารเงียบในกรุงศรีอยุธยาสมัยขุนหลวงพ่องั่วครับ จากคุณ : Tony Airlines เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:45:48